Special District 9 – เขตพิเศษที่ 9 – ตอนที่ 114 การซื้อขายที่หลอกลวง

ตอนที่ 114 การซื้อขายที่หลอกลวง

ตอนที่ 114 การซื้อขายที่หลอกลวง

เวลาสองทุ่ม

ณ ทางเข้าอพาร์ตเมนต์ในเครือของบริษัทเภสัชกรรมหลง สิงในเชิงเป่ย หยงตงนั่งสูบบุหรี่อยู่บนรถจี๊ปด้วยสีหน้านิ่ง เฉยพร้อมกับรอคอยอย่างอดทน

เสี่ยวจิ๋วและลูกน้องสองสามคนที่ยืนอยู่ข้างถนนกําลังกระซิบคุยกัน แต่ไม่มีใครเดินเข้ามาคุยกับหยงตงสักคน

ผ่านไปสักครู่ใหญ่ ชายหัวโล้นเดินออกมาจากอาคารพร้อมกับตรงมาที่รถของหยงตงและยื่นโทรศัพท์ให้ “คุยกับเขา หน่อย”

หยงตงยื่นมือไปรับโทรศัพท์พร้อมกล่าวทักทาย “สวัสดีครับ”

“วันนี้ฉันจะไปด้วย” เสียงของหยวนหันดังขึ้นจากปลายสาย “ทันทีที่สิ่งจื่อห่าวปรากฏตัว ฉันจะพานายออกมาทันที”

หยงตงยิ้มออกมาอย่างประหลาดใจเขาตอบกลับทันที “ผมเชื่อใจพี่”

“ฉันจะให้ไอ้โล้นจับตาดู แน่นอนว่านายจะปลอดภัย”

“ครับ ผมจะทําตามแผน” หยงตงพยักหน้ารับพร้อมรอยยิ้ม “แล้วเจอกันครับ”

หยงตงกดวางสายและส่งโทรศัพท์คืนให้ชายหัวโล้นโดยไม่รอให้หยวนหัวตอบกลับ

“นายไม่ต้องกลัว คืนนี้เรามีทหารฝีมือดีกว่ายี่สิบนายร่วมปฏิบัติการด้วย แล้วอีกอย่างเฒ่าหยวนก็ไปที่นั่นเหมือนกัน” ชายหัวโล้นกล่าวพลางยื่นมือรับโทรศัพท์เขาล้วงไมโครโฟนไร้สายออกมาจากกระเป๋าและหนีบไว้ที่คอเสื้อของหยงตงพร้อมแนะนํา “เจอพวกมันแล้วอย่าตื่นตระหนกล่ะ ถ้ามันจะพาตัวนายไปด้วย ให้ต่อรองว่าขอเจอตัวสิ่งจื่อห่าวก่อน พยายามยื้อเวลาให้นานที่สุดเท่าที่จะทําได้ถ้าไม่ได้ผล ให้นายยอมตามพวกมันไปแต่โดยดี เราจะตามนายไปแน่นอนไม่ว่าจะด้วยวิธีใดก็ตาม และจะดําเนินการทันทีที่พวกมันปรากฏตัว”

หยงตงหันไปหาชายหัวโล้นพร้อมพูดติดตลก “ถ้าฉันตายนายจะต้องใช้ชีวิตที่เหลือให้มีความสุขที่สุดนะ”

ชายหัวโล้นประทับใจคําพูดนั้นอย่างบอกไม่ถูก

“ในหมู่คนเก่าแก่ เฒ่าหยวนถูกใจนายที่สุด….หึ ถ้าฉันตาย จริงๆ บริษัทอย่างน้อยสองบริษัทจะตกอยู่ในกํามือของ นาย” หยงตงหยอกล้อด้วยท่าที่ผ่อนคลาย “เอาล่ะ อย่าลืมเผากงเต๊กให้ฉันนะ อย่างน้อยฉันก็ทําให้นายสมหวัง!”

“นายหมายความว่ายังไง?” ชายหัวโล้นเอ่ยถามพร้อมขมวดคิ้วขณะจัดระเบียบคอเสื้อหยงตงเพื่อซ่อนไมโครโฟน “พวกเราเป็นพี่น้องที่ร่วมทุกข์ร่วมสุขมาด้วยกัน ฉันรู้ว่าเราทะเลาะกันตลอดหลายปีที่ผ่านมา แต่คิดจริงเหรอว่าฉันอยากให้นายตาย?”

“ถ้านายเป็นห่วงฉันจริง…ทําไมถึงยอมให้เฒ่าหยวนส่งฉันเข้าดงระเบิดล่ะ?” หยงตงถามเสียงเรียบ

ชายหัวโล้นถึงกับพูดไม่ออก

ทั้งสองคนจ้องมองกันอย่างเงียบๆ อยู่ครู่หนึ่งก่อนที่หยง ตงจะยกยิ้มพร้อมตบบ่าชายหัวโล้นและพูดว่า “ฉันล้อเล่นไม่ต้องเครียด ฮ่าๆๆ! คืนนี้ชีวิตฉันอยู่ในกํามือนายแล้ว ปกป้องฉันให้ดีล่ะ”

ชายหัวโล้นเบือนหน้าหนีไปทางอื่นเพื่อกลบเกลื่อนความรู้สึกผิดจากนั้นปรบมือและตะโกนเสียงดัง “ทุกคนรวมตัว! ฉันขอพูดอะไรก่อนที่เราจะออกเดินทาง!”

ภายในอาคาร

หยวนหัวสวมเสื้อโค้ตขณะคุยโทรศัพท์ “ครับ ผมรอฟังข่าวอยู่ แต่ตอนนี้ยังไม่มีใครส่งตําแหน่งมา”

“เฒ่าหยวน ในเมื่อเรื่องมาถึงจุดนี้ ไม่มีอะไรสําคัญกว่าการที่ลูกของผมกลับมาอย่างปลอดภัยแล้ว” ประธานสิงพูดข่มขู่ “ชะตากรรมของลูกชายผมจะเป็นตัวกําหนดชะตากรรมของบริษัทคุณ ผมหวังว่าคุณจะรู้นะว่าอะไรคือสิ่งที่ดีที่สุด”

“เข้าใจแล้วครับ” หยวนหัวพยักหน้ารับ

“อีกสักครู่คนของผมจะไปถึงที่นั่น” ประธานสงกล่าวก่อนวางสาย

หยวนหัวถอนหายใจด้วยท่าที่เหนื่อยหน่าย เขาพลันรู้สึกว่าเสื้อเชิ้ตผ้าฝ้ายที่สวมอยู่นั้นหนักอึ้งราวกับมันเต็มไปด้วยสารตะกั่ว “เก็บของทุกอย่างที่จําเป็นเราจะไปรวมตัวกันที่ชั้นล่างเดี๋ยวนี้!”

บนถนนแห่งหนึ่งใกล้กับสนามฝึกทหาร

หลังจากนําตัวหม่าเหลาเอ๋อและหลิวจื้อชูขึ้นรถทหารคนนั้นหันไปกล่าวกับฉินอวี่ “พวกนายต้องหา ทางออกจากเฟิงเปยเอง ฉันไม่ยุ่งเรื่องนี้แล้ว”

“ไม่เป็นไร พวกเรามีแผน” ฉินอวี่พยักหน้า พร้อมเอ่ยตอบ “ถ้านายออกจากเฟิงเปย ให้ขับรถไปทางสามอุปสรรค ฉันทําสัญลักษณ์บนแผนที่ไว้แล้วคนที่จะมารับ หม่าเหลาเอ๋อและหลิวซื้อชูมาจากเจียงโจว และจะแสดงตัวว่าเป็น “เพื่อนของโกโก้” นายสามารถส่งตัวสองคนนี้ ให้พวกเขาได้เลย”

“อืม ฉันจะทําตามที่นายบอก” ทหารเอ่ยตอบ

“ฉันรบกวนนายดูแลพวกเขาด้วย”

“ไม่ต้องห่วง” นายทหารตอบกลับก่อนจะขึ้นรถ

ด้านนอกรถ เฒ่าหม่าสวมเสื้อโค้ตทหารยืนมองหม่าเหลา เอ้ออย่างเงียบๆ พร้อมเอ่ยปากสั่งสอน “ถ้าไปถึงที่นั่นแล้วอย่าก่อปัญหาให้พวกเขาล่ะ…เข้าใจไหม?”

“อาจะกลับเมื่อไรเหรอครับ?” หม่าเหลาเอ๋อเอ่ยถาม

“วันมะรืน”เฒ่าหม่าตอบพลางใช้มือแตะหน้าผากของหม่าเหลาเอ๋อ ก่อนพูดหยอกล้อพร้อมอมยิ้ม “นายไม่ได้ซื้อด้านไปซะหมดนี้ อย่างน้อยตอนนี้ก็ยังรู้จักเป็นห่วงฉัน”

หม่าเหลาเอ๋อนอนอยู่ในรถเอื้อมมือไปจับคอเสื้อของเฒ่า หม่าพร้อมหันไปหาฉินอวีและตะโกนว่า “อาของฉันแก่มาก แล้ว…ได้โปรดดูแลเขาด้วย”

เมื่อได้ยินเช่นนั้น ดวงตาของฉินอวี่ฉายแววความไม่ สมัครใจอยู่ครู่หนึ่งก่อนเอ่ยตอบด้วยรอยยิ้ม “อาของนาย เป็นถึงผู้มีประสบการณ์โชกโชน ฉันยังต้องให้เขาดูแลอยู่เลย”

“เอาล่ะๆ ไปกันได้แล้ว” เฒ่าหม่ากล่าวกับนายทหาร

“ผมจะรออาอยู่ที่เฉียงโจว” หลิวจื้อชูตะโกน

เฒ่าหม่ายิ้มให้ทั้งสองคนก่อนปิดประตูรถ

เครื่องยนต์ส่งเสียงคําราม ในขณะที่รถยนต์ออกตัวแล่นไปบนถนน

ภายในรถยนต์ หม่าเหลาเอ๋อนอนลงบนเบาะพลางเหลือบมองไปด้านหลังรถพร้อมพิมพ์ “พี่จื้อชู..ฉันไม่รู้มาก่อน เลยว่าตาแก่ของเราแก่ขนาดนี้แล้ว”

“พูดจาไร้สาระ ดูสิว่าเขาอายุเท่าไรแล้ว!”

“ไม่ มันไม่เกี่ยวกับอายุ” หม่าเหลาเอ๋อส่ายศีรษะ “เขาเล่าเรื่องราวให้ฉันฟังมากมายในช่วงสองวันที่ผ่านมา เขาพูดมากจนผิดปกติซึ่งเขาไม่เคยเป็นแบบนี้มาก่อน”

ณ สี่แยก

ฉินอวีมองดูฝูงชนรอบตัวพลางเหลือบมอ งนาฬิกาก่อนพูดว่า “ไปกันเถอะ”

ด้านล่างของอพาร์ตเมนต์

ขณะที่หยวนหัวนั่งอยู่ในรถทันใดนั้นเขาได้รับข้อความทางโทรศัพท์

“สองศูนย์สามศูนย์พื้นที่ทางเหนือของแถบที่อยู่อาศัยหนานหยวน ใต้ป้ายสัญลักษณ์ชายแดน ฉันอยากเจอหยงตงที่นั่น”

หยวนหัวอ่านข้อความสองครั้งก่อนลดกระจกรถลงพร้อมพูดว่า “ไอ้โล้นพาคนของเราที่เป็นคนในพื้นที่มาคนหนึ่งซิ”

ครู่ต่อมา ชายหัวโล้นพาเด็กหนุ่มมาก่อนเอ่ยถาม “มีอะไรเหรอครับ?”

หยวนหัวหันมองชายหนุ่มและถามว่า “แถบที่อยู่อาศัยหนานหยวนคืออะไร? มีป้ายสัญลักษณ์ชายแดนขนาดใหญ่อยู่ที่นั่นไหม?”

ชายหนุ่มครุ่นคิดอยู่ชั่วครู่ก่อนเอ่ยตอบ “มันตั้งอยู่ในแถบชานเมืองของเพิ่งเป่ยครับ ห่างจากหนานหยวนประมาณห้ากิโลเมตร และเป็นพรมแดนที่นําไปสู่เขตพัฒนาครับ”

หยวนหัวสั่งไอ้โล้นทันทีที่ได้ยิน “การซื้อขายจะเกิดขึ้นที่นั่น รีบเตรียมตัวเร็วเข้า!”

“รับทราบครับ” ชายหัวโล้นตอบกลับ

อาคารของบริษัทเภสัชกรรมหลงสิ่ง

ประธานสิ่ง ปีเตอร์ ลูกชายคนที่สองของเขา และลูกน้องสองสามคนเดินทางออกจากบริษัทอย่างรีบร้อน

“พ่อจะไปด้วยเหรอครับ?” ลูกชายคนที่สองเอ่ยถาม

“ชีวิตของน้องแกแขวนไว้บนเส้นด้าย พ่อจะไม่ไปได้ยัง ไง?” ประธานสิ่งตอบพร้อมขมวดคิ้ว “เร็วเข้า ส่งคนที่แกจ้างไปที่นั่นด้วย ฉันไม่ไว้ใจให้หยวนหัวจัดการเรื่องนี้”

“ครับ” ลูกชายคนที่สองเอ่ยตอบก่อนล้วงโทรศัพท์ออกมา

สิบนาทีต่อมา บนถนนในเฟิงเปยรถสี่คันมุ่งหน้า ไปยังเขตที่อยู่อาศัยหนานหยวน

ขณะเดียวกัน การค้าขายที่ถูกกําหนดผลลัพธ์ไว้ล่วงหน้าได้เริ่มขึ้นแล้ว

Special District 9 – เขตพิเศษที่ 9

Special District 9 – เขตพิเศษที่ 9

Status: Ongoing

โลกกำลังเกิดหายนะ…ภัยพิบัติร้ายแรงทำลายล้างมนุษยชาติ…สัตว์กลายพันธุ์…ผู้คนขาดแคลนอาหาร…สภาพแวดล้อมเสื่อมโทรม…ยุคสมัยและอารยธรรมถูกทำลาย…

‘ฉินอวี่’ ชายหนุ่มผู้อาศัยอยู่ในเขตพัฒนาซึ่งถูกขนานนามว่าเป็นดินแดนไร้กฎ ด้วยสภาพแวดล้อมอันน่าสังเวช…ทั้งถนนผุผัง ระบบบำบัดน้ำเสียใช้การไม่ได้ รวมไปถึงบ้านเก่าทรุดโทรมและกลิ่นปฏิกูลคละคลุ้ง

ฉินอวี่จึงลาออกจากงานและตั้งใจทำทุกอย่างเพื่อซื้อสัญชาติเข้าไปอยู่ในเขตปกครองพิเศษที่เก้า…หวังให้มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นกว่าเดิม!

ภายในเขตพิเศษที่เก้า…ฉินอวี่เข้าสมัครงานในสำนักงานตำรวจนครบาลเมืองพื้นทมิฬเพื่อดิ้นรนเพื่อหาเลี้ยงชีพ แม้ต้องฝ่าฟันอุปสรรคมากมาย ทว่าในความโชคร้ายยังมีความโชคดีซ่อนอยู่…เขาได้เจอเพื่อนร่วมงานผู้หวังดีที่เปรียบเสมือนเพื่อนแท้…

ระหว่างทำงานในสำนักงานตำรวจ…ฉินอวี่ได้เผชิญการกดขี่มากมายและก้าวขึ้นสู่ตำแหน่งที่สูงขึ้นเรื่อยๆ ด้วยไหวพริบเฉียบแหลมและแผนการอันชาญฉลาด เขาจะสร้างตำนานบทใหม่ของตนเองได้อย่างไร…โปรดติดตามต่อใน…เขตพิเศษที่เก้า!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท