Special District 9 – เขตพิเศษที่ 9 – ตอนที่ 123 พ่ายแพ้ให้กับทหารร่างท้วม

ตอนที่ 123 พ่ายแพ้ให้กับทหารร่างท้วม

ตอนที่ 123 พ่ายแพ้ให้กับทหารร่างท้วม

ณ บริเวณใกล้เคียงเขตพิเศษที่เก้า แมวเฒ่า หยงตง กวนฉี และคนอื่นๆ ยังคงหลับเป็นตาย เนื่องจากคืนก่อน ทุกคนต่างออกแรงอย่างหนัก ทําให้พวกเขาผล็อยหลับทันที หลังจากกินอิ่มร่วมด้วยที่นี่อยู่ในช่วงฤดูหนาวจึงเป็นเหตุเวลากลางคืนยาวนานกว่าปกติ ทําให้ตอนนี้บรรยากาศเหมาะแก่การนอนมาก

ภายในห้องที่เงียบสงบ ฉินอวี่กําลังนั่งพิงกําแพงสูบบุหรี่ไฟฟ้าพร้อมกับพยายามฝืนถ่างตาอย่างสุดความสามารถ

เขาเหลือบมองนาฬิกาเป็นครั้งคราวด้วยความรู้สึกกังวลใจอย่างหนัก

ส่วนนอกห้องนั้นมีพนักงานโรงแรมราวสองคนกําลังช่วยกันกวาดหิมะและก่อกองไฟเพื่อเตรียมอาหาร

ยี่สิบนาทีต่อมา ฉินอวี่รู้สึกว่าท้องไส้ปั่นปวนจึงหยิบกระดาษชําระสองม้วนออกจากห้องและรีบเดินออกไปเข้าห้องน้ำสาธารณะของโรงแรม

“มีใครอยู่ไหม?”

จู่ๆ เสียงตะโกนของชายคนหนึ่งก็ดังขึ้น

“มีอะไรให้ช่วยไหมครับ? คุณลูกค้ามาทานอาหารหรือมาเข้าพักที่นี่ครับ?” พนักงานถาม

“พวกเรามาพักคืนหนึ่ง แล้วเฮียละอยู่ข้างในไหม? ฉันอยากตกลงเรื่องราคา!”

“อยู่ครับ เชิญทางนี้เลยครับ”

ฉินอวี่แอบฟังบทสนทนาอย่างอยากรู้อยากเห็นพร้อมกับคอยสังเกตการณ์โดยลอดสายตาผ่านรอยแยกเล็กๆ บนผนังห้องน้ำ

เนื่องจากคืนนี้ท้องฟ้ามืดสนิท ฉินอวี่จึงเห็นใบหน้าชายที่เพิ่งมาเยือนไม่ชัดเจนเท่าไหร่ แต่โชคดีที่มีแสงไฟสลัวของรถยนต์เล็ดลอดเข้ามาทําให้พอเห็นอยู่บ้าง

ฉินอวี่ได้ยินเสียงเครื่องยนต์ ซึ่งดูเหมือนจะมีมากกว่าหนึ่งคันเสียด้วย

เขาเช็ดทําความสะอาดก้น ดึงกางเกงขึ้นและเดินออกไปด้วยความงงงวย

เนื่องด้วยห้องน้ำและทางเข้าหลักห่างกันเพียงกําแพงกั้น ทําให้ฉินอวี่สามารถเขย่งเท้าดูเหตุการณ์บนถนนได้

รถยนต์สี่คันจอดอยู่ริมถนนด้านขวาโดยไม่ดับเครื่องภายในรถคันแรกมีชายคนหนึ่งกําลังโทรหาใครบางคนอยู่

เมื่อเห็นเช่นนั้น หัวใจฉินอวี่จึงตกไปอยู่ตาตุ่ม เขารีบเดินกลับห้องพักให้เร็วที่สุดก่อนปิดประตูพร้อมตะโกน “ตื่น เร็วเข้า!”

เฒ่าหม่าผู้นั่งหลับอยู่บนเก้าอี้ตอบกลับทันที “เกิดอะไรขึ้น?!”

“มีรถสี่คันจอดอยู่หน้าโรงแรม” ฉินอวี่ตอบ “ฉันสังหรณ์ใจว่ามันมีบางอย่างผิดปกติ”

เสียงยืดกล้ามเนื้อดังขึ้นขณะที่ผู้คนเริ่มตื่นนอน กวนฉีที่กําลังงัวเงียพึมพําออกมาด้วยความงุนงง “เกี่ยวอะไรกับรถ? คนมาพักโรงแรมก็ต้องเอารถมาจอดมันก็เรื่องปกติอยู่แล้วไม่ใช่เหรอ?”

“ไม่! แต่เรื่องนี้ไม่ปกติ!” ฉินอวี่กล่าว “พวกนักท่องเที่ยว ไม่มีใครพักที่แบบนี้หรอกนะและคนที่เพิ่งเข้ามาในอาคาร เมื่อกี้ก็ถามหาเจ้าของโรงแรมด้วย! นักท่องเที่ยวที่ไหนเขาถามหาเจ้าของโรงแรมกันล่ะ?”

“ไปกันเถอะ!” หยงตงยืนขึ้น “ไม่ว่าพวกมันจะเป็นใคร เราควรหนี้ก่อน!”

เพื่อนหยงตงอีกสองคนรู้สึกได้ถึงภัยอันตรายจึงรีบก้มหน้าหยิบปืนโดยเร็ว

เสียงฝีเท้าดังขึ้นภายในอาคาร ดูเหมือนว่าอีกฝ่ายใกล้เข้ามาทุกที

ฉินอวี่ไตร่ตรองแผนอย่างรวดเร็ว จากนั้นก็รีบเดินไปหลังห้องและถีบหน้าต่างจนเปิดออก ลมหนาวพัดโชยเข้ามาปะทะร่างเขาทันที

“กระโดด!” เฒ่าหม่าตะโกน

หยงตงเป็นคนแรกที่วิ่งหนีและกระโดดออกจากห้อง

ตึง! ตึง!

ขณะเดียวกันเสียงถีบประตูดังขึ้น

เพื่อนของหยงตง ฉินอวี่ เฒ่าหม่า และคนอื่นๆ ยกปืนเล็งไปที่ประตูทันที

“ปัง! ปัง! ปัง!”

เสียงปืนดังก้องพร้อมกับเศษไม้กระเด็นออกจากประตู เสียงฝีเท้ายังคงอลหม่าน

“บุกเข้าไป พวกมันอยู่ในห้อง!”

“ห้องนี้มีหน้าต่างไหม?”

“มะ..มีครับ!”

“อ้อมไปด้านหลัง ในห้องมีหน้าต่าง!”

เสียงตะโกนดังทั่วบริเวณ จากนั้นมีบางคนทุบกระจกในห้องจนแตกและยืนปืนราวสองสามกระบอกเข้ามาในห้อง

“ปัง!”

ฉินอวี่ยกปืนขึ้นยิงหลอดไฟเหนือศีรษะพวกเขา ทําให้ทั้งห้องตกอยู่ในความมืดมิด เขาตะโกนพร้อมดันตู้เสื้อผ้าขวางประตู “หนีเร็ว!”

รถยนต์ห้าคันจอดอยู่หน้าโรงแรม หยวนหัวกระโดดลงจากรถด้วยความกระวนกระวายก่อนตะโกนพร้อม ชูปืนในมือขึ้นสูง “ทุกคนฟังให้ดี! ถ้าคืนนี้จัดการพวกมันไม่ได้ เราทุกคนรวมถึงฉันจะไม่มีทางกลับซ่งเจียงได้อีก!”

“ลุย!”

ชายหัวโล้นรีบวิ่งไปยังถนนฝั่งซ้ายของหอพักทันทีที่กระโดดลงจากรถ

“เวรเอ๊ย!”

หยวนหัวปลดระบบนิรภัยของปืนพร้อมตะโกนสั่งการ “ใครก็ได้มานี่ดิ! มีคนอยู่ตรงนั้น!”

หลังจากที่หยงตงวิ่งออกจากห้อง เขาก็ไปซ่อนตัวอยู่หลังกําแพงเพื่อแอบสังเกตการณ์บริเวณถนนพร้อมยิงคุ้มกันให้คนที่อยู่ข้างหลัง เมื่อเห็นว่ามีผู้คนจํานวน มากจึงตะโกนเตือนทันที “พวกมันอยู่ที่นี่ รีบหนีเร็วเข้า!”

คนที่เหลือในห้องกระโดดออกทางหน้าต่างที่ละคน ราวกับหนูถูกแมวไล่ล่า

“หยงตงวิ่งเร็ว!” เพื่อนของหยงตงตะโกนเมื่อออกจากห้องสําเร็จ

แต่ถึงอย่างนั้น หยงตงกลับหันหลังและวิ่งเข้าไปในห้อง และตอบเสียงดัง “ยิ่งคุ้มกันให้ฉันที!!”

บนถนน เมื่อกวนฉีที่อาสาเป็นแนวหน้าได้ยินเช่นนั้นจึงหยุดฝีเท้าอย่างกะทันหัน เขาหันไปมองหยงตงที่กําลังซื้อเวลาให้กับคนอื่นๆ อย่างสุดชีวิตก่อนเล็งปืนไปยังหน้าต่างฝั่งตรงข้ามของหยงตง

สามวินาทีต่อมา

หยวนหัวและชายหัวโล้นนํากลุ่มชายฉกรรจ์นับสิบคนเข้ามาในโรงแรมก่อนยกปืนขึ้นยิงอย่างไม่ลังเล

เฒ่าหม่ากําลังง่วนอยู่กับการยิงโต้ตอบศัตรูอยู่ด้านนอกห้องก่อนลื่นล้มลงบนพื้นที่เต็มไปด้วยหิมะ

ฉินอวรีบวิ่งเข้าประคองเฒ่าหม่าให้ลุกขึ้นเพื่อทั้งสองจะได้วิ่งหนีไปพร้อมกัน

“เวรเอ๊ย! ไอ้หยงตงฉันสาบานว่าจะเปาหัวแกเป็นคนแรก!” ชายหัวโล้นตะโกนและวิ่งเข้าห้อง

“ปัง! ปัง!”

ฉินอวี่ยิงชายหัวโล้น แต่กระสุนเจาะไม่ผ่านเสื้อกันกระสุนจึงทําได้เพียงแค่เกิดประกายไฟบนหน้าอก

เมื่อเห็นเช่นนั้น ฉันอวี่จึงกระโดดไปด้านข้างเพื่อหลบการโต้กลับของชายหัวโล้นทันที

“ปัง!”

กระสุนเจาะทะลุเข้าบริเวณแผ่นหลังฉินอวี่ ส่งผลให้เขาเดินเซไปด้านหน้าสองก้าว

ลูกน้องตระกูลหม่าหันหลังกลับมายิ่งคุ้มกันฉินอวี่และเฒ่าหม่าอย่างรวดเร็ว

ทั้งสองใช้โอกาสนี้หนีไปให้ไกลที่สุดเท่าที่จะทําได้

“ไป! แยกย้าย!” ฉินอวี่คํารามด้วยดวงตาแดงก่ำ

เมื่อกวนฉีเห็นฉินอวี่และคนอื่นๆ ออกจากโรงแรมและหายตัวไปหลังจากเลี้ยวซ้ายตรงทางแยก เขาจึงถอยหนีเช่นกัน แต่หลังจากเดินไปได้เพียงสองก้าว เขาก็ได้ยินเสียงบางอย่างดังขึ้นภายในห้องพัก

ในฐานะตํารวจ ปฏิกิริยาตอบสนองของเขาจึงรวดเร็วมาก กวนจี๋เล็งกระบอกปืนไปทางหน้าต่างและรัวกระสุนอย่างไม่ลังเล

เวลาผ่านไปไม่นาน หยวนหัวและคนอื่นๆ ต่างปรากฏตัวขึ้นและกระหน่ํายิงใส่กวนอย่างบ้าคลั่ง

“ปัง! ปัง!”

หลังจากสิ้นเสียงปืน ก็พบว่า…กวนถูกกระสุนยิงเข้าหนึ่งนัดก่อนล้มลงกับพื้น

“อย่าขยับ!”

“ถ้าขยับแม้แต่นิดเดียว แกตายแน่!”

กลุ่มชายฉกรรจ์เดินเข้ามายืนล้อมและตะโกนใส่กวนฉีอย่างรวดเร็ว

กวนฉีจ้องมองศัตรูที่ยืนล้อมรอบตนเอง ก่อนตัดสินใจโยนปืนในมือทิ้ง

“ตึง!”

ชายหัวโล้นพุ่งทะยานเข้าไปและใช้ด้ามปืนทุบศีรษะกวนฉีพร้อมตะโกน “พาตัวมันไป!”

ภายในตรอก

ฉินอวี่ไอย่างรุนแรงจนกระอักเลือดออกมาทางปากและจมูก

“นายถูกยิงตรงไหน?” เฒ่าหม่าเอ่ยถาม

ฉินอวี่ตอบพร้อมหอบหายใจอย่างหนักหน่วง “ฉะฉันไม่รู้ละ….หลังฉันไม่รู้สึกอะไรแล้ว!”

เฒ่าหม่าครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งก่อนตอบ “เราคงหนีไม่พ้นแล้วล่ะ ไหนๆ ก็ไหนๆ แล้วก็ออกไปสู้กับพวกมันให้รู้แล้วรู้รอดไปเลย!”

“ยะ…อย่า เรายังมีโอกาส เราต้องหนี!” ฉินอวี่กล่าวพร้อมส่ายหัว “กวนฉี….เอาโทรศัพท์มาให้ฉันหน่อย”

เมื่อไม่ได้ยินเสียงขานรับ แมวเฒ่าจึงหันมองรอบๆ ก่อนร่างกายจะแข็งทื่อ “ฉิบหาย กวนฉีหายไปไหน?!”

Special District 9 – เขตพิเศษที่ 9

Special District 9 – เขตพิเศษที่ 9

Status: Ongoing

โลกกำลังเกิดหายนะ…ภัยพิบัติร้ายแรงทำลายล้างมนุษยชาติ…สัตว์กลายพันธุ์…ผู้คนขาดแคลนอาหาร…สภาพแวดล้อมเสื่อมโทรม…ยุคสมัยและอารยธรรมถูกทำลาย…

‘ฉินอวี่’ ชายหนุ่มผู้อาศัยอยู่ในเขตพัฒนาซึ่งถูกขนานนามว่าเป็นดินแดนไร้กฎ ด้วยสภาพแวดล้อมอันน่าสังเวช…ทั้งถนนผุผัง ระบบบำบัดน้ำเสียใช้การไม่ได้ รวมไปถึงบ้านเก่าทรุดโทรมและกลิ่นปฏิกูลคละคลุ้ง

ฉินอวี่จึงลาออกจากงานและตั้งใจทำทุกอย่างเพื่อซื้อสัญชาติเข้าไปอยู่ในเขตปกครองพิเศษที่เก้า…หวังให้มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นกว่าเดิม!

ภายในเขตพิเศษที่เก้า…ฉินอวี่เข้าสมัครงานในสำนักงานตำรวจนครบาลเมืองพื้นทมิฬเพื่อดิ้นรนเพื่อหาเลี้ยงชีพ แม้ต้องฝ่าฟันอุปสรรคมากมาย ทว่าในความโชคร้ายยังมีความโชคดีซ่อนอยู่…เขาได้เจอเพื่อนร่วมงานผู้หวังดีที่เปรียบเสมือนเพื่อนแท้…

ระหว่างทำงานในสำนักงานตำรวจ…ฉินอวี่ได้เผชิญการกดขี่มากมายและก้าวขึ้นสู่ตำแหน่งที่สูงขึ้นเรื่อยๆ ด้วยไหวพริบเฉียบแหลมและแผนการอันชาญฉลาด เขาจะสร้างตำนานบทใหม่ของตนเองได้อย่างไร…โปรดติดตามต่อใน…เขตพิเศษที่เก้า!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท