Special District 9 – เขตพิเศษที่ 9 Special District 9 ตอนที่ 216 การนองเลือด
ตอนที่ 216 การนองเลือด
บนถนนสายหนึ่งในหมู่บ้าน คนติดอาวุธกว่ายี่สิบคนวิ่งกรูกันเข้าไปอย่างไม่กลัวความตายถึงแม้จะได้ยินเสียงปืนยิงสวนเข้ามา
การใช้เงินจํานวนมากของหวูเวินเซึ่งสามารถกระตุ้นให้พวกเขาพุ่งเข้าใส่อย่างไม่กลัวตาย และคนสามที่อยู่ข้างแมวเฒ่าแม้ว่าพวกเขาจะถือปืนแต่ปริมาณกระสุนก็มีจํากัดอย่างเห็นได้ชัด แต่คนเหล่านั้นก็พุ่งเข้ามาอย่างไม่หยุดหย่อน
แมวเฒ่ายิงคนไปสามหรือสี่คนจนกระสุนหมดอีกครั้ง พวกเขาไม่มีทางที่จะปราบปรามฝูงชนบ้าคลั่งนี้ได้
ทันใดนั้นเงาทั้งสามก็พุ่งมาพร้อมกับอาวุธ แมวเฒ่าก้าวถอยหลังไปพิงประตูรถด้วยสัญชาตญาณพร้อมยกแขนป้องกันข้างหน้า
“ฉับ!”
มีดฟันลงมาใส่แขนแมวเฒ่าจนผิวหนังเปิดออก แต่เขาไม่ได้มีความเจ็บปวดอะไร เขายังคว้าชายเสื้อของอีกฝ่ายแล้วดึงกลับอย่างแรง
เสื้อฉีกขาดอย่างกะทันหัน
แมวเฒ่าดึงเสื้อของชายคนนั้นขาดจนเขาเองกระเด็นถอยจากแรงดึงทันที
“เพล้ง”
พลั่วกระแทกกับประตูและกระจกจนเกิดเสียงดังไปทั่วทั้งรถ
จากนั้นแมวเฒ่าก็ยกเท้ากระแทกเข้าไปที่ปลายคางชายคนนั้นเต็มแรง
“พลั่ก!”
คนที่ถูกกระแทกหน้าหงายไปด้านหลังทันทีและเลือดก็ไหลออกจมูก
แมวเฒ่าเอื้อมมือไปบีบคอของคู่ต่อสู้ก่อนง้างหมัด แต่ก็พบว่าคนที่เขากําลังจะชกกลับเป็นผู้หญิง
เธออายุประมาณสามสิบหกตัดผมสั้น และมีหน้าตาดุดัน หากไม่ได้มองใกล้ก็ไม่รู้เลยว่าเธอเป็นผู้หญิง
แมวเฒ่าตกตะลึงไปครู่หนึ่ง อีกฝ่ายอยู่ใกล้มากจนไม่สามารถง้างมีดฟันได้ เธอจึงกัดหูแมวเฒ่าอย่างบ้าคลั่ง
“เจ็บนะโว้ย!”
สีหน้าแมวเฒ่าเห็นชัดถึงความเจ็บปวด และเขาก็ไม่ได้มองว่าอีกฝ่ายเป็นผู้หญิงอีกต่อไป ทันที่ที่ตั้งสติได้ก็ยกเข่ากระทั่งไปที่ท้องน้อยของเธอ
ผู้หญิงคนนั้นซบลงด้วยความเจ็บปวด และแมวเฒ่าก็ชกเข้าไปที่หน้าอีกครั้ง
“ผัวะ!”
ผู้หญิงคนนั้นล้มลงไปกองกับพื้น และพยายามคลานออกไปด้วยความเจ็บปวด
แมวเฒ่าก้มลงไปเก็บมีดสองเล่มอยู่ข้างหลังทันที จากนั้นก็ยืนขึ้นพลางกัดฟันแน่นก่อนเหวี่ยงตัวหลบไปด้านข้างของรถ ด้วยการใช้มืออีกข้างจับรถไว้
“ตุบ!”
พลั่วเหวี่ยงเข้ามาทุบแขนของแมวเฒ่าเต็มแรง จนถึงกับทรุดลงด้วยความเจ็บปวด
แมวเฒ่าเดินโซเซถอยไปหนึ่งก้าว ก่อนเตะท้องของชายที่ถือพลั่ว ขณะกุมแขนอีกข้างไว้
อีกฝ่ายดึงแมวเฒ่าลงไปกอดรัดฟัดเหวี่ยงที่พื้น
แมวเฒ่ากังวลว่าถ้านานกว่านี้เขาอาจถูกแทงได้ง่าย จึงใช้แขนซ้ายโอบคอของอีกฝ่ายและใช้นิ้วกดที่เบ้าตาหมายจะควักลูกตาออกมา
“อ้าก”
ชายร่างกํายําบนพื้นร้องเสียงดังและปล่อยพลั่วในมือ
แมวเฒ่าหยิบพลั่วขึ้นมาขณะอีกฝ่ายยังยืนไม่เต็มที่ เขาก็เหวี่ยงพลั่วพาดแผ่นหลังของอีกฝ่ายเต็มแรง
ฝูงชนถอยออกไปชั่วคราว
แมวเฒ่าใช้พลั่วยันตัวเองไว้ก่อนก้มตัวไปข้างหน้า หน้าผากด้านขวาของเขามีเลือดไหลอาบ
ฝูงชนยืนล้อมรอบรถพร้อมตะโกนใส่แมวเฒ่า
“คุกเข่าลง!”
“ทิ้งของอาวุธซะ!”
“ไม่งั้นฉันจะฆ่าแก!”
เสียงตะโกนยังคงดังอยู่
แมวเฒ่าไม่ลังเลที่จะกระโจนเข้าไปและเหวี่ยงพลัวยาวกว่าครึ่งเมตรทันที “หนวกหูโว้ยไอ้พวกปัญญาอ่อน! ไปคุกเข่ากับแม่มึงโน้น!”
“ฉัวะ!”
แมวเฒ่าหันด้านคมฟันไปข้างหลังของชายร่างสูงใหญ่ทันที พลั่ว ปักเข้าไปในเนื้อลึกถึงสามเซนติเมตร!
ฝูงชนถอยกลับอีกครั้ง
แมวเฒ่าวิ่งออกมาจากท้ายรถพร้อมเหวี่ยงพลั่วไปมาอย่างบ้าคลั่งให้อีกฝ่ายถอยหนี จากนั้นเขาก็ดึงเพื่อนร่วมงานคนหนึ่งบนพื้น
ตํารวจที่เขาเข้าไปคว้าได้นั้นนอนอยู่บนกองหิมะสีเลือดและหมดสติไปแล้ว แมวเฒ่าดึงสามถึงสี่ครั้งเขาก็ไม่ตอบสนอง
แมวเฒ่าถอยหลังไปสองก้าวแล้วเอื้อมมือไปดึงตํารวจอีกคน เขายืนขึ้นพลางส่ายหน้าไปมาเขาถือปืนที่ไม่มีลูกอยู่ในมือและตะโกน “อย่าเข้ามานะ ไม่งั้นฉันจะยิงให้หมด!”
“วิทยุสื่อสาร!” แมวเฒ่าถอยกลับไปเตือน
“ฆ่ามัน!”
คนหนึ่งตะโกนออกมาจากฝูงชน
พวกนั้นหยิบอาวุธขึ้นมาอีกครั้ง
“จู้เหว่ย เร็วหน่อยสิวะ!” แมวเฒ่ากระชับพลั่วในมือแน่น ก่อนกางแขนออกหมุนเป็นวงกลม
“ปัง!”
ในขณะนั้นเสียงปืนก็ดังขึ้น
ฝูงชนเงียบทันที
แมวเฒ่ายืนนิ่งพลางมองลงมาที่ชุดเกราะของเขา มีควันสีขาวออกมา และรูเล็กๆบนหน้าอก
ระยะใกล้เกินไปทําให้กระสุนทะลุเสื้อเกราะได้
แมวเฒ่าถอยกลับไปสองสามก้าว ทันใดนั้นก็รู้สึกว่าแขนขาของเขาไม่มีเรี่ยวแรงอีกต่อไป
“ไปจับมันมา!” ชายร่างกํายําที่ถือปืนตะโกน
พวกนั้นก็รีบวิ่งไปหมายจะจับเขา
แมวเฒ่ากัดฟันแน่นขณะกําลังจะจ้างพลั่ว เขาก็ได้ยินเสียงเครื่องยนต์ดังมาจากด้านหลัง
“ปัง ปัง ปัง!”
เสียงปืนดังขึ้นสามนัดติดและรถออฟโรดวิ่งมาอย่างรวดเร็ว เสี่ยวไท่ตะโกนเรียก “แมวเฒ่าแมวเฒ่า! มาเร็ว!”
เมื่อเห็นรถกําลังมา พวกนั้นก็ถอยห่างไปข้างถนนทันที
“เอ๊ยด!”
ทันทีที่รถจอดและเสี่ยวไท่ก็เปิดประตูพร้อมตะคอก “ถอยไป ไม่งั้นจะยิงแม่งให้หมด!”
เจ้าหน้าที่ตํารวจอีกสามคนก็รีบลงไปด้วย
“บรื้น!”
สิ้นเสียงนั้นรถของจู้เหว่ยก็เข้ามาทันทีเขาพูดผ่านวิทยุสื่อสาร “อย่าเข้าไปพัวพันมาก รีบช่วยแมวเฒ่าออกมาให้ได้แล้วหนีไปก่อน!”
ทิศเหนือของหมู่บ้าน หมู่ซ่งก็นําคนมาอีกกลุ่มหนึ่ง