Special District 9 – เขตพิเศษที่ 9 Special District 9 ตอนที่ 241 ยิ่งรวยก็ยิ่งขี้เหนียว
ตอนที่ 241 ยิ่งรวยก็ยิ่งขี้เหนียว
เฒ่าเปยที่หม่าเหลาเอ๋อพูดถึงมีชื่อเต็มว่าเปยเตอหยง เขาเป็นคนมีชื่อเสียงในรัฐพื้นทมิฬ สมมุติว่ามีวิธีสร้างเงินร้อยวิธีก็จะเลือกธุ รกิจน่ารังเกียจมาเสมอเขาจึงมีชื่อเสียงไม่ค่อยดีในสายตาคนอื่นแต่ถ้ามองถึงเรื่องการเงินเขาคือคนที่ประสบความสําเร็จอย่างมาก อย่างเช่นเขาสามารถทําหลายธุรกิจพร้อมกันได้และทําเงินออกมาได้ดีสิ่งนี้แม้แต่เฒ่าหม่าตอนยังมีชีวิตอยู่ยังทําไม่ได้เลย
เปยเตอหยงเคยเป็นหมอมาก่อน เนื่องจากเข้าไปรับเงินจากผู้ป่วยแต่ไม่ได้ชี้แจ้งที่มาให้คนอื่นเข้าใจเขาจึงถูกตั้งข้อหาและให้ออกจากโรงพยาบาลไป
หลังจากออกจากโรงพยาบาลเปยเตอหยงก็เป็นพ่อค้าคนกลางที่รับยามาขายต่ออยู่พักหนึ่ง เขาไม่รู้ว่าจะหาเงินเพิ่มได้อีกจากไหนเขาเลยผันตัวมาเริ่มธุรกิจการพนันและค้ามนุษย์จนในที่สุดเขาก็กลายเป็นเศรษฐีไปซะแล้ว
ที่ถนนร้อยปีภายในอพาร์ตเมนต์
“เมื่อไหร่จะไปที่ชางจีกับเมียของคุณล่ะ?” ผู้หญิงคนหนึ่งถามขณะหวีผม
“วันนี้แหละ” เปยเตอหยงนอนอยู่บนโซฟาพลางส่ายหัวเล็กน้อย“งั้นกลับมาแล้วจะโทรหานะ”
“อืม” หญิงสาวพยักหน้าแล้วหันมายิ้ม “ฉันเห็นโทรศัพท์มาใหม่คุณซื้อให้ฉันได้ไหม
“กี่โมงแล้ว?” เปยเตอหยงถามทันที
” เกือบสามทุ่มแล้ว” หญิงสาวตอบขณะหันหน้ามา
เปยเตอหยงลุกขึ้นยืนทันทีและหยิบเสื้อผ้าขึ้นมาก่อนพูด “ฉันต้องไปแล้ว ฉันเพิ่งเรียกฉวีหยางให้มารับ”
“คืนนี้ไม่อยู่นอนด้วยกันก่อนเหรอ?” หญิงสาวถาม
“ไม่ล่ะ ฉันต้องกลับไปก่อน”
” กลัวเหรอ?”
“กลัวอะไร?” เปยเตอหยงพูดขณะสวมกางเกง
“ก็กลัวที่จะซื้อโทรศัพท์เครื่องใหม่ให้ฉันละสิ เลยไม่อยากนอนด้วยใช่ไหม?” หญิงสาวถามอย่างตรงไปตรงมา
เปยเตอหยงเงยหน้าขึ้นมองอีกฝ่าย “จะซื้อก็ซื้อสิ จะเอารุ่นไหนล่ะ?”
“P7771 หรืออันไหนก็ได้ที่ถ่ายรูปสวยๆ”
“โอเค เดี๋ยวฉันจะให้คนไปซื้อมา”
“คุณให้เงินฉันไปซื้อเองไม่ได้เหรอ?”
“จะเอาไปซื้ออย่างอื่นด้วยล่ะสิ!” เปยเตอหยงขมวดคิ้วและตําหนิ“ฉันซื้อเครื่องแพงๆ ให้ก็ดีมากแล้วคนอื่นเขามีไว้แค่สื่อสารแถมพวกเขาซื้อมันในราคาถูกมาก”
หญิงสาวกลอกตาพลางลุกขึ้น “ใส่เสื้อให้มันหนาๆ หน่อยข้างนอกอากาศหนาว”
“เข้าใจแล้ว” เปยเตอหยงสวมเสื้อขนแกะและหยิบเสื้อคลุมของเขาขึ้นมา
หญิงสาวไปส่งที่ประตูแล้วพูดด้วยสีหน้าจริงจัง “เฒ่าเปยฉันไม่ได้จ่ายค่าห้องมานานแล้ว”
“ขาดเท่าไหร่ล่ะ?”
“อีกสองหมื่น”
“แย่จัง ช่วงนี้ผลประกอบการบริษัทไม่ค่อยดี เมียฉันก็มักจะมาเช็กบัญชีอยู่ตลอดด้วย” เปยเตอหยงลูบผมของผู้หญิงคนนั้นพลางพูดด้วยรอยยิ้ม “รอไปก่อนนะเดี๋ยวสิ้นเดือนนี้ฉันจะจัดการให้ถ้ามีคนมาเก็บเธอก็ออกไปก่อนละกัน”
หญิงสาวขมวดคิ้วและมองเปยเตอหยงก่อนพูดอย่างรวบรัด “ก็ฉันไม่มีเงินนี่นาคอยดูถ้าเขาไล่ฉันออกฉันจะไปอยู่กับคุณที่บ้าน!”
“หม พูดอีกทีสิจ๊ะ!” เปยเตอหยงพูดพลางตบบั้นท้ายหญิงสาว “ฉันไปก่อนนะแล้วจะโทรหา”
หลังพูดจบเปยเตอหยงก็เปิดประตูแล้วเดินออกจากห้องไป
“ดูบันไดด้วยสิ! เดี๋ยวจะตกบันไดตายเอา!” หญิงสาวยืนตะโกนอยู่หน้าประตู
สิบนาทีต่อมา
เปยเตอหยงขึ้นรถและนั่งเบาะหลังพลางออกคําสั่ง “กลับไปที่บริษัท
ขณะขับรถชายหัวโล้นวัยกลางคนยิ้มพลางถามเปยเตอหยง “ทําไมไม่อยู่นอนคืนนี้ก่อนละเจ้านาย”
“เปล่าประโยชน์ อยู่ไปถึงเช้าก็มีแต่จะเสียเงิน” เปยเตอหยงหาวก่อนจะถาม“เสียวหยาง แล้วเรื่องหม่าเหลาเอ๋อล่ะเป็นไง?”
“ครับ มีคนไปหลายคนแล้ว” คนขับรถคือฉวี่หยางซึ่งเป็นรองจากเปยเตอหยงเขารับผิดชอบในการจัดการร้านพนันและธุรกิจค้ามนุษย์เพียงไม่กี่แห่ง
“ไปถามมาแล้วเหรอ?” เปยเตอหยงหยิบกล่องบุหรีออกมาแล้วถามด้วยเสียงทุ่มต่ํา
“หม่าเหลาเอ๋อจะขยายธุรกิจขายยา และดูเหมือนว่าคืนนี้จะมีการเจรจากับคนจํานวนมากเลยล่ะ”ฉวีหยางกระซิบ
“ขนาดนั้นเชียว?”
“ หม่าเหลาเอ๋อมีการสนับสนุนที่มั่นคงจากเฒ่าหลี่และฉินอวี่นอกจากนี้ตอนเฒ่าหม่าอยู่เขามีเครือข่ายมากมายในรัฐพื้นทมิฬคืนนี้ผมว่าจะไปจอยพาเลซด้วยเพื่อไปดูว่าทุกคนจะเคลื่อนไหวอย่างไรกับเขาบ้าง” ฉวี่หยางวิเคราะห์อย่างมีเหตุมีผล
เปยเตอหยงลดกระจกรถลงเล็กน้อยก่อนขมวดคิ้วและสูดลมหายใจ “ฉันว่าเราอย่าเพิ่งไปเลยฉันจะรอดูท่าที่ของเจ้าหลานเฒ่าหม่าคนนั้นก่อนว่าจะโทรมาอีกรึเปล่า”
“ผมว่าเร็วๆ นี้คงได้คุยกันละมั้ง” ฉวี่หยางพูดอย่างไม่แน่ใจ
“คงจะไม่เป็นอย่างนั้นนะ” เปยเตอหยงส่ายหน้า “ถ้าเขาต้องการตกลงกันจริงๆ จะต้องโทรหาฉันอีกแน่นอน เพื่อกระตุ้นให้ฉันรีบไปไงล่ะ”
หลังจากที่ฉวี่หยางได้ยินเขาก็ถามด้วยความสงสัย “แล้วคุณจะไม่ทําอะไรเลยเหรอ?”
“ถ้าทําตามฉันบอกก็คงไม่มีอะไรเสียหาย” เปยเตอหยงพูดต่อ “ตราบใดที่หม่าเหลาเอ้อมองหาฉัน หยวนเค่อก็จะต้องมองหาฉันเช่นกันจากนั้นทั้งสองก็จะแข่งกันเสนอราคาให้ฉัน”
ฉวี่หยางชั่งใจอยู่ครู่หนึ่ง “ถ้าอย่างนั้นคุณก็ต้องเลือกระหว่างหม่าเหลาเอ๋อกับหยวนเค่อน่ะซี”
“จริงๆ ฉันชอบหยวนเค่อมากกว่านะ เพราะฉันคุ้นเคยกับพวกตระกูลหยวนมากกว่า แต่ยังไงแล้วมันก็ขึ้นอยู่กับราคาที่ พวกนั้นเสนอมาให้อยู่ดี!”เปยเตอหยงยิ้ม“ถ้าเป็นไปตามคาดฉันจะสามารถเสนอขึ้นราคากับหยวนเค่อได้จากราคาของหม่าเหลาเอ๋อ และเป็นไปได้ว่าเขาจะยอมรับ”
“คุณคาดไว้เท่าไหร่ล่ะ?”
“อย่างมากก็แปดสิบเปอร์เซ็นต์ และน้อยสุดก็คงสักหกสิบเปอร์เซ็นต์” เปยเตอหยงตอบอย่างมั่นใจ “เพราะชัดเจนอยู่แล้วว่าใครจะครองรัฐพื้นทมิฬแห่งนี้ต่อไป ฮ่าฮ่า!”
“คุณรู้เสมอว่าควรจะทําอะไรต่อ”ฉวี่หยางพูดด้วยสีหน้าจริงจัง
“รีบไปเถอะฉันจะได้รีบกลับไปนอน” เปยเตอหยงหาวพลางเรงอีกฝ่าย
หน้าประตูร้านค้าแห่งหนึ่งในพื้นที่โครงการ
คนในรถบรรทุกคอนเทนเนอร์สองคนกําลังทําหน้าเซื่องซึมเขาหยุดรถแล้วลงไปที่ทางเข้าลานจอดพร้อมกัน
ไฟหน้ารถดับลงขณะจอดอยู่บนถนนมืดมิด ท่ามกลางเงียบสงัดมีเพียงเสียงเครื่องยนต์เท่านั้นที่ดังกระหึมไปทั่วละแวกใกล้เคียง