บทที่ 175 เล่ห์เหลี่ยม 3 (2)
คาร์ลและเชวฮันตื่นขึ้นมากลางดึกเพื่อเตรียมตัวปฏิบัติภารกิจ
ลูกแมวทั้งสองกำลังกระโดดข้ามหลังคาเรือนเพื่อมุ่งหน้าไปยังคฤหาสน์ดยุกเซคก้า ออนและฮงได้มาสังเกตการณ์ทุกตรอกซอกซอยในบริเวณนี้เป็นที่เรียบร้อยแล้ว
ฟริ้วววว~~~~~
คาร์ลไม่คิดสนใจกับทรงผมของตัวเองที่เริ่มยาวปะไหล่ว่ามันจะถูกลมพัดจนยุ่งเหยิงขนาดไหน ลมยังคงล้อมรอบตัวคาร์ลในขณะที่เส้นผมสีน้ำตาลจากการใช้พลังเวทย์ก็ยังคงกระพือไม่หยุด
‘วุ่นวายชะมัด’
เสียงเรียกของวายุที่อยู่ในตัวของเขากำลังปั่นป่วน
คาร์ลหยุดเดินหลังจากเข้าใกล้คฤหาสน์ดยุกเซคก้าเป็นที่เรียบร้อย เขาได้ยินเสียงของราอนเอ่ยรายงาน
~ มีอัศวินเป็นจำนวนมากแต่นักเวทย์กลับมีเพียงหยิบมือ! ~
‘แน่นอน..เพราะอาณาจักรพารันคือดินแดนแห่งอัศวิน’
พวกเขายังเป็นตระกูลอัศวินผู้พิทักษ์ที่คลั่งไคล้ดาบเวทย์เป็นชีวิตจิตใจ
ฟริ้วววว~~~~~
คาร์ลหงายฝ่ามือขึ้น
ดูเหมือนลมหมุนในมือเตรียมพร้อมจะโจมตีคฤหาสน์หลังนี้ได้ทุกเมื่อ
“..นี่มันดูแปลกไปแล้ว”
“อะไรแปลกๆหรือขอรับ?”
คาร์ลส่ายศีรษะให้กับคำถามของเชวฮันและเริ่มคิดบางอย่างในใจ
‘อัศวินผู้พิทักษ์รู้ตัวหรือเปล่าว่ามีเครื่องมือพระเจ้าในคฤหาสน์ของเขา?’
มันคงเป็นเรื่องแปลกเกินไปถ้าเขารู้เรื่องนี้
ทำไมคนที่พยายามจะสร้างตำนานฉบับใหม่ขึ้นมาถึงปล่อยเครื่องมือพระเจ้าไว้เช่นนั้นโดยไม่คิดใช้ประโยชน์จากมัน?
‘แล้วมันคือน้ำตาพระเจ้าหรือไม่?’
หัวขโมยผู้เป็นเจ้าของพลังเสียงเรียกของวายุกำลังสื่อถึงน้ำตาพระเจ้าจริงๆหรือเปล่า?
แล้วทำไมน้ำตาพระเจ้าถึงมาอยู่ที่นี่ได้?
มันแปลกเกินไปแล้ว!
อย่างไรก็ตามยังมีอีกสิ่งที่เป็นเรื่องแปลก นั่นคือสิ่งที่เชวฮันกำลังเอ่ยขึ้น
“ท่านคาร์ล?”
“ว่าอย่างไร?”
“จะเป็นอะไรหรือเปล่า? หากเราเข้าไปใกล้ตัวคฤหาสน์มากกว่านี้”
“แล้วทำไมจะไม่ได้ล่ะ?”
คาร์ลและเชวฮันเริ่มสาวเท้าเข้าไปใกล้ตัวคฤหาสน์อย่างลับๆอีกครั้ง เชวฮันส่ายศีรษะของตนเบาๆราวกับสับสนในบางอย่าง
“กระผม..รู้สึกถึงสิ่งที่มันคุ้นเคย”
‘คุ้นเคย?’
คาร์ลเริ่มคิดว่ามีสิ่งใดบ้างที่เชวฮันอาจรู้สึกคุ้นเคยกับมัน
‘กลิ่นเลือด?’
ความคิดนั้นทำให้คาร์ลก้าวเท้าออกห่างจากเชวฮันทันที ซึ่งเป็นจังหวะเดียวกับที่เชวฮันเอ่ยถามเขาพอดี
“ท่านคาร์ล..จะเป็นอะไรหรือเปล่า? หากกระผมจะเข้าไปสำรวจในคฤหาสน์นั้นล่วงหน้าก่อน”
“ล่วงหน้า?”
นี่เป็นครั้งแรกที่เชวฮันก้าวขึ้นมาเพื่อจัดการบางอย่างล่วงหน้าก่อนที่มันจะมาถึงมือคาร์ล
“มีบางอย่างที่กระผมคุ้นเคยอยู่ด้านในนั้น..กระผมจะระวังตัวไม่ให้ถูกจับได้ขอรับ”
เชวฮันรอคำตอบจากคาร์ลซึ่งคาร์ลก็รีบตอบออกไปทันที
“เจ้าไม่จำเป็นต้องขออนุญาตข้าหรอกนะ..แค่ระวังไม่ให้ตัวเองบาดเจ็บก็พอ”
“ขอรับท่านคาร์ล!”
~มนุษย์!ข้าต้องไปด้วยมั้ย? ~
คาร์ลเพิกเฉยต่อคำถามของราอนและบอกให้เชวฮันพาออนและฮงติดตามไปด้วย จากนั้นเขาก็รีบกลับไปยังที่พักทันที เขาดื่มไวน์และหั่นสเต็กเข้าปากอย่างสบายใจก่อนจะเอนหลังหลับไปบนเตียงนอนนุ่ม
มันเป็นค่ำคืนที่แสนจะผ่อนคลาย
อย่างไรก็ตามคาร์ลต้องสะดุ้งตื่นขึ้นมาด้วยความตกใจ
เคร้ง!!
มีเสียงคล้ายกับหน้าต่างถูกกระแทกอย่างแรง
คาร์ลจึงลืมตาตื่นทันที
เฮือกกก!
คาร์ลอ้าปากค้างทันทีที่ลืมตาขึ้นมา
เชวฮันกำลังจ้องเขม็งมาที่หน้าของเขา คาร์ลตกใจมากจนเผลอผลักหน้าของเชวฮันออกอย่างแรง
“ท่านคาร์ล!”
แต่ดูเหมือนเชวฮันจะมีเรื่องด่วนจนไม่สนใจกับปฏิกิริยาตอบรับของคาร์ล
“มีอะไร?”
คาร์ลเริ่มขมวดคิ้ว
‘ทำไมนายไม่เปิดประตูเข้ามาดีๆจะเข้ามาทางหน้าต่างทำไมกันนะ?’
“มนุษย์..ตกใจเหรอ?”
ราอนใช้อุ้งเท้าเล็กๆของมันลูบไปที่หลังของคาร์ลเบาๆคล้ายกับปลอบโยน แน่นอนว่าคาร์ลเพิกเฉยต่อราอนที่ไม่ยอมปลุกเขาล่วงหน้า จากนั้นก็หันไปมองเชวฮัน ออนและฮง
“เราเห็นบางอย่างที่น่าทึ่ง!”
“มันน่าทึ่งจริงๆ!”
ออนและฮงกระโดดขึ้นลงบนเตียงนอนของเขา ทันใดนั้นความหนาวเย็นก็แล่นไปทั่วแผ่นหลังของคาร์ล
“…มันคืออะไร?”
เสียงของคาร์ลเจือไปด้วยความง่วงเล็กน้อย
เชวฮันเริ่มพูดขึ้น
“ท่านคาร์ล..มันคืออาร์มขอรับ”
คาร์ลตาสว่างขึ้นมาทันที
“พวกนั้นอยู่ที่นี่งั้นหรือ?”
ฮงเป็นคนตอบคำถามนี้แทนเชวฮัน
“อาร์มกำลังมอบของบางอย่างให้กับคนในคฤหาสน์ดยุก! มันดูเหมือนเป็นของสำคัญ!”
‘หรือว่า?’
คาร์ลจึงหันไปถามเชวฮัน
“ความรู้สึกที่เจ้าว่าคุ้นเคย..หมายถึงพวกอาร์มหรือเปล่า?”
เชวฮันส่ายหน้าน้อยๆและเริ่มตอบคำถามของคาร์ล
“ไม่ใช่ขอรับ..สิ่งที่กระผมคุ้นเคย..มันคือ..เอ่อ..กลิ่นเลือด”
‘..ฉันก็ไม่ได้คาดหวังให้มันเป็นกลิ่นเลือดจริงๆสักหน่อย’
คาร์ลรู้สึกงงเล็กน้อยว่าทำไมคนที่แข็งแกร่งมักจะมีสัญชาตญาณกับเรื่องพวกนี้เหลือเกิน คาร์ลรีบปัดเรื่องนี้ออกจากหัวเมื่อมาตั้งใจฟังสิ่งที่เชวฮันพูดต่อ
“นั่นคือสาเหตุที่กระผมเข้าไปตรวจสอบล่วงหน้าขอรับ..มันจะไม่ดีถ้าเราปล่อยให้มีอันตรายเกิดขึ้นหากเราต้องเข้าไปปล้นมันจริงๆ”
เป็นจริงอย่างที่เขาพูด
“อย่างไรก็ตามเราบังเอิญได้เห็นอาร์มส่งมอบกล่องขนาดเล็กให้กับคนในคฤหาสน์..ดูเหมือนมันจะเป็นของมีค่าขอรับ”
เชวฮันซึ่งกำลังตั้งใจอธิบายอย่างจริงจังต้องเงียบเสียงลงเมื่อได้ยินเสียงแปลกๆดังขึ้น มันเป็นเสียงหัวเราะในลำคอของคาร์ล ดูเหมือนว่าคาร์ลจะพบเรื่องสนุกบางอย่างเข้า
“เชวฮัน”
“ขอรับ?”
“เจ้ารู้หรือเปล่า? ว่าแผนเดิมที่ข้าคิดไว้คือการสร้างความวุ่นวายโดยการสร้างเสาเพลิงในทะเลสาบในขณะที่สวมชุดนักบวช”
มันจะเป็นภาพที่น่ากลัวขนาดไหนเมื่อเห็นนักบวชผมสีขาวหัวเราะลั่นต่อหน้าเสาเพลิงพวกนั้น
“แต่ข้าไม่สามารถทำตามแผนนั้นได้อีกต่อไป”
เขาไม่สามารถทำตามแผนนั้นได้เพราะได้ใช้ตัวตนของนักบวชผมขาวล่อลวงให้โคลเปย์ติดกับไปก่อนหน้านั้นแล้ว
เชวฮันกลืนน้ำลายลงคออึกใหญ่เมื่อเห็นรอยยิ้มกว้างของคาร์ล
‘หรือว่า?’
ทันใดนั้นความคิดบางอย่างก็แล่นเข้ามาในหัวของเขา พร้อมๆกับที่คาร์ลยกแขนของตัวเองขึ้นมาและเอ่ยขึ้นด้วยความตื่นเต้น
“ข้านำชุดของพวกอาร์มมาด้วย”
แน่นอนว่ามันคือชุดเลียนแบบที่คาร์ลสั่งทำขึ้น
คาร์ลผายมือตัวเองออก
“ข้านำมาห้าชุดและเราก็มีห้าคนพอดี..นี่มันไม่สมบูรณ์แบบไปหน่อยหรือ?!”
คาร์ล เชวฮัน โรสลิน อาร์ชีและพาสตัน ครบห้าคนพอดี!
เด็กๆต่างตะโกนขึ้นมาในขณะที่เชวฮันดูเหมือนจะหาเสียงของตัวเองไม่เจอ
“มนุษย์!.เจ้ายอดเยี่ยมไปเลย!”
“ดีมาก!”
“ข้าอยากลองใส่บ้างจัง!”
เมื่อเห็นท่าทางที่เต็มไปด้วยความพอใจของเด็กๆ คาร์ลจึงตอบกลับด้วยน้ำเสียงขี้เล่น
“เอาไว้ข้าจะซื้อของอร่อยๆให้กับพวกเจ้าทาน..ตอนช่วงงานเทศกาลแล้วกัน”
เชวฮันไม่สามารถพูดอะไรออกมาได้แม้ว่าบทสนทนาทั้งหมดจะจบลงแล้วก็ตาม ค่ำคืนนี้ผ่านไปอย่างรวดเร็วและเช้าวันแรกของงานเทศกาลก็เดินทางมาถึง