ขยะแห่งตระกูลเคานต์ Trash of the Count’s Family – ตอนที่ 172.1

ตอนที่ 172.1

บทที่ 172 อาจเป็นได้ 7 (1)

– เจ้าเป็นใคร?-

องค์ชายรัชทายาทก็เคยถามคำถามนี้กับคาร์ลมาก่อนแต่ครั้งนี้มันดูต่างออกไป

-คาร์ล..ข้ามองไม่เห็นอนาคตของเจ้าและข้าก็มองไม่เห็นอดีตของเจ้ามาก่อนเช่นกัน..จนกระทั่งเมื่อ 2 ปีที่แล้ว-

2 ปีที่แล้ว

นั่นคือระยะเวลาที่คิมร็อกโซได้กลายมาเป็นคาร์ล เฮนิตัส

-ข้าอาจไม่ได้รู้ทุกเรื่องแต่ข้าก็มีชีวิตอยู่มาอย่างยาวนาน…ข้าตายและกลับมาเกิดหลายต่อหลายครั้งนั่นทำให้ดวงตาของข้าสามารถมองเห็นโลกใบนี้ได้มากพอควร-

ต้นไม้โลกสามารถมองเห็นการเคลื่อนไหวของโลกใบนี้ได้แต่มันก็มีเวลาที่ไม่สามารถมองเห็นได้เช่นกัน และตอนนี้สิ่งที่ต้นไม้โลกสามารถมองเห็นได้กำลังลดลงอย่างช้าๆ

-เมื่อนานมาแล้ว-

ต้นไม้โลกยังจำได้ดีเมื่อมันไม่มีทางเลือกอื่นจึงสร้างพายุหิมะขึ้นมาปกคลุมทั่วอาณาเขตทางตอนเหนือของทวีป

นั่นเป็นครั้งแรกที่มันรู้สึกกลัว

-มีคนเช่นเจ้า..ที่ข้าไม่สามารถมองเห็นอดีตและอนาคตของพวกเขาได้..ข้ามองเห็นเพียงเสี้ยวเล็กๆของอนาคตอันใกล้นี้เท่านั้น-

คาร์ลให้ความสนใจกับประโยคที่ว่ามีคนเช่นเขาเมื่อครั้งในอดีต

‘พวกเขาได้ทะลุมิติเข้ามาหรือเปล่า?’

หากพวกเขาคือคนที่ทะลุมิติเข้ามาได้จริง คาร์ลก็อยากจะรู้เรื่องต่างๆของพวกเขา

อย่างไรก็ตามต้นไม้โลกกำจัดความคิดของคาร์ลไปอย่างรวดเร็ว เมื่อได้รับคำอธิบายที่แตกต่างจากสิ่งที่เขาคิดเอาไว้

-เจ้าของพลังศักดิ์สิทธิ์โบราณก็เป็นเหมือนเจ้า…ข้ามองไม่เห็นพวกเขา-

‘พลังศักดิ์สิทธิ์โบราณ?’

-ข้าไม่สามารถทะลุผ่านความคิดของคนลอบวางเพลิงหรือเจ้าหินนั้นได้เลย-

‘..ดูเหมือนฉันจะเดาออกว่านางกำลังเอ่ยถึงใครเมื่อพูดถึงหินนั่น?’

คาร์ลกำลังนึกถึงเจ้าของพลังศิลา เขาเริ่มคิดถึงช่วงเวลาที่ผู้คนจำนวนมากมีพลังศักดิ์สิทธิ์โบราณไว้ในครอบครอง เขากำลังคิดเกี่ยวกับสมัยโบราณ

มีการกล่าวไว้ว่าความมืดได้คืบคลานเข้าสู่โลกใบนี้เมื่อครั้งในอดีต ทั้งยังระบุไว้ด้วยว่าความมืดได้หายไปและสันติภาพก็กลับคืนสู่โลกใบนี้อีกครั้ง

อย่างไรก็ตามไม่มีตำนานหรือหนังสือประวัติศาสตร์เล่มใดมุ่งเน้นไปที่ความมืดเป็นพิเศษ

“ความมืดคืออะไร?”

ราอนและอดิทที่ยังจับจ้องไปที่คาร์ลต่างพากันชะงักด้วยความงุนงงเมื่อได้ยินสิ่งคาร์ลเอ่ยออกมา แต่ต้นไม้โลกกลับเข้าใจในสิ่งที่คาร์ลถามและตอบกลับทันที

-ข้าสามารถพูดในสิ่งที่โลกบอกให้พูดได้เท่านั้น-

ต้นไม้โลกกำลังจะสื่อว่าตนไม่สามารถตอบคำถามนี้ของคาร์ลได้ จากนั้นมันก็เริ่มพูดต่อ

-ข้าไม่สามารถพูดในสิ่งที่ข้ามองไม่เห็น..ข้าไม่สามารถทำนายได้ว่าร่างกายและตัวตนที่แท้จริงของความมืดคืออะไร?..อย่างไรก็ตามข้าที่อาศัยอยู่ในช่วงเวลานั้นก็มีโอกาสได้เห็นความมืดมิดเช่นกันแต่น่าเสียดายที่มันเป็นสิ่งที่ข้าไม่สามารถพูดอะไรได้มากกว่านี้-

คาร์ลเริ่มขมวดคิ้วมุ่นกับประโยคที่วกไปวนมาจนไม่สามารถให้ความกระจ่างอะไรกับเขาได้

-เจ้าบอกว่าองค์กรที่ชื่อ‘อาร์ม’กำลังเพ่งเล็งมาที่ข้า?-

“เป็นเช่นนั้น”

-ข้ามองไม่เห็นพวกอาร์ม..สิ่งที่ข้ามองเห็นในตอนนี้เริ่มลดน้อยลงไปทุกที-

คาร์ลเริ่มรู้สึกไม่ดี

‘..ดูเหมือนเรื่องต่างๆจะกลายเป็นปัญหาใหญ่กว่าเดิม’

แม้ว่าตอนนี้สิ่งต่างๆจะดูวุ่นวายอยู่แล้วแต่อนาคตอันใกล้นี้กำลังจะกลายเป็นเรื่องที่วุ่นวายหนักขึ้นไปอีก คาร์ลรู้สึกผิดหวังที่ต้นไม้โลกไม่รู้ตัวตนที่แท้จริงของพวกอาร์ม

-อันตรายมักจะคืบคลานมาหาข้าในทุกครั้งที่ข้าไม่สามารถมองเห็นการเคลื่อนไหวของโลกใบนี้..อาจเป็นไปได้ที่ข้าจะมีส่วนร่วมกับเหตุการณ์นี้และไม่ใช่เพียงคนดูอยู่เฉยๆเท่านั้น-

ต้นไม้โลกหาข้อสรุปได้อย่างรวดเร็ว

-แต่นั่นคือปัญหาของข้า! ดังนั้นข้าขอกลับมาที่เรื่องของเจ้าอีกครั้ง เจ้าเป็นใครกันแน่?-

ต้นไม้โลกเอ่ยถามคาร์ลอีกครั้งและคาร์ลก็ตอบกลับอย่างใจเย็น

“เป็นเพียงแค่มนุษย์คนหนึ่งบนโลกใบนี้”

เสียงของราอนตะโกนเข้ามาให้คาร์ลได้ยินในตอนนั้น

“มนุษย์ของเราไม่ใช่ธรรมดาและเขาก็อ่อนแอเช่นกัน!”

‘หมอนี่กำลังพูดถึงอะไร?’

คาร์ลปล่อยให้ความเห็นของราอนเข้าหูซ้ายและทะลุออกหูขวาไปทันที อย่างไรก็ตามคาร์ลไม่สามารถเพิกเฉยกับความเห็นของต้นไม้โลกได้

-วันนี้..ข้าตั้งใจจะทิ้งกิ่งไม้ของตนเองสัก3-4กิ่ง-

‘ทิ้งกิ่งไม้? 3-4 กิ่งงั้นรึ?’

คาร์ลมั่นใจว่าต้นไม้โลกต้องดูแลตนเองเป็นอย่างดีนั่นทำให้คาร์ลรู้สึกถึงลางไม่ดีบางอย่างจากสิ่งที่ต้นไม้โลกต้องการจะทำ แม้ว่าต้นไม้โลกจะมีลำต้นขนาดเล็กกว่าที่คาดเอาไว้แต่มันก็สูงและกิ่งก้านก็ดูหนาและแข็งแรงดี

‘ทำไมต้องทิ้งกิ่งของตนเองด้วยล่ะ?’

คาร์ลกำลังจะอ้าปากถามแต่ต้นไม้โลกกลับชิงพูดก่อน

-อย่างแรก!-

ต้นไม้โลกวางแผนที่จะพูดอะไรบางอย่างที่ไม่ได้รับอนุญาตให้พูดได้ ในช่วงเวลาที่ความมืดมิดเข้าปกคลุมไปทั่วโลก สิ่งมีชีวิตหลากหลายเผ่าพันธุ์ต่างลุกฮือขึ้นมาต่อสู้และตั้งตัวเป็นศัตรูซึ่งกันและกันแน่นอนว่าสันติภาพไม่มีอยู่จริง

ยุคมืดถูกเรียกว่ายุคแห่งการต่อสู้ มันเป็นช่วงเวลาที่สามารถเข่นฆ่าผู้อื่นได้อย่างมีความสุขเพื่อผลประโยชน์ของตนเอง

ต้นไม้โลกพูดถึงอย่างแรก

–บุคคลที่สามารถรวบรวมพลังศักดิ์สิทธิ์โบราณไว้ในครอบครองได้ถึง 3 อย่าง-

คาร์ลชะงักไปทันที

‘หากเป็นแค่ 3 อย่างต้องไม่ใช่ฉันแน่ๆ! มีคนพยายามรวบรวมพลังศักดิ์สิทธิ์โบราณไว้ด้วยหรือ?ทำไมกันนะ?’

ในปัจจุบันคนส่วนใหญ่เห็นพลังศักดิ์สิทธิ์โบราณเป็นเพียงพลังปานกลางที่มีไว้เสริมพลังหลักเท่านั้น นั่นก็เพราะพลังศักดิ์สิทธิ์โบราณมีขีดจำกัดและไม่สามารถพัฒนาพลังของมันไปให้ถึงขีดสูงสุดได้

คาร์ลเอ่ยถามอย่างเร่งรีบ

“ทำไมถึงมีคนพยายามรวบรวบ—”

อย่างไรก็ตามคาร์ลไม่สามารถพูดจนจบประโยคได้

โคร้ม!

เสียงบางอย่างดังขึ้นพร้อมกับพื้นดินสั่นไหวเล็กน้อย ก่อนที่บางอย่างจะร่วงลงมากระแทกพื้น

สิ่งที่เกิดขึ้นทำให้คาร์ลคิดที่จะลืมตาขึ้นมา

-อย่าลืมตา!-

แต่เสียงแข็งๆของต้นไม้โลกห้ามเขาเอาไว้

เขายังได้ยินเสียงของอดิทเว่วเข้ามา

“โอ้พระเจ้า!..ท่าน..ท่านต้นไม้โลก!”

อดิทร้องเรียกต้นไม้โลกด้วยน้ำเสียงเจ็บปวด ราอนเองก็ตะโกนขึ้นมาเช่นกัน

“เกิดอะไรขึ้น? ต้นไม้โลก!ทำไมกิ่งไม้บนต้นของเจ้าถึงร่วงลงมาที่พื้น! เจ้าได้รับบาดเจ็บหรือเปล่า? เจ้าไม่สบายงั้นรึ?”

“ท่านไม่สามารถเข้าไปใกล้พวกเขาได้!”

อดิทขัดขวางไม่ให้ราอนมุ่งหน้าไปยังจุดที่ต้นไม้โลกและคาร์ลอยู่ เธอย่ำเท้าอยู่บนพื้นซ้ำแล้วซ้ำเล่าอย่างไม่รู้จะทำอย่างไรดี จากนั้นเธอก็หันไปพูดกับราอนอย่างนอบน้อมเมื่อเห็นราอนมองมาที่เธอด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยคำถามว่าเหตุใดเธอถึงอุ้มมันกลับมา

“ต้นไม้โลก..บอกไม่ให้ท่านราอนเข้าไปเจ้าค่ะ”

“อย่างนั้นหรือ? ก็ได้! ข้าไม่เข้าไปก็ได้”

ราอนไม่พูดอะไรออกมาอีก ก่อนจะกลับไปยังจุดเดิมของตน อย่างไรก็ตามสายตาของมันเต็มไปด้วยความกังวล มันยังคงจ้องเขม็งไปที่ร่างของคาร์ลซึ่งยืนอยู่ไม่ไกลจากกิ่งไม้ที่ร่วงลงมาเมื่อครู่

ในทางกลับกันจิตใจของคาร์ลยิ่งทวีความสงสัยขึ้นเรื่อยๆ

-อย่างที่สอง-

เสียงของต้นไม้โลกเริ่มอ่อนแรงแต่ก็รีบพูดอย่างรวดเร็ว

-ค้นหาร่องรอยที่เหลืออยู่ของพ่อแม่มังกรดำ-

‘หมายถึงพ่อกับแม่ของราอนหรือไม่?’

ในอนาคตคาร์ลเองก็คิดที่จะหาคำตอบของเรื่องนี้เช่นกัน

โคร้ม!

กิ่งไม้ขนาดใหญ่อีกอันร่วงลงที่พื้น

“ข้า..ข้าจะทำอย่างไรดี?!”

เขาได้ยินน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความกังวลของอดิท อย่างไรก็ตามใจของคาร์ลกลับเต็มไปด้วยความสับสนในสิ่งที่ต้นไม้โลกพูดมากกว่า เขายังคงพุ่งความสนใจไปกับสิ่งที่ต้นไม้โลกจะพูด

-สิ่งสุดท้าย-

ยังเหลืออีกหนึ่งอย่าง

-ผู้พิพากษาได้หลบหนีไปยังทวีปตะวันออก…ตามหานางให้เจอ-

‘..เมื่อกี้พูดว่าอะไรนะ?’

คาร์ลเลิกคิ้วสูงอย่างนึกสงสัย

ในขณะนั้นเอง

เปรี๊ยะ!

คาร์ลได้ยินเสียงผิดปกติดังขึ้นบริเวณเหนือศีรษะของตน ก่อนที่ร่างของเขาจะถูกผลักออกไปทันที

“..ฮึ่ก!”

ร่างแข็งแรงและกลมมนเป็นคนผลักคาร์ลออกไปด้านข้าง ในเวลาเดียวกันอุ้งมือเล็กๆก็รองรับแผ่นหลังของเขาไม่ให้ได้รับบาดเจ็บ

โคร้ม!

คาร์ลลืมตาขึ้นทันที

เขามองไปยังจุดที่เขาเคยยืนอยู่ มีกิ่งไม้ขนาดใหญ่ที่เปลี่ยนเป็นสีดำและมีของเหลวสีแดงไหลซึมออกมา

“มนุษย์!..เจ้าไม่เป็นไรใช่มั้ย?”

คาร์ลมองไปที่ราอนซึ่งเป็นคนผลักร่างและคอยรับร่างเขาเอาไว้ไม่ให้ได้รับบาดเจ็บ ราอนโผล่ศีรษะออกมาจากด้านหลังของคาร์ล ก่อนที่คาร์ลจะเอ่ยขึ้นอย่างใจเย็น

“เจ้าใช้พลังเวทย์ของเจ้าผลักร่างข้าออกไปก็ได้นี่นา”

ถ้าราอนใช้พลังเวทย์ผลักร่างของคาร์ลออกไปตั้งแต่แรก ร่างของเขาก็จะไม่กระแทกไปที่อุ้งมือซึ่งแข็งราวกับหินของราอน

ดวงตาของราอนเริ่มสั่นน้อยๆก่อนจะกลับมาเป็นเป็นปกติ มันเริ่มพูดกับคาร์ลทันที

“แต่เจ้าก็ยังหลบมันได้นี่นา!”

“อ่า..ใช่ๆ”

คาร์ลตอบอย่างไม่ใส่ใจนักก่อนจะสาวเท้าไปหาต้นไม้โลกอีกครั้ง

ติ๋ง! ติ๋ง! ติ๋ง!

เสียงที่คาร์ลพลาดไปเพราะใจที่จดจ่อเพียงลำต้นของต้นไม้โลกลอดเข้ามาให้ได้ยิน กิ่งไม้ขนาดใหญ่ที่หักออก มีของเหลวสีแดงไหลออกมาราวกับเลือดของมนุษย์

‘ฉันคิดว่ามันเป็นเรื่องปกติที่ต้นไม้จะสลัดกิ่งของตนออกแต่…ฉันคิดผิด’

เขาไม่เคยเห็นต้นไม้ที่ได้รับบาดเจ็บเช่นนี้มาก่อน คาร์ลค่อยวางมือลงบนลำต้นของต้นไม้โลกช้าๆ

-เฮ้อ-

คาร์ลได้ยินเสียงถอนหายใจอย่างอ่อนแรง

-ดูเหมือนข้า..จะสามารถให้ผลไม้แก่เจ้าหลังจากฤดูร้อนสิ้นสุดลงเท่านั้น..นี่คือข้อจำกัดที่ข้าต้องยอมรับหลังจากบอกสิ่งเหล่านั้นให้เจ้ารู้-

เสียงของต้นไม้โลกเริ่มเบาลง

-เจ้าไม่มีความคิดที่จะแข็งแกร่งขึ้นใช่มั้ย-

ใช่แล้ว!

ขยะแห่งตระกูลเคานต์ Trash of the Count’s Family

ขยะแห่งตระกูลเคานต์ Trash of the Count’s Family

Status: Ongoing

เมื่อผมลืมตาตื่นก็พบว่าตัวเองอยู่ในนิยาย (กำเนิดวีรบุรุษ) (กำเนิดวีรบุรษ)เป็นนวนิยายที่เน้นเรื่องการผจญภัยของพระเอกและผองเพื่อน เชว ฮัน เป็นเด็กนักเรียนมัธยมปลายที่ถูกส่งไปยังมิติที่ต่างออกไปจากโลกพร้อมกับบททดสอบการเป็นวีรบุรุษหลากหลายรูปแบบ ภายในดินแดนตะวันตกและดินแดนตะวันออก ผมได้กลายเป็นส่วนหนึ่งของนิยายเรื่องนี้ไม่ได้เป็นพระเอกที่ชื่อ เชว ฮัน แต่เป็นเพียงตัวขยะไร้ค่าของครอบครัวท่านเคานต์ซึ่งเป็นครอบครัวขุนนางที่ดูแลพื้นที่ของหมู่บ้านแห่งแรกที่ เชว ฮัน ย่างกรายไปถึงเพื่อเริ่มต้นบททดสอบการเป็นวีรบุรุษ ปัญหาคือก่อนที่ เชว ฮัน จะมาเยือนนั้นหมู่บ้านที่เขาอาศัยอยู่ถูกคนจากองค์กรลับลอบสังหาร คนที่เขารักล้วนตายเกือบทั้งหมด ทำให้ เชวฮัน มีความโกรธแค้นและอาฆาต เขาพร้อมที่จะฆ่าคนที่เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ทั้งหมดให้ตายตกตามกันไป ปัญหาใหญ่กว่านั้นคือขยะโง่เง่าเช่น คาร์ล เฮนิตัส คนที่ผมครอบครองร่างอยู่ กลับไม่ได้รู้เรื่องรู้ราวถึงสิ่งที่เกิดขึ้น เขาเข้าไปหาเรื่อง เชว ฮัน ก่อนที่จะถูกพระเอกของเรื่องทำร้ายร่างกายในที่สุด “… นี่มันเป็นปัญหาแล้ว” ผมรู้สึกว่าเรื่องที่เกิดขึ้นมันไม่ได้ตลกเลยสักนิด มันเป็นเรื่องที่โคตรจะจริงจังเลย ผมไม่อยากโดนอัดจนเละ ! แต่มันก็น่าจะพยายามลองดูกับชีวิตใหม่ที่ได้เป็นนี้สักตั้งล่ะ

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท