บทที่ 186 เป้าหมายเล็กๆ 1 (2)
ดวงตาของหญิงชราเป็นประกายวาวขึ้นเมื่อเธอประกาศว่าพวกเขาจะต้องกลับมาเจอกันอีกครั้งในขณะที่คาร์ลก็ค่อยๆเลี่ยงการจ้องมองของเธอและโค้งคำนับให้เธออย่างนอบน้อม
‘คงไม่มีครั้งหน้าอีกแล้ว’
คาร์ลไม่มีความปรารถนาจะให้มันเกิดขึ้น
อันโตนิโอมองไปที่คาร์ลสลับกับย่าของตนก่อนจะอมยิ้มออกมา มีเพียงแค่เขาเท่านั้นที่สังเกตเห็นว่าย่าของตนยอมรับคาร์ลว่าเป็น ‘ขุนนางที่แท้จริง’
“ถ้าเช่นนั้นข้าน้อยคงต้องขอตัวลา”
คาร์ลเอ่ยลาดัชเชสกิลล์ก่อนจะก้าวขึ้นรถม้า จากนั้นร่างของเขาก็หยุดชะงักราวกับเพิ่งนึกบางอย่างออกก่อนจะหันกลับมาถามดัชเชสกิลล์อีกครั้ง
“ท่านดัชเชส..ทุกคนปลอดภัยใช่มั้ยขอรับ?”
แม้ว่าคาร์ลจะไม่ได้อธิบายว่าเขากำลังพูดถึงใครอยู่แต่โซนาต้าก็เข้าใจได้ทันที
“ใช่แล้ว..ทุกคนปลอดภัยดีและตอนนี้ก็เริ่มแข็งแรงขึ้นเรื่อยๆ”
คาร์ลกำลังพูดถึงประชาชนที่ถูกลักพาตัวมาเป็นทาส
“ถ้าเช่นนั้นข้าน้อยก็โล่งใจ”
โซนาต้ามองรอยยิ้มที่แต้มมุมปากของคาร์ลและรู้สึกได้ว่ามันคือรอยยิ้มที่จริงใจของเขา
‘เขาเป็นเด็กดีจริงๆ’
เขาเป็นคนดีกว่าที่เธอคิดไว้ องค์ชายรัชทายาทก็เป็นเด็กดีเช่นกัน เธอกำลังคิดว่าหากตัวเองต้องลงจากอำนาจเธอก็ควรเตรียมความพร้อมสำหรับการหาอำนาจใหม่ให้กับตระกูลเช่นกัน
‘ข้าควรฝากให้อันโตนิโอเป็นคนประสานงานและคอยดูแลองค์ชายรัชทายาทกับคาร์ลในครั้งต่อไป’
สายตาที่โซนาต้ามองไปที่คาร์ลนั้นลึกซึ้งมากขึ้นแต่คาร์ลเพียงแค่แอบถอนหายใจเบาๆเขารู้สึกโล่งใจที่โซนาต้าไม่โผเข้ามากอดเขา คาร์ลโค้งคำนับให้เธออีกครั้งก่อนจะเดินทางออกจากอาณาเขตกิลล์ในที่สุด
บิลอสซึ่งนั่งอยู่ในรถม้าคันเดียวกับคาร์ลรู้สึกทึ่งกับความสามารถของคาร์ลยิ่งนัก เขาเชื่อว่าคาร์ลมีความสามารถหลายๆอย่างที่มากกว่าการหาเงินเพื่อเพิ่มความมั่งคั่งเพียงอย่างเดียว นั่นคือสาเหตุที่เขาเต็มไปด้วยความคาดหวังกับการเดินทางไปยังอาณาจักรคาโรในครั้งนี้
เขามองเห็นคาร์ลเอนตัวลงพร้อมกับถอนหายใจอย่างเหนื่อยล้า
“เฮ้อ…เหนื่อยจัง”
คาร์ลกำลังขมวดคิ้วมุ่นและทำท่าราวกับรำคาญทุกๆอย่างที่อยู่รอบตัว
“เมี้ยวววว!!”
ลูกแมวขนสีเงินอ้าปากงับหมอนก่อนจะลากมันมาวางไว้ข้างๆศีรษะของคาร์ล เขาจึงขยับหมอนไปไว้ใต้ศีรษะของตนและทิ้งตัวลงนอนกินพื้นที่บริเวณที่นั่งทางฝั่งของตนทั้งหมด
บิลอสกระพริบตาปริบๆมองคาร์ลด้วยความสับสน
นายน้อยคาร์ลเป็นคนที่เข้าใจยากจริงๆ
“ข้าจะนอนแล้ว..เจ้าอย่าเพิ่งชวนข้าคุย”
บิลอสพยักหน้าตามคำสั่งของคาร์ลและปิดปากเงียบทันที
‘ใครที่มาเห็นเขาในตอนนี้ยังจะเรียกเขาว่านายน้อยโล่เงินอีกเหรอ?’
บิลอสนึกถึงฉายาที่จะทำให้คาร์ลเป็นที่รู้จักทั่วอาณาเขตกิลล์และภาคตะวันตกเฉียงใต้อีกครั้งก่อนจะค่อยๆละสายตาไปจากขุนนางหนุ่มผู้เกียจคร้านในที่สุด
.
.
.
“สวัสดี..นายน้อยคาร์ล..เราไม่ได้เจอ..กันนานมากแล้วสินะ”
เสียงคล้ายกับสิริดังออกมาจากผู้ที่สวมชุดคลุมสีดำ
“ใช่แล้ว ไม่ได้เจอกันนานเลยทีเดียว”
คาร์ลโบกมือน้อยๆให้กับคำทักทายของแมรี่ก่อนที่เธอจะเข้ามาในรถม้าเพื่อร่วมเดินทางไปกับพวกเขา
ทางตอนใต้ของอาณาจักรคาโรเป็นที่ตั้งของเมืองเวกัสซึ่งเป็นที่รู้จักกันดีว่ามีบ้านประมูลที่ใหญ่ที่สุดในทวีป
“นายน้อยคาร์ล..ไม่ได้เจอกันนานเลยนะ!”
‘ทาช่า’ดาร์กเอลฟ์ผู้เป็นป้าขององค์ชายรัชทายาทเอ่ยทักคาร์ลขึ้นก่อนจะทรุดตัวลงนั่งข้างๆกับแมรี่ บิลอสไม่ได้อยู่บนรถม้าอีกต่อไป ทันทีที่มาถึงเมืองเวกัสเขาก็ลงจากรถม้าเพื่อมุ่งหน้าไปยังร้านค้าของสมาคมการค้าฟลินน์ประจำสาขาเวกัสอย่างรวดเร็ว
ทาช่าส่งยิ้มให้กับคาร์ล
“อึ้ม..ท่านคิดว่าเมืองเวกัสเป็นเมืองที่ยอดเยี่ยมหรือไม่?”
“แน่นอน..ข้าเองก็คิดเช่นกัน”
ตรงข้ามกับคาร์ลที่ตอบคำถามตามปกติ ทาช่ากลับเริ่มมีสีหน้าแปลกไปเมื่อกวาดสายตาไปมองมุมหนึ่งของรถม้า
ปัจจุบันเมืองเวกัสถูกประดับตกแต่งอย่างสวยงามเพื่อเฉลิมฉลองการเริ่มต้นงานประมูลที่จะถูกจัดขึ้นในเดือนกุมภาพันธ์ เมืองที่ยอดเยี่ยมแห่งนี้ถูกตกแต่งด้วยโคมไฟสีแดงและสีน้ำเงินจำนวนมากทำให้บริเวณโดยรอบสวยงามยิ่งนัก
เมืองเวกัสขึ้นชื่อเรื่องบทกวี การกีฬา การประมูลและการพนัน มันเป็นเมืองที่ทุกคนสามารถแสวงหาความสำราญให้กับตนเองได้เกือบทุกรูปแบบ
ทาช่าคิดไว้อยู่แล้วว่าคาร์ลจะไม่ตื่นเต้นเมื่อได้มาเยือนเมืองแห่งนี้แต่กับคนอื่นๆไม่เป็นตามที่เธอคิดไว้สักเท่าไหร่
“ว้าว! ข้าอยากได้รูปปั้นเรืองแสงนั่น!”
“หมวกใบนั้นสวยมากเลย!”
“หากข้าได้ผ้าคุลมไหล่ผืนนั้นมาใส่ล่ะก็?..ข้าต้องดูเท่มากเลยล่ะ!”
มังกรดำและลูกแมวทั้งสองพากันมองออกไปนอกหน้าต่างรถม้าพร้อมกับอาการตื่นเต้นที่เก็บไม่อยู่ พวกมันทั้งสามต่างถือกระปุกออมสินไว้แน่น เด็กๆพากันลูบกระปุกออมสินไปมาพร้อมกับแววตาหมายมั่น ‘ข้าต้องการมัน!’นั่นคือประโยคที่ปรากฏออกมาจากแววตาของพวกมัน
เกร๊ง!
เสียงเขย่ากระปุกออกสินดังขึ้นก่อนที่ราอนจะหันไปทางคาร์ล ทาช่าและแมรี่ ทาช่าสะดุ้งโหยงเมื่อได้ยินราอนพูดกับคาร์ล
“มนุษย์! ข้ามีเงินเต็มกระปุกแล้ว! ข้าจะซื้อทุกอย่างหากข้าต้องการมัน!”
ความมีชีวิตชีวาและความยอดเยี่ยมของเมืองเวกัสจู่โจมเข้าจับหัวใจของราอนทันที ออนและฮงก็เช่นเดียวกัน ลูกแมวทั้งสองหันมามองคาร์ลเช่นเดียวกับราอน พวกมันเตรียมพร้อมที่จะออกไปข้างนอกและจะให้ฮิลส์แมนเป็นคนซื้อสิ่งที่พวกมันต้องการทันทีหากคาร์ลอนุญาตให้เพวกมันทำเช่นนั้น
ทาช่ามองพวกมันด้วยสีหน้าวางเปล่าก่อนที่ดวงตาของเธอจะเบิกกว้างขึ้นเมื่อได้ยินสิ่งที่คาร์ลตอบ
“ข้าจะซื้อให้พวกเจ้าเอง”
ความเงียบเข้าปกคลุมทั่วรถม้าอยู่ครู่หนึ่ง
“เ..เจ..เจ้าว่าอะไรนะ?”
ราอนไม่อยากจะเชื่อหูตัวเองจึงได้แต่พูดติดอ่างออกไป
อย่างไรก็ตามคาร์ลเพียงย้ำสิ่งที่เขาเพิ่งบอกไปเมื่อครู่อีกครั้ง
“ข้าจะซื้อทุกอย่างให้พวกเจ้าเอง..ทุกๆอย่างที่พวกเจ้าต้องการ”
สิ่งที่เด็กๆอยากได้จะมีราคาแพงแค่ไหนกัน?
“จ..จริงเหรอ?!”
“ข..ข้า..ข้าจะซื้อหลายๆอย่างเลยล่ะ!”
“..เจ้าทำตัวแปลกๆ!”
จิตใจของเด็กๆทั้งสามเต็มไปด้วยความว้าวุ่นแต่พวกมันก็พากันมาห้อมล้อมคาร์ลอย่างตื่นเต้น ทาช่ายังคงมองสิ่งที่เกิดขึ้นด้วยสีหน้าว่างเปล่าจนได้ยินเสียงคล้ายตุ๊กตาไขลานของแมรี่ดังขึ้น
“นายน้อยคาร์ล..เป็นคนที่อบ..อุ่นและใจดี..จริงๆ”
ทาช่าพยักหน้าเห็นด้วยแต่ก็รู้สึกแปลกๆในคราวเดียวกัน
“มนุษย์! เจ้าใจดีจังเลย! มนุษย์ของเราใจดีที่สุดแล้ว!”
“เดี๋ยวข้าจะเพิ่มเบี้ยเลี้ยงให้กับพวกเจ้าด้วย..เอาไป!คนละ 20 เหรียญ!”
“เจ..เจ..เจ้า..เจ้าใจกว้างยิ่งนัก!”
ราอนเริ่มหลั่งไหลคำชมมาให้ไม่ขาดสายและแน่นอนว่าคาร์ลไมได้สนใจกับคำชมเหล่านั้นเลย
เด็กๆสามารถขอได้กี่อย่างกัน?
เขากำลังจะได้รับเงินกว่าพันล้านแกลลอน
มีสร้อยคอสีแดงสดและอัญมณีสีดำอยู่ในกระเป๋าเวทย์ของเขา
“พวกเราจะมุ่งหน้าไปยังโรงแรมก่อนหรือไม่?”
ทาช่ามองไปยังเด็กๆที่กำลังตื่นเต้นด้วยสายตาอบอุ่นก่อนจะหันไปสบตากับคาร์ลด้วยสายตาอบอุ่นเช่นกัน
“ใช่แล้ว..จากนั้นข้าว่าจะออกไปเดินเล่นสักหน่อย”
“เดินเล่นงั้นหรือ?”
“ใช่”
“ที่ไหน?”
“คาสิโน”
“…อะไรนะ?”
อาคารขนาดใหญ่ที่ถูกออกแบบให้มีรูปร่างคล้ายกับต้นไม้สีทอง
นั่นคือคาสิโนที่ถูกต้องตามกฎหมายและเป็นคาสิโนที่ใหญ่ที่สุดในทวีป
การประมูลระดับวีไอพีจะเกิดขึ้นสี่ครั้งต่อปีในชั้นบนสุดของคาสิโนแห่งนี้
เป้าหมายเล็กๆของคาร์ลคือการขายสินค้าราคาแพงให้กับลูกค้าสองรายที่เขาจะได้พบที่นั่น