ขยะแห่งตระกูลเคานต์ Trash of the Count’s Family – ตอนที่ 187.1

ตอนที่ 187.1

บทที่ 187 เป้าหมายเล็กๆ 2 (1)

~มนุษย์?!..ม..มัน..มันคืออะไรหรือ?~

“เมี้ยว?!”

“เมี้ยววว?!”

พวกเขากำลังออกมาเดินเล่น

แน่นอนว่ามันเป็นการเดินเล่นที่คาสิโน

คาร์ลก้าวเท้าเดินช้าๆในขณะที่สายตาก็กวาดไปมองน้ำพุสีสันสดใส เครื่องพนันเวทย์และโต๊ะที่วางเรียงรายบนชั้นหนึ่ง

~มนุษย์!.เจ้าเห็นมั้ย?เมื่อครู่นี้เขาใส่เหรียญทองแดงเข้าไปในเครื่องนี้แล้วมันก็ออกมาเป็นเหรียญทอง!?~

ดวงตาของมังกรดำวัยหกขวบที่ใช้เวทย์ล่องหนอำพรางกายเอาไว้กวาดสายตาไปมองรอบๆชั้นหนึ่งอย่างตื่นเต้น

แน่นอนว่าไม่มีอุปกรณ์เวทย์ใดๆที่จะเปลี่ยนเหรียญทองแดงเพียงหนึ่งเหรียญให้กลายเป็นเหรียญทองจำนวนมากๆได้ คงจะมีเพียงการใช้พลังเวทย์และการเล่นแร่แปรธาตุที่พอจะใกล้เคียงกับสิ่งดังกล่าว มันก็คงเหมือนกับการใช้พลังเวทย์ในการสร้างไฟหรือลมอะไรแบบนั้นขึ้นมา

มังกรดำคิดออกอย่างรวดเร็วเมื่อรู้ว่าต้องจัดเรียงรูปผลไม้เหล่านี้ให้อยู่ในแถวเดียวกันถึงจะสามารถเอาชนะเครื่องพนันเวทย์เหล่านี้ได้ มังกรอัจฉริยะที่มีประสบการณ์บนโลกกว้างเพียงสองปีแบ่งปันความคิดเห็นของมันกับคาร์ลทันที

~มนุษย์!.เจ้าจะปล้นอุปกรณ์เวทย์พวกนี้หรือเปล่า?~

“ไออิกู”

คาร์ลรู้สึกงุนงงและประหลาดใจในเวลาเดียวกัน

‘มังกรช่างแตกต่างจริงๆ’

แทนที่จะลองใช้เครื่องเวทย์พนันที่มีลักษณะคล้ายๆกับตู้สล็อตแมชชีนในโลกก่อนหน้าของเขาแต่มังกรดำกลับคิดที่จะขโมยอุปกรณ์พวกนี้และแยกส่วนประกอบออกดูว่ามันมีการทำงานอย่างไร

คาร์ลรู้สึกพอใจในตัวราอนแต่ก็แกล้งทำเป็นไม่รู้เมื่อเอ่ยถามออกไป

“ทำไมล่ะ?”

บริเวณโดยรอบเต็มไปด้วยเสียงเซ็งแซ่ทำให้ไม่มีใครสนใจคาร์ลที่กำลังอุ้มลูกแมวตัวน้อยไว้ในอ้อมแขน คงมีเพียงแค่ฮิลส์แมนที่กำลังอุ้มฮงและบิลอสที่เดินตามหลังมาเท่านั้นที่หันขวับไปมองคาร์ลด้วยความสับสน แน่นอนว่าคาร์ลไม่คิดที่จะสนใจคนทั้งสองเช่นกัน

~เจ้าจะถามข้าว่าทำไมเพื่ออะไรกัน?!เราต้องหาวิธีการใช้งานของมันนะ!เจ้าไม่รู้ได้ยังไงเนี่ย!~

‘อ่า…’

~หลังจากนั้นข้าก็จะสามารถกวาดเงินได้ทั้งหมด! ข้าจะใช้เงินเพียง 1 เหรียญจากกระปุกออมสินของข้าเพื่อกวาดเอาเงินจากเครื่องนี้มาให้หมด!~

สีหน้าของคาร์ลเปลี่ยนไปทันที มังกรช่างน่าทึ่งยิ่งนักเพราะราอนคิดเยอะกว่าเขาไปอีกหนึ่งขั้น

คาร์ลเริ่มพิจารณาสิ่งที่ราอนบอกอย่างจริงจังเมื่อสายตามองตามร่างของคนกลุ่มหนึ่งที่ใส่เหรียญทองแดง 1 เหรียญหรือ 1 เหรียญคอนด์ซึ่งเป็นสกุลเงินประจำอาณาจักรคาโรเข้าไปในเครื่องพนันเวทย์ก่อนจะค่อยๆละสายตาออกมา

การยอมรับสภาพ,ความคาดหวัง,ความคลั่งไคล้,และความหมดหวัง คาร์ลไม่ต้องการขโมยเงินจากผู้คนที่มีอารมณ์เหล่านี้ หากคิดจะเป็นขโมยทั้งทีสู้ขโมยเงินจากคนรวยดีกว่ามั้ย?

“อยู่ตรงนั้นขอรับ..นายน้อย”

บิลอสชี้ไปยังมุมอับที่เห็นอยู่ไกลๆ สายตาของคาร์ลจึงพุ่งไปยังจุดนั้นทันที มันเป็นจุดที่อยู่ลึกที่สุดของชั้นหนึ่ง

ตอนนี้พวกเขาอยู่ในตัวอาคารที่มีการออกแบบให้ดูคล้ายกับต้นไม้สีทอง คนส่วนใหญ่ต่างเรียกที่นี่ว่าต้นไม้ทองคำเพราะหากใครเข้ามาที่นี่ก็อาจจะโชคดีหอบทองคำกลับบ้านได้ นี่คือคาสิโนที่ถูกต้องตามกฎหมายของอาณาจักรคาโร

เพียงแค่มี 1 เหรียญเงินหรือ 10 คอนด์ไม่ว่าใครก็สามารถเข้ามาใช้บริการที่นี่ได้ เมื่อก้าวเข้ามาในอาคารแห่งนี้ก็จะมองเห็นน้ำพุที่ดูอลังการและมีสีสันสดใสตั้งไว้ใจกลางของชั้นหนึ่ง

เมื่อเดินผ่านโซนน้ำพุเข้ามาก็จะเห็นเส้นทางที่มุ่งสู่ประตูสีทอง มันเป็นทางที่มุ่งสู่ด้านบนซึ่งรู้จักโดยทั่วไปว่าโซน‘ผลไม้ทองคำ’

ตรงจุดนั้นมีร่างของคนผู้หนึ่งซึ่งเป็นหนึ่งในสองที่คาร์ลให้บิลอสส่งคำเชิญเข้าร่วมประมูลในครั้งนี้

เขาเป็นชายวัยกลางคนอายุประมาณ 50 ปี สีหน้าและท่าทางของเขาดูเคร่งขรึม บุคลิกของชายผู้นี้ทำให้คาร์ลนึกถึงนักการเมืองที่แต่งตัวโก้หรูอยู่ในสภา

‘แต่หน้าตาแบบนี้ดูท่าจะเป็นนักการเมืองที่ชอบทุจริตเป็นชีวิตจิตใจเสียมากกว่า’

นี่คงเป็นคำจำกัดความของชายผู้นี้ได้ดีที่สุด

คาร์ลวางตัวตามปกติในขณะที่บิลอสอ้าปากค้างด้วยความตกใจเมื่อมองเห็นร่างของชายผู้นี้

“…ไม่คิดว่าหัวหน้าสมาคมการค้าจะมาที่นี่ด้วยตัวเอง”

ชายวัยกลางคนที่คาร์ลวิจารณ์เมื่อสักครู่เป็นหัวหน้าสมาคมการค้า

สมาคมการค้าที่เขาเป็นหัวหน้าเป็นที่รู้จักในฐานะของหนึ่งในห้าสมาคมการค้าที่ใหญ่ที่สุดในจักรวรรดิ

‘สมาคมการค้าซิงเท็น’

พวกเขามีความสามารถในการบริหารธุรกิจแต่ที่สำคัญกว่านั้นพวกเขามีอิทธิพลทางการเมืองที่แข็งแกร่งจนสามารถขึ้นมาเป็นสมาคมการค้าอันดับหนึ่งของจักรวรรดิในระยะเวลาเพียงแค่สิบปีเท่านั้น

ชื่อของหัวหน้าสมาคมการค้าแห่งนี้คือ ‘พราวิน ซิงเท็น’

บิลอสอึ้งไปครู่หนึ่งเมื่อตระหนักได้ว่าหัวหน้าผู้นี้เดินทางมาที่นี่ตามคำเชิญลับที่คาร์ลมอบให้เขาจัดการ ดวงตาของบิลอสเบิกกว้างขึ้นเมื่อตระหนักได้ถึงความจริงที่น่าตกใจยิ่งกว่า

‘อย่าบอกนะว่านายน้อยคาร์ลมี ‘มานะแห่งอัคคี’!?’

บิลอสเป็นคนเขียนจดหมายเชิญด้วยตัวเองทำให้เขารู้ถึงแผนการของคาร์ล เขากำลังล่อให้เหยื่อสองรายออกมาติดกับ

‘มานะแห่งอัคคี’ เป็นชื่อของสร้อยอัญมณีที่สมาคมการค้าซิงเท็นเป็นเจ้าของ มันเป็นอัญมณีลึกลับที่ถูกค้นพบในลาวาเมื่อนานมาแล้ว ไม่มีไฟใดๆที่สามารถหลอมละลายมันได้ มันถูกตระกูลคนแคระที่ออกแบบหอคอยพลังเวทย์เปลี่ยนโฉมให้กลายเป็นสร้อยคอที่สวยงาม

เมื่อสิบปีก่อนสมาคมการค้าซิงเท็นคือผู้ประมูลสร้อยเส้นนี้จากบ้านประมูลต้นไม้ทองคำในเมืองเวกัสไปได้

‘แล้วทำไมมันถึงมาอยู่ในมือของนายน้อยคาร์ลได้ล่ะ?’

บิลอสไม่สามารถหาคำตอบได้ว่ามันเกิดเรื่องนี้ได้อย่างไรและตอนนี้เขาเริ่มรู้สึกกลัวกับความสามารถของคาร์ลขึ้นเรื่อยๆ

‘ถ้าเช่นนั้นเขาก็ต้องมี‘ราตรีหรรษา’ด้วยสิ!?’

‘ราตรีหรรษา’ คืออัญมณีที่ใช้ล่อเหยื่อคนที่สอง

บิลอสยังจำได้ดีที่คาร์ลเรียกมันว่าโชคหล่นทับพร้อมกับยิ้มกว้างด้วยความอารมณ์ดี เมื่อนึกถึงท่าทางเช่นนั้นของคาร์ลใบหน้าอวบอ้วนของเขาก็เริ่มคาดหวังมากขึ้น

‘อย่างน้อยๆก็น่าจะทำเงินได้ 20,000 ล้านคอนด์’

เมื่อสิบปีที่แล้ว‘มานะแห่งอัคคี’ถูกประมูลไปได้ในราคา 15,000 ล้านคอนด์ และในครั้งนี้มันเป็นการประมูลแบบลับๆราคาที่จะถูกประมูลไปก็ควรจะใกล้เคียงกับราคาในอดีตอาจมากหรือน้อยกว่าไม่เท่าไหร่ อย่างไรก็ตามเมื่อสมาคมการค้าซิงเท็นต้องการสร้อยคอเส้นนี้ก็อาจทำให้ราคาประมูลเพิ่มสูงขึ้นไปอีก ความจริงที่ว่าหัวหน้าสมาคมการค้าซิงเท็นปรากฏตัวขึ้นที่นี่ย่อมหมายความว่าพวกเขาต้องการอัญมณีชิ้นนี้จริงๆ

บิลอสเอียงตัวไปกระซิบให้คาร์ลฟังอย่างตื่นเต้น

“นายน้อยขอรับ..ดูเหมือนท่านจะสามารถทำเงินได้ถึง 15,000 ล้านคอนด์”

“เจ้าพูดเรื่องอะไรของเจ้า?”

“ห๊ะ?..ขอรับ?”

เขาเห็นว่าคาร์ลตกใจกับสิ่งที่เขาพูดออกไป

แน่นอนว่าตอนนี้คาร์ลรู้สึกตกใจจริงๆ

‘15,000 ล้านคอนด์?’

“บิลอส”

“ขอรับนายน้อย?”

บิลอสยืดตัวตรงทันทีเมื่อเห็นสีหน้าจริงจังของคาร์ล

“ข้าไม่เข้าใจจริงๆว่าของพวกนี้สามารถประมูลเป็นเงินถึงหมื่นล้านได้อย่างไร?”

คาร์ลไม่เข้าใจคนที่ยอมทุ่มเงินเพื่อประมูลอัญมณีและงานศิลปะในราคาสูงๆได้เลยสักนิด

“แต่ข้าก็มั่นใจว่าของพวกนี้จะสามารถขายในราคาที่เจ้าว่าได้เพราะคุณค่าของมันย่อมคุ้มกับราคาอย่างแน่นอน”

มันคือ ‘คุณค่า’ อาจเป็นเพราะคุณค่าทางงานศิลปะ,มูลค่าของการลงทุนหรือสิ่งอื่นๆที่แตกต่างจากนี้แต่คาร์ลก็มีแผนที่จะใช้‘คุณค่า’เพื่อผลประโยชน์ของเขาเช่นกัน นั่นเป็นเหตุผลที่เขาตั้งราคาของมันไว้อย่างเหมาะสม ราคาสุดท้ายของมานะแห่งอัคคีค่อยๆเผยออกจากปากคาร์ล

“30,000”

“อะไรนะ?”

บิลอสอึ้งไปทันทีเมื่อได้ยินตัวเลขดังกล่าว

‘นี่ข้าได้ยินถูกแล้วใช่มั้ย?’

คาร์ลบอกว่าตัวเองไม่เข้าใจว่าสิ่งเหล่านี้ทำไมถึงขายได้ในราคาแพงๆแต่เขากลับตั้งราคาที่สูงกว่าราคาเดิมเกือบสองเท่า

ราคาดังกล่าวก็ไม่ตลกเช่นกัน

30,000 ล้านคอนด์! นั่นคือจำนวนเงินที่คาร์ลพูดถึงอย่างแน่นอน

สกุลเงินที่ใช้ในการประมูลคือสกุลเงินของอาณาจักรคาโร ในฐานะที่เป็นอาณาจักรที่มีความเติบโตทางการค้าทำให้วงเงิน 30,000 ล้านคอนด์มีมูลค่าถึง35,000ล้านแกลอนในสกุลเงินของอาณาจักรโรมัน

‘นายน้อยคาร์ลไม่ใช่คนชอบพูดเล่น!’

บิลอสเริ่มตาวาว

คาร์ลไม่ใช่คนที่ชอบพูดเรื่องไร้สาระแม้ว่าเขาจะเหมือนคนไม่สนใจกับสิ่งต่างๆมากนักแต่คาร์ลก็เป็นคนที่พิถีพิถันและรอบคอบในเรื่องเงินรวมถึงผลประโยชน์ที่เขาจะได้รับ

นั่นเป็นสาเหตุที่ทำให้จำนวนเงินที่เขาพูดออกมาดูเป็นสิ่งที่สมเหตุสมผลที่สุด

“นายน้อยขอรับ!”

“ว่าอย่างไร?”

“กระผมจะอยู่เคียงข้างนายน้อยเสมอ!”

บิลอสจ้องไปที่คาร์ลราวกับทาสผู้ซื่อสัตย์ คาร์ลพ่นลมออกจมูกอย่างหงุดหงิดและไม่สนใจกับคำเยินยอของบิลอส

บิลอสยิ่งอยากรู้หนักขึ้นเมื่อเห็นปฏิกิริยาตอบรับจากคาร์ล อย่างไรก็ตามเขาไม่สามารถเอ่ยถามคาร์ลได้ นายน้อยคาร์ลที่เขารู้จักจะแบ่งปันข้อมูลที่จำเป็นเท่านั้นและเขาจะช่วยให้คิดออกได้ด้วยตัวเองหากยังติดตามเขาไปเรื่อยๆ

‘แต่ข้าก็ยังสงสัยอยู่ดี ข้าควรถามเขาดีหรือไม่? แต่เขาก็ไม่ใช่คนที่จะยอมตอบอะไรง่ายๆ’

บิลอสคิดถูกแล้ว

คาร์ลไม่คิดที่จะอธิบายอะไรให้บิลอสทราบแม้ว่าเขาจะเอ่ยถามตนออกมาก็ตาม

ข้อมูลที่เขาได้รับจากรอนและฟรีเซียเกี่ยวกับสมาคมการค้าทาสนั้นค่อนข้างละเอียดอ่อน ชื่อของสมาคมการค้าที่เขาได้ยินหลังจากการสืบข้อมูลรอบแรกนั้นเป็นชื่อที่เขาไม่เคยได้ยินมาก่อนแต่พอถึงรายงานในรอบที่สองกลับทำให้เขาทราบถึงตัวตนที่แท้จริงของสมาคมการค้านั้น

นั่นคือเหตุผลที่รอนไม่ได้เดินทางมายังคาสิโนต้นไม้ทองคำในครั้งนี้ด้วยและเมื่อทราบถึงตัวตนที่แท้จริงของสมาคมการค้าทาสนั้นทำให้ทาช่าได้เข้าร่วมกลุ่มกับพวกเขาทันที

คาร์ลได้รับรายงานฉบับแรกในคืนที่พูดคุยกับองค์ชายรัชทายาท จากนั้นเขาก็แบ่งปันข้อมูลจากรายงานฉบับที่สองให้กับองค์ชายรัชทายาทเช่นกัน

ส่วนแบ่งที่ได้จากการค้าขายในครั้งนี้องค์ชายอัลเบิร์กก็มีส่วนเอี่ยวด้วยเช่นกัน แน่นอนว่าการที่เขามอบโซ่ที่พันธนาการตระกูลกิลล์ให้กับอัลเบิร์กทำให้คาร์ลขอเปลี่ยนส่วนแบ่งใหม่จากที่ได้ 50:50 เป็น 70:30 ตามความต้องการของเขา

เขายังจำสิ่งที่องค์ชายรัชทายาทเอ่ยกับเขาได้

‘…ผู้ที่อยู่เบื้องหลังการค้าทาสคือสมาคมการค้าซิงเท็นอย่างนั้นรึ?’

พวกเขาคือผู้บงการที่แท้จริงในการค้าทาสและยังเป็นสมาคมการค้าเดียวกันกับที่พวกเขาจะทำการขายมานะแห่งอัคคีให้

แน่นอนว่าเป็นเรื่องน่าสนใจที่สมาคมการค้าแห่งนี้มีส่วนเกี่ยวข้องกับการค้าทาสด้วย

‘สายข่าวของเจ้าน่าทึ่งยิ่งนัก’

ไม่มีคำจำกัดความอื่นนอกจากคำว่ามหัศจรรย์ คาร์ลมีทั้งรอน ฟรีเซียและสมาชิกคนอื่นๆในองค์กรนักฆ่าของเธอซึ่งเคยทำงานในภาคตะวันตกเฉียงใต้ สายข่าวของคาร์ลเคยเห็นสมาชิกของกลุ่มพ่อค้าทาสเดินเข้าไปในร้านค้าของสมาคมการค้าซิงเท็นซึ่งเป็นสาขาที่ตั้งอยู่ชายแดนจักรวรรดิและออกมาจากร้านพร้อมกับเงินก้อนโต นั่นทำให้พวกเขาเริ่มตามสืบโดยเริ่มจากสาขาแห่งนี้จนสามารถดักจับนกพิราบสื่อสารที่ผู้จัดการสาขาส่งจดหมายลับกลับไปยังจักรวรรดิและนั่นก็ทำให้พวกเขาทราบถึงตัวการใหญ่ในที่สุด

ขยะแห่งตระกูลเคานต์ Trash of the Count’s Family

ขยะแห่งตระกูลเคานต์ Trash of the Count’s Family

Status: Ongoing

เมื่อผมลืมตาตื่นก็พบว่าตัวเองอยู่ในนิยาย (กำเนิดวีรบุรุษ) (กำเนิดวีรบุรษ)เป็นนวนิยายที่เน้นเรื่องการผจญภัยของพระเอกและผองเพื่อน เชว ฮัน เป็นเด็กนักเรียนมัธยมปลายที่ถูกส่งไปยังมิติที่ต่างออกไปจากโลกพร้อมกับบททดสอบการเป็นวีรบุรุษหลากหลายรูปแบบ ภายในดินแดนตะวันตกและดินแดนตะวันออก ผมได้กลายเป็นส่วนหนึ่งของนิยายเรื่องนี้ไม่ได้เป็นพระเอกที่ชื่อ เชว ฮัน แต่เป็นเพียงตัวขยะไร้ค่าของครอบครัวท่านเคานต์ซึ่งเป็นครอบครัวขุนนางที่ดูแลพื้นที่ของหมู่บ้านแห่งแรกที่ เชว ฮัน ย่างกรายไปถึงเพื่อเริ่มต้นบททดสอบการเป็นวีรบุรุษ ปัญหาคือก่อนที่ เชว ฮัน จะมาเยือนนั้นหมู่บ้านที่เขาอาศัยอยู่ถูกคนจากองค์กรลับลอบสังหาร คนที่เขารักล้วนตายเกือบทั้งหมด ทำให้ เชวฮัน มีความโกรธแค้นและอาฆาต เขาพร้อมที่จะฆ่าคนที่เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ทั้งหมดให้ตายตกตามกันไป ปัญหาใหญ่กว่านั้นคือขยะโง่เง่าเช่น คาร์ล เฮนิตัส คนที่ผมครอบครองร่างอยู่ กลับไม่ได้รู้เรื่องรู้ราวถึงสิ่งที่เกิดขึ้น เขาเข้าไปหาเรื่อง เชว ฮัน ก่อนที่จะถูกพระเอกของเรื่องทำร้ายร่างกายในที่สุด “… นี่มันเป็นปัญหาแล้ว” ผมรู้สึกว่าเรื่องที่เกิดขึ้นมันไม่ได้ตลกเลยสักนิด มันเป็นเรื่องที่โคตรจะจริงจังเลย ผมไม่อยากโดนอัดจนเละ ! แต่มันก็น่าจะพยายามลองดูกับชีวิตใหม่ที่ได้เป็นนี้สักตั้งล่ะ

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท