ขยะแห่งตระกูลเคานต์ Trash of the Count’s Family – ตอนที่ 215.2

ตอนที่ 215.2

บทที่ 215 พลิกกลับ 1 (2)

“หลังจากรายงานเสร็จ..ข้าแค่คอยไปสังเกตการณ์บนกำแพงปรา”

เขาไม่สามารถพูดจนจบประโยคได้

เอียดดดดดดดดดดดด!!!!

เสียงแหลมบาดแก้วหูดังเข้ามาในหูของอัศวิน

“อึก!”

เขายกมือขึ้นมาปิดหูเพราะเสียงมันดังเกินกว่าจะรับไหว อย่างไรก็ตามเขาต้องผละมือออกจากใบหูอย่างรวดเร็ว

บูมมมมมม!!

พื้นเริ่มสั่นสะเทือน

“ห้ะ?”

เขารีบคว้าราวบันได้ไว้อย่างเร่งด่วน

เอียดดดดดดดดดดดดดดด!!!!!

บูมมมมมมมม! บั้งงงงงงงงงงงง!!!

มีเสียงดังก้องไปทั่วพื้นที่

“เกิดอะไรขึ้น?”

อัศวินใช้มือไต่ราวบันไดเพื่อพยุงตัวเองให้ลงจากบันได้โดยเร็วที่สุด เขามองเห็นทหารที่ทำหน้าที่ส่งสัญญาณเตือนอยู่ข้างล่าง

เครั้ง!

หอกในมือทหารหนุ่มร่วงลงสู่พื้น ใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยความหวาดกลัว

“หรือว่า?”

อัศวินหันศีรษะของตนไปมองรอบๆทันทีซึ่งเป็นจังหวะเดียวกับที่เสียงบางอย่างดังคับไปทั่วปราสาทลีโอน่า

ปั้บบบบบบบบบแป็บบบบบบบบบแป็บบบบบบบบบ!!

สงคราม

มันเป็นสัญญาณเตือนที่บ่งบอกถึงการเริ่มต้นของการต่อสู้

“น..นี่มัน”

ดวงตาของอัศวินเบิกกว้าง

เอี้ยดดดด!แอ๊ยดดดด!ครืดดดดแครีดดดด!!

มันเป็นเสียงล้อ

เอี้ยดดดด

แต่หลังจากนั้นเสียงก็หยุดลงราวกับล้อเริ่มเคลื่อนไหวเข้าที่แล้ว

บูมมมมม!! บูมมมมม!! บูมมมมม!

พื้นยังคงสั่นสะเทือนอย่างต่อเนื่อง ไม่สิ!? ต้องบอกว่าบริเวณชายฝั่งต่างหากที่สั่นสะเทือนไม่หยุด

“อ.อะไรกันเนี่ย?”

อัศวินอ้าปากค้าง

เรือกำลังแล่นเข้าหาพวกเขา

เรือเคลื่อนตัวออกจากชายฝั่งและกำลังมุ่งหน้ามายังปราสาท

มีล้ออยู่ใต้ท้องเรือ! ล้อกำลังทำหน้าในการเคลื่อนย้ายเรือเข้าสู่พื้นดิน แม้ว่าเรือขนาดใหญ่ของศัตรูจะยังไม่มีการเคลื่อนไหวใดๆแต่เรือขนาดเล็กและขนาดกลางกำลังแล่นผ่านพื้นดินขึ้นมา

“เป็นไปไม่ได้?”

นั้นคือสิ่งที่อัศวินคิดอยู่ในใจ แม้ว่ามันยากที่จะเป็นไปได้แต่ตอนนี้เขาได้เห็นมันด้วยสองตาของเขาเอง ก่อนที่ความคิดบางอย่างจะแล่นเข้ามาในหัวของเขา

“ชายฝั่งทางตอนเหนือเป็นเนินทรายทั้งหมด…!

ลักษณะภูมิประเทศของชายฝั่งทางตอนเหนือในอาณาจักรคาโรเป็นที่รู้จักกันดีว่าเป็นเนินทรายแทบทั้งหมด เช่นเดียวกับชายฝั่งตอนกลางที่เป็นเพียงชายฝั่งเดียวที่มีเนินทรายเพียงเล็กน้อย

เหตุผลที่พวกเขาเลือกชายฝั่งตอนกลางเป็นสนามรบไม่ใช่เพราะอยู่ใกล้เมืองหลวง!”

อัศวินไม่สามารถพูดอะไรออก

เรือขนาดเล็กและกลางที่ควรโลดแล่นในมหาสมุทรกำลังแล่นเข้าหาพวกเขาราวกับรถม้าขนาดใหญ่

ความเร็วของพวกมันช่างน่าทึ่งยิ่งนัก

เรือหลายร้อยลำกำลังแล่นเข้าหาพวกเขาพร้อมกับพระอาทิตย์ที่กำลังคล้อยต่ำลงเรื่อยๆ มันสร้างความกดดันให้กับพวกเขาเป็นอย่างมาก

จากนั้นพวกเขาก็สังเกตเห็นกลุ่มคนที่ปรากฏตัวอยู่บนเรือ

“เอ๊ะ?!!”

อัศวินไม่สามารถเก็บอาการของตนไว้ได้ เขาอุทานออกมาด้วยความตกใจ

ตึก!ตึก!ตึกโตึก!

เสียงกระทืบเท้าของหมีตัวใหญ่เริ่มก้องไปทั่วพื้นที่ เงาขนาดใหญ่ของพวกมันเริ่มปรากฏขึ้นบนเรือที่ละตัวๆ

“เผ่าหมี”

หมีอยู่ในสภาวะกลายร่าง

หมีที่อยู่ด้านบนสุดของเรือคือหมีสีน้ำตาลและหมีขั้วโลกซึ่งเป็นหมีที่มีพละกำลังมากที่สุด อัศวินคาดว่าเผ่าหมีจะต้องมีจำนวนมากกว่านี้

ดวงตาของอัศวินเริ่มสั่นคลอนหลังจากเห็นเรือขนาดกลางคืบคลานเข้ามาใกล้เรื่อยๆ

“ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า!!”

หมีตนหนึ่งในสภาพกลายร่างเริ่มหัวเราะลั่นและยังคงปักหลักอยู่ด้านบนของเรือเช่นเดิม มันเป็นหมีตัวใหญ่ขนาดประมาณสามเมตรพร้อมกับขนสีขาวตัดรับกับสีท้องฟ้ายามตะวันใกล้ตกดิน

หมีขั้วโลกกระโจนลงจากเรือพร้อมกับวิ่งเข้าใกล้ตัวปราสาทด้วยดวงตาแดงก่ำ หมีตัวอื่นๆก็เริ่มหัวเราะออกมาราวกับขานรับหมีขั้วโลกตัวเมื่อครู่ ฉากนี้ทำให้ทหารและอัศวินที่ไม่เคยมีประสบการณ์ในการทำศึกมาก่อนเริ่มหวาดกลัว

เอี้ยดดดดด! ปิ้งงงงงงงง!!

เสียงบันไดของเรือลำใหญ่กระแทกลงสู่พื้นดิน

ทหารของพันธมิตรไร้พ่ายกรูออกมาจากเรือขนาดใหญ่ราวกับมดแตกรัง จำนวนศัตรูที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆราวกับไม่มีที่สิ้นสุดทำให้อัศวินตัวแข็งค้าง

“แยกย้าย!”

เสียงตะโกนของหมีขั้วโลกสะท้อนไปทั่วชายฝั่งก่อนที่เรือบนบกจะแยกตัวออกเป็นสามกลุ่มอย่างรวดเร็ว

ปั๊บบบบบบบ!!! ปั้บบบบบบบ!!!

เสียงสัญญาณเตือนยังคงก้องไปทั่วปราสาทลีโอน่า อย่างไรก็ตามเสียงสัญญาณเตือนไม่ได้ลอดเข้าหูอัศวินแต่อย่างใด สิ่งที่เขาเห็นและได้ยินมีเพียงเผ่าหมี เรือและทหารของศัตรูที่อยู่ตรงหน้าของเขาเท่านั้น

“น..นี่มันอะไรกัน…!

ศัตรูได้เปรียบกว่าพวกเขา

อัศวินรู้สึกได้ว่าระดับของศัตรูและพวกเขาแตกต่างกันยิ่งนัก

ทันใดนั้นเอง

แปะ!

อัศวินสะดุ้งโหยงก่อนจะหันไปมองคนที่วางมือไว้บนไหล่ของตน

“ท่านผู้บัญชาการ!”

เจ้าของมือคือผู้บัญชาการคาร์ล เฮนิตัส

คาร์ลขยับมือออกจากไหล่ของอัศวินและก้มลงหยิบหอกขึ้นมาจากพื้น

“รักษามันไว้ดีๆ”

เมื่อพูดจบเขาก็ส่งหอกไปให้กับทหารหนุ่มที่ทำมันร่วงเมื่อก่อนหน้านี้ ทหารค่อยๆยื่นมือมารับหอกจากมือของคาร์ล

คาร์ลตบไปที่ไหล่ของทหารหนุ่มเบาๆ

“เมื่อศัตรูมาปรากฏอยู่ตรงหน้าเจ้าไม่ควรปล่อยให้อาวุธหลุดออกจากมือ”

น้ำเสียงเรียบๆของเขาเต็มไปด้วยสงบและมั่นใจ

ผู้บัญชาการคาร์ลเดินผ่านร่างทหารและอัศวินไปหยุดยืนใกล้กับขอบกำแพงปราสาท หากพูดให้ชัดขึ้นมันเป็นจุดที่อันตรายที่สุด อย่างไรก็ตามทหารยังคงมองเห็นรอยยิ้มอันผ่อนคลายของผู้บัญชาการ นั่นทำให้มือที่จับหอกเอาไว้ค่อยๆหยุดสั่นในที่สุด

เขาได้ยินเสียงของผู้บัญชาการเอ่ยขึ้น

“เชวฮัน”

“ขอรับท่านคาร์ล”

ทหารมองเห็นปรมาจารย์ดาบที่ดูเหมือนจะแก่กว่าเขาสัก1-2ปีไปหยุดยืนอยู่ข้างๆผู้บัญชาการคาร์ล

เชวฮันกำลังรอให้คาร์สพูดในขณะที่คาร์ลก็ก้มลงไปมองด้านล่าง

คาร์ลยังจำสิ่งที่อัศวินผู้พิทักษ์โคลเปย์บอกเอาไว้ได้

“เผ่าหมีน่าจะเป็นผู้นำกองทัพเรือมุ่งสู่อาณาจักรคาโร.พวกเขาต้องการที่ดินบริเวณนั้น”

“พวกเขาอาจซ่อนอาวุธลับเอาไว้เช่นกัน..เผ่าหมีและเผ่าคนแคระไฟทั้งเจ้าเล่ห์และมีความลับด้วยกันทั้งคู่

คาร์ลเอ่ยปากขึ้นหลังจากทวนสิ่งที่โคลเปย์บอกเอาไว้

“นั่นไง”

เรือเหล่านี้คืออาวุธลับ

แม้ว่าเผ่าคนแคระไฟจะไม่สามารถสร้างอุปกรณ์พลังเวทย์ขึ้นมาได้แต่อุปกรณ์เชิงกลคือสิ่งที่พวกเขาเชี่ยวชาญและถนัดมากที่สุด

มนุษย์! พลังของหินมนตราออกมาจากเรือพวกนั้น

“หากให้พูดถึงเฒ่าคนแคระไฟ.ต้องยอมรับว่าพวกเขาชอบทำงานอย่างลับๆทั้งยังฉลาดมากอีกด้วย”

เสียงของราอนและข้อมูลที่โคลเปย์ให้ไว้ดังก้องอยู่ในหัวของเขา

“พวกเขาไม่สามารถสร้างอุปกรณ์พลังเวทย์ได้ใช่หรือไม่? เรือพวกนี้ไม่ได้เคลื่อนย้ายด้วยพลังเวทย์สินะ?”

คาร์ลแสยะยิ้มออกมา

“ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า!!! มา! เข้ามา!”

คาร์ลได้ยินเสียงหัวเราะของหมีสีน้ำตาลที่กำลังมุ่งหน้ามายังหอคอยทิศใต้ เช่นเดียวกับหมีขั้วโลกตัวใหญ่ที่กำลังมุ่งหน้าไปยังหอคอยกลาง ทั้งเสียงคำราม เสียงฝีเท้าหนักๆ เสียงตะโกนและเสียงหัวเราะต่างเป็นสิ่งที่พวกมันตั้งใจทำโดยเฉพาะ

“ท่านผู้บัญชาการ! หอคอยกลางติดต่อมาหาเราเจ้าค่ะ!”

นักเวทย์รีบส่งอุปกรณ์เวทย์สื่อสารให้กับคาร์ลอย่างระมัดระวัง อย่างไรก็ตามคาร์ลกลับพูดขึ้นทันทีโดยไม่แม้แต่จะมองเธอสักนิด

“เราไม่สามารถแพ้ให้กับข้าศึกที่ตกเป็นรองเราเช่นนี้ได้”

“เจ้าคะ?”

ช่วงจังหวะที่เธอเอ่ยถามด้วยความตกใจ คาร์ลก็เอ่ยเรียกเชวฮันขึ้นมาทันที

“เชวฮัน”

“ขอรับท่านคาร์ล”

คาร์ลชี้ไปที่ด้านล่างของกำแพงปราสาท เขามองเห็นหมีสีน้ำตาลตัวใหญ่ที่ปักหลักอยู่บนเรือด้านหน้าสุดของขบวนซึ่งกำลังมุ่งหน้ามายังหอคอยทางใต้ คาร์ลชี้ไปที่เรือพวกนั้น

“ทำลายมันซะ”

ทันทีที่คาร์ลพูดจบ

ตึก!

เสียงฝีเท้าหนักๆก็ดังขึ้นทันที

“ โอ้!”

ทหารหนุ่มได้แต่อ้าปากค้างกับสิ่งที่ปรากฏอยู่ตรงหน้า

เชวฮันกำลังเหาะขึ้นสู่ท้องฟ้า

ปรมาจารย์ดาบผู้มีสีผมดำสนิทใช้เท้าแตะขอบกำแพงปราสาทเพื่อทะยานขึ้นสู่ท้องฟ้า ดาบของเขาปกคลุมด้วยออร่าสีดำและพุ่งสู่ท้องฟ้าไปอย่างรวดเร็ว

ขยะแห่งตระกูลเคานต์ Trash of the Count’s Family

ขยะแห่งตระกูลเคานต์ Trash of the Count’s Family

Status: Ongoing

เมื่อผมลืมตาตื่นก็พบว่าตัวเองอยู่ในนิยาย (กำเนิดวีรบุรุษ) (กำเนิดวีรบุรษ)เป็นนวนิยายที่เน้นเรื่องการผจญภัยของพระเอกและผองเพื่อน เชว ฮัน เป็นเด็กนักเรียนมัธยมปลายที่ถูกส่งไปยังมิติที่ต่างออกไปจากโลกพร้อมกับบททดสอบการเป็นวีรบุรุษหลากหลายรูปแบบ ภายในดินแดนตะวันตกและดินแดนตะวันออก ผมได้กลายเป็นส่วนหนึ่งของนิยายเรื่องนี้ไม่ได้เป็นพระเอกที่ชื่อ เชว ฮัน แต่เป็นเพียงตัวขยะไร้ค่าของครอบครัวท่านเคานต์ซึ่งเป็นครอบครัวขุนนางที่ดูแลพื้นที่ของหมู่บ้านแห่งแรกที่ เชว ฮัน ย่างกรายไปถึงเพื่อเริ่มต้นบททดสอบการเป็นวีรบุรุษ ปัญหาคือก่อนที่ เชว ฮัน จะมาเยือนนั้นหมู่บ้านที่เขาอาศัยอยู่ถูกคนจากองค์กรลับลอบสังหาร คนที่เขารักล้วนตายเกือบทั้งหมด ทำให้ เชวฮัน มีความโกรธแค้นและอาฆาต เขาพร้อมที่จะฆ่าคนที่เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ทั้งหมดให้ตายตกตามกันไป ปัญหาใหญ่กว่านั้นคือขยะโง่เง่าเช่น คาร์ล เฮนิตัส คนที่ผมครอบครองร่างอยู่ กลับไม่ได้รู้เรื่องรู้ราวถึงสิ่งที่เกิดขึ้น เขาเข้าไปหาเรื่อง เชว ฮัน ก่อนที่จะถูกพระเอกของเรื่องทำร้ายร่างกายในที่สุด “… นี่มันเป็นปัญหาแล้ว” ผมรู้สึกว่าเรื่องที่เกิดขึ้นมันไม่ได้ตลกเลยสักนิด มันเป็นเรื่องที่โคตรจะจริงจังเลย ผมไม่อยากโดนอัดจนเละ ! แต่มันก็น่าจะพยายามลองดูกับชีวิตใหม่ที่ได้เป็นนี้สักตั้งล่ะ

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท