บทที่ 219 พลิกกลับ 5 (2)
เชวฮันมั่นใจว่าวังน้ําวนของคาร์ลและราอนที่อยู่ใต้น้ําเป็นต้นเหตุของสถานการณ์นี้
วังน้ําวนป้องกันไม่ให้เรือเคลื่อนที่ต่อไป
ศัตรูถูกล้อมรอบไปด้วยโล่เงินที่อยู่ด้านหน้าและวังน้ําวนที่อยู่ด้านล่าง
ทําไมเชวฮันต้องนึกกลัวในเมื่อเขามีสหายที่เก่งกาจเช่นนี้
“ไปกันเถอะ”
พรึ่บ!! พรึ่บ!!
โครงกระดูกไวย์เวิร์นโฉบลงไปด้านล่างอีกครั้ง มันพร้อมจะเข้าโจมตีเรือขนาดใหญ่ลําหนึ่งโดยไม่มีแม้แต่ความลังเล อย่างไรก็ตามมันไม่สามารถจัดการได้ในทันที
“โล่! เปิดใช้โล่ป้องกันเร็วเข้า!”
เสียงตะโกนของศัตรูดังมาจากด้านล่าง
ออร่าสีดํานําทางไปยังดาดฟ้าเรือก่อนที่ไวย์เวิร์นจะเข้าปะทะกับเรือลํานี้ มันเป็นเรือที่ มีวงเวทย์ขนาดใหญ่ที่สุดและตอนนี้เชวฮันก็ได้เหาะมาอยู่ด้านบนเหนือเรือลํานี้แล้ว
“อ้อ! เชวฮันเจ้าบ้าโคลเปย์ได้บอกเอาไว้ว่าพันธมิตรไร้พ่ายก็มีกองกําลังนักเวทย์เช่นกัน ในเมื่ออาณาจักรพารันถือเป็นดินแดนแห่งอัศวิน..ดังนั้นกองกําลังนักเวทย์ที่โคลเปย์พูดถึงน่าจะเป็นกองกําลังของพวกอาร์มเอง”
เชวฮันได้พบเหยื่อของเขาแล้ว
‘เขายังบอกอีกว่า 1ใน 2 ของสมาชิกดาวสีแดงที่เหลืออยู่เป็นนักเวทย์..ระวังตัวเองให้ดีเป็นไปได้ว่าเขาอาจจะอยู่ที่นั่นด้วย..แต่โคลเปย์บอกว่าเจ้านั่นอ่อนแอกว่านักล่ามังกร.’
“เราไม่สามารถเชื่อทุกสิ่งที่คนบ้าบอกเราได้”
มันคือเรื่องจริง
พวกเขาไม่สามารถเชื่อใจโคลเปย์ได้ พวกเขาไม่สามารถเชื่อใจคนที่ครั้งหนึ่งเคยเป็นศัตรูของพวกเขามาก่อน
อย่างไรก็ตามเชวฮันเชื่อใจแมรี่และตัวเขาเอง
นั่นคือสาเหตุที่ออร่าสีดําพุ่งตรงไปที่เรือของกองกําลังนักเวทย์อย่างไม่นึกลังเลอีกครั้ง
“หลบ!”
“เปิดใช้โล่ป้องกัน! แจ้งให้ทหารทุกนายกลับเข้ามาด้านในโดยด่วน!”
“เปลี่ยนเวทย์โจมตีเป็นเวทย์ป้องกันเดี๋ยวนี้!”
เกิดความวุ่นวายบนดาดฟ้าเรือ
ทันใดนั้นเอง
พึ่บ!
เชวฮันมองเห็นนักเวทย์คนหนึ่งเงยหน้าขึ้น
สู้ดที่คลุมศีรษะของนักเวทย์ผู้นั้นหลุดออกจากศีรษะทําให้เชวฮันมองเห็นหน้าของเขาได้ถนัด
อืม..หน้าตาของหมอนี่ดูทึ่มไปหน่อย
แต่สัญชาตญาณของเชวฮันกําลังร้องเตือนบางอย่าง
มันเป็นจังหวะเดียวกับที่มือของนักเวทย์ร่างผอมเริ่มขยับ
“ต้องเป็นหมอนี้อย่างแน่นอน!”
สมาชิกของอาร์มผู้มีดาวสีแดงหนึ่งดวง
เชวฮันมั่นใจว่าต้องเป็นชายผู้นี้
ออร่าสีดําของเชวฮันเปลี่ยนทิศทางอย่างรวดเร็ว มันมุ่งหน้าไปยังร่างผอมของนักเวทย์ผู้นี้
ทันใดนั้นเอง
“แมรี่……”
โครงกระดูกไวย์เวิร์นหยุดชะงัก นอกจากนี้ยังมีคนกระชากร่างของเขากลับไปอีกด้วย
“เอ๊ะ?”
เชวฮันถูกกระชากร่างกลับไปอย่างรวดเร็ว ยังไม่ทันที่เขาจะรู้ว่ามันเกิดอะไรขึ้นโครงกระดูกไวย์เวิร์นที่เขาประจําอยู่ก็เหาะหนีไปทางอื่นทันที
“เจ้าโคลเปย์! ไอ้บ้าเอ้ย! ช่างไร้ประโยชน์เสียจริง!”
“อะไรนะ?”
เชวฮันหันหลังกลับไปมองจึงเห็นว่าคนที่กระชากร่างเขากลับคืนมาก็คือคาร์ลนั่นเอง มือของคาร์ลกําลังสั่นเล็กน้อย จากนั้นไวย์เวิร์นที่คาร์ลประจําอยู่ก็เหาะไปด้านหน้าอย่างรวดเร็วทําให้เชวฮันมองเห็นเพียงด้านหลังของคาร์ลเท่านั้น
“ท่านคาร์ล!”
“กะไว้แล้วเชียว! บ้าเอ้ย!”
ไวย์เวิร์นของคาร์ลกางปีกขนาดใหญ่ออกก่อนที่มันจะเริ่มเคลื่อนไหวอีกครั้ง มันมุ่งหน้ากลับไปที่โล่ป้องกัน
มันเป็นช่วงเวลาที่คาร์ลและเชวฮันออกจากบริเวณนี้ซึ่งเป็นบริเวณที่เชวฮันเพิ่งมาถึงได้ไม่นาน
เปรี้ยะ!!!
มันไม่ได้เป็นเสียงที่ดังมากนัก พวกมันถูกกลบด้วยเสียงหลายอย่างจนทําให้เกิดเสียงแค่พอได้ยินเท่านั้น อย่างไรก็ตามเชวฮันกลับรู้สึกว่าแผ่นหลังของตัวเองกําลังเย็นยะเยือก
มันเป็นสายฟ้าขนาดเล็ก มันเป็นสายฟ้าที่มีขนาดเล็กมากๆ แต่มันต้องมีอะไรที่มากกว่านี้ มันมีบางอย่างที่ทําให้เชวฮันรู้สึกเป็นกังวล
เชวฮันไม่มีโอกาสได้คิดเรื่องนี้ออกเมื่อได้ยินเสียงของราอนตะโกนออกมาดังลั่น
“มนุษย์! เจ้าเจ้านั่นไม่ใช่มนุษย์?”
เจ้านั่น!
เชวฮันก้มศีรษะมองไปด้านล่าง
“เจ้าบ้าโคลเปย์เอ้ย! อ่อนแองั้นรึ? นี่เจ้าคงรู้จักแค่เวทย์โจมตีเท่านั้นสินะ!”
เสียงสบถของคาร์ลดังเข้ามาในหูของเขา จากนั้นเขาก็มองเห็นชายผู้นั้น
มันคือนักเวทย์ที่หน้าตาดูที่มๆผู้นั้น ใบหน้าที่ผอมตอบของเขาทําให้เชวฮันมองเห็นหนังติดกระดูกที่กําลังขยับขึ้นมายกยิ้ม
เขาสามารถอ่านปากของนักเวทย์ผู้นั้นได้
‘น่าเสียดาย’
‘“น่าเสียดาย?..เสียดายอะไร?’
พรึ่บ!
นักเวทย์ร่างผอมสะบัดมือของตนอีกครั้ง มีโล่ขนาดใหญ่ปรากฏขึ้นบนเรือ จากนั้นสายฟ้าขนาดเล็กก็ฟาดลงบนโล่ป้องกันทันที
เปรี้ยงงงงงง
ทันทีที่เปิดใช้งานอย่างเต็มรูปแบบสายฟ้าขนาดเล็กก็ส่งเสียงดังยิ่งกว่าสายฟ้าของคาร์ลเสียอีก เมื่อสายฟ้านั้นกระทบเข้ากับโล่ป้องกันมันก็แตกตัวออกเป็นสายฟ้าขนาดเล็กอีกนับร้อย
การที่มันฟาดใส่โล่ป้องกันทําให้มหาสมุทรเริ่มปั่นป่วนขึ้นมาอีกครั้ง
“มนุษย์! เจ้านั่นตั้งใจทําแบบนี้! เจ้านักเวทย์นั่นต้องการแสดงให้พวกเราเห็น! เขาสามารถกําจัดพลังเวทย์ของเขาออกไปได้แต่เลือกที่จะสร้างโล่นั้นมาป้องกันพลังสายฟ้าของตนเอง!”
นักเวทย์ของอาร์มแสดงให้พวกเขาได้เห็นถึงวิธีการโจมตีและวิธีการป้องกันอย่างจงใจ
เชวฮันกระชับดาบของตนไว้แน่น เขาได้ยินเสียงของราอนพึมพําออกมาอีกครั้ง
“แต่เขาดูแข็งแกร่งเกินไปจริงๆมีบางอย่างแปลกๆเหมือนกับเขาไม่ใช่มนุษย์แบบเต็มตัว”
“เจ้านั่นไม่ใช่มนุษย์งั้นหรือ?”
“ข้าได้กลิ่นอันคุ้นเคยมาจากตัวเขา”
เชวฮันหันศีรษะไปมองคาร์ลและเห็นว่าคาร์ลกําลังเม้มปากของตนแน่นอย่างใช้ความคิด คาร์ลก้มศีรษะของตนลงและจ้องเขม็งไปที่นักเวทย์ผู้นั้น
เหล่าผีพายกําลังทํางานอย่างหนักเพื่อจะหันเรือไปยังทิศทางอื่นแต่มันก็ทําได้ค่อนข้างยากเพราะวังน้ําวนที่คาร์ลและราอนสร้างขึ้น
แน่นอนว่าคาร์ลไม่ได้สนใจสิ่งนี้เพราะความสนใจของเขาพุ่งไปที่นักเวทย์ร่างผอม
“เจ้าบ้านั่นกําลังพูดอะไร?”
เชวฮันเป็นคนตอบคําถามนี้
“เขาบอกว่าได้กลิ่นบางอย่างคล้ายกับราชา”
ราชา?
สิ่งเดียวที่คาร์ลคิดออกในตอนนี้คือ ราชามังกร”แม้ว่ามันจะไม่มีเหตุผลใดที่จะทําให้มีกลิ่นคล้ายกับราชามังกรอยู่ที่นี่แต่อย่างน้อยมันก็มีมังกรอยู่ที่นี่จริงๆ
คาร์ลหันไปถามราอน
“กลิ่นที่เจ้าบอกว่าคุ้นเคยใช่กลิ่นมังกรหรือไม่?”
เสียงตกใจของราอนตอบกลับมาทันที
“อ่า..ใช่แล้วเจ้ามนุษย์อ่อนแอ! เป็นอย่างที่เจ้าว่าจริงๆด้วย!”
“มันคือมังกรจริงๆใช่มั้ย?”
คาร์ลรู้สึกว่าหัวใจของเขาหล่นไปกองที่ตาตุ่ม
แม้ว่าอาร์มจะเป็นองค์กรที่แข็งแกร่งแต่สมาชิกในระดับดาวสีแดงซึ่งทํางานรับใช้ผู้เป็นเจ้าของดาวสีขาวคือมังกรจริงๆนะหรือ? มังกรที่หยิ่งโอหังแบบนั้นจะยินดีทํางานรับใช้ผู้อื่นจริงๆนะ?
“ทําไมกันนะ?.หมอนี่เสียสติไปแล้วเหรอ? ฉันควรติดต่อหาอูฮาเป็นตอนนี้ดีหรือเปล่า?”
จากนั้นเขาก็ได้ยินเสียงร่าเริงของราอนที่ดังขึ้นมาพร้อมกับเสียงกระพือปีกของมัน
“มันผสมกับกลิ่นของมนุษย์! หมอนี่เป็นลูกครึ่งมังกร!”
“ให้ตายเถอะ!”
“มันก็ถือเป็นเรื่องสมเหตุสมผลสําหรับผู้ที่จะมาเป็นศัตรูของเชวฮันอย่างน้อยในนิยายจะต้องมีคนที่แข็งแกร่งในระดับนี้อยู่บ้าง”
“ท่านคาร์ล..เวทย์โจมตีของนักเวทย์ที่ดูท่าทางโง่เง่าผู้นั้นดูเหมือนจะอ่อนแอกว่านักเวทย์วัยชรา..ข้ามั่นใจว่าอาณาจักรโรมันและพันธมิตรของอาณาจักรพารันจะเป็นฝ่ายกําชัยชนะมาได้..ท่านคาร์ล. จะไม่มีผู้ใดขวางทางของท่านได้”
“เจ้านั่งโคลเปย์เอ้ย! มันคงเป็นความผิดของฉันสินะที่เลือกเชื่อคนบ้าแบบนั้นไปได้”