ขยะแห่งตระกูลเคานต์ Trash of the Count’s Family – ตอนที่ 222.2

ตอนที่ 222.2

บทที่ 222 ไม่ต้องกังวล 3 (2)

 ข้าจะฆ่ามนุษย์ทุกคน! แม้ว่ามันจะเป็นสิ่งสุดท้ายในชีวิตข้า..ข้าก็จะฆ่าพวกมนุษย์ให้หมด! 

 ทั้งหมด

คํานั้นทําให้เชวฮันหน้าซีดลงและหันศีรษะของตนไปทิศทางหนึ่งทันที เขามองเห็นนักเวทย์จากอาณาจักรคาโรกําลังเหาะมาหาพวกเขา

ความมืดย่อมอ่อนแอต่อแสงสว่าง

เขากําลังคิดเกี่ยวกับพวกดาร์กเอลฟ์เช่นกัน

 หรือว่า? 

 ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า!! ตาย!!! 

ร่างของนักเวทย์ลูกครึ่งมังกรพุ่งทะยานไปยังชายฝั่งทันที

 ม..ไม่นะ! 

เชวฮันหันหลังกลับทันที แต่ก็มีบางอย่างที่ตัดผ่านร่างของเขาไปอย่างรวดเร็ว

 ไอ้บ้าเอ้ย! 

เส้นผมสีแดงพลิ้วไปตามความเร็วของเจ้าของร่าง ร่างของคาร์ลที่เหาะตัดผ่านไปโผล่ด้านหน้านั้นเรียกความสนใจจากเชวฮันได้ไม่น้อย

คาร์ลกําลังเหาะไปบนอากาศโดยอาศัยร่างของโครงกระดูกไวย์เวิร์นเช่นเดิม ส่วนราอนนั้นกําลังทําตัวเป็นแรงลม เพื่อผลักให้โครงกระดูกไวย์เวิร์นและคาร์ลเคลื่อนที่ได้เร็วขึ้น

บูมมมมม!!

เชวฮันหันหลังกลับไปมองเมื่อได้ยินเสียงบางอย่างดังขึ้น

โล่เงินขนาดใหญ่ที่แต่เดิมได้ขวางเส้นทางเดินเรือเอาไว้กําลังลอยขึ้นไปในอากาศ ปีกสีเงินได้ปรากฏขึ้นทั้งสองฝั่ง ขณะลอยตามผู้เป็นเจ้านายไปอย่างรวดเร็ว

มนุษย์อ่อนแอไม่ต้องกังวลไป! ข้ารับรองจะไม่มีผู้ใดได้รับบาดเจ็บ!

มันไม่ได้มีแค่โล่ป้องกันของคาร์ลเท่านั้น ยังมีโล่เงินของราอนที่ลอยตามร่างของเจ้านายไปเช่นกัน

อย่างไรก็ตามการเดินทางของแสงย่อมเป็นไปด้วยความรวดเร็ว ทั้งความเร็วและการทําลายล้างถือเป็นเอกลักษณ์ของพลังแห่งแสง ซึ่งเป็นพลังเฉพาะตัวของนักเวทย์ลูกครึ่งมังกร

นักเวทย์ลูกครึ่งมังกรเดินทางมาถึงชายฝั่งอย่างรวดเร็ว

เส้นทางเดินขนาดย่อมที่แมรี่สร้างขึ้นมานั้นถูกชําระล้างพลังเวทย์แห่งความตายออกไปแล้ว ตอนนี้มีกลุ่มดาร์กเอลฟ์ เผ่าหมี และนักเวทย์จากอาณาจักรคาโรพากันใช้เส้นทางเดินนี้อยู่และยังมีคนจํานวนมากที่อยู่บนกําแพงปราสาทเช่นกัน

 น..นั่น-! 

นักเวทย์ลูกครึ่งมังกรมองเห็นความกังวลบนใบหน้าของมนุษย์

 ช่างเป็นสิ่งมีชีวิตที่ไร้ประโยชน์เสียจริง! 

พวกเขาทั้งหมดเป็นสิ่งมีชีวิตที่เขาไม่คิดให้ความสนใจใดๆ แม้แต่คนของอาร์มก็ถือเป็นตัวถ่วงและเป็นสิ่งที่สร้างความรําคาญให้แก่เขาไม่น้อย

 องค์ชายพะยะค่ะ! 

องค์ชายรัชทายาทวาเลนติโน่ไม่สามารถพูดอะไรออกมาได้เมื่อผู้บัญชาการทหารเอ่ยเรียกเขา มือที่จับราวกําแพงปราสาทเอาไว้กําลังสั่นเทา

เมื่อครู่นี้เขาได้เห็นการระเบิดครั้งรุนแรงจากจุดที่เป็นน้ําลึกในมหาสมุทร การต่อสู้ในครั้งนี้มันเกินขีดความสามารถของมนุษย์มากนัก

พอมาถึงตอนนี้เขาก็ได้เห็นนักเวทย์ร่างผอมที่กําลังแสยะยิ้ม แม้จะมีรอยเลือดเปื้อนอยู่บนใบหน้าของเขาก็ตาม

และจากนั้นเขาก็มองเห็นสิ่งที่อยู่ทางด้านหลังของนักเวทย์ร่างผอม

 ข้าจะมอบความตายให้กับทุกคน!! 

ทันใดนั้นแสงจ้าก็แปรเปลี่ยนเป็นลูกธนูนับร้อยๆลูก

นักเวทย์ร่างผอมโบกมือของตนไปมาด้วยใบหน้าเปื้อนยิ้ม ช่วงจังหวะที่นักเวทย์หยุดมือลง ลูกธนูเหล่านั้นก็พุ่งมาหาเหล่ามนุษย์ที่อยู่ด้านล่างทันที

 โล่!..เปิดใช่โล่ป้องกันเร็วเข้า! 

 องค์ชาย..เสด็จไปที่ปลอดภัยก่อนเถิดพะยะค่ะ! 

วาเลนติโน่พูดไม่ออกเมื่อมองเห็นการโจมตีจากบนท้องฟ้า เขารู้สึกถึงแรงดึงของผู้บัญชาการทหารที่พยายามให้เขาไปหลบในที่ปลอดภัยก่อน แต่ตัวเขานั้นกลับไม่สามารถขยับตัวได้

 โอ้!..พระผู้เป็นเจ้า 

หัวหน้านักบวชส่งเสียงเรียกพระเจ้าของตนอย่างขวัญเสียในขณะที่เท้าก็เริ่มออกวิ่ง

อย่างไรก็ตามองค์ชายวาเลนติโน่เพียงกวาดสายตามองทหารที่อยู่บนกําแพงปราสาท ทั่วทุกพื้นที่บนกําแพงปราสาทเต็มไปด้วยความวุ่นวาย ความสิ้นหวังปรากฏอยู่บนดวงตาของพวกเขาทั้งหมดแม้แต่ตัวเขาเองก็เช่นกัน

แต่ถึงจะเป็นเช่นนั้นมันก็ยังพอมีความหวังหลงเหลืออยู่

ความหวังนั้นคือเหตุผล

 องค์ชายพะยะค่ะ! พระองค์ต้องเสด็จแล้ว! 

มันคือเหตุผลที่เขายังไม่ยอมขยับตัวไปไหน

และในที่สุดความหวังนั้นก็เด่นชัดในสายตาของเขา

เขามองเห็นปีกสีดําขนาดใหญ่ที่ใกล้เข้ามาเรื่อยๆ จากนั้นเขาก็มองเห็นร่างของชายผมแดงที่อยู่บนโครงกระดูกไวย์เวิร์น

 คิดไว้แล้วว่าต้องเป็นแบบนี้! 

นักเวทย์ลูกครึ่งมังกรเอ่ยพร้อมกับส่งยิ้มเย้ยหยัน เขามองเห็นคนที่สามารถไล่ตามเขาทันแม้ว่าเขาจะใช้คุณสมบัติของแสงในการเคลื่อนตัวมาถึงที่นี่ก็ตาม

คาร์ล เฮนิตัส

ทันใดนั้นเขาก็ปรากฏตัวขวางหน้าลูกธนูของเขาเอาไว้

 เจ้ากล้าเรียกตัวเองว่ามนุษย์ได้ยังไง?..ทั้งๆที่เจ้าเคลื่อนไหวได้เร็วขนาดนี้ 

 เจ้าบ้าเอ้ย! 

คนอื่นไม่สามารถได้ยินสิ่งที่พวกเขาสนทนากันได้

คาร์ลยื่นมือของตนออกมา เขารู้สึกถึงอุ้งมือเล็กๆคู่หนึ่งที่รองรับมือของเขาเอาไว้

 ลงมือกันเถอะ 

-ข้าเข้าใจแล้ว!

ทุกคนที่อยู่ด้านล่างต่างพากันเงยหน้ามองท้องฟ้า ตอนนี้พระอาทิตย์ลับขอบฟ้าเป็นที่เรียบร้อยแต่ความมืดก็ยังไม่ได้ปกคลุมโดยสมบูรณ์ หากให้พูดกันตามตรงตอนนี้ดวงตาของพวกเขาเริ่มแสบเพราะแสงที่สว่างจ้าเกินสมควร

แสงจ้านั้นดูเหมือนจะเป็นลางบอกเหตุให้พวกเขาตระหนักถึงวันสิ้นสุดของโลก โล่เงินที่ดูคล้ายกับทางช้างเผือกขยับลงมาบนพื้นดิน เพื่อปิดกั้นแสงสว่างนั้น

ปิ้ง!ง!ั้ง!ง!ั้ง!

ทุกคนต่างหมอบตัวลงบนพื้น ทั้งพื้นดินและท้องฟ้าต่างสั่นสะเทือนอย่างหนัก เป็นเพราะแสงจ้าทําให้พวกเขาไม่สามารถมองเห็นอะไรได้

 ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า!! ข้ารู้..ว่าเจ้าจะต้องปกป้องพวกมนุษย์! 

นักเวทย์ลูกครึ่งมังกรมองร่างของคาร์ลที่อยู่เหนือโล่เงิน เขาคิดว่ามันน่าตลกที่คาร์ลเลือกป้องกันลูกธนูของเขา พร้อมทั้งขมวดคิ้วมุ่นไปด้วย

เพราะมันเท่ากับเป็นการเปิดช่องทางให้เขาหลบหนีไปได้

ทําไมเขาต้องมาเสียเวลาฆ่ามนุษย์หน้าโง่คนนี้ด้วยล่ะ?

ทําไมเขาจะต้องทําให้มือตัวเองสกปรกเพราะคนโง่ๆแบบนี้ด้วย?

เขามองเห็นร่างของนักดาบและโครงกระดูกไวย์เวิร์นที่ไม่สามารถขยับเข้ามาใกล้เขาได้

 ใช่แล้ว..เจ้าไม่สามารถเข้ามาใกล้พลังแห่งแสงได้! โครงกระดูกไวย์เวิร์นจะถูกแผดเผาทันทีที่เข้ามาใกล้ และเจ้าก็จะได้รับบาดเจ็บสาหัสเช่นกัน

มันคือความแตกต่างของพลังแห่งความมืดที่มืดมิดโดยสมบูรณ์และไม่ได้มืดมิดโดยสมบูรณ์ของชายผู้นี้

เปาะเปาะ!เปาะ!

ทันทีที่นักเวทย์ลูกครึ่งมังกรดีดนิ้วครบสามครั้งก็ปรากฏวงเวทย์เคลื่อนย้ายมวลสารขึ้นทันที ในฐานะผู้ที่สร้างและรับผิดชอบเวทย์เคลื่อนย้ายมวลสารของอาร์มย่อมเป็นเรื่องง่ายสําหรับเขาอยู่แล้ว

 ลาก่อน..ขอให้พวกเจ้าโชคดี! 

เขายิ้มและมองไปที่คาร์ลอีกครั้ง จากนั้นเขาก็หยุดชะงักทันที

คาร์ลกําลังยิ้ม

ตอนนี้คาร์ลกําลังสนใจฟังสิ่งที่ราอนพูดเข้ามาในหัวของเขา

-มนุษย์! ข้ารู้แล้วว่าตัวเองไม่ได้เก่งและยิ่งใหญ่เลยสักนิด..ข้าตัดสินใจแล้วว่าข้าจะตั้งใจเรียนรู้ทุกอย่าง และนําสิ่งที่เรียนรู้มาปรับให้เข้ากับตัวเอง!

มังกรน้อยได้เรียนรู้บางสิ่งในขณะที่ทําการต่อสู้กับนักล่ามังกร หากเจ้าไม่เก่งก็จงตั้งใจเรียนรู้อย่างหนักเพื่อให้ชีวิตของเจ้าประสบกับความสําเร็จ

มังกรน้อยได้เรียนรู้จากเหตุการณ์เมื่อครั้งที่แล้ว และในครั้งนี้…

-ข้าได้เรียนรู้เกี่ยวกับแสงจ้านี้แล้ว!

แสงขนาดเล็กที่พุ่งลงมาจากท้องฟ้าอันมืดครึ้ม มันมีขนาดเล็กและเร็วมาก อย่างไรก็ตามภายในของมันนั้นกลับอันแน่นไปด้วยความรุนแรงและอันตราย

นักเวทย์ลูกครึ่งมังกรรู้สึกว่าพลังแห่งแสงที่เขาทุ่มฝึกฝนมานับ 900 ปีกําลังเล็งมาที่แผ่นหลังของเขาอยู่

เปรี้ยงงงงงง!!!

เกิดเสียงอึกทึกไปทั่วท้องฟ้า มีเพียงคาร์ล เชวฮันและราอนเท่านั้นที่มองเห็นสิ่งนี้ คนอื่นๆไม่สามารถมองเห็นอะไรได้เพราะแสงสว่างที่จ้าเกินไป จึงทําให้พวกเขาพร้อมใจกันปิดตาให้สนิท

อย่างไรก็ตามพวกเขาพากันลืมตาขึ้นมาช้าๆเมื่อได้ยินเสียงดังเปรี้ยง

การต่อสู้ยังเป็นไปอย่างต่อเนื่องงั้นรี?

 เขาเติมลูกธนูของเขาตลอดเวลาอย่างนั้นหรือ? ทําไมยังไม่หยุดสักทีล่ะ? 

แม้จะมีคนจํานวนมากที่หลับตาลงเพราะแสงที่จ้าเกินไป แต่ก็ยังมีคนส่วนน้อยที่ไม่ยอมหลับตาลงแม้จะเกิดสถานการณ์อะไรขึ้นก็ตาม วาเลนติโน่ก็เป็นอีกคนที่จับตามองสิ่งที่เกิดขึ้นอย่างไม่วางตา แม้ว่าร่างของเขาจะเปียกชุ่มไปด้วยเหงื่อก็ตาม

วาเลนติโน่ยึดขอบกําแพงปราสาทไว้แน่น ก่อนจะเงยไปมองท้องฟ้าที่เริ่มมืดครึ้ม

แสงจ้าเลือนหายไปและเขามองเห็นบางอย่างที่ดูคล้ายกับแสงตะเกียงขนาดเล็ก มันดูน่าเวทนาไม่น้อย เมื่อเทียบกับโล่ขนาดใหญ่และลูกธนูนับร้อยๆลูก

เจ้าของแสงตะเกียงนั้นหยัดกายเต็มความสูง

 …ผู้บัญชาการคาร์ล 

โครงกระดูกไวย์เวิร์นสีดําและชายผมแดง

คาร์ลรอจนกระทั่งแสงจ้าที่โอบรอบท้องฟ้าเลือนหายไป และรอจนสถานการณ์เป็น

ปกติ จึงได้เริ่มเคลื่อนไหวอีกครั้ง

เขาดึงแสงสีเงินกลับคืนมา

ติ้ง!ติ้ง!ติ้ง!

คาร์ลมองเห็นหยดเลือดที่หยดลงบนศีรษะของโครงกระดูกไวย์เวิร์น มันเป็นเลือดของนักเวทย์ลูกครึ่งมังกร

อย่างไรก็ตามคาร์ลไม่สามารถจับตัวเขาไว้ได้

 หากให้เดา..เจ้านี้ยังไม่ผ่านการเจริญเติบโตในระยะแรกสินะ..อ่า..น่าสนุกจริงๆ 

นักเวทย์ลูกครึ่งมังกรคว้าเอาแสงที่พาดผ่านร่างกายของตนเอาไว้และเริ่มหัวเราะออกมา จากนั้นเขาก็สร้างลูกธนูขึ้นมาอีกหนึ่งลูกแทนที่จะหนีไปตามแผนเดิมที่คิดเอาไว้

นั้นถือเป็นการตัดสินใจที่ฉลาดมากๆ ในตอนแรกนักเวทย์ลูกครึ่งมังกรเลือกที่จะเผชิญหน้ากับคาร์ล และป้องกันไม่ให้นักดาบผู้นั้นเข้ามาใกล้ตัวเขาได้ แต่ตอนนี้ลูกธนูกําลังพุ่งเข้าหาร่างของนักดาบและโครงกระดูกไวย์เวิร์นแล้ว

 เจ้าไม่สามารถทําสิ่งนี้ได้หากจิตใจของเจ้าอ่อนแอ

นักเวทย์ลูกครึ่งมังกรเรียกวงเวทย์เคลื่อนย้ายมวลสารออกมาอีกครั้ง ในขณะที่ราอนก็ไม่มีทางเลือกอื่น นอกจากต้องสร้างโล่ป้องกันล้อมรอบร่างของเชวฮันเอาไว้

การปะทะกันระหว่างราอนและนักเวทย์ลูกครึ่งมังกรจึงต้องหยุดชะงักไปครู่หนึ่ง

คาร์ลได้ยินเสียงของนักเวทย์ลูกครึ่งมังกรดังเข้ามาในหัวของเขา

 เจ้าเป็นเหมือนข้า..คนที่มีเลือดของมังกรอยู่ในตัวครึ่งหนึ่ง..ดังนั้นข้าจะปกป้องเด็กน้อยเช่นเจ้าเอาไว้ก่อน..และเจ้า! เจ้าคือคนที่ข้าจะสามารถลงมือฆ่าได้แต่เพียงผู้เดียว!

 หมอนี่พูดเรื่องไร้สาระอะไรอยู่

อย่างไรก็ตามคาร์ลไม่ได้สนใจกับเรื่องนี้มากนัก

-เจ้ามนุษย์! ข้าทิ้งเครื่องหมายไว้ในตัวเขาแล้ว! เราไปจับเขากันเถอะ!

ไม่สําคัญว่าหมอนั่นจะพูดเรื่องไร้สาระอะไรออกมาเพราะโอกาสที่พวกเขาจะจับตัวหมอนั่นได้มีอยู่สูงทีเดียว

 กระผมขอโทษด้วยขอรับ..ท่านคาร์ล

เชวฮันบังคับให้โครงกระดูกไวย์เวิร์นเหาะมาหาคาร์ลอย่างรวดเร็วพร้อมทั้งเอ่ยปากขอโทษคาร์ลไปด้วย

แปะ!แปะ!แปะ!

คาร์ลตบไปที่ไหล่ของเชีวฮันเบาๆแล้วตอบกลับ

 เราลงไปกันเถอะ 

คาร์ลมองลงไปด้านล่าง เขามองเห็นกลุ่มคนที่ยืนอยู่บริเวณนั้น ผู้คนที่รอดชีวิตจากลูกธนูของนักเวทย์ลูกครี่งมังกร ต่างกําลังจ้องมาที่คาร์ลอย่างพร้อมเพรียง

ตุบ!!

โครงกระดูกไวย์เวิร์นร่อนลงจอดที่พื้นด้านล่างก่อนที่คาร์ลจะก้าวเท้าลงจากหลังของมัน ฮิลส์แมนรีบวิ่งเข้ามาหาคาร์ลทันทีที่เท้าของคาร์ลแตะพื้น คาร์ลแกลั่งไอออกมาเบาๆหลังจากได้เห็นสายตาเศร้าๆของฮิลส์แมน

พันธมิตรของพวกเขารอดชีวิตในขณะที่ศัตรูหนึ่งคนหนีรอดไปได้

นี่ถือเป็นผลลัพธ์ที่ดี

พวกเขายังต้องการที่จะจับตัวคนที่หนีรอดไปได้เช่นกัน

นี่คือสิ่งที่คาร์ลคิดอยู่ในใจ ยังไม่ทันที่เขาจะได้อ้าปากพูดสิ่งใดออกไป ฮิลส์แมนก็พูดสวนขึ้นมาเสียก่อน

 นายน้อยขอรับ! ไม่สิ?! ท่านผู้บัญชาการ! โล่ไม่พังจริงๆด้วยขอรับ! 

น้ําเสียงของฮิลส์แมนเต็มไปด้วยความชื่นชม นั่นทําให้คาร์ลเริ่มขมวดคิ้วมุ่น

เขามองเห็นองค์ชายรัชทายาทวาเลนติโน่ด้านหลังของฮิลส์แมน สีหน้าของเขาก็ดูคล้ายกับฮิลส์แมนยิ่งนัก มันเป็นใบหน้าที่เต็มไปด้วยความชื่นชมจนคาร์ลอดขนลุกไม่ได้

 

ขยะแห่งตระกูลเคานต์ Trash of the Count’s Family

ขยะแห่งตระกูลเคานต์ Trash of the Count’s Family

Status: Ongoing

เมื่อผมลืมตาตื่นก็พบว่าตัวเองอยู่ในนิยาย (กำเนิดวีรบุรุษ) (กำเนิดวีรบุรษ)เป็นนวนิยายที่เน้นเรื่องการผจญภัยของพระเอกและผองเพื่อน เชว ฮัน เป็นเด็กนักเรียนมัธยมปลายที่ถูกส่งไปยังมิติที่ต่างออกไปจากโลกพร้อมกับบททดสอบการเป็นวีรบุรุษหลากหลายรูปแบบ ภายในดินแดนตะวันตกและดินแดนตะวันออก ผมได้กลายเป็นส่วนหนึ่งของนิยายเรื่องนี้ไม่ได้เป็นพระเอกที่ชื่อ เชว ฮัน แต่เป็นเพียงตัวขยะไร้ค่าของครอบครัวท่านเคานต์ซึ่งเป็นครอบครัวขุนนางที่ดูแลพื้นที่ของหมู่บ้านแห่งแรกที่ เชว ฮัน ย่างกรายไปถึงเพื่อเริ่มต้นบททดสอบการเป็นวีรบุรุษ ปัญหาคือก่อนที่ เชว ฮัน จะมาเยือนนั้นหมู่บ้านที่เขาอาศัยอยู่ถูกคนจากองค์กรลับลอบสังหาร คนที่เขารักล้วนตายเกือบทั้งหมด ทำให้ เชวฮัน มีความโกรธแค้นและอาฆาต เขาพร้อมที่จะฆ่าคนที่เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ทั้งหมดให้ตายตกตามกันไป ปัญหาใหญ่กว่านั้นคือขยะโง่เง่าเช่น คาร์ล เฮนิตัส คนที่ผมครอบครองร่างอยู่ กลับไม่ได้รู้เรื่องรู้ราวถึงสิ่งที่เกิดขึ้น เขาเข้าไปหาเรื่อง เชว ฮัน ก่อนที่จะถูกพระเอกของเรื่องทำร้ายร่างกายในที่สุด “… นี่มันเป็นปัญหาแล้ว” ผมรู้สึกว่าเรื่องที่เกิดขึ้นมันไม่ได้ตลกเลยสักนิด มันเป็นเรื่องที่โคตรจะจริงจังเลย ผมไม่อยากโดนอัดจนเละ ! แต่มันก็น่าจะพยายามลองดูกับชีวิตใหม่ที่ได้เป็นนี้สักตั้งล่ะ

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท