เดเมียน ซาร่าห์และไมโลต่างก็รับประทานอาหารมื้อใหญ่ภายในโรงแรมขณะที่พวกเขาเล่าเรื่องการแข่งขันมือใหม่ให้เธอฟังและมีช่วงเวลาที่ดี
เมื่อเวลาผ่านไปไมโลอุ่นเครื่องกับซาราห์และไม่กลัวเธออีกต่อไป
และด้วยวิธีการที่ซาร่าห์ดูแลและใส่ใจไมโลเหมือนกับเดเมียนที่เป็นลูกของเขา ดังนั้นไมโลจึงรู้สึกถึงความอบอุ่นและขอบคุณเธอสำหรับสิ่งหลายๆ อย่าง
หลังจากการฉลองเสร็จซาร่าห์ก็พาเดเมียนและไมโลไปดูบ้านใหม่ของเธอ เมื่อทั้ง 2 คนมาถึงก็ตกตะลึงด้วยความตกใจเมื่อเห็นความหรูหราและเต็มไปด้วยาสมุนไพรที่หายาก
ซาร่าห์ได้รับการยกย่องอย่างมากจากมูลนิธิยาและยังกลายเป็นศิษย์ของปรมาจารย์มูลนิธิอีกด้วย เพราะความสามารถของเธอในการฝึกฝนและการทำเม็ดยาเพียงแค่อายุ 28 ปี
มูลนิธิยาเรือนกระจกแห่งนี้ เป็นอำนาจที่เป็นกลางภายในประเทศซึ่งมีอำนาจในสิทธิของตนเอง ซาร่าห์จึงเข้าร่วมมูลนิธิแห่งนี้ได้โดยไม่มีปัญหาใดๆ
ในโลกแห่งการฝึกฝนการมีชีวิตอยู่ถึงร้อยปีเป็นเรื่องธรรมดาและคนที่มีพละกำลังสูงกว่าจะสามารถมีอายุเกินเกณฑ์นั้นได้ตามกำลังของพวกเขาดังนั้นการที่ซาร่าห์อายุ 28 ปี ในฐานะผู้ฝึกฝนจึงถือว่ายังเด็กอยู่
เธอผ่านอะไรมามากมายในชีวิตและแม้จะเกิดมาในฐานะร่ำรวย เพราะในครอบครัวของเธอก็ต่างอิจฉาในพลัง ความสวยงามของเธอ เธอจึงถูกรังแกและบังคับให้แต่งงาน
อย่างไรก็ตามหลังจากที่หลบหนีงานแต่งและกลับมาพร้อมกับลูกในอีกหนึ่งปีต่อมา เธอก็ถูกครอบครัวของเธอทำร้ายอย่างต่อเนื่องซึ่งมองว่าเธอเป็นเพียงเครื่องมือในการได้รับสถานะและความมั่งคั่งมากขึ้นจากราชวงศ์
เธอไม่เคยมีโอกาสใช้ศักยภาพและความสามารถอย่างเต็มที่ในการฝึกฝนและการทำยาจนถึงตอนนี้
ดูเหมือนว่าชีวิตกำลังเริ่มเปลี่ยนไปในทางที่ดีขึ้นสำหรับทั้งเดเมียนและซาร่าห์ที่ทั้งคู่เข้าใจกันอย่างสมบูรณ์
พวกเขากล่าวคำอำลาอย่างจริงใจเมื่อทั้งคู่แยกทางกันเป็นครั้งแรก นับตั้งแต่อยู่ด้วยกันและไม่รู้ว่าจะนานแค่ไหนก่อนที่จะมีเวลาและมีโอกาสได้เจอกัน
อย่างไรก็ตามทั้งคู่ไม่ได้เสียใจและมีความสุข ขณะที่ทั้งคู่แยกย้ายเพื่อไปทำให้ชีวิตตัวเองนั้นดีขึ้น
เดเมียนทิ้งเสื้อผ้าอื่นๆ ไว้ที่แม่ของเขา ขณะที่เขากลับไปที่สถาบันพร้อมกับไมโลโดยมีเพียงชุดนักเรียนและเสื้อคลุมของสถาบัน
[แม่สละชีวิตมา 10 ปีเพื่อเลี้ยงดูฉัน ตอนนี้ฉันจะคืนชีวิตให้เธอ ให้เธอได้มีอิสระและมีชีวิตอย่างที่เธอฝัน เธอจะได้ไม่ต้องมาคอยดูแลปกป้องฉัน และฉันจะมีชีวิตที่ดีขึ้นและแข็งแกร่งขึ้นให้ได้]
เดเมียนนึกในใจและเดินกลับสถาบันพร้อมไมโลที่แบกอาหารอย่างมากมาย เนื่องจากซาร่าืได้วื้อไว้ให้
“ไมโลเราควรพักผ่อนบ้างและเตรียมตัวให้พร้อมสำหรับวันพรุ่งนี้ที่เราจะเริ่มการศึกษาในสถาบัน”
เดเมียนให้คำแนะนำขณะที่พวกเขาเข้าใกล้สถาบันและเห็นว่ามันเริ่มมืดแล้ว
“นั้นสินะ”
ไมโลเห็นด้วยขณะที่พวกเขาเข้ามาในสถาบัน
พวกเขากลับไปที่บ้านของพวกเขาท่ามกลางแสงสลัวของพระอาทิตย์ที่กำลังตกดินเนื่องจากย่านที่อยู่อาศัยนั้นเงียบสงบ
เมื่อมุ่งหน้ากลับไปยังที่พักของพวกเขาซึ่งตั้งอยู่ใจกลางเมืองเดเมียนและไมโลเดินเข้าไปโดยไม่มีปัญหาใด ๆ และตรงเข้าไปในห้องของพวกเขาและหลับไปอย่างรวดเร็วหลังจากวันอันยาวนานที่ทั้งคู่มี
8 ชั่วโมงต่อมา
“เดเมียนตื่นแล้วเดเมียน”
มาทิลด้ากรีดร้องขณะที่เธอรีบวิ่งเข้าไปในห้องของเดเมียน
เดเมียนกระโดดขึ้นอย่างกะทันหันและกำหมัดแน่นเพื่อเตรียมป้องกันตัว แต่เมื่อเขาเห็นมาทิลด้าเขาก็สงบลง
“ มีปัญหาอะไร”
เดเมียนถามขณะหาวและเช็ดตา
“ออกไปข้างนอกเร็ว ๆ “
เธอกรีดร้องขณะที่ลากเขาออกจากเตียงและลงบันได
เดเมียนรู้สึกสับสนและยังคงเหนื่อยล้า เมื่อเห็นโคลและจูเลียยืนอยู่ที่สนามหญ้าหน้าบ้านที่แออัดไปด้วยเยาวชนที่ขวางทางออก
“ เกิดอะไรขึ้น”
เขาอุทานด้วยความตกใจ
“พวกเขาไม่สามารถเข้ามาในที่พักได้เพราะกฎของสถาบัน แต่พวกเขาทั้งหมดต้องการที่จะท้าทายเราเนื่องจากเราเลือกที่อยู่อาศัยที่สามารถท้าทายได้โดยไม่รู้ตัว”
จูเลียบอกเขา
เดเมียนที่ตกอยู่ในสถานการณ์เช่นนี้รู้สึกตื่นตัวและตื่นตัวจากอาการง่วงนอนขณะที่เขาก้าวไปข้างหน้าโคลที่ขอบที่พัก
“ ใครคนไหนที่จะท้าทายพวกเรา”
เขาถามอย่างเรียบง่าย
” ฉัน!! “
“ฉันด้วย !!”
” พวกเราก็เหมือนกัน!! “
ทุกคนเริ่มส่งเสียงเรียกร้องโดยเห็นเดเมียนและเพื่อน ๆ ของเขา เป็นเป้าหมาย
ในตอนแรกทุกคนต่างไม่อยากได้บ้านหลังนี้เนื่องจากคนที่อาศัยจะสามารถโดนผู้อื่นท้าทายได้ แต่เมื่อพวกคนอื่นๆ เห็นว่า เดเมียนและเพื่อนๆ ของเขาเข้ามาอยู่ คนเหล่านั้นจึกอยากเขามาต่อสู้
“หากต้องการต่อสู้ พวกคุณต้องมีอายุต่ำกว่า 12 ปี เนื่องจากพวกเรานั้นมีอายุกันเพียงแค่ 10 ปีเท่านั้นและต้องมาบอกล่วงหน้า 1 เดือนตามกฏ”
เดเมียนประกาศอย่างกล้าหาญเนื่องจากเจตจำนงของเขาที่จะปกป้องตัวเองเพื่อนของเขาและเขา
“และถ้าอยากจะต่อสู้มากนัก ก็ให้ไปเจอกันที่ลานไม่ลอง ไม่ใช่ที่พักแห่งนี้”
เดเมียนตะโกนออกไปด้วยความเกรี้ยวกราด
“ เดเมียน นายแน่ใจเหรอว่านั่นเป็นทางเลือกที่ถูกต้อง นายแค่ทำให้หลาย ๆ คนขุ่นเคือง”
จูเลียพูดออกมาขณะที่โคลและมาทิลด้าตกใจกับการกระทำของเขา
[ความขัดแย้งเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตและจะช่วยให้ฉันแข็งแกร่งขึ้น]
เดเมียนบอกตัวเองโดยไม่เต็มใจที่จะถอยกลับจากความท้าทาย
“ ฉันจะต้องไม่ถูกเหยีบย้ำ และฉันจะต้องเป็นผู้ที่แข็งแกร่ง”
เขากล่าวอย่างเรียบง่ายในขณะที่เขากลับเข้ามาในที่พัก
เดเมียนเดินเท้าเปล่าและแสกผมสีขาวเข้าไปในบ้าน
“ เรามีบทเรียนแรกในหนึ่งชั่วโมง พวกคุณควรเตรียมตัวให้พร้อม”
เดเมียนกล่าวขึ้น ขระที่เดินไปปลุกไมโลเพื่อเตรียมตัวสำหรับบทเรียนแรกในสถาบัน