บทที่ 44 ข่มขู่
เลื่อนตำแหน่งแล้วเหรอ?
ดวงตากู้ชิงหยิ่งแวววาว จากนั้นบ่นขึ้นมาเล็กน้อย
เฉินตงนี่นะเลื่อนตำแหน่งก็ไม่บอกสักคำ
พยักหน้า กู้ชิงหยิ่งเอ่ยว่า“ถ้าขอพบประธานเฉินค่ะ”
ตอนที่เธอดูข้อมูลของไท่ติ่ง รู้ว่าไท่ติ่งเป็นเพียงหนึ่งในบริษัทเล็กๆของเจ้านายผู้อยู่เบื้องหลังเท่านั้น
เฉินตงเลื่อนตำแหน่งมาเป็นประธานไท่ติ่ง แต่ก็ยังคงต้องเชื่อคำสั่งจากเจ้านายผู้อยู่เบื้องหลังอยู่ดี ฉะนั้นเธอต้องช่วยเฉินตงอธิบาย
“ขออภัยค่ะคุณผู้หญิง ประธานเฉินของพวกเราไม่อยู่ในบริษัทค่ะ”พนักงานเคาน์เตอร์เอ่ยด้วยความขอโทษ
หัวใจกู้ชิงหยิ่งเต้นตึกรัก หรือว่าจะถูกเจ้านายผู้อยู่เบื้องหลังเรียกตัวไปพบ?
โครงการแปลงโฉมย่านสลัมที่ภาคตะวันตกของเมืองถือเป็นการออกไข่ทองเชียวนะ ตอนนี้ไท่ติ่งถูกบริษัทค้าขายวัสดุก่อสร้างต่อต้านเช่นนี้ เฉินตงผู้เป็นประธานของบริษัทจึงยากที่จะบอกปัดความรับผิดชอบได้
นึกมาถึงตรงนี้ ใบหน้ากู้ชิงหยิ่งก็ซีดขาวขึ้นมาทันควัน
เธออยากจะช่วยเฉินตง แต่คาดไม่ถึงว่าเพิ่งกลับเข้าประเทศมา ผลงานเรื่องแรกจะเป็นเช่นนี้
หากไม่ใช่เป็นเพราะจางเห้อหมิงแอบตัดสินแทนลับหลังเช่นนี้ เรื่องนี้ก็คงไม่ย่ำแย่ถึงเพียงนี้!
ติ๊ง!
ลิฟต์ด้านหลังดังขึ้น
เฉินตงเดินเข้ามาเห็นว่ากู้ชิงหยิ่งอยู่ที่นี่ จึงรู้สึกประหลาดใจ“เสี่ยวหยิ่ง ทำไมถึงมาที่บริษัทล่ะ?”
เวลาเดียวกันเขามองพนักงานเคาน์เตอร์ด้วยความเบื่อหน่าย ตอนนี้กู้ชิงหยิ่งน่าจะรู้ว่าเขาเป็นเจ้าของไท่ติ่งแล้วสินะ
เดิมทียังคิดว่าให้ผ่านไปสักพักหนึ่งก่อน แล้วจะเซอร์ไพรส์ให้เธอ ตอนนี้เห็นทีปิดเธอไม่ได้อีกแล้ว
กู้ชิงหยิ่งเงยหน้ามองเฉินตง รีบเข้าไปต้อนรับ พลางพูดด้วยความเป็นห่วงว่า“ฉัน ฉันกำลังจะมาอธิบายกับคุณ บริษัทพวกคุณถูกผู้ค้าวัสดุก่อสร้างต่อต้านแล้วใช่ไหม?”
“คุณรู้ได้ยังไง?”เฉินตงรู้สึกประหลาดใจ
“ฉันรู้อยู่แล้ว!”
นัยน์ตาคู่งามของกู้ชิงหยิ่งเปล่งประกายระยิบระยับ ดึงเฉินตงมาด้านข้างอย่างกังวลใจ พูดเสียงเบาว่า “คุณถูกเจ้านายเรียกตัวไปด่ามาใช่ไหม?”
เจ้านาย?
เฉินตงมองกู้ชิงหยิ่งอย่างประหลาดใจ เธอยังไม่รู้เหรอ?
เห็นเฉินตงหยุดชะงัก กู้ชิงหยิ่งร้อนใจเป็นที่สุด“คุณเลื่อนตำแหน่งจากรองประธานเป็นประธาน คือผู้ดูแลไท่ติ่ง เกิดเรื่องใหญ่กับโครงการก่อสร้างย่านสลัมที่ภาคตะวันตกของเมืองเช่นนี้ เจ้านายไท่ติ่งคงต้องโมโหใส่คุณใช่ไหม”
ฮ่าๆๆ!
ทันใดนั้นเฉินตงก็หัวเราะออกมา
การตอบสนองของกู้ชิงหยิ่ง เห็นได้ชัดว่าไม่รู้ว่าไท่ติ่งเป็นของใครเลย
ที่แท้เข้าใจผิดแล้ว
เมื่อครุ่นคิดจนละเอียด เฉินตงก็เข้าใจได้แล้ว
กู้ชิงหยิ่งรู้ชาติกำเนิดและฐานะของตนดี หากไม่เกิดปาฏิหาริย์ขึ้นมา เขาก็ไม่อาจเป็นเจ้าของไท่ติ่งได้เลย
ส่วนความคิดของกู้ชิงหยิ่งคือ การคาดเดาปกติเมื่อรู้สถานะของเขาก่อนหน้านี้
“คุณยังมีอารมณ์หัวเราะอีก?”กู้ชิงหยิ่งทำตาขาวใส่เฉินตง
“ไม่เป็นไร คลายปัญหาได้แล้ว”เฉินตงโบกมือ
ในเมื่อกู้ชิงหยิ่งยังไม่รู้ความจริง เขาจึงคิดจะปกปิดต่อไป รอให้ย้ายเข้าวิลล่าเขาเทียนซานก่อน แล้วค่อยบอกกู้ชิงหยิ่ง เพื่อเซอร์ไพรส์ให้เธอจะดีกว่า
“อะไรนะ?แก้ไขได้แล้ว?”
ใบหน้ากู้ชิงหยิ่งเผยความตกตะลึงขึ้นมา บริษัทค้าขายวัสดุก่อสร้างต่างร่วมมือกับทั้งเมือง เพื่อต่อต้านไท่ติ่ง เป็นไปได้ยังไงที่เฉินตงสามารถคลี่คลายปัญหาในเวลาอันสั้นนี้?
ถึงแม้ไปหาวัสดุมาจากที่อื่นก็ไม่ใช่จะจัดการได้ในเวลาครึ่งวันอย่างนี้นี่นา
หรือ……เขากลัวฉันจะเป็นห่วง จึงปลอบใจฉัน?
ทันใดนั้นกู้ชิงหยิ่งเข้าใจเสียที ใบหน้าของเธอมองเฉินตงอย่างจริงจัง พูดอย่างตั้งใจกับเขาว่า “เฉินตง ฉันไม่อนุญาตให้คุณปิดบังฉันนะ คุณวางใจได้ ฉันจะหาวิธีช่วยเหลือคุณแน่นอน”
เฉินตงขำกับท่าทีตั้งอกตั้งใจของกู้ชิงหยิ่ง ยักไหล่ พลางเอ่ยว่า“จัดการได้แล้วจริงๆ ผมมีเบื้องบนคอยช่วยเหลือ”
ท่ามกลางความแปลกใจของกู้ชิงหยิ่ง เฉินตงพูดเสียงเบาว่า“คุณรู้จักโจวเย่นชิวไหม?”
กู้ชิงหยิ่งขมวดคิ้วมีอารมณ์ตกตะลึงปนสงสัยสลับกันไป
ไปต่างประเทศมาสามปี ทำให้เธอไม่รู้เรื่องของบ้านเมืองเลย และตอนที่ไปต่างประเทศก็เพิ่งเรียนจบปริญญาตรี ยังไม่มีประสบการณ์อะไร ดังนั้นเธอไม่รู้จักคนที่ชื่อโจวเย่นชิวเลย
“เฉินตง ไม่ว่าจะมีปัญหาอะไร คุณต้องบอกฉันนะ เรื่องนี้ฉันเป็นคนผิดต่อคน”
กู้ชิงหยิ่งทิ้งประโยคพิสดารไว้หนึ่งประโยค จากนั้นก็ก้มหน้าจากไป
ในเมื่อเฉินตงแก้ไขปัญหาได้แล้ว ถ้าเช่นนั้นเธอก็ควรกลับเข้าบริษัทหาวิธีจัดการจางเห้อหมิงจะดีกว่า
มองแผ่นหลังของกู้ชิงหยิ่ง เฉินตงก็นวดจมูกขึ้นมา“ทำไมยัยนี้ถือผิดต่อผมกันนะ?”
ส่ายหัว เฉินตงหันหลังเดินเข้าบริษัท
เห็นบรรดาพนักงานส่งแววตาตั้งความหวังมา เฉินตงยิ้มหวาน“แก้ไขได้แล้ว”
เย้!
ดีใจกันยกใหญ่
พนักงานทุกคนต่างรู้สึกร่าเริงกระปรี้กระเปร่าขึ้นมา
“พี่ตงเก่งมาก ฉันรู้ว่าพี่ตงแก้ไขปัญหาได้อยู่แล้ว”
“ติดตามพี่ตงแล้วรู้สึกปลอดภัยมาก ตอนนี้ไม่รู้สึกกระวนกระวายใจแล้ว”
“ไปทำงานกันเถอะ ทุกคนเริ่มทำงานกัน เร็วๆๆ พี่ตงเก่งอย่างนี้พวกเราจะอู้งานไม่ได้นะ”
……
เห็นห้องทำงานคึกคัก เฉินตงก็หัวเราะขึ้นมา เข้าไปห้องทำงานส่วนตัวแล้วเริ่มยุ่งงานต่อ
พอร์เชอ911เปล่งเสียงดั่งสัตว์ร้ายขับเข้ามายังลานจอดรถของบริษัทวัสดุก่อสร้างยิงลี่
กู้ชิงหยิ่งกลับเข้าห้องทำงาน ไม่ได้รีบร้อนจัดการจางเห้อหมิงทันที
เรื่องนี้ทำให้เธอลำบากใจมาก
คุณพ่อเลือกจางเห้อหมิงให้มาเป็นประธานบริษัทวัสดุยิงลี่กับมือ ถึงแม้เธอมาบริหาร แต่จางเห้อหมิงก็มีบารมีมากในบริษัทอยู่ดี
เธอไม่ได้บอกสาเหตุที่กลับมาประเทศให้คุณพ่อคุณแม่ทราบ หากบีบคั้นจางเห้อหมิงมากเกินไป เรื่องก็จะแดงไปถึงทางคุณพ่อคุณแม่ ถ้าเช่นนั้นเธอก็ไม่อาจควบคุมสถานการณ์ได้อีกต่อไป
เธอไม่มั่นใจว่าตอนนี้เฉินตงจะเป็นที่ชื่นชอบคุณพ่อคุณแม่หรือเปล่า ถึงแม้ในใจของเธอเฉินตงนั้นดีเลิศมากแล้ว แต่เธอไม่อาจคาดเดาความคิดของคุณพ่อคุณแม่ได้เลย
ดังนั้นเธอจึงแอบกลับมาโดยอยากใช้ความสามารถของตน เพื่อให้เฉินตงยอดเยี่ยมยิ่งขึ้น ยอดเยี่ยมถึงขั้นทำให้คุณพ่อคุณแม่ยอมรับในตัวเขาได้
เป็นเพราะเหตุนี้ ทำให้เธอระแวงหน้าระแวงหลังไปหมด เข้าทำนองที่ว่า หยิกเนื้อก็กลัวเจ็บเล็ก ปวดหัวกับการหาวิธีจัดการจางเห้อหมิงเหลือเกิน
ลังเลได้สักพัก กู้ชิงหยิ่งเก็บความคิดนี้ลงไปชั่วครู่ จากนั้นก็เปิดคอมพิวเตอร์พิมพ์ชื่อโจวเย่นชิวค้นหาข้อมูล
หากเป็นผู้มีอิทธิพลในเมืองนี้จริงๆก็น่าจะค้นเจอข้อมูลทางอินเทอร์เน็ตได้
หลังจากกู้ชิงหยิ่งเห็นข้อมูลของโจวเย่นชิวทางอินเทอร์เน็ตก็ต้องตกตะลึงตาค้าง
โจวเย่นชิวคือเจ้าของกิจการไท่ติ่งเหรอ?
เมื่อดูข้อมูลของโจวเย่นชิวอย่างละเอียดแล้ว เธอจึงกระจ่างขึ้นมา “มิน่าล่ะไอ้คนบ้างานยังมีสีหน้าเรียบเฉย ที่เจ้าของกิจการแซ่โจวผู้นี้มีอำนาจในเมืองนี้มาก หากคิดจะฟื้นฟูไท่ติ่งแค่เพียงเอ่ยปากสักหนึ่งประโยคก็ได้แล้ว?”
ปิดคอมพิวเตอร์เสร็จ ความกังวลใจของกู้ชิงหยิ่งก็มลายหายไป
เธอกรอกนัยน์ตา จู่ๆก็ยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์ เปิดเว็บไซต์ของบริษัทวัสดุก่อสร้างยิงลี่ขึ้นมา
……
หลังเลิกงานตอนกลางคืน เฉินตงไปเยี่ยมเยียนคุณแม่ที่โรงพยาบาล
เมื่อเขาเดินออกมาที่ประตูโรงพยาบาลลี่จิงก็มีเงาร่างหนึ่งขวางทางเขาไว้
“ที่แท้ แม่ของคุณก็พักอยู่ในโรงพยาบาลแห่งนี้นี่เอง?”
เสียงหัวเราะเย็นเชิงตลกดุจเข็มทิ่มหู
สีหน้าเฉินตงเย็นยะเยือกกะทันหัน อารมณ์ขุ่นเคือง
“เฉินเทียนหย่าง หมายความว่ายังไง?”
มองรอยยิ้มชั่วร้ายของเฉินเทียนหย่าง เฉินตงรู้สึกจุกอยู่บริเวณลำคอ เวลาเดียวกันก็รู้สึกกระวนกระวายใจ
ตอนเจอหน้าเฉินเทียนหย่างครั้งก่อน หากคุนหลุนไม่มา คาดว่าเฉินเทียนหย่างคงคิดจะฆ่าฟันเป็นแน่
สำหรับความคิดอย่างเฉินเทียนหย่าง ชีวิตคนก็ไม่ต่างไปจากมดเลย
“คิกคิก……”
เฉินเทียนหย่างหัวเราะเสียงเย็น“แม่นายไม่ใช่ควรจะตายแล้วเหรอ?”
ประโยคเดียวราวกับคมมีดเสียบอยู่กลางหัวใจของเฉินตงแรงๆ
คุณแม่เป็นทุกสิ่งทุกอย่างของเขา ส่วนเขาได้ฟังคำพูดของเฉินเทียนหย่างก็รู้สึกได้ถึงกลิ่นอายความข่มขู่ที่แฝงอยู่
วินาทีต่อมา
เฉินตงเดินเข้าไปคว้าคอเสื้อของเฉินเทียนหย่างไว้“มึงกล้าลงมือกับแม่กู แม่ง กูจะสู้กับมึงสุดชีวิตเลย!”
ปัง!
เฉินเทียนหย่างปัดมือของเฉินตงออก ยิ้มอย่างดูแคลน“นายมีคุณสมบัติมาสู้กับกูด้วยเหรอ?แม่ง สะสางเรื่องวัสดุก่อสร้างของไท่ติ่งให้ได้ก่อนเถอะ”
“ไอ้ลูกสวะอย่างมึง กูออกเงินนิดหน่อยก็ทำให้มึงไม่ได้ไปผุดไปเกิดชั่วนิรันดร์แล้ว”