บทที่ 55 ความโกรธแค้นของตระกูลหวาง
บทที่ 55 ความโกรธแค้นของตระกูลหวาง
ช่วงเวลาเย็นในวันเดียวกัน
โทรทัศน์ท้องถิ่นได้แถลงข่าวออกมาหนึ่งข่าว
“อสังหาริมทรัพย์ไท่ติ่งจะทำการเปิดจองอาคารชุดภาคตะวันตกของเมืองในวันที่15 ของเดือนนี้ค่ะ”
ข่าวนี้เหมือนเป็นระเบิดลูกใหญ่ที่ระเบิดไปทั่วเมืองอีกครั้ง
ทั้งเมืองสั่นสะเทือน จิตใจประชาชนสั่นไหว
ข่าวที่ยี่เคอประกาศว่าจะมาตั้งอยู่ที่นี่ด้วยในตอนนั้น ก็ทำให้ราคาบ้านของย่านสลัมที่ภาคตะวันตกของเมืองสูงขึ้นตามไปด้วย
มีคนไม่น้อยเลยที่รู้สึกเสียดายที่ไม่ได้รีบซื้อบ้านในย่านเมืองเก่า
และในครั้งนี้ อสังหาริมทรัพย์ที่ปรับปรุงใหม่แล้วเปิดขายในตลาด ทำให้เหล่าคนที่เสียดายมาก่อนหน้าใจเต้นขึ้นมาอีกครั้ง
แค่ซื้ออสังหาริมทรัพย์ภาคตะวันตกของเมือง หลังจากที่ยี่เคอปักหลักเข้ามาแล้ว ราคาบ้านของภาคตะวันตกของเมืองต้องสูงขึ้นแน่นอน
เพราะว่าช่วงหลายปีมานี้ สถานที่ที่ยี่เคอเคยตั้งหลักมา ราคาบ้านก็ล้วนสูงขึ้นตามไปด้วย!
กระแสร้อนแรงเกี่ยวกับการซื้อบ้านเกิดขึ้นกับชาวเมืองของเมืองนี้อย่างเงียบๆอย่างไม่รู้ตัว
เฉินตงนั่งพิงอยู่ที่โซฟา ดูข่าวที่ฉายอยู่ในทีวีตอนนี้
เขายิ้มออกมาอย่างมั่นใจ
กระแสร้อนแรงนี้เป็นนานถึงหนึ่งเดือนกว่า ที่เหลือ ก็แค่รอปะทุในวันที่15 ทีเดียว
ในตอนนี้เอง โทรศัพท์ก็ดังขึ้น
มองดูสายเรียกเข้า เฉินตงก็เผยรอยยิ้มอ่อนโยนออกมา
“ฮัลโหล เสี่ยวหยิ่ง”
“ดีใจด้วยนะประธานเฉิน วันนี้15 ก็จะเปิดจองบ้านของภาคตะวันตกของเมืองแล้ว ฉันเห็นจากข่าวหมดแล้วล่ะ”
เฉินตงยิ้ม “เสี่ยวหยิ่ง วันนั้นเธอลางานได้หรือเปล่า?”
เขารู้ว่าหลังจากที่กู้ชิงหยิ่งกลับประเทศแล้วก็เริ่มทำงานแล้ว แต่นี่ก็เพิ่งไปไม่กี่วัน แถมช่วงนี้ยังเกิดเรื่องมากมายอีกด้วย เลยทำให้เขาตอนนี้ก็ยังไม่รู้ว่ากู้ชิงหยิ่งทำงานที่ไหน
“แน่นอนสิ! บริษัทแฟนฉันเปิดจองดีมากขนาดนี้ จะต้องได้เงินโบนัสจากเถ้าแก่เยอะมากแน่ๆ ต้องให้นายเลี้ยงข้าวให้ได้!”
ในสาย กู้ชิงหยิ่งน้ำเสียงดีใจมาก “จริงสิ เมื่อตอนบ่ายที่นายบอกว่าจะเซอร์ไพรส์ฉันในวันที่15 อย่าบอกนะว่าหมายถึงเงินโบนัสน่ะ?”
ยัยนี้นี่ ถึงตอนนี้แล้วก็ยังไม่รู้เหรอเนี่ย?
แต่ก็ดี แบบนี้การเซอร์ไพรส์ของวันที่15 ถึงจะได้ยิ่งตื่นตะลึง ยิ่งตื่นเต้น!
เฉินตงหัวเราะออกมาอย่างมีพิรุธ “ประมาณนั้นน่ะ”
“คิคิ……ฉันจะไป Genting Sky ในวันนั้นฉันก็มีเซอร์ไพรส์ให้นายด้วยนะ” กู้ชิงหยิ่งหัวเราะพูดออกว่าอย่างมีเลศนัย
เซอร์ไพรส์?
เฉินตงตะลึงงันวูบหนึ่ง
ส่วน Genting Sky เขาไม่แคร์เลยแม้แต่น้อย
มันคือร้านอาหารไพรเวทไฮโซ ตั้งอยู่บนชั้นสูงสุดของตึกที่สูงที่สุดในเมืองนี้ สามารถก้มลงมองเห็นทั่วเมืองได้ ถ้าโชคดีได้เจอหมอก ก็จะรู้สึกเหมือนตัวกำลังอยู่บนทะเลหมอก
ภัตตาคาร Genting ได้ชื่อเสียงมาจากเหตุนี้นี่เอง
กล่าวกันว่า ค่าใช้จ่ายต่ำสุดก็เป็นหลักแสนขึ้นแล้ว
นี่จึงเป็นเหตุทำให้เมืองนี้มีแค่คนส่วนน้อยที่สามารถไปใช้บริการภัตตาคาร Genting ได้
ต่อให้เป็นเฉินตงในแต่ก่อนที่เป็นรองประธานได้เงินหลักล้านต่อปี ก็ไม่กล้าฟุ่มเฟือยขนาดนี้
แต่ว่าตอนนี้เขาไม่ต้องแคร์แล้ว
“ได้สิ” เฉินตงยิ้มพูด
ในสาย กู้ชิงหยิ่งกำลังตื่นเต้นมาก “อร๊ายยย วันนั้นฉันควรแต่งตัวยังไงดีนะ ต้องแต่งตัวให้สวยหน่อยแล้ว ไป Genting Sky ที่ที่ไฮโซขนาดนั้น ต้องห้ามทำให้แฟนฉันขายหน้าเด็ดขาด”
เฉินตงหัวเราะ จริงๆแล้วกู้ชิงหยิ่งสวยมาก แม้จะแค่แต่งตัวง่ายๆสบายๆ แต่แค่เสน่ห์ที่พัฒนามาตั้งแต่เด็กจนโต ก็สวยกว่าดาราบางคนแล้ว
และอีกอย่าง กู้ชิงหยิ่งจะไม่เคยไป Genting Sky?
เขารู้ว่าที่กู้ชิงหยิ่งพูดแบบนี้ก็เพราะแค่อยากออดอ้อนกับเขาในฐานะแฟน
เฉินตงกำลังคิดจะอวยกลับ
แต่ในสาย เสียงของกู้ชิงหยิ่งจู่ๆก็ดังขึ้น “และยิ่งไปกว่านั้นนะ เรื่องขูดรีดคนมีตังค์เรื่องจริงจังขนาดนี้ ไม่แต่งตัวให้สวยหน่อยก็คือทำผิดต่อเสี่ยเฉินน่ะสิ”
เฉินตงพลันหัวเราะออกมาไม่ได้แล้ว
แฟนคนนี้ เอาไม่ได้แล้วมั้ง?
คุยเรื่อยเปื่อยกับกู้ชิงหยิ่งอีกสักพัก เฉินตงก็วางสายลง
อีกฝั่ง หลังจากที่กู้ชิงหยิ่งวางสายลงแล้ว ก็รอคอยวันที่15 มาถึงอย่างตื่นเต้น
เธอหัวเราะออกมาอย่างมีพิรุธ “ตาทึ่ม ตอนนี้ก็ยังไม่รู้สินะว่าฉันเป็นเถ้าแก่ของยิงลี่? รอบอกเขาในวันที่15 ถึงตอนนั้นเขาคงทั้งดีใจทั้งตกใจจนตะลึงงันไปเลยสินะ”
ในขณะที่พึมพำอยู่ เธอก็อดไม่ได้ที่จะจินตนาการท่าทางเฉินตงตอนตะลึงงัน รอยยิ้มบนใบหน้าก็พลันอ่อนหวานมากขึ้น
……
บ้านตระกูลหวาง
บรรยากาศตอนนี้ราวกับกำลังจะแข็งตัวเข้าเต็มที
ความกดอากาศต่ำจนทำให้คนรู้สึกหายใจไม่ออกเล็กน้อย
ครอบครัวหวางหนันหนันทั้งสี่คนกำลังนั่งอยู่ที่โซฟา ดูข่าวที่กำลังฉายในทีวี แต่ละคนแสดงสีหน้าต่างกัน
หวางเต๋อและจางซิ่วจือโกรธจนหน้าเขียวปัด จางซิ่วจือถึงกับกำหมัดแน่น ขบเคี้ยวเขี้ยวฟันเหมือนกับจะกินคน
หวางเต๋อจ้องโทรทัศน์เขม็งด้วยสีหน้าที่เต็มไปด้วยความโกรธแค้น
ส่วนหวางหนันหนันก้มหน้านั่งอยู่ที่โซฟา ดวงตาสวยน้ำตาคลอเบ้าคล้ายกำลังจะร้องไห้ออกมา
“พี่ ทำไมแต่ก่อนพี่ถึงไม่เกลี้ยกล่อมพวกเรามากกว่านี้เนี่ย?”
หวางเห้าพูดออกมาด้วยน้ำเสียงสะอึกสะอื้น ทำลายบรรยากาศเงียบสงัดในห้องรับแขกนี้ และขอร้องอ้อนวอนกับจางซิ่วจือว่า “แม่……พวกแม่ยังอยากให้ผมแต่งงานกับเสว่เอ๋ออยู่หรือเปล่าเนี่ย?”
แค่ประโยคเดียว ก็ทำให้จางซิ่วจือระเบิดออกมาทันที
เธอลุกขึ้นยืนด้วยความโกรธแค้น “หวางหนันหนัน ตกลงในใจแกยังมีบ้านนี้อยู่หรือเปล่า? ตอนนั้นถ้าแกเกลี้ยกล่อมแม่กับพ่อแกอีกสักนิด ให้เราไปซื้อบ้านที่ภาคตะวันตกของเมือง ป่านนี้เสี่ยวเห้าก็คงแต่งงานกับเสว่เอ๋อไปนานแล้ว เพราะแก เพราะแกเลย!”
คำพูดบาดลึกเสียดแทงเข้าไปในกระดูก
หวางหนันหนันมองจางซิ่วจือด้วยสีหน้าที่เต็มไปด้วยความคาดไม่ถึง
เมื่อกี้ตอนที่ดูข่าว เธอก็รู้ล่วงหน้าแล้วว่าจะต้องเกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้น
แต่เธอก็รับไม่ได้จริงๆ เรื่องมันก็ผ่านไปหลายวันแล้ว แต่คนทั้งบ้านก็ยังโทษเธอเรื่องที่ไม่ได้ซื้อบ้าน
“แม่……ทำไมต้องโทษหนูด้วย? หนูยังทำเพื่อบ้านนี้ไม่เยอะพออีกเหรอ?”
หวางหนันหนันกลั้นน้ำตาไม่อยู่อีกต่อไป ร้องไห้ขอร้องออกมา “ขอร้องล่ะ ปล่อยหนูไปเถอะ หนูพยายามแล้วจริงๆ แต่งงานกับเฉินตงในสามปีนี้ หนูเอาเงินจากที่บ้านมาเยอะเท่าไหร่แล้ว? และก็ช่วยเสี่ยวเห้ามาแล้วอีกกี่ครั้ง แค่นี้ยังไม่พออีกเหรอ?”
“ไร้สาระ!”
สีหน้าจางซิ่วจือเต็มไปด้วยความดุดันและพูดออกมาอย่างโหดร้ายว่า “แกเป็นพี่สาว แกก็สมควรเอาจากที่บ้านอยู่แล้ว แกคิดว่าตัวเองน่าภาคภูมิใจนักเหรอ? เรื่องแต่งงานของน้องชายที่ใหญ่ขนาดนี้ แกก็ช่วยอะไรไม่ได้ ยังจะมาอ้างกับแม่อีก? ”
หวางหนันหนันรู้สึกเหนื่อยใจเต็มแก่ ก้มหน้าร้องไห้ออกมาอย่างสิ้นหวัง
“ร้องๆๆ ร้องเป็นอย่างเดียว! แกมันไม่มีประโยชน์ ถ้าฟังที่แม่กับพ่อแกพูดแต่แรกไปแต่งงานกับคนรวย บ้านเราจะตกอับถึงขั้นนี้? แต่แกก็ดื้อจะลดตัวไปแต่งงานกับไอ้เหี้ยเฉินตงให้ได้!”
จางซิ่วจือด่ากัดไม่ปล่อย ไม่สนใจความรู้สึกของหวางหนันหนันในตอนนี้แม้แต่น้อย
หวางเห้าที่ทำสีหน้าน้อยใจอยู่ข้างๆพอได้ยิน “เฉินตง” สองคำนี้ก็โกรธเป็นฟืนเป็นไฟขึ้นมาทันที
เขาพูดออกมาโดยไม่คิดว่า “พ่อแม่ เฉินตงมีเงิน! ผมเคยเจอไอ้แม่ผีทะเลของเฉินตงที่โรงพยาบาลลี่จิง พยาบาลเคยบอกผมว่าแม่ของมันเพิ่งผ่าตัดปลูกถ่ายตับมาช่วงนี้ ตอนนี้เริ่มดีขึ้นแล้ว แต่ตอนนั้นที่พี่เอาสองแสนกลับมา บอกชัดว่ามันเป็นเงินสองแสนสุดท้ายของเฉินตง”
“ว่าไงนะ?”
หวางเต๋อและจางซิ่วจือสีหน้าเปลี่ยนขึ้นมาทันที
จางซิ่วจือเชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่งพูดว่า “เสี่ยวเห้า แกพูดบ้าอะไรน่ะ ไอ้เศษสวะนั่นจะยังมีเงินเหลืออีกได้ยังไง?”
หลังจากนั้น หวางเห้าก็พูดออกมาอย่างขบเคี้ยวเขี้ยวฟัน “จริงๆนะ ผมที่เป็นลูกจะโกหกพวกแม่ทำไม? พวกเราโดนหลอกแล้ว พี่โดนเฉินตงหลอกแล้ว มันต้องวางแผนเอาไว้นานแล้วแน่ๆ ตั้งใจใช้ข้ออ้างสองแสนนั้นเพื่อหย่ากับพี่!”
ได้ยินที่พูด
หวางเต๋อและจางซิ่วจือสีหน้าก็เต็มไปด้วยความโกรธขึ้นมาทันที
จางซิ่วจือยิ่งเหมือนกับถูกฟ้าผ่า นั่งลงบนโซฟาอย่างอ่อนแรง ตีอกกระทืบเท้าร้องไห้พูดว่า “โอ๊ย……เลวจริงๆ ไอ้เศษสวะนั่นทำไมถึงได้ชั่วขนาดนี้ บ้านเราคือไปขุดหลุมศพบรรพบุรุษมันหรือไง?”
“หวางหนันหนัน กูไม่สนว่าแกจะใช้วิธีอะไร แกต้องไปเอาอีกหลายแสนจากเฉินตงมาอีกให้ได้ ไม่อย่างนั้น กูที่เป็นแม่แก ก็จะตายต่อหน้าแก!”