บทที่ 60 ชื่อเสียงป่นปี้?
หวางหนันหนันดวงตาแดงก่ำทั้งสองข้าง น้ำตาคลอหน่วย สีหน้าเลื่อนลอยรีบวิ่งไปที่หลงถิงฮัวหยวน
ทางไกล ดอกไม้โปรยปรายทั่วท้องฟ้า
และแผ่นคำที่ห้อยอยู่กับเฮลิคอปเตอร์สามลำที่หยุดอยู่กลางอากาศ
เหมือนกับว่าถูกฟ้าผ่ากลางวันแสกๆผ่าลงตัวเธอ
เธอถึงขนาดที่ว่านึกภาพที่เฉินตงและกู้ชิงหยิ่งที่มีความสุขกันในตอนนี้ กำลังถูกผู้คนจ้องมองกันอยู่ออกกันเลยทีเดียว
และทั้งหมดนี้……
“ของฉัน มันควรเป็นของฉัน……”
หวางหนันหนันกัดฟันพูดด้วยน้ำเสียงสะอึกสะอื้น “เฉินตง นายมันเลว นายมันคนโกหก! นายเคยบอกว่ารักฉัน แต่ไม่นึกเลยว่านายเพื่อกู้ชิงหยิ่ง กล้าใช้วิธีการเลวๆแบบนี้มาหย่ากับฉัน”
อิจฉา ความแค้น ความโกรธ อารมณ์เหล่านี้ผสมเข้าด้วยกัน
ทำให้หวางหนันหนันใกล้จะสติแตกและบ้าคลั่งเต็มที
“ฉันไม่มีทางให้นายอยู่ดีแน่ ฉันจะเปิดโปงว่านายเป็นคนหน้าเนื้อใจเสือต่อหน้าคนทั้งเมือง เฉินตง นายบีบบังคับฉันเอง!”
ในที่สุด หวางหนันหนันก็วิ่งไปถึงบริเวณใกล้เคียงของสำนักงานขายในหลงถิงฮัวหยวนแล้ว
ในสายตา
เฉินตงและกู้ชิงหยิ่งกำลังกอดกันอยู่ และเพลิดเพลินกับสายตาของทุกคนและแสงแฟลชที่กำลังจ้องมองมา
หวางหนันหนันที่โกรธแค้นจัดก้าวไปข้างหน้า เดินออกจากฝูงและตะโกนออกมาเสียงดังว่า
“เฉินตง นายมันคนหลอกลวง!”
เสียงตะโกนร้องลั่นที่กะทันหันนี้ เหมือนกับเป็นค้อนหนักที่ทำลายและหยุดนิ่งความสุขตรงหน้าสำนักงานขายอย่างเหี้ยมหาญ
ทุกคนมองไปที่หวางหนันหนันอย่างตกตะลึง
แต่เดิมกล้องทุกตัวที่โฟกัสเฉินตงและกู้ชิงหยิ่งอยู่ ตอนนี้ก็มาโฟกัสที่หวางหนันหนัน
บรรดาสื่อคึกขึ้นมาแล้ว
แต่เดิมพวกเขาวันนี้แค่จะรายงานข่าวของอาคารชุดอาคารแรกที่ปรับปรุงใหม่ในภาคตะวันตกของเมือง แต่คิดไม่ถึงว่าจะมีข่าวทยอยเพิ่มขึ้นมาอย่างไม่ขาดสาย
ด้วยที่พวกเขามีไหวพริบที่ไวต่อข่าว ตอนนี้ก็รู้ล่วงหน้าแล้วว่า พรุ่งนี้หลังจากที่รายงานข่าวพวกนี้ออกไปแล้วต้องทำให้ทั้งเมืองสั่นสะเทือนแน่นอน
เถ้าแก่ของไท่ติ่งบอกรักแฟนในสำนักงานขาย ผู้หญิงปริศนาปรากฏตัวขึ้นกะทันหันเพื่อร้องขอความเป็นธรรม!
นี่เป็นข่าวที่พวกคนชอบสอดรู้สอดเห็นชอบที่สุด!
บนเวที
เฉินตงสีหน้าฉายแววโกรธเคือง สายตามองไปที่หวางหนันหนันอย่างเย็นชา
จะมาก่อเรื่องเหรอ?
เธอรู้จักนิสัยของหวานหนันหนัน ตอนนี้มาที่นี่ต้องไม่ใช่เรื่องดีแน่นอน
แต่เขาไม่แคร์ เขาแค่โกรธที่การปรากฏตัวของเธอทำลายบรรยากาศดีๆที่เขาทำเพื่อกู้ชิงหยิ่ง
“เฉินตง……”
กู้ชิงหยิ่งมุดออกมาจากอ้อมกอดของเฉินตง เห็นหวางหนันหนันแล้วใจหนักขึ้นมาทันที
“ฉันจัดการเองได้ แต่เดี๋ยวอย่าลืม Genting Sky นะ”
เฉินตงยิ้มออกมาอย่างอ่อนโยนแล้วให้เสี่ยวหม่าพากู้ชิงหยิ่งออกไป
จากนั้น เขาหันไปพูดกับหัวหน้าหน่วยงานพวกนั้นว่า “หัวหน้าทุกท่านครับ เรื่องเล็กๆน้อยๆ ผมจัดการได้ ไท่ติ่งจะมีทีมงานมาดูแลทุกคนนะครับ”
ข้างล่างเวที หวางหนันหนันเห็นว่ากู้ชิงหยิ่งกำลังจะไปแล้วเลยใจร้อนขึ้นมาทันที
เธอพุ่งไปที่เวทีเหมือนบ้าไปแล้ว “นังจิ้งจอก แกหยุดเดี๋ยวนี้นะ!”
ข้างเวที บอดี้การ์ดเดินขึ้นหน้าพร้อมกัน ขวางหวางหนันหนันที่กำลังจะพุ่งไปข้างหน้าอย่างไม่คิดชีวิต
“เฉินตง นายมันเลว ฉันมันคนโกหก!”
หนางหนันหนันร้องจนอ่อนเปลี้ยเพลียแรง เสียงแหบแห้งไปหมด เหมือนกับเป็นผู้เคราะห์ร้ายเลยทีเดียว แล้วด่าออกมาอย่างเสียใจสุดขีด “เสียแรงที่ฉันลดตัวแต่งงานกับนายเมื่อสามปีก่อนจริงๆ นายก็คือตอบแทนฉันด้วยผลลัพธ์แบบนี้เหรอ?”
ผ่าง!
ข้างหน้าสำนักงานขายเต็มไปด้วยเสียงอื้ออึง
ทุกคนแสดงสีหน้าตื่นตะลึงออกมากันหมด
นี่คือ……มือที่สามมาชิงตำแหน่ง?
สื่อทั้งหลายคึกขึ้นมาทันที กดกล้องถ่ายหวางหนันหนันรัวๆ
ข่าวใหญ่!
นี่มันข่าวใหญ่ชัดๆ!
กู้ชิงหยิ่งกำลังจะเดินลงจากเวทีแล้วได้ยินคำด่าทอของหวางหนันหนัน ใบหน้าสวยพลันเย็นยะเยือกขึ้นมาทันที
วันนี้เป็นวันเปิดจองวันแรกของหลงถิงฮัวหยวน ไท่ติ่งและเฉินตงถูกคนทั้งเมืองจ้องมองไว้อยู่
ตอนนี้หวางหนันหนันออกมาอาละวาด
ไม่เพียงแต่จะทำให้ภาพลักษณ์ของบริษัทไท่ติ่งเสียหาย
ยิ่งจะทำให้เฉินตงชื่อเสียงป่นปี้ได้
นี่……จะทำลายเฉินตงสินะ!
เธอรู้อดีตของเฉินตงและหวางหนันหนัน ทั้งครอบครัวของหวางหนันหนันทำร้ายเฉินตงมาก็มากพอแล้ว
ตอนนี้หย่ากันแล้วยังคิดจะใส่ร้ายป้ายสีเฉินตงอีก?
ในเดี๋ยวนั้นเอง กู้ชิงหยิ่งกำลังจะขึ้นเวทีโต้แย้งแทนเฉินตง
แต่แล้วเสียงอ่อนโยนเสียงหนึ่งก็ดังขึ้นมา
“ฉันจัดการเองได้ อย่าทำลายอารมณ์ของเธอเลย ไปรอฉันที่ Genting Sky นะ”
กู้ชิงหยิ่งสีหน้าพลันชะงักพร้อมมองเฉินตงอย่างลังเล
แต่สุดท้าย เธอก็เลือกที่จะออกไปกับเสี่ยวหม่า
เธอเชื่อว่าเฉินตงจัดการได้
มองกู้ชิงหยิ่งเดินจากไป เฉินตงจึงเดินลงจากเวทีช้าๆ
ภายใต้การจ้องมองของสายตาและแสงแฟลชนับไม่ถ้วนนั่น เขาเดินผ่านการห้ามปรามของบอดี้การ์ดไป และเดินไปหยุดอยู่ตรงหน้าหวางหนันหนันที่กำลังนั่งยองๆร้องไห้เสียงดังเหมือนกับหมดหวัง
ยิ้มจางๆออกมาเล็กน้อย “พวกเราก็จบกันแล้ว เธอยังทำแบบนี้อีก คือต้องการให้ฉันชื่อเสียงป่นปี้เหรอ?”
หวางหนันหนันพยายามประคองตัวลุกขึ้นยืน ตาแดงก่ำ หน้าตาไหลพราก กัดฟันพูดเหมือนคนที่เสียสติไปแล้ว “ฉันก็คือจะทำลายนาย จะทำให้นายชื่อเสียงป่นปี้ นายต้องชดใช้ที่หลอกฉัน!”
ในใจเฉินตงเต็มไปด้วยความโกรธ มองหวางหนันหนันอย่างเย็นชา
“บ้านพวกเธอ ฉันช่วยไม่ไหวแล้วจริงๆ!”
“แล้วฉันทำอะไรได้?”
หวางหนันหนันพูดอย่างสิ้นหวัง “พวกเขาเป็นพ่อแม่ของฉันและเป็นน้องชายของฉัน จะไม่ให้ฉันช่วยอะไรเลยหรือไง?”
เฉินตงไม่เถียง แต่แค่ยิ้มหยันตัวเอง
เขารู้สึกว่าตอนที่ตัวเองถามคำถามนี้ออกมาช่างโง่เขลาสิ้นดี
ถ้าหวางหนันหนันเข้าใจได้จริงๆ ก็ไม่มีทางหลังจากแต่งงานกันมาสามปียังเกิดเรื่องหย่านี้ขึ้น
“พูดสิ? นายพูดออกมาสิ?”
เห็นเฉินตงที่นิ่งเงียบไม่พูด หวางหนันหนันจึงคิดไปเองว่าตัวเองยึดกุมคุณธรรมจริยธรรมไว้ได้แล้วเลยเกรี้ยวกราดมากขึ้น “เฉินตง ฉันจะบอกอะไรให้ ฉันเป็นคนขอหย่ากับนายเอง แต่ฉันหวางหนันหนัน ไม่ยอมให้นายมาหลอกฉันแบบนี้เด็ดขาด นายอยากอยู่กับนังร่านกู้ชิงหยิ่ง ได้สิ ให้ฉันมาหนึ่งล้าน แล้วฉันจะไปทันทีเลย!”
“ไม่อย่างนั้น นายอย่ามาโทษฉันไปบอกพฤติกรรมเยี่ยงสัตว์ของนายต่อหน้าของคนทั้งเมือง!”
“พฤติกรรมเยี่ยงสัตว์?”
เฉินตงหรี่ตาลงและพูดออกมาอย่างเย็นชา “กล้ามากที่มาขายหน้า คือเธอหาเรื่องขายหน้าเอง!”
พูดจบ เขาก็ให้บอดี้การ์ดหลบไป
หลังจากนั้นก็ทำท่าเชิญกับหวางหนันหนัน
หวางหนันหนันอึ้ง คิดไม่ถึงว่าเฉินตงจะให้เธอขึ้นเวที
ในตอนนี้เอง
เฉินตงพูดออกมาด้วยเสียงโกรธแค้น
“เธอขึ้นไป บอกกับคนทั้งเมือง ให้ทุกคนได้รู้ว่าเธอเอาเงินช่วยชีวิตที่ฉันให้กับแม่ฉันเอาไปซื้อบ้านให้น้องชายเธอยังไง ถ้าไม่ใช่เพราะมีคนช่วยฉัน ป่านนี้แม่ฉันคงตายใน ICU ที่โรงพยาบาลนานแล้ว!”
ผ่าง!
ประโยคหนึ่งทำให้ตกตะลึงไปทั่วงาน
ทุกคนในงานพลันอึ้งกันไปหมด
เพียงไม่กี่วิสั้นๆ
ในงานก็ระเบิดเสียงอื้ออึงออกมาดังสะเทือนเลือนลั่น
“พระเจ้า! เพื่อซื้อบ้านให้น้องชาย แม้แต่เงินช่วยชีวิตของแม่เฉินตงก็เอาไปเหรอ?”
“เปิดหูเปิดตาแล้วจริงๆ ฉันแม่งตอนนี้รู้แล้วจริงๆว่าอะไรคือปีศาจฝูตี้ ผู้หญิงคนนี้หน้าไม่อายจริงๆ!”
“แม้แต่ชีวิตแม่สามีตัวเองก็ไม่สน เมียแบบนี้เก็บเอาไว้ก็เปลืองข้าวสุกหรือไง?”
……
ฟังเสียงวิพากษ์วิจารณ์ที่เหมือนกับเสียงคลื่นซัดกระหน่ำนี้
ใบหน้าสวยของหวางหนันหนันซีดลงทันที ตกตะลึงตัวแข็งทื่ออยู่กับที่
เธอคิดไม่ถึงว่าแค่คำพูดคำเดียวของเฉินตงจะทำให้เธอเป็นฝ่ายร้ายขึ้นมาในทันที
นี่มันเหตุผลแบบไหนกัน?
แสงแฟลชนับไม่ถ้วนส่องไปที่ตัวหวางหนันหนัน
หวางหนันหนันโมโหจนกระทืบเท้าอย่างแรงแล้วตะคอกออกมาเสียงดัง “ทำไมพวกเธอต้องพูดถึงฉันแบบนี้? ฉันไม่ได้ทำอะไรผิดสักหน่อย ผู้ชายเหี้ยคนนี้ต่างหากที่เนรคุณ!”
“เหอะ!”
เฉินตงหัวเราะออกมาอย่างเย้ยหยัน “เธอมีเหตุผลขนาดนี้ ฉันไม่แคร์ที่จะให้เธอขึ้นไปพูดบนเวที”
พูดจบ เฉินตงก็หันหลังเดินจากไป
การเปิดจองได้เริ่มต้นขึ้นแล้ว เขาไม่จำเป็นต้องอยู่ที่นี่ต่อ
หวางหนันหนันอยู่ที่นี่ ทำให้เขาไม่อยากเผชิญกับหวางหนันหนันอีกแม้แต่วินาทีเดียว
ส่วนการอาละวาดของหวางหนันหนันจะกระทบถึงยอดของหลงถิงฮัวหยวนหรือไม่นั้น เขาไม่ได้ไปคิดมันเลย ซื้อบ้าน “ทำเงิน” เรื่องแบบนี้ไม่ใช่ “ข่าวฉาวโฉ่” ของเขาก็จะกระทบถึงความกระตือรือร้นของผู้ซื้อบ้านได้
ส่วนภาพลักษณ์ของเขา……
คนที่ตั้งแต่เด็กจนโตผ่านมากับชื่อเสียง “ลูกสวะ” ไม่มีทางใส่ใจกับข่าวซุบซิบอะไรอยู่แล้ว!