บทที่ 67 โกง
เฉินตงตะลึง
เขามองไปที่กูหลังอย่างประหลาดใจ ในช่วงเวลานั้นไม่รู้ว่าควรจะตอบเช่นไร
กูหลังก้มศรีษะลงด้วยท่าทีที่จริงใจ “คุณผู้ชาย ได้โปรดให้ผมติดตามคุณนะครับ”
เฉินตงยิ้มอย่างเจ็บปวดแล้วยักไหล่ : “ฉันมาที่นี่เพื่อสั่งสมประสบการณ์การต่อสู้เท่านั้นเอง ไม่ใช่มาเพื่อรับสมัครน้องชาย”
กูหลังมีตัวตนเช่นไร เขาไม่ได้อยากจะลงลึกอย่างจริงจัง
แต่ครั้งแรกที่มาโรงยิมมวยใต้ดินก่อนหน้านี้ คุนหลุนได้กล่าวถึงบางเรื่องของโรงยิมมวยใต้ดินกับเขา
นักสู้ที่โรงยิมมวยใต้ดิน มีส่วนหนึ่งเป็นนักสู้ที่กระหายสงครามเช่นเดียวกับเขา มาที่โรงยิมมวยใต้ดินเพื่อสั่งสมประสบการณ์การต่อสู้
และส่วนอื่นๆคือส่วนที่ไม่สามารถให้คนอื่นเห็นได้ คือคนที่ได้รับเงินจากการต่อสู้ที่โรงยิมมวยใต้ดิน
ตอนนั้นเขายังได้ถามเจาะจงเป็นพิเศษกับคุนหลุนว่าสองกลุ่มนี้ กลุ่มไหนมีจำนวนมากกว่ากัน
คำตอบของคุนหลุนทำให้เขาประทับใจอย่างลึกซึ้ง
คุนหลุนในตอนนั้นเพียงแค่ยิ้มแล้วพูดอย่างมีความหมายลึกซึ้งว่า : “คุณชายคิดว่าพวกที่กระหายสงครามจะไม่มีเงินสักกี่คนกันเชียว?”
ด้วยประโยคนี้ เฉินตงก็สามารถคาดเดาตัวตนของกูหลังที่อยู่เบื้องหน้าออกมาได้เช่นกัน
เขาไม่อยากจะคิดเลอะเทอะมากเกินไป
“เพราะอะไร?”
กูหลังผงะ “หลังจากที่ผมติดตามคุณ คุณไม่ต้องจ่ายเงินผมก็ได้ ขอแค่มีข้าวให้ผมกินก็พอแล้ว คุณเป็นคนเดียวที่ผมจะติดตามไปในเส้นทางข้างหน้า”
เฉินตงยักไหล่ รอยยิ้มภายใต้หน้ากากนั้นเรืองรองมากยิ่งขึ้น
ตัวตนของกูหลังไม่จำเป็นต้องให้เขาเดาอีกต่อไปแล้ว
“ต้องขออภัยด้วย ผมแค่มาสั่งสมประสบการณ์ต่อสู้เท่านั้น สำหรับเรื่องอื่นผมไม่เคยคิดเลย”
เฉินตงพูดอย่างตรงไปตรงมา : “การต่อสู้ในกรงเหล็กคราวก่อน ผมเพียงแค่สะสมประสบการณ์ต่อสู้เท่านั้น ดังนั้นจึงไม่จำเป็นต้องทำร้ายคุณ คุณเองก็ไม่ต้องจำใส่ใจหรอก”
เวลานี้เอง คุนหลุนเดินเข้ามา
“คุณชาย นัดหมายพร้อมแล้ว เกมที่สามคือคุณ”
เฉินตงพยักหน้า เดินไปด้านข้างแล้วไม่พูดอะไรอีก
กลับเป็นกูหลังที่ยืนอยู่ที่เดิมและใบหน้าเต็มไปด้วยความตกตะลึง
เขาวางเงื่อนไขไว้ต่ำมากขนาดนี้แล้ว การปฏิเสธของเฉินตงทำให้เขาคาดไม่ถึง
ตัวตนของเขาไม่สะอาดอย่างแน่นอน
แต่ว่าเขาสามารถรอคอยเป็นเวลานาน และที่โรงยิมมวยใต้ดินนี้เขาสามารถรักษาระดับของทักษะการต่อสู้ที่อาจจะได้รับชัยชนะ จึงทำให้เขามีชื่อเสียงอยู่ไม่น้อยในวงการมวย
เศรษฐีหลายคนในเมืองนี้ได้เสนอโอกาสให้กับเขา ต้องการจ้างเขาเป็นบอดี้การ์ด และเขาได้ปฏิเสธไปทั้งหมดแล้ว
เหตุผลที่เลือกเฉินตง เพราะการยั้งมือของเฉินตงในกรงเหล็กวันนั้น
เหตุผลข้อที่สองไม่ว่าจะเป็นเฉินตงเองหรือว่าคุนหลุนที่อยู่ข้างกายเฉินตง กูหลังรู้สึกว่าแตกต่างกันอย่างมาก
และเศรษฐีเหล่านั้นที่ต้องการว่าจ้างเขาเป็นบอดี้การ์ด มันช่างแตกต่างราวฟ้ากับเหว!
ดังนั้นเขาจึงยินดีที่จะเดิมพันสักตา ถึงแม้ว่าจะไม่ได้ค่าตอบแทนก็ตาม
ลมจากมังกรเมฆจากเสือ ได้ติดตามคนที่เหมาะสม เปรียบเทียบแล้วสำคัญกว่าค่าตอบแทน
ที่สำคัญยิ่งไปกว่านั้นคือ เศรษฐีทั้งหลายนั่นไม่สามารถช่วยเปลี่ยนสถานะของเขาได้ ถึงแม้ว่าเขาจะทำหน้าที่เป็นบอดี้การ์ด แต่ก็ต้องซ่อนตัวอยู่ในเงามืดตลอดเวลา
เขาคือ “กูหลัง” แต่ก็ไม่ชอบความมืดด้วยเช่นกัน
เขาเองก็ปรารถนามองดูท้องฟ้าและแสงแดดเจิดจ้า
ภาพการต่อสู้ที่อยู่เบื้องหลัง เฉินตงมองดูอย่างเพ่งสมาธิทุกอย่าง
สำหรับเขาแล้ว ประสบการณ์ต่อสู้ของจริงทุกครั้งล้วนมีค่าอย่างหาที่เปรียบไม่ได้
ถ้าหากต้องการยกระดับตนเอง มีเพียงแค่ต้องใช้พลังงานให้มากขึ้น จ่ายออกไปให้มากขึ้นกว่าคนอื่นถึงจะได้รับมากขึ้น
กูหลังไม่ได้เอ่ยถึงเรื่องการติดตามอีก แต่กลับไม่ได้จากไป และเขายืนอยู่ด้านหลังของเฉินตงและคุนหลุน โดยสังเกตจากตอนต่อสู้ด้านในกรงเหล็กและสังเกตท่าทีของเฉินตงและคุนหลุนด้วยเช่นกัน
ในที่สุด ก็มาถึงตาเฉินตงลงสนามแล้ว
เมื่อหน้าจอแสดงชื่อของทั้งสองฝ่ายที่กำลังจะเริ่มทำสงคราม
ทันใดนั้นรูม่านตาของกูหลังก็หดตัวลงแล้วพูดอย่างหวาดกลัวว่า : “คุณระวังตัวด้วยนะ”
เฉินตงชำเลืองมองไปที่กูหลัง ถัดจากนั้นก็เหลือบมองไปที่ชื่อของคู่ต่อสู้อีกครั้ง
โรงยิมมวยใต้ดินส่วนใหญ่แล้วมักใช้ชื่อเล่นไม่ใช้ชื่อจริง
และคู่ต่อสู้ของเขาคือคนที่มีชื่อว่าผีร้ายนรก
“ว่ายังไงล่ะ?” เฉินตงเอ่ยถาม กูหลังเป็นผู้ที่คลุกคลีอยู่ในแวดวงของโรงยิมมวยใต้ดินมานาน จะต้องมีความรู้เรื่องมวยมากกว่าเขา
กูหลังพูดว่า : “เขาเป็นคนที่พึ่งมาใหม่ ลงมืออย่างโหดเหี้ยม ร้ายกาจ และต้องการที่จะทำร้าย อันที่จริงโรงยิมมวยใต้ดินของพวกเราถึงแม้จะดุเดือดเลือดพล่าน แต่ก็มีมิตรภาพผสมปนอยู่บ้างมาตลอดในระยะเวลายาวนาน การต่อสู้ในกรงเหล็กในตอนสุดท้ายก็เหลือทางรอดให้คู่ต่อสู้ เพราะถึงยังไงก็ไม่ได้เห็นเดือนเห็นตะวัน ดังนั้นถึงได้ไว้ชีวิตเอาไว้”
เมื่อชะงักไปชั่วขณะ การแสดงออกของกูหลังก็เปลี่ยนเป็นเคร่งขรึมอย่างยิ่ง
“แต่ผีร้ายนรกคนนี้ ดูราวกับเป็นผีร้ายคลานออกมาจากนรกจริงๆ มีความต้องการเอาชีวิตคนอื่น ที่โรงยิมมวยใต้ดินเขาต่อสู้สิบเกม สู้สิบครั้ง ชนะสิบครั้ง ตายสามคนและบาดเจ็บสาหัสหกคนพิการเป็นผักหนึ่งคน”
“ฟู่ว”
ฟังผลการรบของผีร้ายนรกจบแล้ว เฉินตงอดไม่ได้ที่จะสูดลมหายใจ ไม่ต้องพูดถึงอัตราการชนะร้อยเปอร์เซนต์ก็สยองขวัญแล้ว เพียงแค่ผลลัพธ์เช่นนี้ก็เป็นการกุเรื่องให้สะเทือนขวัญได้มากพอแล้ว
เขาเคยได้ยินจากคุนหลุนว่า ถึงแม้โรงยิมมวยใต้ดินจะนองเลือด แต่อัตราการเสียชีวิตนั้นต่ำมาก เหมือนกับที่กูหลังพูด พวกที่มีประสบการณ์เจนจัดมักจะไว้ชีวิตให้กับอีกฝ่าย
ตอนที่ฮิปโปถูกชายร่างเล็กเตะจนตายเมื่อสักครู่นี้ สามารถทำให้ทั้งสนามเงียบกริบก็เป็นเพราะว่ามันน่าตกใจเกินไป
สูดหายใจเข้าลึกแล้ว เฉินตงมองไปที่คุนหลุนด้วยความกลัว : “คุนหลุน ทำไมนายถึงได้เตรียมเทพสังหารให้ฉันหล่ะเนี่ย?”
คุนหลุนยิ้มเล็กน้อย : “ขอเพียงแค่คุณเดินไปจนถึงเส้นขอบของความตาย คุณถึงจะเข้าใจความหมายที่แท้จริงของการต่อสู้ได้อย่างรวดเร็วนะครับ ยิ่งคุณอยู่ใกล้เส้นขอบของความเป็นความตายมากเท่าไหร่ ก็สามารถทะลุขีดจำกัดของร่างกายตัวเองได้มากเท่านั้น”
เชี่ยเอ๊ย!
หัวใจของเฉินตงในตอนนี้อดไม่ได้ที่จะสบถอยู่ในใจ
เขาต้องการทุ่มเทเพื่อยกระดับฝีมือ แต่ไม่เคยคิดเลยว่าจะได้เริ่มฆ่าคนเร็วขนาดนี้
คุนหลุนทหารรับจ้างคนนี้เคยชินกับการเสียเลือดเสียเนื้อมาในอดีต แล้วตอนนี้อยากจะให้เขาไปเต้นรำอยู่ที่ปากหลุมศพจริงๆเหรอ?
“วางใจเถอะครับ มีผมอยู่ ไม่มีเรื่องอะไรแน่” คุนหลุนมองเห็นเฉินตงเกิดอาการเครียดจึงพูดปลอบใจ
เฉินตงพยักหน้า สูดหายใจเข้าระงับอารมณ์ที่กระวนกระวายเอาไว้
เขาสามารถอนุมานความแข็งแกร่งของคุนหลุนจากที่เขาเคยเห็นได้ มีเขาอยู่ ผีร้ายนรกไม่สามารถทำร้ายเขาได้หรอก
เพราะท้ายที่สุดแล้ว คุนหลุนคือราชาแห่งนรก!
แล้วกรรมการได้ประกาศตามมาอย่างรวดเร็ว
ที่สนามมีเสียงร้องตะโกนดังขึ้น
เฉินตงประคองหน้ากากสีขาวบนหน้าแล้วเดินไปทางกรงเหล็กอย่างช้าๆ
และบนอัฒจันทร์ เมื่อผู้ชมจำนวนนับไม่ถ้วนมองเห็นเฉินตง พวกเขาหลายคนจดจำเขาได้อย่างชัดเจน
ในเวลานี้พวกเขาต่างโต้เถียงกันอย่างเซ็งแซ่
“เชี่ย! นั่นมันเขา คราวก่อนเขาทำให้ฉันเสียไปหนึ่งหมื่นเหรียญ!”
“ให้ตายเถอะ สินค้านี่ทำฉันเสียไปหนึ่งแสน วันนี้ฉันจะต้องได้ทั้งต้นทุนและกำไรกลับคืนมา เขาสู้กับผีร้ายนรกจะต้องแพ้อย่างไม่ต้องสงสัย ครั้งนี้ฉันจะซื้อฝั่งผีร้ายนรกสามแสนเหรียญ!”
“ฮ่าๆๆ…แก้แค้นได้แล้ว วันนี้สามารถแก้แค้นที่เสียเลือดไปเมื่อคราวก่อนได้ รออีกนิดฉันจะตั้งใจดูเลยว่าเจ้าหมอนี้ถูกผีร้ายนรกฆ่าตายยังไง”
…….
ได้ยินเสียงร้องตะโกนที่เหมือนคลื่นยักษ์แล้ว
เฉินตงพูดไม่ออกไปชั่วขณะ
เขามาเพื่อต่อสู้ แต่ยังมีใครอีกบ้างที่คุ้มค่าต่อการถูกดึงเข้ามาสู่ความเกลียดชังนี้?
พอเขาเดินเข้าไปในกรงเหล็กก็ยืนสูงตระหง่านภายใต้สปอตไลท์
ทันใดนั้น ในสนามก็ระเบิดเสียงเชียร์ที่รุนแรงเป็นอย่างยิ่งออกมา
ผีร้ายนรกมาแล้ว!
แต่มองดูที่อัตราส่วนร้อยเปอร์เซ็นต์เต็ม ยิ่งไปกว่านั้นยังเป็นผู้ต่อสู้ที่ลงมืออย่างโหดเหี้ยม นั่นเพียงพอแล้วที่จะปลุกเลือดในกายของผู้คนให้เดือดพล่านโดยสมบูรณ์
เฉินตงจ้องมองผีร้ายนรกที่เดินมาจากความมืดอย่างละเอียดรอบคอบ
เขาสวมเสื้อคลุมสีดำคล้ายกับชุดนินจา แต่บนใบหน้าของเขากลับสวมหน้ากากผีร้ายที่แสดงให้เห็นเขี้ยวอันดุร้าย
ภายใต้แสงไฟ มุมปากของหน้ากากผีร้ายยกขึ้นเล็กน้อยราวกับกำลังหัวเราะ
ทำให้คนรู้สึกหนาวสะท้าน
ไม่ต้องมีอารัมภบทมากไปกว่า ประเด็นหลักของโรงยิมมวยใต้ดินก็คือความรุนแรงและนองเลือด
เมื่อกรรมการร้องตะโกน การต่อสู้จึงได้เริ่มต้นขึ้นอย่างเป็นทางการ!
ไม่ต้องรอให้เฉินตงปรับแต่งกระบวนท่า ผีร้ายนรกที่อยู่ตรงข้ามก็พุ่งเข้ามาหาเขาในทันทีใด
ฮึบ!
ลูกเตะนั้นรุนแรงและทรงพลังจนทำให้เกิดภาพซ้อนจนมองเห็นไม่ชัดและตรงมาที่หัวของเฉินตงโดยตรง
เตะครั้งเดียวเข้าไปที่จุดยุทธศาสตร์!
สีหน้าของเฉินตงเปลี่ยนไปอย่างมาก ช่วงเวลาที่อุตลุดนั้นเอง เขายกแขนซ้ายขึ้นแล้วดันออกไปในแนวนอน
ปึง!
เกิดเสียงดังลั่น เฉินตงรู้สึกได้ถึงการถูกกระแทกเข้าอย่างหนัก จึงรีบดีดตัวบินออกมา
ในเวลาเดียวกัน ใบหน้าของเขาก็บิดเบี้ยวอย่างกะทันหัน แล้วส่งเสียงกรีดร้อง “อ้า”
ความเจ็บปวดที่ค่อยๆเกิดขึ้นบนแขนซ้าย ไม่ต้องสงสัยเลยแม้แต่นิดว่าการเตะครั้งนี้ทำให้กระดูกของเขาแตก!
หลังจากลงถึงพื้นแล้ว เฉินตงก็เจ็บปวดจนเหงื่อออกเต็มหน้า เขาแยกเขี้ยวยิงฟันสูดลมหายใจลึกเข้าไป
แต่เขากลับไม่มีความตื่นตระหนกตกใจ แต่มองไปที่ใต้เท้าของผีร้ายนรกอย่างสยดสยอง
เมื่อมองดู รูม่านตาของเขาก็หดตัวแน่นขึ้นทันทีทันใด
รองเท้าของผีร้ายนรกเป็นสีดำ
แต่ภายใต้แสงไฟนั้น การหักเหของแสงมีแสงมันวาวของโลหะจางๆออกมา
นี่มัน…โกงกันชัดๆ