บทที่ 77 อันธพาลในชุดสูท
ด้านในไซต์งานมีทรายและปูนซีเมนต์กองเป็นภูเขา
พื้นดินเต็มไปด้วยฝุ่น
ในเวลานี้ คนงานสวมหมวกนิรภัยสิบกว่าคนมุมอยู่ด้วยกัน ในมือแต่ละคนถือพลั่วเหล็กแล้วทุบลงพื้นอย่างไร้ความปรานี
ท่ามกลางคนเหล่านั้นคือคุนหลุนกับฟ่านลู่
คุนหลุนใช้ร่างกายกำยำของเขาบังพลั่วเหล็กของคนเหล่านั้นที่ฟาดลงมาที่ฟ่านลู่
ฟ่านลู่หวาดกลัวและร้องไห้จนเสียงแหบแห้งไปนานแล้ว แต่ในมือของเธอยังถือโทรศัพท์ไว้แน่นๆ
เธอรู้ว่าโทรศัพท์เครื่องนี้เป็นฟางเส้นสุดท้ายของเธอกับคุนหลุน!
ทั้งสองถูกทุบตีจนสภาพทรุดโทรม เสื้อผ้าขาดรุ่งริ่ง ใบหน้าของฟ่านลู่บวมฟกช้ำและมีคราบเลือดที่มุมปากด้วย
“ฮือ ฮือ……พี่คุนหลุน……หนู หนูผิดเอง……”
ตรงหน้าฟ่านลู่ที่กำลังโทษตัวเองอยู่ คุนหลุนเปิดปากและมีฟองเลือดไหลออกมา
สายตาของเขาแน่วแน่และยิ้มพูดว่า “ผม ผมอยู่นี่แล้ว ไม่ ไม่ต้องกลัว……”
“แมร่งเอ๊ย หยุดก่อน บอกให้หยุดก่อนไงละ!”
ทันใดนั้น เสียงที่แหลมคมก็ดังขึ้น
จากนั้นมีร่างคนคนหนึ่งดึงและผลักเข้าไปในกลุ่มคนเหล่านั้น
เขาคนนี้อายุราวยี่สิบเจ็ดถึงยี่สิบแปดปี รูปร่างผอมสูงประมาณหนึ่งร้อยเจ็บสิบเซนติเมตร ตาตี่ จมูกโด่ง ดูแล้วไม่ใช่คนดีอย่างแน่นอน
หลังจากผลักคนงานออกไป เขาก็นั่งยอง ๆ อยู่ตรงหน้าคุนหลุนกับฟ่านลู่
ผัวะ! จากนั้นตบไปที่กลางศีรษะที่เต็มไปคราบเลือดของคุนหลุน
“มึงเล่ามาสิว่ามึงมาเสือกอะไรกับผู้หญิงคนนี้? ไม่มีเงินจ่ายหนี้ก็เอาตัวมันมาเป็นประกันเลย!”
ผัวะ ๆ ๆ ……
ชายจมูกโด่งยิ่งพูดมากเท่าไหร่เขาก็ยิ่งโกรธมากขึ้นเท่านั้น เขาตบไปที่ศีรษะของคุนหลุนอย่างไม่หยุด
“อยากเป็นฮีโร่มากนักใช่ไหม? มึงเชื่อไหมว่าถ้าวันนี้กูฆ่ามึงทิ้งกูก็ยังใช้ชีวิตตามปกติได้? เดี๋ยวมึงห้ามปากมากก็แล้วกัน จำไว้! เพราะไอ้หนูคนนี้ติดหนี้กู!”
ผัวะ ๆ ๆ ……
“หยุดตีได้แล้ว ขอร้อง หยุดตีเถอะ……”
ฟ่านลู่พยายามยกมือเพื่อปกป้องศีรษะของคุนหลุนแล้วร้องขอความเมตตา
“แมร่งเอ๊ย! นางตัวแสบ มึงสร้างปัญหาให้กูขนาดนี้ เดี๋ยวกูจะตบมึงด้วยคน!”
ชายจมูกโด่งสีหน้าโหดร้าย จากนั้นหันมาแล้วง้างมือเพื่อจะตบฟ่านลู่
หือ!
ทันใดนั้น ฝ่ามือที่กว้างใหญ่ได้คว้ามือของชายจมูกโด่งไว้
ชายจมูกตกใจและมองหน้าคุนหลุนอย่างตื่นตระหนกทันที “มึง มึงคิดจะทำอะไร?”
คุนหลุนมองชายจมูกโด่งด้วยสายตาพิฆาต จากนั้นปากที่เต็มไปด้วยคราบเลือดก็ยิ้มออกมาอย่างเลือดเย็น
“คุณทำร้ายผมได้ แต่ถ้าคุณคิดทำร้ายผู้หญิง คุณจะต้องตาย……”
“แมร่งเอ๊ย มึงเป็นใครไม่ทราบ?”
“คุณเชื่อไหม ต่อจากนี้……พวกคุณทั้งหมดก็จะล้มลงกับพื้น”
นี่ไม่ใช่คำขู่ของคุนหลุน ทหารรับจ้างที่เคยผ่านสมรภูมิอันนับไม่ถ้วน ไม่ใช่เรื่องยากเลยถ้าคิดจะล้มคนติดอาวุธสิบกว่านี้
แต่ ชายจมูกโด่งเดินไปด้านข้างพร้อมกับรอยยิ้มบนใบหน้าของเขาก่อนหน้านี้
เพราะความสนใจทั้งหมดของเขาอยู่ที่ฟ่านลู่ที่เพิ่งถูกทำร้าย เขาจึงถูกท่อนเหล็กฟาดเข้ากลางศีรษะอย่างไม่ทันตั้งตัว
สุดท้ายเขากับฟ่านลู่ตกอยู่ในสภาพเช่นนี้
“มึงพล่ามอะไรของมึง!”
ชายจมูกโด่งตะคอกอย่างรุนแรง เขาปัดมือของคุนหลุนแล้วถอยห่างออกไป
จากนั้นถ่มน้ำลายลงบนพื้นแล้วพูดข่มขู่ว่า “ถือว่าพวกมึงโชคดีที่มีเฉินตงเป็นที่พึ่ง จำไว้นะ เดี๋ยวมันมาแล้วพวกมึงห้ามพูดมากเชียวล่ะ เพราะยัยตัวแสบคนนี้ติดหนี้ไม่จ่าย กูถึงได้ใช้กำลังกับพวกมึง อย่าทำให้กูอารมณ์เสียไปมากกว่าล่ะ ไม่งั้นเฉินตงของพวกมึงก็ต้องลำบากไปด้วย!”
“คุณ……ชาย……”
คุนหลุนดูเหมือนจะหายใจไม่ออก
และในเวลานั้น
เสียงอันเย็นชาก็ดังขึ้นจากที่ไกล
“ไม่มีใครสามารถใช้แทนตัวเองด้วยคำว่ากูต่อหน้าคนของผมได้!”
เสียงนี้คุ้นเคยมาก ทำให้คุนหลุนและฟ่านลู่หันมองไปทันที
จากนั้นชายจมูกโด่งกับลูกน้องอีกสิบกว่าคนก็เงยหน้าแล้วหันมองไปด้วยความตกใจ
เฉินตงในชุดสูทและรองเท้าหนังเดินเข้ามาอย่างช้าๆ
ใบหน้าของเขาเย็นชาและดวงตาของเขาก็คมกริบเหมือนใบมีด
เขาเดินฝ่าคนกลุ่มนั้นโดยที่ไม่สนใจใคร สายตาของเขาจดจ่ออยู่ที่คุนหลุนกับฟ่านลู่ที่นอนอยู่บนพื้นอย่างน่าสงสาร
ไอพิฆาตค่อยๆ ลุกโชนขึ้น
“ท่าน ท่านประธานเฉิน……”
ชายจมูกโด่งถูกมือของเขาด้วยรอยยิ้มที่ประจบแล้วเดินเข้าไปต้อนรับเฉินตง “ผมชื่อโจวเห้า เป็นรองผู้ดูแลสถานที่ก่อสร้างแห่งนี้ และผมเป็นลูกพี่ลูกน้องของโจวจุนหลง……”
“เหอะ!”
เฉินตงหัวเราะอย่างเย้ยหยันแล้วเดินผ่านโจวเห้าและลูกน้องของเขาเข้าไปหาคุนหลุนกับฟ่านลู่อย่างเฉยเมย
เมื่อไปถึงเขานั่งยอง ๆ โดยไม่ถามว่าเกิดอะไรขึ้น
แต่เขากลับมองไปที่คุนหลุนที่เต็มไปด้วยคราบเลือดแล้วบ่นว่า “ดูนายสิ เป็นถึงทหารรับจ้างกลับถูกพวกกระจอกสิบกว่าคนทำร้าย มันน่าอายไปไหม?”
คุนหลุนยิ้มอย่างขมขื่น “ขอบุหรี่หน่อย”
เฉินตงยิ้มแล้วหันกลับไปถามคนที่ยืนอยู่ในที่เกิดเหตุ “เอาบุหรี่ให้เพื่อนผมที”
“ครับ ครับผม……สักครู่นะครับประธานเฉิน”
โจวเห้าไม่กล้าเพิกเฉย เขารีบเดินเข้าไปด้วยรอยยิ้ม
แม้เขาจะเป็นลูกพี่ลูกน้องกับโจวจุนหลง แต่ต่อหน้าเฉินตงผู้ซึ่งเป็นเจ้าของบริษัท อสังหาริมทรัพย์ด้วย เขาไม่กล้าที่จะเอาตัวเองไปเทียบกับคนอื่น
อย่างน้อยก่อนที่จะฉีกหน้ากัน เขาต้องทำตัวให้ดีก่อน
หลังจากจุดบุหรี่แล้ว โจวเห้าก็มองไปที่คุนหลุนกับฟ่านลู่ด้วยสายตาข่มขู่เพื่อเตือนในสิ่งที่เขาพูดไว้ก่อนหน้านี้ จากนั้นค่อยๆ เดินถอยออกไป
คุนหลุนที่คาบบุหรี่อยู่ก็พลิกตัวนั่งลงบนพื้นทรายแล้วคายคราบเลือดออกจากปาก
ส่วนฟ่านลู่ก็รีบลุกขึ้นแล้วพยุงคุนหลุนไว้
อาการบาดเจ็บของเธอไม่ได้รุนแรงมาก เธอแค่ถูกตบไปสองสามทีและถูกกระแทกไปสองสามครั้งเท่านั้น
อาการบาดเจ็บส่วนใหญ่จะอยู่ที่คุนหลุนที่พยายามปกป้องเธอ
“พี่คุนหลุน……หนูขอโทษ หนูขอโทษ……”
ฟ่านลู่ได้แต่ร้องไห้ด้วยเสียงที่แหบแห้งแล้วหันไปพูดกับเฉินตงทั้งน้ำตา “คุณเฉินคะ ขะ ขอโทษนะคะ……หนู……”
เฉินตงส่ายหัวแล้วหยุดคำพูดของฟ่านลู่ไว้
จากนั้นเขาตบหน้าอกคุนหลุนเบาๆ แล้วถามเขาว่า “ยังลุกไหวมั้ย?”
“สบายมาก”
คุนหลุนเช็ดคราบเลือดที่มุมปากแล้วยิ้มพูดว่า “ผมคลานออกจากซากศพนับครั้งไม่ถ้วนแล้วนะ!”
ด้วยการช่วยเหลือของเฉินตงกับฟ่านลู่ คุนหลุนก็ค่อยๆ ลุกขึ้นยืนได้
คุนหลุนที่ดื้อรั้น ในที่สุดเขาก็ปล่อยมือจากเฉินตงกับฟ่านลู่และพยายามยืนด้วยตนเอง
เฉินตงยิ้มแล้วหันไปพูดกับโจวเห้า “คุณทำร้ายคนของผม แล้วจะชดใช้ยังไง?”
ยังไม่คิดจะจบเรื่องนี้ใช่ไหม?
โจวเห้าถอนหายใจและพยายามพูดด้วยรอยยิ้ม “ท่านประธานเฉินครับ ฟังผมอธิบายก่อน เพราะนางตัวแสบคนนี้ติดหนี้ผมไม่ยอมจ่ายเองนะครับ ผมเป็นลูกพี่ลูกน้องกับโจวจุนหลงนะ ถ้าไม่เกรงใจผมก็หัดเกรงใจพี่ผมด้วย……”
ก่อนที่เขาจะพูดจบ เฉินตงก็ยกมือขึ้นเพื่อขัดจังหวะเขา
“อย่าพูดเรื่องเงินเรื่องทองกับผม ตอนนี้ผมถามคุณว่าคุณจะรับผิดชอบยังไงกับคนของผมที่ถูกคุณทำร้าย?”
เป็นน้ำเสียงที่เย็นชาอย่างหาที่เปรียบไม่ได้อีก
ในฉากนี้คุนหลุนและฟ่านลู่ดูหม่นหมองทันที
เมื่อได้ยินคำพูดของเฉินตงสีหน้าของโจวห้าวก็เปลี่ยนไป เขาไม่สามารถทนต่อไปได้และพูดอย่างไม่เกรงใจว่า “เฉินตง คุณจำเป็นต้องทำให้ผมโกรธจริงๆ เหรอ? เป็นแค่ไก่เกาะอยู่บนกิ่งไม้แต่ทำตัวเหมือนหงส์? ใส่สูทผูกไทก็รีบไสหัวกลับไปนั่งที่ออฟฟิศซะ อย่ามาทำตัวกร่างแถวนี้ ถามหน่อยเถอะ สิบกว่าคนยืนอยู่ตรงหน้าคุณจะทำอะไรได้?”
“คุณเคยเห็นอันธพาลในชุดสูทไหม?”
เฉินตงยิ้มอย่างเย็นชา จากนั้นเงยหน้าขึ้นเพื่อคลายเนกไทที่คอแล้วพูดอย่างเย็นชาว่า “คุณมีสองทางเลือก หนึ่งคือคุณจะเป็นเหมือนคนของผม สองคือพวกคุณทุกคนจะเป็นเหมือนคนของผม!”