บทที่ 139 ความสุขสองเท่า
ตอนที่เฉินตงกลับถึงบ้าน
บรรยากาศภายในบ้านเต็มไปด้วยความสุข
ใบหน้าของทุกคนต่างฉาบไปด้วยรอยยิ้ม
ฟ่านลู่และแม่ของเขา จัดเตรียมอาหารชั้นเลิศเอาไว้มากมายเต็มโต๊ะ รวมไปถึงไวน์แดง เพื่อเป็นการแสดงความยินดี
“ทุกคนรู้เรื่องหมดแล้วหรือ ?”
ที่เฉินตงรีบร้อนกลับมา ประการแรกก็เพื่อที่จะเตรียมวางแผนการดำเนินงานหลังจากนี้ของไท่ติ่ง ส่วนอีกประการหนึ่งคือต้องการที่จะมาบอกข่าวดีกับทุกคน
“สั่นสะเทือนไปทั้งเมืองแล้ว รู้ตั้งนานแล้ว”
หลี่หลานยิ้มและพูดกระตุ้นว่า : “ครั้งนี้เหมือนตายแล้วเกิดใหม่ ตงเอ๋อ ลูกช่าโชคดีจริงๆ มัวยืนบื้ออยู่ทำไม รีบไปล้างมือเร็วเข้า”
“ใช่แล้วๆ คุณชาย คุณผู้หญิงกับเสี่ยวลู่ง่วนอยู่ในครัวตลอดทั้งบ่ายเลยนะ” คุนหลุนพูดเสริม
เฉินตงเพิ่งจะกินข้าเย็นมา แต่เมื่อเห็นคนในบ้านกำลังมีความสุข เขาจึงไม่ปฏิเสธ ยิ้มแล้วเดินเข้าไปล้างมือในห้อครัว จากนั้นทั้งครอบครัวก็นั่งร่วมโต๊ะกันอย่างมีความสุข
ท่านหลงยกแก้วขึ้นมาก่อน เขายิ้มแล้วพูดว่า : “ความสุขสองเท่า ฉลอง !”
ขณะที่ทุกคนกำลังชนแก้วกันนั้น เฉินตงกลับเลิกคิ้ว : “ความสุขสองเท่า ? ยังมีเรื่องน่ายินดีอะไรอีกหรือ ? ไม่ใช่ว่าฉลองเรื่องที่เราสามารถรักษาบริษัทเอาไว้ได้หรอกหรือ บริษัทชิงหยิ่นยื่นมือเข้ามาช่วยให้ราคาอสังหาริมทรัพย์ของเรามีเสถียรภาพ ?”
พวกหลี่หลานหันมองหน้ากัน จากนั้นจึงยิ้มออกมาด้วยท่าทีแปลกประหลาด
หลังจากนั้นท่านหลงก็วางแก้วลงแล้วลุกขึ้น จากนั้นจึงพูดว่า : “คุณชาย เชิญมากับกระผมหน่อยครับ ผมจะให้คุณดูเรื่องน่ายินดีอีกเรื่อง”
เฉินตงเดินตามท่านหลงไปยังห้องรับแขกด้วยความสงสัย
มีรอยยิ้มแปลกๆ ปรากฏขึ้นบนใบหน้าของท่านหลงตั้งแต่ต้นจนจบ
ท่านหลงหยิบรีโมทคอนโทรลขึ้นมา จากนั้นจึงกดเปิดโทรทัศน์
ตอนนี้เอง เป็นเวลานำเสนอข่าวภาคค่ำของเมืองนี้พอดี
ข่าวใกล้จะจบแล้ว
เมื่อเห็นการรายงานข่าวข่าวหนึ่ง ก็มีเสียงดัง “เปรี้ยง” เกิดขึ้นในหัวของเฉินตง
“ยี่เคอ กรุ๊ปประกาศอย่างเป็นทางการว่า จะเริ่มดำเนินแผนการลงทุนทางภาคตะวันตกของเมืองที่งับเอาไว้ก่อนหน้านี้ต่อไป”
มีเพียงเนื้อหาข่าวสั้นๆ ที่ไม่ได้ลงรายละเอียดอะไร
มีความยาวเพียงแค่ไม่กี่วินาทีเท่านั้น !
แต่กลับไม่กระทบถึงอานุภาพอันร้ายแรงของข่าวนี้เลยแม้แต่น้อย
ต่อให้เป็นเฉินตงเอง ก็รู้สึกสั่นสะเทือนไปพักใหญ่ จากนั่นจึงค่อยๆ ตั้งสติกลับมาได้
เขาหันมองท่านหลงด้วยความรู้สึกเหลือเชื่อ : “ชนะ……แล้ว ?”
“คุณชายชนะแล้ว” ท่านหลงยิ้มพร้อมกับพยักหน้า “กระผมเองก็เพิ่งได้ข่าวเมื่อช่วงบ่าย”
เปรี้ยง !
เฉินตงรู้สึกเหมือนถูกฟ้าผ่า หัวใจของเขาเต้นระส่ำจนไม่เป็นจังหวะ
ใบหน้าของเขาเริ่มแดง จังหวะการหายใจเริ่มเร็วขึ้น ลำคอเคลื่อนไหวรุนแรง
ด้วยนิสัยพื้นฐาน ตอนนี้ในใจของเขาเหมือนกำลังมีคลื่นซัดถาโถมอยู่ และเป็นการยากที่จะสงบสติอารมณ์เอาไว้ได้
ในช่วงวิกฤตที่ไท่ตงกำลังจะพังพินาศลง
บริษัทชิงหยิ่นได้ยืนมือเข้ามาช่วยเพื่อรักษาเสถียรภาพของราคาอสังหาริมทรัพย์เอาไว้
แต่ตอนนี้ยี่เคอ กรุ๊ปกลับขว้างระเบิดลงในเมืองอีกครั้ง คิดที่จะกลับเข้ามาปักหลักใหม่
นี่หมายถึงอะไร เฉินตงรู้ดีกว่าใคร !
ฝั่งหนึ่งเป็นบริษัทระดับนานาชาติ ส่วนอีกฝั่งเป็นบริษัทชั้นแนวหน้าของประเทศ
สองยักษ์ใหญ่ที่แข็งแกร่งต้องการที่จะเข้ามาปักหลักในภาคตะวันตกพร้อมกัน ราคาอสังหาริมทรัพย์……จะต้องพุ่งทะยานอย่างแน่นอน !
สำหรับเฉินตงแล้ว การที่บริษัทชิงหยิ่นเข้ามาปักหลัก ทำให้เขาและไท่ติ่งสามารถปีนขึ้นมาจากขุมนรกได้
ส่วนตอนนี้ การที่ยี่เคอ กรุ๊ปเข้ามาปักหลัก ทำให้เขาและไท่ติ่งสามารถบินขึ้นไปบนสวรรค์ได้ !
“ฉลอง ต้องฉลองจริงๆ !”
ตาของเฉินตงแดงก่ำแล้ว สองวันมานี้ เขาต้องแบกรับแรงกดดันที่มหาศาล
ความรู้สึกเหมือนไร้ซึ่งความสามารถ ทำได้เพียงลุ้นว่าจะต้องรอคอยความตายหรือจะสามารถฟื้นคืนชีพกลับมาได้อีกครั้ง ถึงขั้นทำให้เขารู้สึกหายใจไม่ทั่วท้อง
มาวันนี้ กลับเกิดเรื่องน่ายินดีขึ้นเป็นสองเท่า
ทำให้เขารู้สึกหายใจทั่วท้องและโล่งอกจริงๆ
“ฮ่าฮ่าฮ่า……ต้องฉลอง !” ท่านหลงหัวเราะร่า รีบกลับไปนั่งที่โต๊ะอาหารพร้อมกับเฉินตง
ทั้งครอบครัวร่วมแสดงความยินดีพร้อมกันอย่างมีความสุข
หลังจากดื่มฉลองและทานอาหารร่วมกันแล้ว
เฉินตงเริ่มเมามาย ถ้าไม่ใช่เพราะมีแม่คอยปรามอยู่ เขาเองก็คงจะดื่มเพื่อเฉลิมฉลองต่อไปเรื่อยๆ
วันนี้ถือเป็นวันที่เกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ขึ้นจริงๆ
หลี่หลานและฟ่านลู่ง่วนอยู่กับการจัดเก็บโต๊ะอาหาร
ส่วนเฉินตงนั้นเดินโซเซไปยังระเบียงพร้อมกับท่านหลงและคุนหลุน
“ท่านหลง คุนหลุน พวกนายรู้ไหม ? สองวันมานี้ ฉันถึงขั้นเตรียมใจที่จะก้าวลงสู่นรกแล้ว”
เฉินตงนอนลงบนเก้าอี้ สายลมยามค่ำคืนพัดมา เขายิ้มอย่างมีความสุข : “คิดไม่ถึงเลยว่า สวรรค์จะไม่ใจร้ายกับคนอย่างฉัน เฉินตง เกิดเรื่องยินดีขึ้นสองเท่า ทำให้ฉันยังพอมีคุณสมบัติที่จะไปแข่งขันกับพวกหัวกะทิของตะกูลเฉินเหล่านั้นได้ มารอดูว่าท้ายที่สุดแล้ว ใครจะได้เป็นพระราชาตัวจริงกันแน่ !”
ท่านหลงและคุนหลุนต่างก็หัวเราะ ทั้งสองก็ดื่มเหล้าไปไม่น้อยเช่นกัน
ยิ่งมีสายลมยามค่ำคืนพัดมา ยิ่งทำให้เมามายยิ่งขึ้น
“คุณชาย บริษัทชิงหยิ่นเกี่ยวข้องอะไรกับคุณ ?” จู่ๆ ท่านหลงก็ถามขึ้นมา
คนทั่วไปไม่รู้ แต่เขากลับรู้ดีกว่าใคร
จู่ๆ บริษัทใหญ่ระดับนานาชาติก็ประกาศว่าจะเข้ามาลงทุนในเมืองนี้ เพียงเพื่อที่จะให้ประธานบริษัทตอบแทนบุญคุณบ้านเกิดเท่านั้นหรือ ?
นั่นมันฟังดูไร้สาระสิ้นดี !
บริษัทชิงหยิ่นมาเพื่อที่จะช่วยไท่ติ่ง !
เฉินตงหัวเราะเบาๆ แล้วพูดด้วยความเมา : “ข้าวนุ่ม……หอมจริงๆ”
“กู้ชิงหยิ่ง ?” ท่านหลงผงะไป จากนั้นจึงยิ้มออกมาแล้วส่ายหัว : “น่าอาย น่าอายจริงๆ……กระผมคิดไม่ถึงเลยว่า ครอบครัวของหญิงสาวคนนี้จะมีชื่อเสียงขนาดนี้ !”
……
ขณะที่พวกของเฉินตงกำลังยืนตากลมอยู่ที่ระเบียง
หลังจากการายงานข่าวภาคค่ำสิ้นสุดลง ก็มีลมพายุพัดไปทั้งเมืองอีกครั้ง
เกิดแผ่นดินไหวครั้งใหญ่ทั้งเมือง !
ทุกคนต่างตกตะลึงไปหมด
ใครจะไปคิดว่ายี่เคอ กรุ๊ปที่ประกาศระงับโครงการแล้ว จู่ๆ จะกลับลำหันมาปักหลักในภาคตะวันตกของเมืองนี้อีกครั้ง ?
บริษัทขนาดใหญ่เช่นนี้ กำลังคิดที่จะเล่นตลกอะไรอยู่กันแน่ ?
หลังจากความตื่นตระหนกผ่านพ้นไป ทุกคนก็ตระหนักได้ถึงความจริงข้อหนึ่ง
ราคาอสังหาริมทรัพย์ในภาคตะวันตก……จะพุ่งทะยานขึ้นอีกครั้ง !
ภายในระยะเวลาสองวันสั้นๆ ตั้งแต่การกรูกันไปขายบ้านคืน ทุกคนต่างพูดด้วยความโศกเศร้า มาบัดนี้ราคากลับพุ่งทะยานขึ้นเหมือนกับจรวด !
ไม่มีใครเข้าไปวิเคราะห์อย่างจริงจังว่า เพราะเหตุใดบริษัทยักษ์ใหญ่ทั้งสองถึงได้เข้ามาปักหลักในภาคตะวันตก
ตอนนี้ความสนใจของทุกคนต่างรวมอยู่ที่ภาคตะวันตกของเมือง
ตอนนี้สถานที่แห่งนี้ถือเป็นบ่อทองจริงๆ !
ในสายตาของนักเก็กำไร ภาคตะวันตกกลายเป็นสถานที่ทำเงินไปเสียแล้ว
หากคว้าบ้านมาได้สักหลัง ก็เพียงพอที่จะทำกำไรก้อนโตได้แล้ว
อีกทั้งตอนนี้โครงการปฏิรูปย่านสลัมที่ภาคตะวันตกของเมืองอยู่ในมือของเฉินตง ไท่ติ่งจึงมีอสังหาริมทรัพย์อยู่ในภาคตะวันตกมากที่สุด
คนทั้งเมืองต่างตั้งหน้าตั้งตารอให้ถึงเวลาฟ้าสาง เพื่อที่จะรีบมุ่งหน้าไปยังภาคตะวันตกของเมืองในทันที
ส่วนบรรดาผู้ซื้อที่เดิมทีกำลังมีความสุขอยู่กับการคืนบ้านได้สำเร็จ ภายในระยะเวลาสั้นๆ เพียงวันเดียว เหมือนมีฟ้าผ่าลงมากลางวันแสกๆ ติดๆ กันถึงสองครั้ง ทำให้พวกเขารู้สึกเหมือนฟ้าถล่มลงมาจริงๆ
บางคนเพียงแค่รู้สึกเสียดายและโกรธตัวเอง รู้สึกเสียใจจนแทบอยากจะตบหน้าตัวเอง และตะโกนโห่ร้องออกมาด้วยความโศกเศร้า
ส่วนอีกเกือบ 10 % ที่เหลือที่ยังไม่ได้ขายบ้านคืน ตอนนี้กลับหัวเราะร่าออกมา และกำลังเปิดแชมเปญฉลอง
ค่ำคืนนี้ มีทั้งคนที่มีความสุขและคนที่มีความทุกข์
หากมีเสียงร้องไห้ด้วยความโศกเศร้าดังออกมา
เพื่อนบ้านก็พอจะรู้ได้ทันทีเลยว่า นั่นเป็นเสียงของคนที่ขายบ้านคืน
ที่บ้านตระกูลหวาง
บรรยากาศกลับดูเยือกเย็น
โทรทัศน์เปิดอยู่
หวางเต๋อกำลังก้มหน้าสูบบุหรี่ ที่เขี่ยบุหรี่ที่วางอยู่ตรงหน้าเต็มไปด้วยก้นบุหรี่ ยังมีหลายมวนที่ยังหลงเหลือควันอยู่
จางซิ่วจือนั่งนิ่งอยู่บนโซฟา ใบหน้าเปลี่ยนเป็นสีแดงคล้ำ ปากเอาแต่บ่นพึมพำไม่หยุด
“เพราะอะไร ? เพราะอะไร ? เฉินตงควรจะล้มละลายและฆ่าตัวตายไม่ใช่หรือ ? แล้วทำไมเขาถึงพลิกฟื้นกลับมาได้อีก ? ควรตาย……ควรจะตายไปซะถึงจะถูก……”
หลังจากทั้งสองดูข่าวจบ ในใจก็ไม่อาจสงบลงได้อยู่เป็นเวลานาน
ในความเป็นจริงแล้ว ที่ตระกูลหวางเกิดเรื่องขึ้นในช่วงนี้ ภายในครอบครัวเองก็ได้รับความกดดันไม่น้อย
และความรู้สึกเช่นนี้ ทำให้จางซิ่วจือโยนความผิดไปให้กับเฉินตง
นอกเหนือจากการสาปแช่งแล้ว แม้กระทั่งประตูใหญ่ของคฤหาสน์เฉินตง พวกเขาเองก็ไม่สามารถเข้าไปได้
ตอนที่รู้ว่าทั้งเมืองกำลังเทขายบ้านคืน จางซิ่งจือรู้สึกว่าการแก้แค้นสำเร็จแล้ว ตื่นเต้นถึงขนาดเปิดเหล้าฉลองกันภายในบ้าน
เธอถึงขนาดจินตนาการว่าเฉินตงจะต้องล้มละลายและฆ่าตัวตายในที่สุด สิ่งนี้ทำให้เธอรู้สึกมีความสุขเป็นอย่างมาก
แต่ชั่วพริบตาเดียว เฉินตงกลับพลิกฟื้นกลับมาได้อีกครั้ง !
ไม่เพียงแต่พลิกฟื้นกลับมาได้เท่านั้น แต่กลับมั่งคั่งกว่าแต่ก่อนเสียด้วย
สิ่งนี้ทำให้จางซิ่วจือรู้สึกเหมือนถูกมีดกรีดที่หัวใจ โกรธจนไม่สามารถสงบสติอารมณ์เอาไว้ได้
แอ๊ด……
ประตูเปิดออก หวางเห้ากลับมาแล้ว
เมื่อเห็นพ่อแม่อยู่ในอาการโศกเศร้า หวางเห้าจึงไม่กล้าถามอะไรมาก ทำเพียงแค่เหลือบมองเข้าไปในห้องแล้วพูดว่า : “พ่อ แม่ แล้วพี่ล่ะ ?”
“เด็กนั่นอาบน้ำอยู่อีกแล้ว !”
จางซิ่วจือโกรธจนไม่อาจควบคุมอารมณ์ได้ จู่ๆ เธอก็ลุกขึ้น แล้วเดินตรงไปที่ห้องน้ำ
ภาพที่เกิดขึ้นทำให้หวางเต๋อและหวางเห้าตกใจเป็นอย่างมาก
ทั้งสองคิดจะเข้าไปขวาง แต่กลับไม่สามารถขวางได้
ปัง !
จางซิ่งจือใช้เท้าถีบประตูห้องน้ำจนเปิดออก จากนั้นจึงตรงเข้าไปกระชากผมของหวางหนันหนันออกมาแล้วตบเข้าไปที่ใบหน้าของหวางหนันหนันอย่างแรง
“ผู้หญิงไร้ราคาอย่างแก จะอาบอะไรกันนักกันหนา ? ค่าน้ำไม่ต้องเสียหรือยังไง ? ดูเรื่องงามหน้าที่แกทำเอาไว้สิ เฉินตงทั้งมีความสามารถทั้งรวยขนาดนั้น ทำไมตอนนั้นแกถึงต้องหย่ากับเขาด้วย ? หา ?”
ขณะที่เสียงกรีดร้องดังขึ้น ภายในห้องน้ำยังคงมีเสียงร้องของหวางหนันหนันดังก้องอยู่