The Winner is king ผู้ชนะเลศคือราชา – ตอนที่ 184

ตอนที่ 184

คำพูดล้อเล่นที่ดังออกมาอย่างกะทันหัน

ทำให้พวกของเฉินตงทั้งสามคนอึ้งไปพร้อมกัน

เฉินตงยิ้มออกมาอย่างเก้อเขิน : “เขามีงานอดิเรกแบบนี้ด้วยหรือ ?”

“ความรักที่โหยหาระหว่างชายหญิง ถือเป็นเรื่องธรรมชาติของมนุษย์” ท่านหลงยิ้มแบบเก้อเขิน

ก๊อกก๊อกก๊อก !

เฉินตงเคาะประตูอีกครั้ง

มีเสียงของความโมโหดังออกมาจากภายในห้อง

“นี่พวกคุณบังคับผมเองนะ พวกคุณบังคับผมเองนะ วันนี้ผมจะขอสู้ตายกับพวกคุณ !”

แอ๊ด !

ประตูเปิดออก

เป็นชายหนุ่มรูปร่างหน้าตาหล่อเหลา แต่ใบหน้ากลับดูซีดเซียวเล็กน้อย อีกทั้งยังมีรอยคล้ำรอบดวงตา เดินออกมาจากห้องด้วยความโกรธ

เมื่อฉินเย่มองเห็นพวกของเฉิน ก็ผงะไป

ความโกรธที่ปรากฏอยู่บนใบหน้าจางหายไปทันที แต่กลับมีท่าทีของความเฉื่อยชาและอ่อนแรงปรากฏขึ้นมาแทน

“พวกคุณคือใคร ?”

“สวัสดีฉินเย่ ฉันชื่อเฉินตง……”

เฉินตงยิ้มเล็กน้อย จากนั้นจึงกล่าวแนะนำตัว

แต่ยังไม่ทันจะพูดจบ

ปัง !

ฉินเย่ปิดประตูห้องอย่างหยาบคายและรุนแรง พร้อมกับตะโกนว่า : “ถ้าไม่ใช่ผู้หญิง ก็ไสหัวไปให้พ้น !”

ตรงไปตรงมาขนาดนี้เลยหรือ ?

เฉินตงทำสีหน้าจนใจ

นี่จะเรียกว่าเชิญยากได้อย่างไร แม้กระทั่งโอกาสที่จะเชิญก็ยังไม่มีเลย

คุนหลุนแสดงท่าทีของความโกรธออกมา เขาก้าวขึ้นไปข้างหน้า กำลังยกเท้าขึ้นเพื่อที่จะถีบประตู แต่กลับถูกเฉินตงห้ามเอาไว้

ท่านหลงเคาะประตูใหม่อีกครั้ง เขายิ้มพลางพูดว่า : “ฉินเย่ ฉันคือท่านหลง เป็นคนของตระกูลเฉินคนนั้น”

แอ๊ด !

ประตูเปิดออกอีกครั้ง

ฉินเย่แววตาเป็นประกาย เขาจ้องมองไปที่ท่านหลง : “อ้าว ผู้เฒ่าหลง เมื่อครู่ผมเวียนหัวจึงไม่อาจจำคุณได้ในตอนแรก คุณมาที่ซีสู่เพื่อตั้งใจจะชวนผมออกไปเที่ยวโดยเฉพาะใช่ไหม ?”

เพียงประโยคเดียวทำให้ใบหน้าของท่านหลงแดงก่ำ และไอออกมาอย่างรุนแรง

เฉินตงและคุนหลุนหันมองท่านหลงด้วยแววตาแปลกๆ พร้อมกัน

คุนหลุนพูดขึ้นด้วยความประหลาดใจว่า : “ท่านหลง ปกติแล้วคุณก็มีงานอดิเรกเช่นนี้เหมือนกันหรือ ?”

เฉินตงนิ่งเงียบไม่พูดไม่จา แต่กลับหันไปยกนิ้วหัวแม่มือให้กับท่านหลง

คนที่มีความทะเยอะทะยานต่อให้แก่แล้วก็ยังคงทะเยอทะยานอยู่ !

ความทะเยอทะยานของวีรบุรุษนั้น ไม่มีวันสูญสิ้นไปตามกาลเวลา !

“แหม ผู้เฒ่าหลง คุณพูดอะไรหน่อยสิ คุณนี่จริงๆ เลย ยังไม่ทันได้พูดได้จาก็มาเสียแล้ว ทำให้ผมไม่ทันได้เตรียมตัว แล้วแบบนี้จะแลกเปลี่ยนทักษะกับคุณได้อย่างไร ?”

เมื่อฉินเย่เห็นท่านหลงก็เปลี่ยนไปเป็นคนละคน เขายิ้มพลางโอบไหล่ของท่านหลงแล้วเดินเข้าไปในห้อง

เฉินตงและคุนหลุนเดินตามไปทางด้านหลัง ต่างก็หันมองหน้ากัน

เด็กหนุ่มคนหนึ่ง อยากจะแลกเปลี่ยนทักษะกับท่านหลง ?

ท่านหลงปิดบังไว้ได้แนบเนียนจริงๆ

“ฉินเย่ ที่ผมมาหาคุณในครั้งนี้ เพราะมีธุระสำคัญ”

ท่านหลงไม่อาจปั้นหน้าได้อีกต่อไป เขารีบเปลี่ยนหัวข้อสนทนา แล้วชี้ไปที่เฉินตง จากนั้นจึงกล่าวแนะนำว่า : “นี่คือคุณชายของตระกูลผม”

“คุณชายตระกูลเฉิน ?”

ฉินเย่เลิกคิ้ว เขาหันไปมองเฉินตงแล้วยิ้ม จากนั้นจึงยื่นมือขวาออกไป : “สวัสดีครับ ผมชื่อฉินเย่ ถ้ามีเวลาว่างก็มาแลกเปลี่ยนทักษะกันได้นะ ?”

เฉินตง : “……”

เขาไม่สนใจงานอดิเรกด้านนี้จริงๆ

เขาค่อนข้างจงรักภักดีกับชีวิตแต่งงาน

แต่โดยมารยาทแล้ว เฉินตงก็ยังคงยอมจับมือกับฉินเย่เพื่อแสดงการทักทาย

จากนั้นฉินเย่ก็หันไปมองคุนหลุนด้วยสายตาที่แปลกประหลาด : “โอ้โห ดูจากร่างกายของพี่ชายคนนี้แล้ว ถ้าหากแลกเปลี่ยนทักษะกันคงจะต้องเป็นที่หนึ่งอย่างแน่นอน !”

ต่อให้เป็นคุนหลุนก็รู้สึกหน้าแดงเพราะคำพูดประโยคนี้ได้

ท่านหลงไปอาจปั้นสีหน้าต่อไปได้อีก จึงรีบพูดออกไปตามตรง : “ฉินเย่ ที่ผมกับคุณชายมาที่นี่ ก็เพื่อต้องการที่จะเชิญคุณไปร่วมกับเปิดบริษัททางการเงิน !”

หลังจากได้ยินดังนั้น

รอยยิ้มบนใบหน้าของฉินเย่ก็จางหายไปทันที

เขาเหล่มองท่านหลงด้วยใบหน้าที่เย็นชา จากนั้นจึงหันกลับไปนั่งที่ริมหน้าต่าง แล้วจุดบุหรี่หนึ่งมวน

“ผู้เฒ่าหลง คุณก็รู้ดีนี่ มิตรภาพของเราถูกจำกัดอยู่แค่เรื่องของการแลกเปลี่ยนทักษะเท่านั้น ส่วนเรื่องอื่น ผมไม่สนใจ”

ท่านหลงยิ้มอย่างทำตัวไม่ถูก : “ฉินเย่ ผมมาที่นี่ด้วยความจริงใจ คุณชายของผมเป็นหนึ่งในผู้สืบทอดมรดกของตระกูลเฉิน ต่อไปก็จะขึ้นเป็นเจ้าบ้านตระกูลเฉิน ถ้าหากได้ความร่วมมือจากคุณแล้วล่ะก็ คุณชายของผมจะต้องยิ่งแข็งแกร่งขึ้นอย่างแน่นอน”

เฉินตงนั่งนิ่งไปพูดอะไร

เขาคิดไม่ถึงว่าท่านหลงและฉินเย่จะมีความสัมพันธ์กันในลักษณะนี้ด้วย

ดังนั้นการเชื้อเชิญในครั้งนี้ จึงควรปล่อยให้เป็นหน้าที่ของท่านหลง

ด้วยบุคลิกที่แปลกประหลาดของฉินเย่ หากเขาเอ่ยปากคงไม่มีพื้นที่สำหรับให้เขาได้เจรจา

“ผู้สืบทอดมรดกตระกูลเฉิน ? เฉินตง ?”

ฉินเย่พ่นควันบุหรี่ออกมา ใบหน้าเต็มไปด้วยความบูดบึ้งและดูถูกเยาะเย้ย : “นี่เป็นครั้งแรกที่ผมได้ยินว่าผู้สืบทอดมรดกของตระกูลเฉินมีคนที่ชื่อว่าเฉินตงด้วย คงไม่ใช่ลิงป่าที่กระโดดออกมาจากก้อนหินนั่นหรอกใช่ไหม ?”

เสียงหัวเราะทำให้เฉินตงนั่งตัวแข็งทื่อในทันที

ส่วนท่านหลงเองก็หน้าถอดสี เขารีบพูดขึ้นอย่างรวดเร็ว : “ฉินเย่ นิสัยปากเสียของเธอยังคงแก้ไม่หายจริงๆ !”

ฉินเย่ยักไหล่ : “ช่างเถอะผู้เฒ่าหลง ถ้าคุณอยากจะแลกเปลี่ยนทักษะจริงๆ ผมจะยอมอยู่เป็นเพื่อนคุณสามวันสามคืนเลย แต่ถ้าหากคุณมาเพื่อจะเชิญผม พวกเราก็ไม่มีอะไรต้องคุยกันอีก ตระกูลเฉินกับตระกูลฉินไม่ยุ่งเกี่ยวกัน คุณต้องแน่แค่ไหน ที่กล้ามาเชิญคนตระกูลฉินอย่างผมไปช่วยคนตระกูลเฉินของพวกคุณ ?”

บรรยากาศภายในห้องเงียบสงัดในทันที

คำพูดเพียงประโยคเดียว กลับทำให้ท่านหลงไม่อาจหาเหตุผลมาหักล้างได้

ทันได้นั้น ก็มีเสียงหัวเราะเยาะดังขึ้น

“คุณ ยังถือเป็นคนตระกูลฉินอีกหรือ ?”

เฉินตงยิ้มแล้วหันมองฉินเย่ด้วยสายตาที่เฉียบคม

ตุ๊บ !

ฉินเย่โยนบุหรี่ลงบนพื้นทันที จากนั้นจึงลุกขึ้นมาด้วยความโมโห : “คุณหมายความว่าอย่างไร ?”

บรรยากาศของความโกรธเกรี้ยวปะทุขึ้น

คุนหลุนก้าวเข้าไปข้างหน้าอย่างรวดเร็วเพื่อปกป้องเฉินตง

ท่านหลงเองก็รีบก้าวขึ้นไปข้างหน้าเพื่อขวางฉินเย่เอาไว้ด้วยเช่นกัน : “พ่อหนุ่ม ใจเย็นหน่อยได้ไหม ?”

ฉินเย่กลับตะคอกกลับมาด้วยความโมโห : “ผมคิดที่จะฆ่าเขาเสียด้วยซ้ำ คุณยังจะเตือนให้ผมใจเย็นอีกหรือ ?”

ท่านหลงรู้สึกตกใจมาก

ฉินเย่เคยฆ่าพ่อของตัวเอง

ถึงจะมีความลับบางอย่างที่ซ่อนอยู่ แต่เรื่องที่ฆ่าคนนั้นก็ยังคงเป็นความจริงที่เกิดขึ้น

เขาไม่กล้าแม้แต่จะคิดสงสัยว่าสิ่งที่ฉินเย่พูดออกมานั้นจริงจังหรือไม่ !

หลังจากนั้น

เฉินตงกลับยิ้มแล้วพูดว่า

“คนที่ฆ่าพ่อของตัวเอง จนต้องใช้เงินหลายหมื่นล้านเพื่อซื้อชีวิตเอาไว้ แล้วนายยังจะมาบอกกับฉันว่านายเป็นคนของตระกูลฉินอีก ? เรื่องตลกนี้ช่างน่าขำสิ้นดี !”

เฉินตงเดินก้าวเข้าไปข้างหน้า จนไปยืนอยู่ด้านหน้าของคุนหลุน

แววตาเฉียบคมของเขาจ้องเขม็งไปที่ฉินเย่ด้วยความโมโห แล้วยิ้มออกมาอย่างเยาะเย้ย : “นายก็เหมือนกับฉัน เป็นลิงป่าที่กระโดดออกมาจากหลังก้อนหินเหมือนกัน แล้วจะสนใจเรื่องฐานะไปทำไม ? จะทำตัวเหมือนอนุสรณ์ แสร้งทำเป็นคนดีอย่างนั้นหรือ ?”

คำพูดรุนแรงกับมีดอันแหลมคมที่กรีดลงมา

สีหน้าของท่านหลงและหลุนคุนเปลี่ยนไปอย่างมาก หันมองไปที่เฉินตงอย่างไม่อยากเชื่อหูตัวเอง

นี่……คือคุณชายจริงๆ หรือ ?

ตอนนี้ ทั้งสองรู้สึกเหมือนเฉินตงเปลี่ยนไปเป็นคนละคน

“นี่……คือมารยาทที่คุณใช้เชิญผมอย่างนั้นหรือ ?”

ฉินเย่แสยะยิ้ม เขาจ้องมองเฉินตงด้วยแววตาที่ดุดัน ราวกับหมาป่าที่กำลังกระหายเลือด

จากนั้น

ตอนนี้เอง

จู่ๆ โทรศัพท์มือถือของเฉินตงก็ดังขึ้น

ฟ่านลู่เป็นคนโทรเข้ามา

เฉินตงขมวดคิ้ว แล้วกดรับโทรศัพท์

ทันใดนั้น เขาก็มีท่าทีที่โกรธเกรี้ยวขึ้นมาทันที แววตาเต็มไปด้วยความเดือดดาล

ตู๊ด !

เขากดวางสายโทรศัพท์

ฉินตรงพูดอย่างตรงไปตรงมาว่า : “ไม่เชิญแล้ว รีบไปเมืองหลวงเดี๋ยวนี้เลย”

เปรี้ยง !

ท่านหลงและคุนหลุนรู้สึกตกตะลึงพร้อมกัน

ท่านหลงรีบเอ่ยถาม : “คุณชาย เกิดอะไรขึ้นครับ ?”

เฉินตงกำมือถือเอาไว้แน่น จนได้ยินเสียงกระดูกดังกรอด หางตาของเขามีเส้นเลือดนูนขึ้นมา

“แม่ของฉัน ถูกไอ้บ้านั่นลักพาตัวกลับตระกูลหลี่ไปแล้ว !”

ท่านหลงกับคุนหลุนหน้าถอดสีทันที

จากนั้นก็มีเสียงเย็นชาราวกับน้ำแข็งของเฉินตงดังก้องกังวานขึ้นมาในห้อง

“ฉันยอมเขาจนถึงที่สุดแล้ว แต่เขาก็ยังกล้าแตะต้องแม่ของฉัน ถ้าเช่นนั้นก็อย่าโทษถ้าฉันถล่มตระกูลหลี่จนราบเป็นหน้ากลองก็แล้วกัน !”

พูดจบ เฉินตงก็หันหลังเดินจากไป

ท่านหลงและคุนหลุนหันมองหน้ากัน

ท่านหลงพูดว่า : “รีบไปเมืองหลวงก่อน ฉันจะรับติดต่อเจ้าบ้านทันที”

ทั้งสองรู้ดีว่า แม่คือสิ่งล้ำค่าที่สุดของเฉินตง

ใครจะมาแตะต้องไม่ได้ !

ตอนนี้เกิดเรื่องใหญ่ขนาดนี้ขึ้น เฉินตงไม่มีทางยอมนิ่งดูดายแน่นอน

แต่ตระกูลหลี่สำหรับเฉินตงในตอนนี้ ก็ยังคงเป็นเหมือนสัตว์ประหลาดตัวมหึมา

ขณะที่ทั้งสามกำลังเดินออกจากห้องไป

จู่ๆ ก็มีเสียงหัวเราะของฉินเย่ดังขึ้นมาจากทางด้านหลัง

“เฮ้……ฟังดูแล้วก็น่าสนุกดีนะ ฉันอยู่นี่ก็รู้สึกเบื่อๆ ขอไปกับพวกคุณด้วยก็แล้วกัน ?”

The Winner is king ผู้ชนะเลศคือราชา

The Winner is king ผู้ชนะเลศคือราชา

เฉินตงกับหวางหนันหนันแต่งงานกัน3ปี ถูกภรรยาที่ยกน้องชายเป็นหัวแก้วหัวแหวนบีบคั้น แล้วยังถูกดูถูกเหยียดหยาม วันหนึ่งได้กลับตระกูลมหาเศรษฐี เขาสาบานว่าต้องกอบกู้ศักดิ์ศรีกลับคืนมา ต้องทำให้คนที่ดูถูกเขาเสียใจกับสิ่งที่ทำ ให้คนที่เหยียดหยามเขาต้องชดใช้อย่างสาสม

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท