หลังจากได้ยิน
ท่านเมิ่ง โจวเย่นชิวและคนอื่นๆ ต่างก็แสดงสีหน้าที่ดูแปลกออกมาในเวลาเดียวกัน
ไม่มีใครกล้ารับคำขอโทษของเฉินตงจริงๆ
ยิ่งไปกว่านั้น เฉินตงมีความผิดอย่างนั้นหรือ ?
การที่เขามาถึงยังที่นัดหมายตรงตามเวลา แสดงให้เห็นว่าไม่มีความผิด
แต่กลับเป็นคุณท่านใหญ่หลี่ที่พยายามใช้อำนาจข่มเหงผู้อื่น
คุณท่านใหญ่หลี่นั่งอยู่ตรงที่นั่งหลัก ด้วยสีหน้าขึงขัง
เดิมทีเขาตั้งใจจะถือโอกาสใช้อาหารมื้อนี้ เปิดเผยความลับของตระกูลหลี่ให้เฉินตงได้รับรู้
ต่อให้เมืองเล็กๆ แห่งนี้ เพียงแค่กวักมือก็สามารถเรียกผู้มีอิทธิพลของเมืองนี้มาได้ทั้งเมือง
แต่ในบรรดาคนเหล่านี้ ในสายตาของเขาแล้ว ดูเหมือนว่าเฉินตงจะเป็นคนที่ปกติแล้วน่าจะเชื้อเชิญมาได้ยากที่สุด
ตอนนี้บริษัทอสังหาริมทรัพย์ไท่ตงถือว่าเป็นธุรกิจที่อยู่ในช่วงขาขึ้นของเมืองนี้ก็ว่าได้ แต่อย่างไรเสียก็ยังไม่อยู่ในสายตาของคุณท่านใหญ่หลี่อยู่ดี
เงินและเส้นสาย เป็นสองสิ่งที่แตกต่างกัน อีกทั้งเส้นสายนั้นสำคัญกว่าเงินมาก !
แต่เฉินตงกลับวางมาดเหมือนคนที่ไร้สมอง
นี่ทำให้สิ่งที่เขาวางแผนมาทั้งหมดต้องสูญเปล่า
ตึง !
คุณท่านใหญ่หลี่ที่กำลังโกรธจัดเคาะไม้เท้าอย่างแรงลงบนพื้น
“เสี่ยวโจว……”
เสียงของความโมโหดังลอดออกมาจากไรฟัน
โจวเย่นชิวสะดุ้งเฮือก สีหน้าที่เดิมทีก็ดูแปลกประหลาดอยู่แล้ว ตอนนี้กลับยิ่งดูน่าเกลียดไปกว่าเดิม
เขาเดินเข้าไปหาคุณท่านใหญ่หลี่ พร้อมทั้งแสดงท่าทีสวามิภักดิ์ต่อคุณท่านใหญ่หลี่
แต่เขาคิดไม่ถึงเลยว่า ตัวเอกในการรับประทานอาหารร่วมกันในครั้งนี้ จะเป็นเฉินตงไปได้ !
นี่……ไม่ทำกับว่ารนหาที่ให้เขาหรอกหรือ ?
วางตัวลำบากจริงๆ !
เมื่อได้ยิน
เฉินตงก็แสยะยิ้มออกมาพร้อมทั้งหันไม่มองโจวเย่นชิวที่กำลังอยู่ไม่สุข
ครั้งก่อนที่ไปขอโทษด้วยตนเอง โจวเย่นชิวได้ถูกเขาดัดหลังเรียบร้อยแล้ว ครั้งนี้เขายังจะกล้าอีกหรือ ?
เมื่อเห็นสายตาของเฉินตง โจวเย่นชิวก็รู้สึกวิตกกังวลทันที
เขากระเด้งตัวลุกขึ้นอย่างรวดเร็ว จากนั้นจึงหันไปมองคุณท่านใหญ่หลี่ : “คุณท่านใหญ่ คุณชายเฉินตรงมาถึงที่หมายตรงเวลา ไม่ถือว่าเสียมารยาท กระผมว่าเรื่องนี้ผ่านไปแล้วก็ให้มันผ่านไปเถอะครับ”
“เธอ……” คุณท่านใหญ่หลี่ใบหน้าแดงก่ำ เขาหันมองโจวเย่นชิวด้วยความโมโห
คำพูดไกล่เกลี่ยของโจวเย่นชิวยิ่งทำให้รู้สึกโมโหเข้าไปใหญ่
ก่อนหน้านี้พูดเอาไว้ว่าอย่างไร ?
ทำไมตอนนี้ถึงกลายเป็นเช่นนี้ไปได้
เดิมทีเขาคิดที่จะใช้อำนาจในการกดขี่ เพื่อทำให้เฉินตงรู้ว่า ต่อให้มีเงิน ในสายตาของตระกูลหลี่แล้ว ก็เป็นได้แค่มดตัวเล็กๆ ตัวหนึ่งเท่านั้น
แต่ทว่าตอนนี้ โจวเย่นชิวกับเริ่มพูดจาไกล่เกลี่ยแล้ว การขู่ในครั้งนี้ดูเหมือนว่าจะไม่สำเร็จเสียแล้ว
คุณท่านใหญ่หลี่แอบถอนใจเบาๆ แล้วพยายามข่มความโกรธเอาไว้ จากนั้นจึงหรี่ตาหันมองทุกคน
“ทุกท่านมีความเห็นว่าอย่างไร ?”
“โจวเย่นชิวพูดถูกต้องครับ !”
ท่านเมิ่งเปิดปากพูดก่อนใคร
คุณท่านใหญ่หลี่ตกตึงในทันที
“คุณชายเฉินตงมาทันเวลา ไม่ถือว่าเสียมารยาทครับ” ผู้อำนวยการหลิวกล่าวเสริม
เริ่มมีเส้นเลือดปูดขึ้นมาที่บริเวณหน้าผากของคุณท่านใหญ่หลี่
ส่วนคนที่เหลือ เมื่อเห็นท่านเมิ่งและผู้อำนวยการหลิวเอ่ยปากพูดแล้ว ต่างก็ค่อยๆ พยักหน้าสนับสนุน
คุณท่านใหญ่หลี่กัดฟันด้วยความโมโห
แต่ในเมื่อทุกคนต่างให้อภัย เขาเองก็ไม่อาจดึงดันต่อไปได้
มีประกายของแสงที่เย็นวาบฉาบอยู่ในดวงตาของคุณท่านใหญ่หลี่ เขาหันไปมองเฉินตงด้วยแววตาเย็นชา
“เธอมันเป็นเด็กที่ดื้อรั้นและไม่รู้จักเชื่อฟัง ต้องโทษแม่ของเธอที่ไม่รู้จักสั่งสอนเธอ เธอถึงได้เสียมารยาทขนาดนี้ แต่ในเมื่อทุกคนใจกว้างเช่นนี้ ถ้าอย่างนั้นเรื่องนี้ก็ขอให้จบลงเพียงเท่านี้ !”
จากนั้น
“พรวด !”
เฉินตงหลุดขำออกมาในทันที
ถึงแม้จะกำลังหัวเราะอยู่ แต่การแสดงออกเขากลับดูเย็นชามากขึ้น ใบหน้าอันหล่อเหลาของเขาเยือกเย็นราวกับน้ำแข็ง
ปัง !
เสียงฝ่ามือตบลงบนโต๊ะดังขึ้น
เฉินตงลุกยืนขึ้นมา จากนั้นจึงชี้นิ้วไปที่คุณท่านใหญ่หลี่พูดว่า : “คุณมีสิทธิ์อะไรมาสอนเรื่องความกตัญญูกับผม ? แม่ผมให้กำเนิดและเลี้ยงดูผมมาอย่างดี คงไม่ต้องให้คนนอกอย่างคุณเข้ามาแส่ !”
บรรยากาศภายในห้องหยุดนิ่งราวกับถูกแช่แข็งในทันที
ท่านเมิ่งหน้าถอดสีทันที
ไม่ใช่เป็นเพราะจู่ๆ เฉินตงก็ลุกขึ้นมาตะคอกด้วยความโกรธ
แต่เป็นเพราะทุกคนที่นี่ต่างไม่ได้ใครโง่เขลา พวกเขาพอจะดูออกว่าเฉินตงกับคุณท่านใหญ่หลี่นั้นมีความแค้นต่อกัน
อาหารมื้อนี้ ดูท่าว่าคงจะไม่อร่อยจริงๆ ?
ถ้าอีกเดี๋ยวไม่ถึงขั้นล้มโต๊ะกัน ก็คงจะถือว่าโชคดีมากแล้ว !
“สามหาว ! นี่ฉันเป็นตาของแกนะ !” คุณท่านใหญ่หลี่ตะคอกด้วยความโมโหและกระหืดกระหอบ
“ตาประสาอะไรกัน !” เฉินตงทำสีหน้าดูถูก
ถ้าไม่ใช่เพราะถูกคุณท่านใหญ่หลี่ข่มขู่แล้วล่ะก็ การร่วมรับประทานอาหารในมื้อนี้เขาไม่มีทางมาโดยเด็ดขาด
ในเมื่อมาแล้ว ก็ไม่มีทางเป็นเต่าที่เอาแต่หดหัวอยู่แต่ในกระดองเด็ดขาด !
คำก็คุณธรรม สองคำก็มารยาท เขาต้องการยืนอยู่บนคุณธรรมอันสูงส่ง เพื่อจะดูถูกข่มเหงแม่ของเขาใช่หรือไม่ ?
ไปให้พ้นเลย !
หน้าด้านจริงๆ !
“แก……แกคิดจะแข็งข้อกับฉันจริงๆ ใช่ไหม !”
คุณท่านใหญ่หลี่โกรธจนตัวสั่น ท่าทีแข็งกร้าวของเฉินตง ทำให้เขารู้สึกเหมือนถูกตบหน้าซ้ำแล้วซ้ำเล่า
การร่วมรับประทานอาหารในวันนี้ ถือว่าเป็นงานสำคัญสำหรับเขา
เป็นเวลาที่เขาจะเปิดเผยความลับของตระกูลหลี่ให้เฉินตงได้รับรู้
ไม่ใช้ให้เฉินตงมาฉีกหน้าเขาต่อหน้าทุกคนเช่นนี้
คุณท่านใหญ่หลี่โกรธจนหน้าแดง หายใจเหนื่อยหอบ เขาใช้มือข้างขวาที่สั่นเทาของเขาชี้ไปที่ท่านเมิ่ง : “แก แกรู้ไหมว่าพวกเขาเป็นใคร ? เขา เขาเป็นผู้ทรงอิทธิพลที่สุดในเมืองนี้ !”
“เขา เป็นผู้นำธุรกิจห้างสรรพสินค้าที่แข็งแกร่งที่สุดในเมืองนี้”
“เขา เป็นผู้มีอำนาจในแวดวงการแพทย์”
……
มือของคุณท่านใหญ่หลี่ค่อยๆ ชี้ไปยังคนที่นั่งนิ่งด้วยความตกใจ และแนะนำตัวพวกเขาทีละคนๆ ด้วยความโมโห
แต่ในขณะที่เขากำลังอยู่ในอารมณ์โกรธนั้น คุณท่านใหญ่หลี่กับไม่ได้สังเกตเลยว่า ในระหว่างที่เขากำลังแนะนำ สีหน้าของท่านเมิ่งก็ค่อยๆเปลี่ยนไป
หลังจากที่กล่าวแนะนำคนสุดท้ายเสร็จ
คุณท่านใหญ่หลี่เคาะไม้เท้าของเขาลงบนพื้นอย่างเดือดดาล
“แกไปเอาความกล้ามากจากไหน ถึงได้กล้ามาแสดงท่าทีหยิ่งผยองกับฉันที่นี่ ?”
“ตระกูลหลี่ของฉันเป็นตระกูลที่ร่ำรวยที่สุดในเมืองหลวง ฉันเป็นเจ้าบ้านตระกูลหลี่ อีกทั้งยังเป็นตาของแกด้วย จะให้แกมาเสียมารยาทอย่างนี้ได้หรือ ?”
“แกเก่ง สามารถบริหารไท่ติ่งได้อย่างดีเยี่ยม แต่ในสายตาของตระกูลหลี่ของฉันแล้ว แกก็เป็นได้แค่มดตัวเล็กๆ ตัวหนึ่งเท่านั้น !”
คำพูดและน้ำเสียงเต็มไปด้วยพลังและความโกรธ
มีอำนาจที่แผ่ซ่านออกมาเพื่อที่จะกดขี่เฉินตงเอาไว้
“เหอะๆ !”
เฉินตงแสยะยิ้มอย่างไม่แยแส : “ในเมื่อตระกูลหลี่ของคุณยิ่งใหญ่ถึงเพียงนี้ ? แล้วทำไมคนแก่หนังเหนียวอย่างคุณ ถึงต้องยอมด้านหน้ามาเชิญผมกลับไปเป็นเจ้าบ้านด้วยล่ะ ?”
เปรี้ยง !
คำพูดที่เปล่งออกไปทำให้ทุกคนตกตะลึงเป็นอย่างมาก
ท่านเมิ่งเหมือนถูกฟ้าผ่า ใบหน้าเต็มไปด้วยความหวาดกลัว
ตระกูลหลี่เป็นตระกูลที่ร่ำรวยที่สุดในเมืองหลวงเชียวนะ
แล้วหัวหน้าตระกูลที่มีอำนาจล้นฟ้า จะมาเชิญเฉินตงกลับไปเป็นเจ้าบ้านง่ายๆ เช่นนี้หรือ ?
ทันใดนั้น ความคิดของทุกคนก็เปลี่ยนไป สายตาที่พวกเขามองเฉินตงเปลี่ยนเป็นความตกตะลึงถึงขีดสุด
ทางด้านหนึ่งก็ทำหน้าที่เป็นผู้สืบทอดมรดกของตระกูลเฉิน ส่วนอีกด้านหนึ่งก็มีตำแหน่งเป็นถึงเจ้าบ้านตระกูลหลี่
ทำไมเมืองเล็กๆของเรา ถึงได้มีมังกรทองเช่นนี้หลบซ่อนตัวอยู่ได้นะ ?
คุณท่านใหญ่หลี่โกรธจนหน้าแดงแทบจะกระอักเลือดออกมา หายใจฟึดฟัดราวกับวัวกระทิง ในดวงตาปรากฏเส้นเลือดสีแดงเต็มไปหมด เขาจ้องมองเฉินตงอย่างไม่ละสายตา โกรธจนแทบอยากจะกลืนกินเฉินตงเข้าไปเสียตอนนี้
คำพูดประโยคนี้ทำลายความมั่นใจและความภาคภูมิใจของเขาเสียจนหมดสิ้น !
ตอนนี้เอง
จู่ๆ ท่านเมิ่งก็ลุกขึ้นมา แล้วหันไปยกมือคารวะคุณท่านใหญ่หลี่ : “ขอโทษด้วยคุณท่านใหญ่หลี่ กระผมต้องขอตัวก่อน”
พูดจบเขาไม่ได้สนใจสีหน้าของคุณท่านใหญ่หลี่เลยแม้แต่น้อย
รีบเดินจ้ำอ้าวเข้าไปหาเฉินตง พยักหน้าเล็กน้อย จากนั้นจึงยิ้มเพื่อแสดงความขอโทษ : “หลานชาย ขอโทษด้วย วันนี้เป็นความประมาทของลุงเอง ถ้าหากลุงรู้ว่าการรับประทานอาหารร่วมกันในมื้อนี้จัดขึ้นเพราะหลาน ลุงไม่มีทางปล่อยให้เรื่องทุกอย่างเป็นเช่นนี้แน่นอน”
พูดจบ เขาก็เดินออกจากห้องอาหารไปอย่างรวดเร็ว
จากนั้น ผู้อำนวยการหลิวก็ลุกขึ้นตามทันที
เขาถึงขั้นไม่ยอมกล่าวลากับคุณท่านใหญ่หลี่ แต่กลับเดินเข้าไปหาเฉินตงด้วยความเคารพ
“ขอโทษด้วยหลานชาย เรื่องนี้จะให้พ่อตาขอหลานรู้ไม่ได้โดยเด็ดขาดเลยนะ มิฉะนั้นด้วยนิสัยของเขาแล้ว จะต้องไปพังประตูโรงพยาบาลของลุงแน่ๆ”
หลังจากกล่าวขอโทษเสร็จ ผู้อำนวยการหลิวก็รีบเดินออกไปในทันที
คนหนึ่งก็เป็นผู้มีอิทธิพล ส่วนอีกคนก็เป็นผู้มีอำนาจในวงการแพทย์
เมื่อลองแยกแยะฐานะของทั้งสองคนดูอย่างชัดเจนแล้ว จะเห็นได้ว่าทั้งสองไม่จำเป็นต้องไว้หน้าคุณท่านใหญ่หลี่จริงๆ
ถึงแม้ตระกูลหลี่จะร่ำรวยที่สุดในเมืองหลวงก็จริง แต่ที่นี่ไม่ใช่เมืองหลวงเสียหน่อย !
การไว้หน้ากัน หากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นไม่ถูกต้อง ก็เห็นทีว่าไม่จำเป็นต้องไว้หน้า
หลังจากที่ทั้งสองกลับ คุณท่านใหญ่หลี่ก็นั่งนิ่งราวกับท่อนไม้ด้วยความตกตะลึง ร่างกายของเขาสั่นเทา รู้สึกราวกับว่าเพิ่งสูญเสียอะไรบางอย่าง
เมื่อเห็นผู้อำนวยการหลิวกำลังจะเดินออกไป คุณท่านใหญ่หลี่ก็ตะคอกออกมาด้วยความรู้สึกสงสัยในชีวิต : “ผู้อำนวยการหลิว เจ้าเด็กคนนี้ก็เป็นแค่เด็กเมื่อวานซืนหัวรั้นคนหนึ่งที่ร่อนเร่พเนจรอยู่นอกตระกูลของฉันก็เท่านั้น ทำไมพวกคุณจะต้องขอโทษเขาด้วย ?”
ผู้อำนวยการหลิวหยุดเดิน
เขาพูดด้วยน้ำเสียงเคร่งขรึมว่า : “เฉินตงเป็นหนึ่งในผู้สืบทอดมรดกของตระกูลเฉิน อีกทั้งยังเป็นลูกเขยของประธานกู้แห่งบริษัทชิงหยิ่งอีกด้วย คุณว่า……ทำไมพวกเราจะต้องขอโทษด้วย ?”
เปรี้ยง !
คุณท่านใหญ่หลี่ตัวสั่น ทันใดนั้นใบหน้าสีแดงก่ำของเขาก็ซีดเผือดทันที
เฉินตง……เป็นลูกเขยของประธานบริษัทชิงหยิ่ง ?