The Winner is king ผู้ชนะเลศคือราชา – บทที่ 208 แพะรับบาป

บทที่ 208 แพะรับบาป

ยังดีที่กู้ชิงหยิ่งไม่ทันสังเกตเห็นถึงความผิดปกติของเขา

เฉินตงรู้สึกผิดและโทษตัวเอง

แต่ความทรงจำของเขาเกี่ยวกับเรื่องเมื่อคืนนั้นก็ดูจะเลือนรางเป็นอย่างมาก

เขาไม่แน่ใจว่าเกิดอะไรขึ้นระหว่างเขากับฉู่เจียนเจียหรือไม่

คิดว่าควรจะหาเวลาถามฉู่เจียนเจียให้รู้เรื่อง แต่ว่าเรื่องทำนองนี้……ควรจะเอ่ยปากเช่นไรดี ?

เขาสูดหายใจเขาหนึ่งครั้ง และพยายามคิดความคิดที่วุ่นวายในสมองเอาไว้

แววตาของเฉินตงดูเย็นชาลงเล็กน้อย

ตระกูลจาง !

อาการแปลกๆ ของเขาที่เกิดขึ้นเมื่อคืน เห็นได้ชัดว่าถูกวางยา

ถ้าหากนักฆ่าเป็นคนวางยา จะใช้ยาที่ทำให้รู้สึกร้อนรุ่มไปทั้งตัวเช่นนั้นหรือ ?

เห็นได้ชัดว่าตระกูลจางเป็นคนทำ

“วิธีการของตระกูลจางต่ำช้าจริงๆ ถ้าไม่ใช่เพราะเมื่อคืนยังเคราะห์ดี ผมคงจะต้องตายในที่เกิดเหตุไปแล้วแน่ๆ ?”

นี่คือความคิดของเฉินตง

ตอนที่ยาออกฤทธิ์ ทำให้เขาแขนขาอ่อนแรง ถ้าไม่ใช่เพราะคุนหลุนและกูหลังต่อสู้อย่างสุดชีวิตเพื่อปกป้องเขาเอาไว้ และให้ฉู่เจียนเจียแบกเขาออกมา ป่านนี้เขาคงจะตายไปแล้ว

ถ้าไม่ใช่เพราะถูกตระกูลจางวางยา ด้วยฝีมือการต่อสู้ของเขา จะพลาดท่าโดนมีดแทงเช่นนั้นหรือ ?

“คุณคิดอะไรอยู่ ?”

กู้ชิงหยิ่งสัมผัสได้ถึงความโกรธที่แผ่ซ่านออกมาจากตัวของเฉินตง จึงรู้สึกกลัวเล็กน้อย

เฉินตงส่ายหัว จากนั้นจึงถามว่า : “ท่านหลงล่ะ ?”

“เขาออกไปสืบเรื่องเมื่อคืนแล้ว”

กู้ชิงหยิ่งโน้มตัวลงแล้วพูดเสริมว่า : “คุณรีบดูแลตัวเองให้หายดีเถอะ พวกเรายังไม่ได้บอกคุณป้า คุนหลุนกับกูหลังเองก็ไม่เป็นอะไรแล้ว ตอนนี้พักอยู่ห้องข้างๆ ส่วนเรื่องลอบสังหาร พวกของท่านหลงจะต้องสืบหาความจริงให้กระจ่างได้อย่างแน่นอน”

เมื่อรู้ว่าคุนหลุนและกูหลังไม่เป็นอะไร เฉินตงเองก็แอบรู้สึกโล่งใจไม่น้อย

ตอนนี้เอง ประตูห้องพักผู้ป่วยถูกเปิดออก

ท่านหลงเดินเข้ามา เมื่อเห็นว่าเฉินตงฟื้นแล้ว ก็ถอนหายใจอย่างโล่งอก

“ท่านหลง สืบได้อะไรบ้าง ?” เฉินตงถาม

ท่านหลงส่ายหัวอย่างจนใจ : “สืบยากมากครับ ไม่เพียงแต่ฝั่งของโจวเย่นชิวที่พยายามสืบหาอย่างสุดความสามารถเท่านั้น แม้แต่เจ้าบ้านเองก็ใช้หน่วยข่าวกรองของตระกูลเพื่อสืบหา แต่ก็ยังมืดแปดด้าน”

เกิดเรื่องใหญ่ขนาดนี้ แน่นอนว่าเขาคงไม่บีบบังคับให้โจวเย่นชิวต้องเป็นผู้รายงานเพียงผู้เดียวเท่านั้น

อันที่จริงแล้ว ตอนที่เฉินตงเกิดเรื่อง ทันทีที่ได้รับข่าว ท่านหลงก็รีบรายงานเฉินเต้าหลินทันที

หน่วยข่าวกรองของตระกูลเฉิน เริ่มปฏิบัติการอย่างเร่งด่วนตั้งแต่เมื่อคืนนี้แล้ว

“แม้แต่ตระกูลเฉินก็สืบไม่ได้อย่างนั้นหรือ ?”

เฉินตงรู้สึกตกใจจนอ้าปากค้าง

ตระกูลเฉินถือเป็นตระกูลที่มั่งคั่งร่ำรวยที่สุด มีฐานะที่สูงส่ง จึงมีหน่วยข่าวกรองที่มีประสิทธิภาพถึงขั้นที่คนธรรมดาทั่วไปยากที่จะจินตนาการได้

“นักฆ่าทั้งสิบกว่าคนล้วนแล้วแต่เป็นนักฆ่ากล้าตายทั้งสิ้น ตอนนั้นคุนหลุนและกูหลังได้ทำการสังหารไปกว่าครึ่ง ส่วนคนที่เหลือที่ถูกจับกุมตัว ต่างก็กัดยาพิษที่ซ่อนเอาไว้ในปากเพื่อฆ่าตัวตาย ทำให้เบาะแสที่เหลือหายไปจนหมดสิ้น”

ท่านหลงขมวดคิ้ว แล้วพูดด้วยน้ำเสียงเคร่งขรึมว่า : “ไม่เพียงเท่านี้ แม้กระทั่งที่มาที่ไปของนักฆ่าสิบกว่าคนนี้ก็ไม่มีใครรู้ ราวกับว่าไม่เคยมีคนสิบกว่าคนเหล่านี้อยู่บนโลกใบนี้มาก่อน แต่จู่ๆ ก็ปรากฏตัวขึ้นมา”

“แม้แต่หน่วยข่าวใต้ดินก็ไม่มีเบาะแสอะไรเลยหรือ ?” เฉินตงขมวดคิ้วแน่น

ท่านหลงพยักหน้า : “ไม่มีเลยครับ”

บรรยากาศภายในห้องพักผู้ป่วยเงียบสงัด

หลังจากนั้นเพียงไม่กี่วินาที

จู่ๆ เฉินตงก็หัวเราะออกมา

“คนที่สามารถจัดการทุกอย่างได้อย่างสะอาดหมดจดตั้งแต่ต้นจนจบเช่นนี้ได้ คิดว่าคงจะมีศักยภาพไม่น้อย”

เฉินตงเลิกคิ้วแล้วหันมองท่านหลง : “ท่านหลง คุณว่าตระกูลหลี่ หรือ……ตระกูลเฉินล่ะ ?”

เมื่อคำว่า “ตระกูลเฉิน” หลุดออกมาจากปาก ทำให้ท่านหลงแววตาเป็นประกายขึ้นมาทันที

“คุณชายหมายความว่า……ภัยมืดอยู่ใกล้ตัว ?”

ท่านหลงได้สติทันที ก่อนหน้านี้ไม่ว่าจะเป็นหน่วยข่าวกรองของตระกูลเฉิน โจวเย่นชิว หรือแม้กระทั่งตระกูลจางและตระกูลฉู่ ต่างก็ไม่คิดถึงเรื่องนี้มาก่อน

เฉินตงพยักหน้า : “ถ้าจะพูดว่าสามารถปิดบังได้อย่างมิดชิด ก็มีคนจำนวนมากที่สามารถทำได้ แต่ถ้าหากไม่มีความแค้นต่อกัน พวกเขาก็คงไม่คิดโจมตีฉัน และที่สำคัญไปกว่านั้นก็คือ จะต้องมีความกล้าด้วย !”

ท่านหลงขมวดคิ้วแล้วใคร่ครวญ

ถ้าคนที่มีทั้งความแค้นและความกล้าขนาดนี้ ก็คงจะมีเพียงตระกูลหลี่และตระกูลเฉินเท่านั้นที่น่าสงสัยที่สุด !

“กระผมจะกลับไปรายงานเจ้าบ้านเดี๋ยวนี้ครับ”

ท่านหลงหันหลังเดินออกจากห้องพักผู้ป่วยไป

เฉินตงนั่งอยู่บนเตียงผู้ป่วยด้วยแววตาที่ลึกซึ้ง

กู้ชิงหยิ่งที่นั่งอยู่ข้างๆ กะพริบตาปริบๆ จากนั้นจึงขยับริมฝีปากแดงระเรื่อของเธอเอ่ยถามว่า : “เฉินตง เป็นไปได้จริงๆ หรือคะ ?”

แน่นอนว่า เธอหมายถึงตระกูลเฉินมีโอกาสเป็นผู้ลงมือลอบสังหาร

เฉินตงยิ้มกว้างออกมาอย่างมีเลศนัย : “ผลลัพธ์อาจจะออกมาไม่เหมือนที่เราคาดเดาเอาไว้”

กู้ชิงหยิ่งรู้สึกงุนงง แต่ก็ไม่ได้เอ่ยถามอะไรต่อ

เวลาผ่านไปสองวัน

ภายใต้การสืบหาอย่างสุดความสามารถของโจวเย่นชิว ดูเหมือนว่าทั้งเมืองจะถูกทำให้ตื่นตระหนกขึ้นมา

หลังจากนั้น โจวจุนหลงเองก็ได้รับคำสั่งจากท่านหลง ให้สั่งหน่วยข่าวกรองของเขาให้ปฏิบัติการ

ดูเหมือนว่าภายใต้เมืองที่ดูสงบ จะมีพายุใหญ่ที่กำลังแอบก่อตัวขึ้นอย่างเงียบๆ

ถึงขั้นว่าทำให้ตระกูลจางและตระกูลฉู่ต้องยอมร่วมมือกันเพื่อสืบหาความจริง

แม้กระทั่งเมืองหลวงเอง ก็ดูจะไม่สงบสุขนัก

ก่อนหน้านี้เมืองหลวงเพิ่งเจอมรสุมลูกใหญ่ของตระกูลหลี่

และการที่ตระกูลจางและตระกูลฉู่ร่วมมือกันเพื่อสืบหาความจริง ยิ่งทำให้มรสุมลูกนั้น ดูจะทวีความรุนแรงขึ้น

หลังจากที่ตระกูลใหญ่ต่างๆ รู้เรื่อง ต่างก็รู้สึกตกใจไปตามๆ กัน

การลอบสังหารผู้สืบทอดมรดกตระกูลเฉิน เท่ากับประกาศตัวเป็นศัตรูกับตระกูลเฉินโดยตรง !

ไม่ช้า ตระกูลใหญ่ต่างๆ ก็พุ่งเป้าไปที่ตระกูลหลี่ว่าเป็นผู้ต้องสงสัย

หากดูจากความแค้นแล้ว เห็นได้ชัดว่าตระกูลหลี่ขัดแย้งกับตระกูลเฉินมากที่สุด

เพราะเฉินตงเองก็เป็นคนดึงศักดิ์ศรีอันสูงส่งของตระกูลหลี่ลงมาเหยียบย่ำจนจมดิน

คฤหาสน์ปราสาทตระกูลหลี่

คุณท่านใหญ่หลี่นั่งอยู่อย่างหงอยเหงาที่ริมหน้าต่าง เขานั่งมองคนงานที่กำลังรีบซ่อมแซมสวนดอกไม้อยู่

ด้านหลัง หลี่เอซานยืนอยู่ด้วยท่าทีเคร่งขรึม : “พ่อครับ ตอนนี้คนข้างนอกต่างก็กำลังวิพากษ์วิจารณ์ว่าเราเป็นผู้บงการการลอบสังหารเฉินตงในครั้งนี้”

“สืบ ! ไปสืบหาความจริงมาให้ฉันให้ได้ !”

คุณท่านใหญ่หลี่พูดด้วยความโกรธ : “เรื่องสกปรกเช่นนี้ ตระกูลหลี่ของพวกเราไม่ยอมรับเด็ดขาด ฉันยังต้องการให้เฉินตงรับช่วงตระกูลหลี่ต่อ ยิ่งไปกว่านั้นฉันไม่กล้าไปท้าทายอำนาจของตระกูลเฉินหรอก”

เฉินตงและเฉินเต้าหลิน ทำลายเกียรติอันสูงส่งของตระกูลหลี่จนไม่เหลือชิ้นดีเพียงชั่วข้ามคืน

แต่ทว่าคุณท่านใหญ่หลี่ไม่โง่ขนาดนั้น

เขาไม่เคยมีความคิดที่จะลอบสังหารเฉินตงมาก่อน

เพราะนี่ไม่ต่างกับเฉินตงและเฉินเต้าหลิน ที่ใช้วิธียอมหักไม่ยอมงอ

“ตระกูลจางและตระกูลฉู่กำลังตามสืบทั่วเมืองหลวงจนแทบพลิกแผ่นดินแล้ว ก็ยังไม่ได้เบาะแสอะไรเลย” หลี่เต๋อซานพูดอย่างจนใจ

“ถึงแม้พวกเราจะไม่พบเบาะแสอะไรก็ตาม แต่ก็จำเป็นต้องสืบ ที่เป็นเรื่องของการแสดงออก !”

แววตาของคุณท่านใหญ่หลี่เป็นประกายเหมือนมีไฟลุกโชน ตอนนี้ในเมื่อตกเป็นผู้ต้องสงสัย ถ้าหากไม่แสดงความบริสุทธิ์ใจออกมา แล้วจะเป็นที่ยอมรับของคนภายนอกได้อย่างไร ?

“เข้าใจแล้วครับ” หลี่เต๋อซานค่อยๆ เดินออกไป

วันที่สาม

เฉินตงที่กำลังได้รับการปรนนิบัติดูแลอย่างดีจากกู้ชิงหยิ่งในระหว่างการพักฟื้นอย่างสบายใจ จู่ๆ ก็ถูกโจวเย่นชิวเข้ามาขัดจังหวะ

“ไม่รู้จักเคาะประตูหรืออย่างไร ?”

เฉินตงท่าทีเย็นชา แสดงออกถึงความไม่พอใจ

“ขอโทษด้วยครับคุณเฉิน”

โจวเย่นชิวหางตากระตุก เขารีบกล่าวขอโทษในทันที

“มีเรื่องอะไร ?” เฉินตงถาม

“สืบได้เรื่องแล้วครับ !”

คำพูดของโจวเย่นชิว ทำให้เฉินตงลุกนั่งขึ้นมา

จากนั้น โจวเย่นชิวก็รีบยื่นข้อมูลหนึ่งฉบับให้แก่เฉินตง

และในขณะเดียวกันก็พูดว่า : “นี่ไม่ใช่เพียงแค่สิ่งที่ผมสืบหามาได้เท่านั้น ยังรวมไปถึงสิ่งที่หน่วยข่าวกรองของโจวจุนหลง ตระกูลจางและตระกูลฉู่ รวมไปถึงตระกูลหลี่แห่งเมืองหลวงสืบหาออกมาได้ มีผลออกมารงกันทุกประการ”

ผลตรงกันทุกประการ ?

เฉินตงรู้สึกอึ้งเล็กน้อย

จากนั้นเขาจึงหยิบข้อมูลขึ้นมาอ่านดู

จังหวะนี้เอง

ท่านหลงก็เดินเข้ามาในห้องพักผู้ป่วยพอดี และเห็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในห้องพักผู้ป่วย

ท่านหลงยิ้มอย่างจนใจ แล้วพูดว่า : “คุณชาย ไม่ต้องอ่านแล้วครับ นั่นคือแพะรับบาป”

แพะรับบาป ? !

เฉินตงผงะไป

โจวเย่นชิวหน้าถอดสีทันที เขาหันไปมองท่านหลงอย่างไม่อยากจะเชื่อในสิ่งที่ได้ยิน

ท่านหลงลูบคางของเขา แล้วพูดออกมาอย่างผิดหวัง : “สามารถทำให้ตระกูลตระกูลหนึ่งกลายเป็นแพะรับบาปได้ ผู้บงการที่อยู่เบื้องหลังคนนี้จะต้องมีอำนาจมากมายมหาศาลขนาดไหนกัน ?”

The Winner is king ผู้ชนะเลศคือราชา

The Winner is king ผู้ชนะเลศคือราชา

เฉินตงกับหวางหนันหนันแต่งงานกัน3ปี ถูกภรรยาที่ยกน้องชายเป็นหัวแก้วหัวแหวนบีบคั้น แล้วยังถูกดูถูกเหยียดหยาม วันหนึ่งได้กลับตระกูลมหาเศรษฐี เขาสาบานว่าต้องกอบกู้ศักดิ์ศรีกลับคืนมา ต้องทำให้คนที่ดูถูกเขาเสียใจกับสิ่งที่ทำ ให้คนที่เหยียดหยามเขาต้องชดใช้อย่างสาสม

นิยายแนะนำ

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท