ตุ๊บ !
ฉู่เจียนเจียกำหมัดแน่น จากนั้นจึงต่อยเข้าไปที่ใบหน้าของเฉินตง
เฉินตงตัวเอียง แล้วส่งเสียงร้องดัง “โอ๊ย” ออกมา
เขารู้สึกว่าหัวของเขาสั่นในทันที จนแทบจะหมดสติ
“แบบนี้แหละค่ะ”
ฉู่เจียนเจียกลับไปนั่งที่เก้าอี้ : “แต่ว่าวันนั้น ฉันต่อยคุณจนสลบ แต่ครั้งนี้ฉันออมแรงเอาไว้”
เฉินตงลูบใบหน้าที่ถูกต่อยของเขา จากนั้นจึงมองไปที่ฉู่เจียนเจียอย่างขมขื่น : “คุณแค่พูดก็พอแล้วนี่ ทำไมจะต้องต่อยผมอีกครั้งด้วย ?”
ฉู่เจียนเจียทำท่าทีเย็นชา : “ถ้าคืนนั้นไม่ใช่เพราะมีตอบโต้ได้ทันเวลา ต่อยคุณให้สลบไปเสียก่อน คุณคงจะได้ทำอะไรเกินเลยแล้วจริงๆ”
“ฉันมาหาคุณเพื่อที่จะเจรจาธุรกิจ ตั้งแต่เล็กจนโตไม่มีใครกล้าทำกับฉันแบบนี้ ตอนนี้ร่างกายของคุณฟื้นฟูแล้ว จะไม่ยอมให้ฉันต่อยเพื่อระบายอารมณ์หน่อยหรือ ?”
เฉินตง : “……”
มันก็จริง จู่ๆ ก็รู้สึกว่าฟังดูมีเหตุผลขึ้นมา
แต่เขาเองก็ได้รู้จักฉู่เจียนเจียในมุมมองใหม่
ผู้หญิงคนนี้ไม่เพียงแต่เย็นชาเท่านั้น แต่เธอยังเป็นคนที่มีอารมณ์แข็งแกร่งอีกด้วย
เขารู้สึกโล่งใจเป็นอย่างมาก
ถึงแม้ใบหน้าของเขาจะรู้สึกเจ็บปวดไม่น้อย แต่เฉินตงกลับรู้สึกโล่งใจ
ยังดีที่ไม่ได้ทำเรื่องอะไรเกินเลย
มิเช่นนั้นเขาก็ไม่รู้ว่าตนเองจะไปสู้หน้ากับกู้ชิงหยิ่งได้อย่างไร
“คุณเรียกฉันมา เพื่อถามแค่นี้หรือ ?”
ฉู่เจียนเจียเลิกคิ้วถาม มือทั้งสองข้างกอดอก
เฉินตงพยักหน้า
“คนบ้า !”
เมื่อเห็นสีหน้าเบื่อหน่ายของฉู่เจียนเจีย เฉินตงก็รีบหลบสายตาทันที
เรื่องที่เขาต้องการแน่ใจมากที่สุด ตอนนี้เขาแน่ใจแล้ว ไม่ว่าฉู่เจียนเจียจะมองเขาอย่างไร เขาก็ไม่ได้สนใจ
สักพัก เฉินตงจึงเอ่ยถามขึ้นว่า : “จริงสิ คุณบอกว่าต้องการเจรจาธุรกิจ มันคือธุรกิจอะไรกันแน่ ?”
ในที่สุดก็เข้าเรื่องเสียที !
ฉู่เจียนเจียรู้สึกดีใจเป็นอย่างมาก
คำถามของเฉินตงทำให้เธอรู้สึกโล่งใจขึ้นมาได้อีกครั้ง
ครั้งนี้เธอเป็นตัวแทนของตระกูลฉู่เดินทางมาหาเฉินตง จริงๆ แล้วมีจุดประสงค์เช่นเดียวกับตระกูลจาง คือต้องการกระชับความสัมพันธ์กับเฉินตงและผูกมิตร
ตำแหน่งผู้สืบทอดมรดกของเฉินตงนั้นสำคัญมากจริงๆ
ถึงแม้ผู้สืบทอดมรดกของตระกูลเฉินจะมีอยู่เป็นจำนวนมาก ทำให้โอกาสที่เฉินตงจะได้เป็นเจ้าบ้านในอนาคตนั้นมีอยู่น้อยมาก
แต่สำหรับฉู่เจียนเจียแล้ว ก็ถือว่ายังคุ้มค่าที่จะลองเสี่ยงดู !
ฐานะและความมั่นคงแข็งแกร่งของตระกูลจางและตระกูลฉู่ในเมืองหลวงนั้น ยังไม่ถือว่าอยู่ในระดับสูงสุด อีกทั้งกว่าที่จะพัฒนามาจนถึงทุกวันนี้ได้ จะต้องอาศัยความพยายามของตนเองเป็นหลัก จึงเป็นการยากที่จะก้าวไปข้างหน้าได้อย่างรวดเร็ว
ถ้าหากเธอพนันข้างเฉินตงแล้วเขาเป็นฝ่ายชนะ เพียงแค่อาศัยพึ่งใบบุญของมังกรเพียงอย่างเดียวก็เพียงพอที่จะทำให้ตระกูลของเธอขึ้นไปยืนอยู่บนจุดสูงสุดของเมืองหลวงได้จริงๆ
ความแตกต่างในการผูกมิตรกับเฉินตงของตระกูลจางและตระกูลฉู่ก็คือ ฉู่เจียนเจียคิดที่จะอาศัยเรื่องการเจรจาธุรกิจในการผูกมิตร ส่วนจางหยู่หลันนั้น กลับคิดที่จะใช่ร่างกายของตัวเองเป็นเครื่องแลกเปลี่ยนในการผูกมิตร
อีกทั้งตอนนี้ เฉินตงก็เป็นฝ่ายเอ่ยปากถามด้วยตนเอง
ทำให้ฉู่เจียนเจียแน่ใจได้ในทันทีว่า เฉินตงได้ตัดสินใจเลือกระหว่างสองตระกูลแล้ว
ในเมื่อมีเรื่องธุรกิจให้เจรจา ก็จะสามารถใกล้ชิดกับเฉินตงได้มากขึ้น ส่วนที่เหลือก็คงต้องอาศัยเวลาเป็นตัวช่วย
ใบหน้าเย็นชาของฉู่เจียนเจีย ปรากฏรอยยิ้มอันอบอุ่นออกมา : “ไม่ทราบว่าคุณเฉินสนใจที่จะเข้ามาลงทุนในธุรกิจด้านสื่อบันเทิงบ้างหรือไม่ ?”
“ก็น่าสนใจนะ”
เฉินตงพยักหน้าแล้วตอบว่า : “ต้องใช้เงินเท่าไหร่ ?”
การตอบกลับอย่างตรงไปตรงมา ทำให้ฉู่เจียนเจียรู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย
เดิมทีเธอเตรียมตัวมามากมาย แต่เมื่อเฉินตงพูดอย่างตรงไปตรงมาเช่นนี้ ทำให้สิ่งที่เธอเตรียมตัวมานั้นสูญเปล่า
“เอ่อ คุณเฉินคะ คุณจะไม่ฟังรายละเอียดหน่อยหรือ ?” ฉู่เจียนเจียถามออกมาอย่างรู้สึกสูญเสียความมั่นใจเล็กน้อย
เฉินตงส่ายหัว แล้วยิ้มเล็กน้อย : “คุณกล้ารับมีดแทนผมขนาดนี้ แค่น้ำใจในครั้งนี้ ก็เพียงพอที่จะทำให้ผมยอมร่วมลงทุนกับคุณได้แล้ว แค่คุณเป็นคนจัดการ ผมก็วางใจ ไม่ต้องถามอะไรมากอีก”
เฉินตงรู้ถึงจุดประสงค์ในการมาของตระกูลจางและตระกูลฉู่ดี
แต่เมื่อเปรียบเทียบกับตระกูลจางแล้ว วิธีการที่ตระกูลฉู่ใช้ ทำให้เขารู้สึกสบายใจมากกว่า
แต่สิ่งที่ทำให้เขาตัดสินใจร่วมลงทุนก็คือ เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในเทียนเก๋อคืนนั้น ฉู่เจียนเจียพาเขารอดพ้นจากความตายมาได้ รวมไปถึงยังรับมีดแทนเขา
ในเมื่อรู้จุดประสงค์ของอีกฝ่ายชัดเจนแล้ว ทำไมยังต้องถามให้มากความอีก ?
เปลือกนอกดูเหมือนใช้เงินลงทุนเพื่อทำธุรกิจร่วมกัน แต่หากมองให้ลึกลงไปก็คือ ต้องการใช้โอกาสในการทำธุรกิจครั้งนี้ กระชับความสัมพันธ์ของทั้งสองฝ่ายให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น
ฉู่เจียนเจียรู้สึกเหมือนหายใจไม่ออก
ใช้เวลาสักครู่เธอจึงจะสามารถระงับความตื่นเต้นลงมาได้
ฉู่เจียนเจียสูดหายใจเข้าเต็มปอด แล้วพูดว่า : “ต้องใช้เงินจำนวนหนึ่งพันล้านค่ะ ของคุณเฉินหนึ่งพันล้าน ของตระกูลฉู่เราอีกหนึ่งพันล้าน เพื่อใช้ก่อตั้งบริษัทสื่อบันเทิงขึ้นมาใหม่”
“เอาเลขบัญชีมาให้ผม” เฉินตงพูดอย่างตรงไปตรงมาโดยไม่ลังเล
ทุกสิ่งเกิดขึ้นภายในระยะเวลาเพียงสองสามนาทีเท่านั้น
จนกระทั่งฉู่เจียนเจียเดินออกจากประตูห้องพักผู้ป่วย เธอยังรู้สึกเหมือนตัวเองยังอยู่ในโลกของความฝันไม่ใช่ความจริง
ธุรกิจมูลค่าพันล้าน ก่อตั้งบริษัทใหม่
ใช้เวลาเจรจาเพียงแค่สองสามนาทีเองหรือ ?
ก่อนจะมาที่นี่ เธอถึงขั้นวางแผนกับผู้ใหญ่ในตระกูลหลายคน ถึงขนาดเตรียมรูปแบบการดำเนินงานของบริษัท อัตราส่วนของกำไรและข้อมูลในส่วนอื่นเอาไว้อย่างดี
นี่จึงเป็นเหตุผลว่าทำไมตระกูลฉู่ถึงได้เดินทางมาช้ากว่าตระกูลจางหลายวัน
แต่ตอนนี้ ทุกสิ่งที่เตรียมมากลับไม่ได้ใช้ !
เงินพันล้านอยู่ในมือแล้ว !
เธอบีบแก้มของตัวเองอย่างแรงจนเป็นรอยแดง
เจ็บ !
ไม่ได้ฝันไปจริงๆ !
ฉู่เจียนเจียหัวใจเต้นเร็ว แววตาของเธอเต็มไปด้วยความเบิกบาน
ตอนนี้ เธอรู้สึกตื่นเต้นดีใจเป็นอย่างมาก
เธอรีบเดินทางกลับหมู่ตึกยู่ฉวนโดยไม่รีรอ หลังจากเก็บกระเป๋าเดินทางเสร็จแล้ว ก็รีบเดินทางกลับเมืองหลวงในทันที
ในเมื่อเงินอยู่ในมือแล้ว ก็จะต้องรีบสร้างบริษัทขึ้นมาให้เร็วที่สุด
อีกทั้งสิ่งที่ทำให้เธอรู้สึกดีใจก็คือ เธอมีช่องทางในการติดต่อกับเฉินตงแล้วจริงๆ
เธอต้องการที่จะนำข่าวนี้กลับไปบอกตระกูลฉู่
“ถ้าหากพ่อและผู้ใหญ่คนอื่นๆ รู้ว่าฉันเจรจาธุรกิจได้อย่างราบรื่นละก็ จะรู้สึกแปลกใจกันไหมนะ ?”
นี่คือสิ่งที่ฉู่เจียนเจียกำลังคิด
หมู่ตึกยู่ฉวน
“คุณปู่คะ นังฉู่เจียนเจียมันกลับไปแล้ว !”
จางหยู่หลันหน้าถอดสี ใบหน้าที่งดงามของเธอเต็มไปด้วยความไม่พอใจ
“แย่แล้ว !”
ใบหน้าของคุณท่านใหญ่ตระกูลจางที่กำลังดื่มด่ำกับรสชาติของชาเปลี่ยนไปทันที “เพล้ง” เขาทุกถ้วยชาที่อยู่ในมือจนแตกออกเป็นเสี่ยงๆ
“สำเร็จแล้ว ! ยัยเด็กฉู่เจียนเจียนั่นคงจะทำสำเร็จแล้วแน่ๆ ถึงได้กลับไปเร็วขนาดนี้ !”
ตอนนี้ คุณท่านใหญ่ตระกูลจางรู้สึกหดหู่เป็นอย่างมาก เหมือนสูญสิ้นเรี่ยวแรงทั้งหมดที่มี และทรุดตัวลงไปนั่งบนเก้าอี้
“คุณปู่” จางหยู่หลันรู้สึกตกใจเป็นอย่างมาก
“หยู่หลันเอ๋ย ครั้งนี้ตระกูลจางของเรา แพ้ราบคาบแล้วจริงๆ !”
นำเสียงของคุณท่านใหญ่ตระกูลจางสะอึกสะอื้น ดวงตาของเขาแดงก่ำ : “คิดผิดแล้ว ปู่วางแผนมาทั้งชีวิตไม่เคยผิดพลาดมาก่อน แต่คิดไม่ถึงเลยว่าเรื่องนี้ จะต้องพ่ายแพ้อย่างราบคาบเช่นนี้ ! ถ้าหากเจรจาธุรกิจ ตระกูลจางของเราในฐานะที่เป็นมหาอำนาจในอุตสาหกรรมด้านสื่อบันเทิงอยู่แล้ว ย่อมมีธุรกิจที่ใหญ่กว่านี้ ที่สามารถเจรจากับเฉินตงได้ แต่ปู่กลับ……”
เมื่อพูดถึงประโยคสุดท้าย คุณท่านใหญ่ตระกูลจางก็นิ่งไป
เขาหลงทางตั้งแต่ต้นแล้ว หรือจะพูดอีกอย่างก็คือ เขามั่นใจในความงามของจางหยู่หลันมากเกินไป
คุณท่านใหญ่ตระกูลจางคิดเพียงแค่ว่าฮีโร่หนุ่มจะต้องตกหลุมรักสาวงาม แต่คิดไม่ถึงว่าเฉินตงจะไม่แม้แต่ชายตามามองจางหยู่หลันเลยสักนิด !
ในทางกลับกัน เมื่อเป็นการเจรจาธุรกิจที่จริงจัง เฉินตงกลับตอบรับอย่างรวดเร็ว
“ไม่มีทาง คุณปู่ใจเย็นหน่อยนะคะ ตระกูลฉู่เพียงแค่ผูกมิตรกับเฉินตงได้เท่านั้น ถึงแม้พวกเราจะผูกมิตรไม่สำเร็จ แต่ตระกูลจางของพวกเราก็ยังเดินนำหน้าตระกูลฉู่อยู่หนึ่งก้าวอยู่ดี”
จางหยู่หลันรีบพูดปลอบใจ
“หยู่หลัน หนูไม่เข้าใจหรอก !”
ตัวของคุณท่านใหญ่ตระกูลจางสั่นเทา : “หากมองไปถึงอนาคตไกลๆ การได้ใกล้ชิดกับเฉินตง หากเฉินตงมีโอกาสกลายเป็นเจ้าบ้านตระกูลเฉินจริงๆ นั่นเท่ากับว่าจะได้พึ่งใบบุญของมังกร แม้กระทั่งตอนนี้ หากผูกมิตรกับเฉินตงได้ ก็จะมีประโยชน์อย่างมหาศาล !”
เผชิญหน้ากับความงุนงงของจางหยู่หลัน
ดวงตาแดงก่ำของคุณทางใหญ่ตระกูลจาง มองด้วยแววตาที่เฉียบคมราวกับมีด : “ก่อนหน้าที่เฉินตงและเฉินเต้าหลินเพิ่งจะโจมตีตระกูลหลี่ไปนะ ! ตระกูลฉู่ที่ผูกมิตรกับเฉินตงได้สำเร็จ สามารถอาศัยแรงผลักดันในครั้งนี้ ปฏิบัติงานในพื้นที่ที่กว้างขวางขึ้นภายใต้ลมพายุที่กำลังพัดแรงในเมืองหลวงได้ !”
จางหยู่หลันตัวสั่น : “คุณปู่หมายความว่า……ตระกูลฉู่อาจจะสามารถสั่นคลอนฐานะของตระกูลจางได้อย่างนั้นหรือคะ ?”
คุณท่านใหญ่ตระกูลจางออกแรงพยักหน้าอย่างไม่เต็มใจนัก
เขาเกือบคร่ำครวญและพูดออกมาว่า : “ไพ่ใบงามที่อยู่ในมือ แต่กลับถูกพวกเราสองปู่หลานทำลายเสียหมดสิ้น ไม่เพียงแค่นี้ แต่เป็นเพราะเรื่องที่หนูผลักเฉินตงเข้าไปรับมีด ที่ทำให้ตระกูลจางของเราต้องแพ้อย่างไม่เห็นฝุ่นในครั้งนี้ด้วย !”
หากต้องชดใช้เพียงเพราะเรื่องที่ผลักเฉินตงออกไปรับมีด
คุณท่านใหญ่ตระกูลจางก็ยังไม่คิดมากเท่าไหร่ ตระกูลจางสามารถยอมรับเรื่องการชดใช้ได้
แต่ทว่าตอนนี้ ฉู่เจียนเจียและเฉินตงลงทุนทำธุรกิจร่วมกันแล้ว นี่ถึงจะเป็นสิ่งที่สามารถสั่นคลอนฐานะของตระกูลจางในธุรกิจด้านนี้ได้อย่างงแท้จริง
มองในมุมหนึ่งคือการชดใช้ แต่มองอีกมุมหนึ่งเกี่ยวพันถึงรากฐานที่มั่นคง !
ผลลัพธ์ที่ออกมา ทำให้คุณท่านใหญ่ตระกูลจางยากที่จะทำใจยอมรับได้ !