The Winner is king ผู้ชนะเลศคือราชา – บทที่ 219 กำหนดวันแต่งงาน?

บทที่ 219 กำหนดวันแต่งงาน?

ตระกูลฉินที่นิ่งเฉยมาหลายวัน แม้แต่อากาศยังรู้สึกกดดันแทน

ทุกคนในกระกูลฉิน อัดอั้นราวกับก้างปลาติดคอ

แม้แต่เวลาเดิน ก็ก้มหน้าก้มตา เดินอย่างเร่งรีบ

ทุกคนต่างรู้ดี ว่าหลายวันมานี้ เจ้าบ้านอารมณ์แปรปรวนไม่เบา

ในวันนี้ เจ้าบ้านที่เก็บตัวอยู่แต่ในห้องมาเป็นเวลาหลายวัน ในที่สุดก็ออกมา

และยิ้มอย่างมีความสุข ไม่เห็นแม้แต่ร่องรอยของความโกรธเคือง

เมื่อเจ้าบ้านตระกูลฉินเดินออกจากห้อง เขาก็สั่งลูกสายตรงของตระกูลออกไปพร้อมกัน

หนึ่งชั่วโมงต่อมา ที่สนามบินซีสู่

รถหรูหลายสิบคันขับเข้าไปยังรันเวย์ของสนามบินโดยไม่มีสิ่งกีดขวาง จอดเรียงเป็นแถว ตรงขอบรันเวย์

เจ้าบ้านตระกูลฉินรีบลงจากรถ และพาคนของตระกูลฉินทุกคน เดินตรงไปยังเครื่องบินที่ลงจอดสนิทอยู่ตรงหัวมุมของรันเวย์

“ ยินดีต้อนรับคุณหญิงใหญ่ตระกูลเฉิน ! ”

เมื่อเจ้าบ้านตระกูลฉินยกมือคารวะ

“ยินดีต้อนรับคุณหญิงใหญ่ตระกูลเฉิน ! ”

กลุ่มคนตระกูลฉินทุกคนก็ได้ยกมือก้มลงคารวะในเวลาเดียวกัน อย่างเสียงดังฟังชัด

เมื่อประตูผู้โดยสารเปิด

คุณหญิงใหญ่ตระกูลเฉินค่อยๆก้าวออกจากเครื่องบิน

นางกวาดตามองกลุ่มคนตระกูลฉิน และยิ้มอย่างสง่า “ ตามสบายเถอะ”

“ คุณหญิงใหญ่ตระกูลเฉิน ทุกอย่างจัดเตรียมไว้เรียบร้อยแล้ว ระหว่างทางคงเหนื่อยน่าดู โปรดพักผ่อนดีๆ ” เจ้าบ้านตระกูลฉินใบหน้ายิ้มแย้ม

ในเมืองซีสู่ ตระกูลฉินถือเป็นมหาเศรษฐีอันดับต้นๆ

ระดับมหาเศรษฐีที่สูงส่ง แต่เมื่อเผชิญหน้ากับตระกูลเฉิน เขาก็เป็นได้แค่ผู้คนต่ำต้อยที่ต้องก้มหน้าก้มตา ยิ้มแย้มเอาใจ

“ ช่วงนี้ตระกูลฉินดูวุ่นวายยิ่งนัก”

คุณหญิงใหญ่ตระกูลเฉินยิ้มและพูดหยอกล้อ

เจ้าบ้านตระกูลฉินถึงกับยิ้มไม่ออก ถอนหายใจอย่างท้อแท้ “ไอ้ลูกไม่รักดี เวรกรรมจริงๆ”

“เมื่อเป็นเช่นนี้ ควรจัดการให้เร็วที่สุด เพื่อเป็นแบบอย่างเตือนคนในตระกูล ไม่ให้ทำตาม”

คุณหญิงใหญ่ตระกูลเฉินดูท่าทีเฉยๆ แต่ดวงตากลับฉายแววเยือกเย็น “ความสามารถในการปกครองราชวงศ์ของเจ้าบ้านตระกูลฉิน ฉันก็เคยได้ยินมาบ้างแล้ว ลูกไม่รักดี ดื้อรั้นและไม่กตัญญูเช่นนี้ ก็คงปฏิเสธไม่ได้ว่ามีความเกี่ยวพันกับคนของตระกูลเฉินด้วย ถ้าไม่ใช่เพราะไอ่ลูกสวะของตระกูลเฉินคอยก่อเรื่องในครั้งนี้ เจ้าบ้านตระกูลฉินก็คงไม่ถึงกับจะจัดการกับลูกทรยศคนนี้ไม่ได้”

เจ้าบ้านตระกูลฉินยิ้มอย่างหมดหนทาง “คุณหญิงใหญ่ตระกูลเฉินได้โปรดตรวจสอบให้ชัดเจน เหตุการณ์ครั้งนี้เป็นเพราะเฉินตงจริงๆ ที่คอยก่อเรื่อง ”

ตั้งแต่ต้นจนจบเขาไม่ได้แสดงความประหลาดใจใด ๆ

กำลังของตระกูลเฉิน ถ้ามีใจที่จะสืบหาความจริง ยังไงก็ต้องสืบหาเบาะแสได้อยู่แล้ว

อีกทั้งเจ้าบ้านตระกูลฉินยังรู้ถึงสถานการณ์ของเฉินตงที่อยู่ในตระกูลเฉินด้วย

“ไปกันเถอะ ครั้งนี้ฉันตั้งใจมาเพื่อเรื่องนี้โดยเฉพาะ ยังไงก็ต้องให้ความยุติธรรมกับตระกูลฉินแน่นอน ” ระหว่างคิ้วของคุณหญิงใหญ่ตระกูลเฉิน ดูเยือกเย็นกว่าเดิม

เจ้าบ้านตระกูลฉินดีใจยิ่งนัก ที่นิ่งเฉยมาหลายวันนี้ ก็เพราะเกรงกลัวอำนาจของตระกูลเฉิน จึงไม่กล้าทำอะไรบุ่มบ่าม

ในเมื่อวันนี้คุณหญิงใหญ่ตระกูลเฉินได้ให้เกียรติเสด็จมาถึงที่นี่ และแสดงจุดยืน แน่นอนนี่เป็นการให้ความอุ่นใจแก่เจ้าบ้านตระกูลฉิน

นี่เป็นความแค้นที่ต้องชำระ

เป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องถึงภาพลักษณ์ของตระกูลฉินมหาเศรษฐีแห่งเมืองซีสู่ หากไม่จัดการให้เร็วที่สุด ผลที่ตามมาจะไม่ต่างกับกระกูลหลี่ในเมืองหลวง !

ทั้งคู่หัวเราะพูดคุยและเดินไปยังขบวนรถ

และด้านหลัง เป็นกลุ่มคนตระกูลฉินและตระกูลเฉินที่เดินตามมาอย่างนอบน้อม

…………..

อีกฝั่งหนึ่ง

เมื่อกลับถึงบริษัท กู้ชิงหยิ่งก็ได้โทรเรียกเฉินตงออกไปในทันที

เมื่อเห็นกู้ชิงหยิ่ง เฉินตงรีบถาม “เกิดอะไรขึ้น? กลางวันแสกๆอยู่เลย เรื่องอะไรร้อนใจขนาดนี้”

กู้ชิงหยิ่งยิ้มหวาน “พ่อแม่ฉันจะกลับมาแล้ว ”

เฉินตงอึ้งไปสักพัก

ครั้งล่าสุดที่พ่อแม่ของกู้ชิงหยิ่งจากไป ก็เพื่อไปบ้านตระกูลเฉิน

ด้วยความสัมพันธ์ของเขา ครั้งนี้กู้โก๋ฮั๋วคงจะเคาะประตูตระกูลเฉินได้อย่างราบรื่นแล้ว

“มาเมื่อไหร่ ผมจะได้จัดเตรียมไว้ก่อน ” เฉินตงถาม

“ คืนนี้แหละ ”

กู้ชิงหยิ่งกล่าว “ คุณยุ่งขนาดนี้ ฉันจัดการเองดีกว่า พ่อแม่ฉันไม่มาอยู่นานหรอก พรุ่งนี้ก็กลับละ ที่มาครั้งนี้ ก็เพราะว่าอยาก……. ”

“ พูดถึงตรงนี้ ใบหน้างดงามของกู้ชิงหยิ่งแดงเล็กน้อย และรู้สึกเขินอาย

อะไรนะ? ” เฉินตงไม่เข้าใจ

“ คุณขอฉันแต่งงานแล้วนิ ” กู้ชิงหยิ่งพูดด้วยน้ำเสียงที่อ่อนโยน

กำหนดวันแต่งงาน?

เฉินตงเข้าใจในทันที

ในเมื่อขอแต่งงานแล้ว ก็ควรจะตกลงเรื่องของการแต่งงานกันละ

เฉินตงขยี้จมูก แล้วยิ้มพูด “ ผมเข้าใจแล้ว งั้นคืนนี้ก็จะขอคุยเรื่องสินสอดกับคุณลุงคุณป้าทีเดียวเลยนะครับ ”

พิธีงานแต่งตามหลักประเพณีนิยม สินสอดทองหมั้น ต้องทำตามอย่างเคร่งครัดทุกขั้นตอน

ในเมื่อจะกำหนดวันแต่งงานแล้ว ก็ควรทำตามหลักธรรมเนียมอย่างเคร่งครัด

ในเรื่องนี้ เฉินตงไม่เคยคิดที่จะละเลย

ถ้าเขาละเลย เขาคงต้องรู้สึกผิดต่อกู้ชิงหยิ่งไปตลอดชีวิต

“งั้นผมไปจัดการนะ สถานที่ยังคงเป็นคลับสี่ยิ่นของลุงเมิ่งเหมือนเดิมนะครับ ”

กู้ชิงอิ่งเขย่งปลายเท้าขึ้น แตะแก้มเฉินตงเบาๆ

จากนั้นเขาก็จากไปอย่างร่าเริง

เฉินตรงมองดูกู้ชิงหยิ่งเดินไป และสัมผัสถึงความอบอุ่นที่ยังหลงเหลืออยู่บนแก้ม

ในความมึนงง เขารู้สึกประหม่าเล็กน้อย

ไม่ว่าจะเป็นตอนที่ตกลงคบกับกู้ชิงหยิ่ง หรือฉากที่ของแต่งงาน

เขาก็ไม่เคยมีความรู้สึกแบบนี้มาก่อน

แม้ว่าเขาจะแต่งงานครั้งที่สองแล้ว แต่พอนึกถึงกู้ชิงหยิ่ง เขาก็ยังรู้สึกประหม่าทำตัวไม่ถูก

หายใจเข้าลึกๆ

เฉินตงส่ายหน้า แล้วรู้สึกขำตัวเอง “จะตื่นเต้นอะไรขนาดนี้เนี่ย? ทั้งชีวิตของชิงหยิ่งก็มอบให้ฉันแล้ว นับภาษาอะไรกับเรื่องแค่นี้ ยังจะมาตื่นเต้น ”

………..

แวบเดียวก็ถึงเวลาหกโมงเย็น

พอเฉินตงเลิกงาน ท่านหลงกับหลี่หลานก็ได้ขับโรลส์-รอยซ์ไปรอรับอยู่ที่ข้างถนนแล้ว

หลังจากที่ขึ้นรถ ก็ได้ขับตรงไปยังคลับสี่ยิ่น

ระหว่างทาง บรรยากาศบนรถก็ดูอบอุ่นมีความสุข

สิ่งที่ทำให้เฉินตงถึงกับพูดไม่ออกก็คือ หลี่หลานเริ่มปรึกษากับท่านหลง ว่าลูกของเขากับกู้ชิงหยิ่งจะชื่ออะไรดี

เฉินตงทนฟังต่อไม่ได้จริงๆ “ คุณแม่ นี่เพิ่งจะตกลงเรื่องงานแต่งงานกันนะ แม่ก็เริ่มตั้งชื่อให้ลูกผมแล้ว แม่จะใจร้อนไปไหนครับเนี่ย?”

“ เด็กโง่เอ๊ย นี่เรียกว่าใจร้อนเหรอ? คิดไว้ตั้งแต่ตอนนี้ ถึงตอนนั้นจะได้ไม่ต้องวุ่นวายไงล่ะ” หลี่หลานมองอย่างไม่พอใจ

เฉินตงถึงกับพูดไม่ออก

ฟังจากที่แม่พูด อย่างกับว่าแค่หลับตาแล้วลืมตา ลูกก็จะกระโดดออกมาเลยงั้นเหรอ?

แต่เขาก็เข้าใจหัวอกของคนเป็นแม่

สามปีที่แต่งงานกับหวางหนันหนัน

เนื่องจากอาการป่วยของแม่ ตระกูลหวางไม่เคยแสดงสีหน้าดีๆให้เลย ทำให้คุณแม่ก็ต้องคอยทนรับอารมณ์และลำบากไปด้วย

ส่วนเรื่องอุ้มหลาน นั้นยิ่งเป็นความหวังที่เป็นไปไม่ได้เลย

และในตอนนั้น นับครั้งไม่ถ้วนที่ตระกูลหวางต้องการให้เฉินตงย้ายทะเบียนเข้าตระกูลหวางด้วยซ้ำ เพื่อที่ลูกเกิดมาจะได้แซ่หวาง นี่มันต้องการแต่งเขยเข้าบ้านชัดๆ

เรื่องนี้ยังไงคุณแม่ก็ไม่ยอมรับ และเฉินตงเองก็ไม่เต็มใจแน่นอน

ซึ่งด้วยเหตุนี้ ตลอดสามปีที่ผ่านมาหวางหนันหนันจึงไม่ยอมมีลูกกับเฉินตง

ที่สุดฟ้าก็สว่างสักที สถานการณ์ทางบ้านดีขึ้นเรื่อยๆ

ส่วนกู้ชิงหยิ่ง ไม่ว่าจะเป็นความกตัญญูกตเวทีต่อมารดาหรือความดูแลเอาใจใส่ต่อเขา ก็ไม่มีข้อบกพร่องใดๆเลย

งานแต่งเช่นนี้ คุณแม่ไม่มีความสุขก็แปลกแล้ว

รถโรลส์-รอยซ์ขับเข้าไปในคลับสี่ยิ่น

หลังลงจากรถ ทั้งสามก็เดินตรงไปที่ลานป่าไผ่

ขณะนี้ ภายในลานป่าไผ่เต็มไปด้วยเสียงหัวเราะอย่างสนุกสนาน

“ ไอ้กู้เอ๊ย ครั้งนี้ก็นับว่ามาไม่เสียเที่ยวนะ”

ท่านเมิ่งพูดคุยและหัวเราะเบาๆ

กู้โก๋ฮั๋วหน้าแดงเปล่งประกาย ด้วยความภาคภูมิใจ รอบนี้มาไม่เสียเที่ยวจริงๆ ก็ถือว่าคุ้มค่าจริงๆ กับความพยายามตลอดหลายปีที่ผ่านมาของผม

ด้วยความสัมพันธ์ระหว่างเฉินตง

การเดินทางไปบ้านตระกูลเฉินในครั้งนี้ เขาได้รับการต้อนรับที่ดีมาก

เจ้าบ้านตระกูลเฉินใด้ออกไปต้อนรับด้วยตัวเอง ได้ยินแค่ “พ่อตา” คำเดียวก็ทำเอากู้โก๋ฮั๋วหัวใจเบิกบาน

ส่วนเรื่องการร่วมงาน เฉินเต้าหลินก็ตอบตกลง โดยไม่มีความลังเลใดๆ

แม้แต่เงื่อนไขที่ออกให้ ก็ทำเอากู้โก๋หัวดีอกดีใจจนอกสั่นขวัญแขวน

“เขย ตงเอ๋อเป็นลูกเขยของตระกูลกู้จริงๆ”

กู้โก๋ฮั๋วแอบชื่นชมอยู่ในใจ ภายใต้ความปิติยินดี เขาพูดกับท่านเมิ่งด้วยความระมัดระวัง “ ท่านเมิ่ง ผมไม่กลัวคุณจะหัวเราะเยาะ ”

“ ผมกลับมาในครั้งนี้ ก็เพราะอยากให้ลูกทั้งสองแต่งงานกันให้ไวที่สุด ไม่อย่างนั้นผมคงจะกังวลใจตลอดเวลา ”

หลี่หวั่นชิงมองอย่างทำอะไรไม่ถูก แล้วส่ายหน้าหัวเราะเบาๆ

“ กลัวเขาจะหนีรึ? ” ท่านเมิ่งเลิกคิ้วขึ้นและกล่าว

กู้โก๋ฮั๋วพยักหน้าอย่างจริงจัง

The Winner is king ผู้ชนะเลศคือราชา

The Winner is king ผู้ชนะเลศคือราชา

เฉินตงกับหวางหนันหนันแต่งงานกัน3ปี ถูกภรรยาที่ยกน้องชายเป็นหัวแก้วหัวแหวนบีบคั้น แล้วยังถูกดูถูกเหยียดหยาม วันหนึ่งได้กลับตระกูลมหาเศรษฐี เขาสาบานว่าต้องกอบกู้ศักดิ์ศรีกลับคืนมา ต้องทำให้คนที่ดูถูกเขาเสียใจกับสิ่งที่ทำ ให้คนที่เหยียดหยามเขาต้องชดใช้อย่างสาสม

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท