The Winner is king ผู้ชนะเลศคือราชา – บทที่ 247 สังเวียนที่สี่!

บทที่ 247 สังเวียนที่สี่!

ภายในห้องควบคุม

บรรยากาศเย็นเยือก

ทุกคนมีท่าทีเคร่งขรึม รวมถึงป๋าด้วย

เมื่อเผชิญหน้ากับผู้มาเยือน ทุกคนต่างก็เฝ้าระวัง

ตรงหน้าป๋า มีชายสวมชุดดำยืนอยู่

หมวกใบใหญ่ปิดบังใบหน้าของเขา มีเพียงคางที่มีหนวดเคราโผล่ออกมา

“หืม?”

เสียงหืมเบาๆ ออกจากปากของชายคนนั้น ที่ซึ่งกำลังตั้งคำถามอยู่

ป๋ารีบตอบไปว่า :“เกรงว่า จะเป็นเรื่องยาก”

ในตอนที่ตอบคำถามนี้ออกไป ป๋าก้มหน้า แสดงความเคารพ

คำพูดไร้น้ำหนัก

จากการต่อสู้เมื่อกี้ ป๋าก็มองเห็น ว่าเฉินตงรู้จุดอ่อนของจ่าฝูงคุกNO.8 ดังนั้นจึงเลือกที่จะโจมตีไปที่จุดอ่อนนั่น

แต่สิบคุกที่เสียงดัง ยกเว้นคนตรงหน้านี้

เก้าคนที่เหลือ เฉินตงก็เพิ่งจะเอาชนะไปได้เพียงสองคน อีกเจ็ดคน ลำพังรู้เพียงจุดอ่อนคงยังไม่พอ

การต่อสู้สองครั้งที่ผ่านมา อาจเพราะรู้จุดอ่อนของจ่าฝูง ทำให้เฉินตงใช้กำลังไปน้อยแต่ได้ผลงานดี

แต่หลังจากนั้น เมื่อทุกคนต่างรู้แจ้ง บนสังเวียนชีวิตจ่าฝูงที่เหลือก็จะพยายามปกป้องจุดอ่อนของตัวเอง

ยิ่งนานวันเข้า ความยากในการเอาชนะบนสังเวียนชีวิตของเฉินตงก็จะยิ่งยากขึ้นไปอีก

ในสถานการณ์ที่ร่างกายไร้กำลังในการต่อสู้ เหตุการณ์แบบนี้ มันอันตรายมาก

“แต่ฉันคิดว่าเขาสามารถมาอยู่ตรงหน้าฉันได้”

ชายในเสื้อคลุมยกยิ้มเล็กน้อย มุมปากที่ยกขึ้นเผยให้เห็นถึงความชั่วร้าย:“เขาแซ่เฉินใช่ไหม?”

ป๋ารู้สึกประหลาดใจ แต่ก็พยักหน้ารับ

ชายในชุดคลุมพ่นลมหายใจเย็นๆออกมา ยืนบิดขี้เกียจ แล้วพูดว่า :“สิบปีที่แล้วปล่อยให้ชายร่างใหญ่นั้นออกไป คราวนี้ก็มาอีกคน ไม่รู้ว่าควรปล่อยหรือไม่ควรปล่อยไปดี ?”

พูดจบ เขาหันหลังแล้วเดินจากไป

เสียงก้องไปทั่วทั้งห้องควบคุม

ทำให้ป๋าและคนอื่นๆต่างก็ประหลาดใจ

คำว่า“ปล่อยเขาไป”ราวกับฟ้าผ่าในตอนกลางวัน

นี่หมายความว่า……คนตรงหน้านี้ ตั้งใจที่จะปล่อยคุนหลุนไปในตอนนั้นเหรอ ?

ป๋ารู้สึกสับสน แววตาวูบวาบ

ในสมอง นึกไปถึงภาพของคุนหลุนกับการต่อสู้ของชายคนนี้เมื่อสิบปีที่แล้ว

การต่อสู้ที่น่าเวทนาในตอนนั้น เป็นเขาที่ยอมอ่อนข้อให้จริงๆ เหรอ?

สักพักใหญ่ๆ

ป๋าก็หัวเราะออกมา :“ถ้าเป็นแบบนั้น คุนหลุนในตอนนั้นก็นับว่าโชคดีมาก”

เขาหันหลังกลับ มองไปยังภาพในจอ

คุก NO.8 ในเวลานี้ไม่มีแม้ร่องรอยของเฉินตง

เฉินตงกลับไปยังห้องขังในคุก NO.9

จากการมองจากกล้องวงจรปิด ป๋าเห็นเฉินตงนั่งเคียงข้างกันกับหมียักษ์ กำลังกระซิบกระซาบกัน

ดวงตาป๋าฉายแววล้ำลึก:“สิบวันกับสิบชัยชนะ ความกล้าหาญของนาย ยิ่งใหญ่กว่าของคุนหลุนในตอนนั้น แต่ก็ขอให้นายสมหวัง และมิตรภาพของฉันกับคุนหลุนก็จะไม่ไร้ค่า”

……

“คุณเฉิน สังเวียนชีวิตในวันพรุ่งนี้ เป็นการต่อสู้ระหว่างคุณกับหมาป่าละโมบ ทางนั้น ผมได้วางแผนเตรียมการเอาไว้ให้แล้ว”

ใบหน้าของหมียักษ์เปี่ยมไปด้วยรอยยิ้ม และรอยยิ้มนั้นก็แฝงไปด้วยความน่ากลัว

แต่ทว่า

เฉินตงยิ้มแล้วพยักหน้ารับ:“การต่อสู้ทั้งสองรอบ หากพรุ่งนี้สามารถควบคุมได้ ฉันก็จะมีเวลาพักฟื้นเพิ่มอีกวัน”

นี่เป็นสิ่งที่เขาคาดการณ์เอาไว้ล่วงหน้า

ในคุกมืดนี้ เมื่อสังเวียนชีวิตเริ่มต้นขึ้น

ผู้ท้าชิงจะมีสิทธิ์เลือกคู่ต่อสู้

สิบวันกับสิบสังเวียน มันคือสิ่งที่บีบคั้นที่สุดในชีวิต

เฉินตงทำได้เพียงใช้วิธีที่ “ฉาบฉวย”แบบนี้ เพื่อให้ตัวเองมีเวลาได้ฟื้นฟูสภาพร่างกายให้ได้มากที่สุด

กับสถานการณ์ที่ต้องดิ้นรนกับความเป็นความตายแบบนี้ ต่อให้มีเวลาพักฟื้นเพิ่มอีกหนึ่งวัน ก็สามารถฟื้นตัวให้กับสภาพร่างกายของเขา

“คุณเฉิน คุณวางแผนได้ดีแล้ว แต่คุณต้องคิดให้รอบคอบ หมาป่าละโมบกับทูตสวรรค์ดำสามารถช่วยให้คุณชนะได้สองเวที และช่วยให้คุณมีเวลาพักฟื้นสองวัน”

น้ำเสียงของหมียักษ์ทุ้มต่ำ ในเมื่อเลือกที่จะติดตามแล้ว เขาก็ทุ่มเทใจอย่างเต็มความสามารถช่วยเฉินตงคิด :“ถึงจะเป็นไปตามนี้ แต่สังเวียนชีวิตหลังจากนี้ คุณก็จะต้องเจอกับเรื่องยากขึ้นไปเรื่อยๆ !”

“สงคราม!”

แววตาของเฉินตงเต็มไปด้วยวิญญาณของการต่อสู้ คำที่พูดออกมา ก้องกังวานและมีพลัง

หมียักษ์ได้แต่ถอนหายใจอย่างจนใจ

แนชวิลล์และคนอื่นที่เหลือ มองไปที่เฉินตงด้วยความเกรงกลัว

ในคุกมืดนี้ ผู้แข็งแกร่งที่สุดคือผู้อยู่รอด ทุกคนต่างดิ้นรนที่จะมีชีวิตรอด

แต่กับเฉินตงที่ไม่กลัวตายแบบนี้ นักโทษที่คุ้นชินกับความเลือดร้อน ต่างก็มีความเกรงกลัวอยู่ลึกๆในใจ

เอาตัวรอดจนชิน พอมีคนที่ไม่กลัวตายมาปรากฏ ในสายตาของพวกเขา ร่างนั้นก็เหมือนมีแสงประกาย

……

สถานที่ในคุกมืดนี้ ดวงอาทิตย์เที่ยงคืนหรือคืนขั้วโลก

บวกกับกำแพงที่สูงล้อมรอบ ทำให้คนในคุกมืดนี้ไม่รู้วันคืนและเวลา

แต่สำหรับเฉินตงแล้ว ตั้งแต่ที่รู้คืนวันเวลาจากป๋า เขาก็จดจำแต่ละนาทีไว้อย่างชัดเจน

เพราะเขาไม่มีเวลาพอที่จะปล่อยให้มันผ่านไปอย่างไร้ค่าได้

สิบวันกับสิบสังเวียน มันเป็นแผนการที่เขาเห็นว่ามันเหมาะสมกับการสู้ศึกที่สุดแล้ว

หากล่าช้าไปมากกว่านี้ ทุกอย่างของเขา ก็จะถูกยึดและถูกแทนที่

แม่ ภรรยา พี่น้อง ทุกสิ่งทุกอย่าง มันทำให้เขาต้องจดจำเวลาของตัวเองเอาไว้ให้ได้อยู่ตลอด

เวทีการต่อสู้ที่สามนี้ เป็นไปตามที่เฉินตงกับหมียักษ์ได้คาดการณ์ไว้ จ่าฝูงของคุกNO.10หมาป่าละโมบดูราวกับต่อสู้อย่างดุเดือด แต่เขาก็ออมมือให้อยู่มาก

และมันก็ทำให้เฉินตงมีชัยชนะกับการต่อสู้ครั้งนี้ไปได้อย่างง่ายดาย

เหมือนกับการต่อสู้ของเมื่อวานนี้ และมันก็ทำให้นักโทษทั้งหมดของคุกNO.10ถึงกับงงไปตามๆกัน

บางคนถึงกับสงสัย การต่อสู้กับจ่าฝูง มันง่ายดายแบบนี้ไปตั้งแต่เมื่อไรกัน ?

คนที่ขึ้นต่อสู้ในสังเวียนชีวิตนี้ เป็นจ่าฝูงของเรือนจำนี้จริงๆเหรอ ?

แต่ไม่ว่ายังไง นี่ไม่ใช่สิ่งที่เฉินตงให้ความสำคัญ

เป้าหมายของเขาคือ การเอาชนะ !

เป็นการเอาชนะสิบสังเวียนติดต่อกัน!

แล้วออกจากไปจากคุกมืดนี้!

ไม่ใช่การให้ความสนใจในวิธีการ และยิ่งไม่ใช่การให้ความสนใจกับคำถามต่างๆของนักโทษ

ชนะเป็นเจ้าแพ้เป็นโจร

บางครั้งเพื่อชัยชนะ การไม่เลือกวิธีการ มันจะผิดอะไร ?

ในการต่อสู้ที่ดุเดือดแบบนี้ ทุกวินาทีสำหรับเฉินตงแล้ว มันมีค่ามากนัก

ได้พักผ่อนอีกคืน สภาพร่างกายของเฉินตงก็ฟื้นตัวมากขึ้น

แม้ว่าบาดแผลบนร่างกายของเขาจะไม่หายเป็นปรกติ แต่เมื่อปรับสภาพร่างกายได้ ก็พอช่วยให้เขามีร่างกายที่พร้อมกับการต่อสู้“ฟู่……”

เฉินตงลืมตาขึ้น แล้วมองดูท้องฟ้าที่มืดสลัวของเรือนจำ :“เวทีที่สี่แล้ว วันนี้เล่นตุกติกไม่ได้อีกแล้ว”

เขาบิดขี้เกียจ ลุกขึ้นแล้วเดินออกไป

“คุณเฉิน……งูเหลือมในคุกNO.7 คุณต้องจำเอาไว้ จุดอ่อนของเขาอยู่ที่ตา”

หมียักษ์ก็ลืมตาขึ้น จ้องมองไปที่เฉินตงด้วยสายตาที่มุ่งมั่น:“จุดอ่อนของเขา มันไม่ใช่ความลับอะไร หากคุณสามารถจัดการกับจุดอ่อนนี้ของเขาได้ การเอาชนะก็จะใช้เพียงไม่กี่นาที”

เฉินตงยิ้มอย่างขมขื่น

เรื่องพวกนี้ เมื่อวานหมียักษ์ได้บอกเขาแล้ว

แต่ว่า จุดอ่อนที่คนทั้งคุกมืดนี้ก็รู้ งูเหลือมยังสามารถอยู่ในตำแหน่งจ่าฝูงของคุกNO.7ได้ นี่ยังอธิบายอะไรไม่ได้อีกเหรอ ?

หรือบางที……จุดอ่อน คงไม่ใช่จุดอ่อนอีกต่อไปแล้ว ?

สังเวียนชีวิตที่สี่นี้ กำหนดความเป็นความตาย !

“ฉันรู้แล้ว”

เฉินตงตอบกลับพอเป็นพิธีให้กับหมียักษ์

และเมื่อผู้คุมเปิดประตูห้องขัง เฉินตงก็เดินออกจากห้องขังไป เขาตกตะลึง

ป๋ายืนอยู่ไม่ไกลมากนัก ใบหน้าที่มีหนวดเคราเผยรอยยิ้มที่แปลกประหลาด

หลังจากนั้น

ป๋ายกมือขวาขึ้น ทักทายกับเฉินตง แล้วยิ้มอย่างมีเลศนัย

เฉินตงผงะ แล้วเดินเข้าไปหาป๋า

ป๋าเองก็ได้นำสิ่งของบางอย่างยัดใส่มือของเขาอย่างเงียบ ๆ

แล้วกระซิบว่า :“นี่เป็นสิ่งที่ฉันพอจะช่วยนายได้ ของล้ำค่านี้หวังว่าจะมีประโยชน์กับนาย”

The Winner is king ผู้ชนะเลศคือราชา

The Winner is king ผู้ชนะเลศคือราชา

เฉินตงกับหวางหนันหนันแต่งงานกัน3ปี ถูกภรรยาที่ยกน้องชายเป็นหัวแก้วหัวแหวนบีบคั้น แล้วยังถูกดูถูกเหยียดหยาม วันหนึ่งได้กลับตระกูลมหาเศรษฐี เขาสาบานว่าต้องกอบกู้ศักดิ์ศรีกลับคืนมา ต้องทำให้คนที่ดูถูกเขาเสียใจกับสิ่งที่ทำ ให้คนที่เหยียดหยามเขาต้องชดใช้อย่างสาสม

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท