The Winner is king ผู้ชนะเลศคือราชา – บทที่ 256 ฉันแซ่เฉิน

บทที่ 256 ฉันแซ่เฉิน

เมื่อเฉินตงเดินตามป๋าเข้าไปในห้องควบคุม

เต้าจูนเอนหลังพิงเก้าอี้อย่างเกียจคร้าน และสูบซิการ์อยู่

ชายชราผมหงอกนั่งอยู่ด้านข้าง

เมื่อเห็นเฉินตง ชายชราผมหงอกก็ลุกขึ้น แล้วยิ้มอย่างอ่อนโยน

“เฉินตง นั่งสิ”

ป๋าที่ยืนอยู่ด้านข้างพูดขึ้น :“นี่คือพัศดีของคุกมืดนี้ ”

ผู้มีอำนาจสูงสุดของคุกมืดนี้ !

เฉินตงตะลึงงัน แต่เมื่อคิดได้ว่าตัวเองผ่านการต่อสู้มาสิบครั้งและชนะแล้วได้เจอกับพัศดี ก็สมเหตุสมผลอยู่

ยิ่งไปกว่านั้น พูดกันตามตรง ตัวเขาเองก็รู้สึกว่าการต่อสู้สิบครั้งแล้วชนะนี้ เป็นไปด้วยวิธีการที่ไม่เหมาะสมในการชนะ

หากไม่ใช่เพราะ“การกระทำ”ของเต้าจูน โอกาสที่เขาจะได้เจอกับเต้าจูนในสังเวียนสุดท้ายก็คงยาก

และตอนนี้พัศดีก็มาปรากฏตัว ไม่แคล้วคงเกี่ยวข้องกับสิบสังเวียนเป็นแน่

ในใจของเฉินตงอดไม่ได้ที่จะตั้งคำถาม เป็นเรื่องเกี่ยวกับการจะออกไปจากคุกมืดนี้หรือไม่

เต้าจูนพูดอย่างสงบ:“นั่งลงสิ นายมีคุณสมบัติที่จะออกไปจากคุกมืดนี้แล้ว ”

เฉินตงมองไปยังเต้าจูน ในใจที่หนักอึ้งก็ผ่อนคลายลง แล้วนั่งลง

ภายในห้องควบคุม

เงียบไม่มีเสียง

หลังจากผ่านการต่อสู้มา ร่างกายของเฉินตงอ่อนล้าหมดแรง และการนั่งบนเก้าอี้ในตอนนี้ ทุกวินาทีเป็นไปด้วยความทรมาน

ความเจ็บปวดทั้งร่างกาย ทำให้เขามีใบหน้าซีดเซียว และมีเหงื่อออกราวกับสายฝน

แต่เขาก็ไม่ได้แสดงออกถึงความเจ็บปวดเลยแม้แต่น้อย ดวงตาเต็มไปด้วยความเด็ดเดี่ยว

“นายเก่งมาก”

เต้าจูนยิ้มแล้วพยักหน้าให้กับชายชราผมหงอก

“อุปนิสัย ความสามารถ ความรับผิดชอบ ล้วนยอดเยี่ยม”ชายชราผมหงอกก็เห็นด้วยเช่นกัน

เฉินตงรู้สึกประหลาดใจ เรียกฉันมา เพื่อจะกล่าวชมเชยต่อหน้า ?

ความเจ็บปวดในร่างกาย และเวลาที่กระชั้นชิด ทำให้เฉินตงนั่งรอต่อไปไม่ไหว

เขาต้องรีบกลับบ้าน

เฉินตงสูดหายใจเข้าลึกๆ แล้วถามข้อสงสัยที่มีอยู่ในใจ :“ผู้อาวุโสเต้าจูน คุณรู้จักพ่อผม ?”

“ผู้อาวุโส?”

เต้าจูนเลิกคิ้ว ยิ้มอย่างเรียบง่าย แล้วพูดว่า:“เต้าจูน เป็นชื่อของฉัน จริงๆ แล้วฉัน……แซ่เฉิน”

เฉินเต้าจูน ?

เฉินเต้าหลิน ?

เฉินตงขมวดคิ้ว แล้วจิปาก ทันใดนั้นก็นึกออกขึ้นมา และใบหน้าก็ตกตะลึง

“เข้าใจแล้ว?”

เฉินเต้าจูนยิ้มอย่างอ่อนโยน:“นาย ควรเรียกฉันว่าลุง!”

โครม!

เมื่อหัวสมองคาดเดาเรื่องราวต่างๆเอาไว้ และได้รับการยืนยันจากปากของเฉินเต้าจูนเอง

เฉินตงรู้สึกราวกับนั่งอยู่บนขี้ผึ้ง

พี่ชายของพ่อ อยู่ในคุกมืดนี้ ?

อีกทั้งยังคุมคุกมืดนี้มายี่สิบกว่าปี ?

และอื่นๆอีกมากมาย!

ความตระหนกตกใจในแววตาของเฉินตงก็ทวีความรุนแรงมากขึ้นไปอีก

ยี่สิบกว่าปี เป็นตัวเลขที่ประมาณการ

และเขาก็พอจะคาดเดาเหตุการณ์บางอย่างได้บ้างแล้ว

ยี่สิบกว่าปีที่แล้ว น่าจะประมาณช่วงที่เขาเกิด เป็นช่วงที่พ่อกลับไปยังตระกูลเฉินเพื่อสืบทอดตำแหน่ง และยังเป็นช่วงที่เฉินเต้าจูนถูกจองจำในคุกมืดนี้

ตัวเลขที่ประมาณการนี้ รวมกับเหตุการณ์ต่างๆที่เกิด ก็ประจวบเหมาะกันทุกอย่าง และมีความเป็นไปได้ที่สุด

และด้วยความสามารถของเฉินเต้าจูน ก็คงจะเป็นหนึ่งในผู้สืบทอดของตระกูลเฉินในเวลานั้นด้วยเช่นกัน !

“ฟู่~”

และในตอนที่เฉินตงกำลังตกใจอยู่นั้น เฉินเต้าจูนก็สูบซิการ์ และพ่นควันไปที่ใบหน้าของเฉินตง

เฉินตงถึงกับสำลักควันแล้วไอออกมา

ผ่านควันไฟ เขามองเห็น ท่าทีของเฉินเต้าจูนก็เย็นชาและเคร่งขรึมขึ้นทันใด

เสียงที่เยือกเย็นก็ดังขึ้น

“ด้วยสมองของนาย ก็น่าจะเดาได้ ในตอนนั้นฉันถูกพ่อของนาย ส่งมาที่คุกมืดนี้ ? ”

เสียงราวกับลมหนาวที่พัดมาจากขุมนรก ทำให้ร่างกายเฉินตงเย็นเยือกลงทันที

ความรู้สึกกลัวแผ่ซ่านไปทั่วร่างกาย

พ่อส่งเฉินเต้าจูนมาที่คุกมืดนี้ และถูกจองจำมานานกว่ายี่สิบปี

ความแค้นที่ฝังลึกนี้……

เมื่อเสรีภาพของคนคนหนึ่งถูกทำลายอย่างสิ้นเชิง ความเกลียดชังที่ก่อตัวขึ้น แม้จะมีความสัมพันธ์ทางสายเลือด ก็อาจเปราะบางจนยากที่จะทนได้

แต่แล้ว เฉินตงก็ขมวดคิ้วนิ่งแล้วมองไปที่เฉินเต้าจูนที่เย็นชาและเคร่งขรึม

“เพราะฉะนั้น ลุงถึงได้ปกป้องผมเพื่อให้ได้ออกไปจากคุกมืดนี้ ?”

“เชรด!”

เฉินเต้าจูนเอนหลังพิงไปที่เก้าอี้ แล้วสบถด่า

ยักไหล่ แล้วพูดอย่างเอือมๆไปว่า :“ไอเด็กคนนี้เหมือนพ่อมันไม่มีผิด ฉลาดไหวพริบดี ที่จริงแล้ว ฉันก็ไม่โทษเขา ชนะเป็นเจ้าแพ้เป็นโจร เขาชนะเพราะความสามารถของเขา ฉันอยู่ในคุกมืดนี้ก็มีความสุขสบายดี”

หลังจากที่พูดจบ เฉินเต้าจูนก็โบกมือ

“ที่ควรพูดก็พูดไปแล้ว นายเองก็ไปจากคุกมืดนี้ได้แล้ว ”

บทสนทนาเพียงสั้นๆ แต่ก็เผยให้เห็นความจริงที่น่าเหลือเชื่อ

ไม่เพียงแค่เฉินตงเท่านั้นที่ตกใจ

ป๋าที่อยู่ข้างๆก็ตกใจมากไม่แพ้กัน

จนกระทั่งเฉินตงลุกขึ้น ป๋าก็ยังคงมึนงงอยู่ไม่หาย

ใครจะไปคิดว่า คนใหม่ที่ถูกส่งตัวมาในคุกมืดนี้ กลับมีความสัมพันธ์ที่สนิทแนบแน่น กับคนที่คุมคุกมืดนี้มานานกว่ายี่สิบปีได้ ?

แค่ความสัมพันธ์นี้ ยังอธิบายการกระทำที่ผ่านมาของเต้าจูน ไม่ได้อีกเหรอ?

“เฉินตง……”

ชายชราผมหงอกก็ลุกขึ้นทันที

“ท่านพัศดี มีอะไรจะชี้แนะครับ ? ”

เฉินตงไม่ได้โง่ สถานการณ์ในตอนนี้ พัศดีไม่ได้จะไต่สวนเขาเรื่องเกมการต่อสู้ของสิบสังเวียน

ความกังวลที่มีก่อนหน้า ตอนนี้ได้มลายหายไปหมดแล้ว

“คุณเรียกผมท่านหลินก็ได้”

ชายชราผมหงอกยิ้มอย่างอ่อนโยน ไม่มีท่าทางที่น่าเกรงขามเหมือนเป็นผู้คุมในคุกมืดนี้:“เดินทางปลอดภัย อันตรายและความยากลำบากที่นายต้องเผชิญ มันยิ่งใหญ่และรุนแรงกว่าที่นายคิดเอาไว้มาก”

เฉินตงรู้สึกงงงวย

แต่เขาก็พยักหน้ารับ กุมมือขอบคุณ:“ขอบคุณครับท่านหลิน”

“ไปเถอะ ฉันได้ส่งเครื่องบินมารับนายแล้ว”

ท่านหลินโบกมือ และกำชับกับป๋าไปว่า :“ป๋า คุ้มกันเฉินตงออกไปด้วย”

“รับทราบครับ”

ป๋ารับคำสั่งด้วยความเคารพ แล้วมองไปที่ดวงตาของเฉินตงแต่ทุกอย่างกลับไม่เหมือนเดิมแล้ว

ในตอนแรก เขาเห็นเฉินตงเป็นคนที่มีผิวสีเดียวกัน เพราะฉะนั้นจึงได้รู้สึกสนิทสนมใกล้ชิดกัน

เมื่อรู้ว่าเฉินตงเป็นลูกศิษย์ของคุนหลุน ความสนิทสนมนี้ก็พัฒนาเป็นความช่วยเหลือซึ่งกันและกัน

แต่ตอนนี้ เฉินตงทำให้เขาเริ่มรู้สึกหวาดเกรงในใจและเริ่ม……ชื่นชม

ในตอนที่เฉินตงเดินไปถึงที่ประตู

ด้านหลังก็มีเสียงของเฉินเต้าจูนดังขึ้น :“ แล้วก็ หากมีอะไรเกิดขึ้น ก็บอกป๋าได้เลย เขาจะมาบอกฉันอีกที ลุงของแกทำอะไรไม่เป็น แต่หากจะฆ่าใครฝีมือก็ยังได้อยู่นอกจากนี้แล้ว ก็ฝากทักทายไปยังไอพ่อเฮงซวยของแกด้วย บอกว่า ……เย็บแม่ง!”

มุมปากของเฉินตงกระตุก และเขาก็ไม่ได้พูดอะไรต่อ

แต่คำพูดของเฉินเต้าจูน กลับยิ่งทำให้เขาสงสัยมากขึ้นไปอีก

คุกมืดนี้ ไม่ใช่ว่าใครก็ออกไปไม่ได้ไม่ใช่เหรอ ?

วิธีเดียวที่จะออกไปจากที่นี่ได้ ยังลำบากยากเข็ญ

เฉินเต้าจูนที่คุมทั้งคุกมืดนี้มากว่ายี่สิบปียังไม่เคยที่จะออกไป คงต้องถูกอะไรสักอย่างกักขังเอาไว้เป็นแน่

ถ้าหากเขาตกอยู่ในอันตรายจริงๆ บอกเฉินเต้าจูน ที่อยู่ในคุกมืดที่ลึกถึงเพียงนี้ จะช่วยอะไรเขาได้ ?

กับความสงสัยที่อยู่ในใจ เฉินตงก็เดินตามป๋าออกจากห้องควบคุมไป

มองดูทั้งสองคนเดินจากไป

รอยยิ้มที่อ่อนโยนบนใบหน้าของเฉินเต้าจูน ก็ค่อยๆจางหายไป

ความเศร้าหมองเข้ามาแทนที่

เขาดับซิการ์อีกครึ่งนั้นทิ้ง แล้วพึมพำว่า:“ซิการ์นี้ ช่างไม่มีรสชาติอะไรเอาซะเลย ”

“อยากแก้แค้น ? แต่กลับช่วยลูกชายของศัตรูออกไปจากคุกมืด ไม่มีความสุข ?”ท่านหลินพูดแล้วหัวเราะออกมา

เฉินเต้าจูนชำเลืองมองไปยังท่านหลิน :“คุณพูดแบบนี้ ไม่มีสำนึกผิดชอบชั่วดีเลยหรือไง ?”

ท่าทีของท่านหลินแข็งทื่อ แล้วยิ้มแห้งออกมา

คุกมืดแทนที่จะเป็นที่คุมขัง ไม่สู้เรียกว่าเป็นเมืองยังจะดีเสียกว่า

เมืองคุกมืด !

ความใหญ่โตมโหฬารเช่นนี้ เฉินตงผู้ซึ่งเป็นอิสระในเวลานี้ ภายใต้การดูแลของป๋า รู้สึกซาบซึ้งใจยิ่งนัก

เมื่อเดิมตามป๋ามาถึงสนามบินของคุกมืด

เครื่องบินรบลำหนึ่งรอพร้อมไว้แล้ว

เสียงเครื่องยนต์ดังสนั่น ส่วนหางเคลื่อนไหวไปมา

“เฉินตง เดินทางปลอดภัย ”

ป๋าพูดอย่างจริงใจ:“ดีใจกับนายด้วย ที่ได้ออกไปจากคุกมืดนี้ ”

“ขอบคุณครับ”

เฉินตงกล่าวอย่างอ่อนแรง บาดแผลบนร่างกาย หลังจากที่ออกมาจากห้องควบคุม ป๋าได้พาเขาไปที่สถาบันการแพทย์รักษาอาการเบื้องต้นแล้ว ณ ตอนนี้น่าจะยังไม่มีปัญหาอะไร

เมื่อมองไปที่ป๋า ดวงตาของเฉินตงกลอกกลิ้งไปมา

เขาเอ่ยปากถาม:“ป๋า ขอละลาบละล้วงถามคุณสักคำถาม คุณกับคุนหลุน มีความสัมพันธ์ยังไงกัน ?

The Winner is king ผู้ชนะเลศคือราชา

The Winner is king ผู้ชนะเลศคือราชา

เฉินตงกับหวางหนันหนันแต่งงานกัน3ปี ถูกภรรยาที่ยกน้องชายเป็นหัวแก้วหัวแหวนบีบคั้น แล้วยังถูกดูถูกเหยียดหยาม วันหนึ่งได้กลับตระกูลมหาเศรษฐี เขาสาบานว่าต้องกอบกู้ศักดิ์ศรีกลับคืนมา ต้องทำให้คนที่ดูถูกเขาเสียใจกับสิ่งที่ทำ ให้คนที่เหยียดหยามเขาต้องชดใช้อย่างสาสม

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท