หลังจากคำพูดนี้ออกไป ทุกคนที่อยู่ในเหตุการณ์ต่างตกตะลึง
“เปรี้ยง” ทุกคนรู้สึกตกใจราวกับถูกฟ้าผ่า บรรยากาศภายในคลับสี่ยิ่นเงียบสงัดไปในทันที
ทุกคนต่างหันมองไปตามที่มาของเสียงด้วยความตกใจ
ฉินเย่ยังคงนั่งนิ่งอยู่บนรถเข็น ดวงตาของเขาจับจ้องไปด้านบนเวทีอย่างเยือกเย็น
จางหยู่หลันและกูหลังที่ยืนอยู่ด้านข้างต่างก็รู้สึกตกใจจนทำอะไรไม่ถูก
ส่วนเฉินตงที่ยืนอยู่บนเวทีก็มีสีหน้ามืดหม่นอย่างเห็นได้ชัด
บรรยากาศงานมงคลสมรสที่กำลังรื่นเริงและสนุกสนาน จู่ๆ ก็ถูกทำลายลง และกลายเป็นความเงียบสงัดในทันที
“หยู่หลัน ยังไม่รีบมานี่อีก ?”
มีเสียงตะคอกด้วยความโมโหดังขึ้นมาท่ามกลางฝูงชน
จางหยู่หลันยืนตัวสั่น เธอหันไปมองคุณท่านใหญ่ตระกูลจางที่อยู่ท่ามกลางฝูงชน และกำลังจะอ้าปากพูด
ตอนนี้คุณท่านใหญ่ตระกูลจางรู้สึกร้อนใจจนกระทั่งดวงตาแดงก่ำ เขากระทืบเท้าอย่างแรงหนึ่งครั้ง : “รีบมาหาปู่เดี๋ยวนี้เลย !”
นี่เป็นงานมงคลสมรสที่ยิ่งใหญ่ของลูกชายเจ้าบ้านตระกูลเฉิน !
คำว่า “คัดค้าน” ที่ฉินเย่พูดออกมา เท่ากับเป็นการทำลายงานแต่งของตระกูลเฉินเลยเชียวนะ !
นี่เรียกว่ากำลังรนหาที่ตายชัดๆ !
ตอนนี้คุณท่านใหญ่ตระกูลจางต้องรีบแยกจางหยู่หลันให้ออกห่างจากฉินเย่โดยเร็วที่สุด
ตระกูลเล็กๆ อย่างตระกูลจาง ไม่อาจต้านทานต่อความโกรธเกรี้ยวของตระกูลเฉินได้
“ที่รัก คุณไปเถอะ” ฉินเย่หันไปยิ้มเล็กน้อยให้จางหยู่หลัน
จางหยู่หลันกำลังจะอ้าปากพูด แต่เมื่อเห็นแววตาที่เปลี่ยนไปเป็นความเย็นชาของฉินเย่ เธอก็กลืนคำพูดของตัวเองกลับเข้าไปในทันที จากนั้นจึงค่อยๆ เดินเข้าไปหาคุณท่านใหญ่ตระกูลจาง
“บ้าไปแล้ว เจ้าเด็กคนนี้มันบ้าไปแล้ว”
ทุกคนมีความคิดเช่นเดียวกันหมดเมื่อหันไปมองฉินเย่
“ฉินเย่ แกกำลังทำบ้าอะไร ?”
ในช่วงหน้าสิ่วหน้าขวาน เจ้าบ้านตระกูลฉินเดินก้าวออกมาจากฝูงชน เขาชี้นิ้วไปที่ฉินเย่แล้วตะโกนด่าทอว่า : “คนทรยศและอกตัญญูอย่างแก ยังคิดจะก่อเรื่องใหญ่เช่นนี้อีกหรือ ? แกอยากรนหาที่ตายหรืออย่างไร ?”
“ผมออกจากตระกูลฉินแล้ว ไม่มีความเกี่ยวอะไรกับคุณอีกต่อไป !” ฉินเย่ยิ้มอย่างดูถูก
ฮะ……
เกิดความโกลาหลขึ้น
นี่คือคนในตระกูลฉินที่ฆ่าพ่อตัวเองคนนั้นอย่างนั้นหรือ ?
ถึงแม้ภายในงานจะเต็มไปด้วยตระกูลใหญ่ที่ร่ำรวยและมีอำนาจ แต่คนที่รู้จักฉินเย่จริงๆ นั้นมีอยู่น้อยมาก
“ฉินเย่ !”
แทบจะในเวลาเดียวกัน
กู้ชิงหยิ่งที่ยืนอยู่บนเวทีและท่านหลงที่ยืนอยู่ด้านข้างเวทีต่างก็ตะโกนออกมาพร้อมกัน
ใบหน้าอันงดงามของกู้ชิงหยิ่งเต็มไปด้วยความโกรธ
เธอคิดไม่ถึงเลยว่า เรื่องที่คุยกันอย่างชัดเจนเมื่อคืนนี้ มาวันนี้ฉินเย่กลับแสดงความดื้อรั้นเช่นนี้ออกมา ถึงขั้นเรียกได้ว่าเป็นการกระทำที่บ้าดีเดือดอย่างมาก
นี่คืองานแต่งงานที่เธอตั้งตารอมาสามปี !
เธออยากทำให้ทุกอย่างออกมาสมบูรณ์แบบที่สุด เพื่อที่จะเก็บเอาไว้เป็นความทรงจำที่แสนพิเศษไปตลอดกาล
ก่อนหน้านี้เธอเคยรู้สึกสงสัยในตัวเฉินตง แต่หลังจากเหตุการณ์ที่เฉินตงเข้ามารับมีดแทนเธอ ความสงสัยทุกอย่างก็หมดสิ้นไป
หากเฉินตงเป็นตัวปลอมจริง แล้วทำไมต้องยอมสละชีวิตเพื่อเธอด้วย ?
แต่ สิ่งที่ฉินเย่พูดออกมา กลับทำลายความงดงามที่เธอวาดฝันเอาไว้ทั้งหมด
ท่านหลงยืนตัวสั่น เขารู้สึกตกใจจนเนื้อตัวเย็นเฉียบ
ในขณะที่เขาหันมองฉินเย่ด้วยความโมโห แผ่นหลังของเขาก็เปียกชุ่มไปด้วยเหงื่อ
นี่คือการกระทำที่เหมาะสม ?
นี่มันคือการกระทำที่เหมาะสมแบบไหนกัน ?
กล่าวคัดค้านขึ้นมาระหว่างที่พิธีแต่งงานกำลังดำเนินอยู่ ฉินเย่คิดที่จะทำลายทุกอย่างหรืออย่างไร ?
“ผมขอคัดค้าน !”
มือทั้งสองข้างของฉินเย่จับอยู่ที่รถเข็น เขาพยายามลุกยืนขึ้น โดยทนฝืนต่อความเจ็บปวดของบาดแผลบริเวณช่องท้องของเขา แววตาของเขาเต็มไปด้วยความแน่วแน่ : “ต่อให้ตาย ผมก็จะต้องคัดค้านให้ได้ !”
เงียบ
บรรยากาศภายในงานเงียบสงัด
ไม่มีใครคาดคิดว่า งานมงคลสมรสที่ยิ่งใหญ่ที่จัดขึ้นโดยตระกูลเฉินผู้กุมความมั่งคั่งของโลกเอาไว้ จู่ๆ จะเกิดเหตุการณ์เช่นนี้ขึ้นได้
หากเรื่องนี่แพร่งพรายออกไป ทั้งโลกคงจะต้องตกตะลึงอย่างแน่นอน !
ขณะที่ทุกคนกำลังอยู่ในอาการตกตะลึง แววตาอันน่าสะพรึงกลัวก็ค่อยๆ เคลื่อนไปจับจ้องที่เวที
คำว่า “คัดค้าน” ไม่เพียงแต่ทำลายฉากการแต่งงานทั้งหมด แต่ยังเป็นการตบหน้าตระกูลเฉินอย่างรุนแรงอีกด้วย
เป็นการตบหน้าเฉินเต้าหลินฉาดใหญ่ ต่อหน้าเหล่าบรรดาตระกูลใหญ่ผู้มั่งคั่ง !
“ฉินเย่ ฉันรู้จักแก”
ในที่สุด เฉินเต้าหลินที่กำลังอยู่ในอารมณ์โกรธ ก็ค่อยๆ เอ่ยปากพูดออกมาพร้อมกับแสยะยิ้ม : “แต่เธอรู้ผลลัพธ์ของการทำเช่นนี้ไหม ?”
ราวกับมีลมหนาวยะเยือกพัดขึ้นมาจากขุมนรก
ทำให้ทุกคนที่อยู่ในเหตุการณ์ต่างก็รู้สึกกลัวจนเสียวสันหลัง
ทุกคนรับรู้ได้ถึงเจตนาฆ่าที่รุนแรง ที่แผ่ซ่านออกมาจากตัวของเฉินเต้าหลิน
เฉินเต้าหลินค่อยๆ หันหน้าไปมองเฉินตง : “นี่……คือคนที่ลูกเรียกว่าพี่น้องอย่างนั้นหรือ ?”
ตอนนี้การแสดงออกของเฉินตงดูเย็นชาและดุดัน แววตาของเขาเต็มไปด้วยเจตนาฆ่าที่รุนแรง
เขากำลังรอ !
รอให้งานแต่งสำเร็จลุล่วงไปได้ด้วยดี และรอที่จะเข้ามาแทนที่เฉินตงได้ในที่สุด
แต่การที่ฉินเย่ยื่นขาเข้ามาขัดเช่นนี้ ราวกับว่ากำลังนำน้ำที่เย็นเฉียบมาสาดใส่เขา
เพื่อที่จะได้เข้ามายืนแทนที่ เขาถึงขั้นยอมละทิ้งความแค้นที่ตระกูลโจวต้องถูกทำลายสูญสิ้น
แล้วจะปล่อยให้ฉินเย่มาทำลายลงง่ายๆ เช่นนี้หรือ ?
“พ่อครับ เขาไม่ใช่พี่น้องของผมอีกต่อไปแล้ว” เฉินตงกัดฟันกรอด แล้วค่อยๆ ส่งเสียงพูดผ่านไรฟันออกมา : “ฆ่าเขาเถอะ !”
หลังจากคำพูดนี้หลุดออกมาจากปาก
หลี่หลานก็รีบพูดขึ้นในทันที : “เต้าหลิน เฉินตง พวกคุณใจเย็นๆ หน่อย”
ขณะที่พูด เธอก็หันไปขอโทษครอบครัวของกู้ชิงหยิ่งซ้ำแล้วซ้ำอีก
หลี่หลานเป็นคนจิตใจดีมีเมตตา ยิ่งเธอได้รู้เรื่องราวบางอย่างของฉินเย่ เธอก็เข้าใจถึงความสัมพันธ์ระหว่างฉินเย่และเฉินตงดี
ฉินเย่ขัดขวางการแต่งงานของลูกชายเธอ แน่นอนว่าเธอจะต้องรู้สึกโกรธ แต่ยังไม่ถึงขั้นที่ต้องมีการเข่นฆ่ากัน
หลังจากกล่าวขอโทษแล้ว หลี่หลานรีบหันไปตำหนิฉินเย่
“ฉินเย่ เจ้าเด็กโง่ เธอบ้าไปแล้วหรืออย่างไร ? ยังไม่รีบขอโทษอีก เร็วเข้า หรือไม่อย่างนั้นเธอก็พูดออกมาซิว่าทำไมเธอต้องคัดค้านด้วย ?”
นี่ถือว่าเป็นการหาทางออกให้กับฉินเย่แล้ว
ขอแค่ยอมกล่าวขอโทษ หรือไม่ก็ให้เหตุผลในการกระทำมา เพื่อให้เรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อครู่ผ่านไปได้อย่างราบรื่น และสามารถดำเนินพิธีแต่งงานต่อไปได้ แล้วทุกอย่างก็จะเรียบร้อย
ทุกคนที่อยู่ในเหตุการณ์ต่างก็รู้สึกโชคดีแทนฉินเย่
เด็กคนนี้โชคดีจริงๆ ก่อเรื่องใหญ่โตขนาดนี้ กลับยังมีคนหาทางออกให้กับเขาอีก
จากนั้น
“ไม่มีเหตุผล แค่ต้องการคัดค้าน !”
แววตาของฉินเย่จ้องมองทุกสิ่งอย่างแน่วแน่
บรรดาตระกูลใหญ่มั่งคั่งต่างตกตะลึง
หยิ่งผยอง !
ยโสโอหัง !
ไม่รู้จักรักตัวกลัวตาย !
ไม่แปลกเลยที่เขาสามารถลงมือทำเรื่องเลวร้ายอย่างการฆ่าพ่อของตัวเองได้ !
“เหอะๆ……”
เฉินเต้าหลินหัวเราะออกมา แล้วเงยหน้าขึ้นมองท้องฟ้า : “ถ้าอย่างนั้นอย่ามาโทษฉันก็แล้วกัน”
ทันใดนั้นเอง
มีกลุ่มคนวิ่งตรงเข้าไปหาฉินเย่อย่างรวดเร็ว ด้วยเจตนาฆ่าที่รุนแรง
“เฉินเต้าหลิน !”
หลี่หลานร้อนใจจนดวงตาแดงก่ำ เธอกระทืบเท้าอย่างแรง : “คุณอยากจะฆ่าคนในงานแต่งงานของลูกชายตัวเองจริงหรือ คุณอยากให้ความทรงจำของเด็กทั้งสองคน เมื่อนึกถึงวันนี้ต้องเห็นแต่คราบเลือดอยู่ในความทรงจำอย่างนั้นหรือ ?”
คำพูดประโยคนี้ ทำให้เฉินเต้าหลินฉุกคิดขึ้นมาได้
แม้กระทั่งกู้ชิงหยิ่งและกู้โก๋ฮั๋วสองสามีภรรยาเอง ก็มีปฏิกิริยาที่เปลี่ยนไปเช่นกัน
แน่นอนว่า วันมงคลเช่นนี้ หากต้องมีการเข่นฆ่าชีวิตคนคนหนึ่ง แล้วมันจะมีความหมายอะไรกัน ?
แต่ทว่า จู่ๆ เฉินตงกลับพูดออกมาด้วยน้ำเสียงที่เย็นชาว่า : “พ่อครับ ไม่ต้องไปสนใจหรอก คนแบบนี้ สมควรตาย !”
“เฉินตง……” กู้ชิงหยิ่งหน้าถอดสี เธอคิดที่จะห้ามปราม
เธอไม่อยากให้ความทรงจำเกี่ยวกับงานแต่งงานของเธอ ต้องเต็มไปด้วยคราบเลือด
ถึงแม้การที่ถูกฉินเย่ทำลายบรรยากาศงานแต่ง ทำให้ความทรงจำของเธอต้องมีรอยตำหนิเกิดขึ้น แต่ความทรงจำที่มีรอยตำหนิก็ยังดีเสียกว่าความทรงจำที่ต้องแปดเปื้อนไปด้วยเลือด
จากนั้น
เฉินตงกลับยกมือขึ้นมาตัดบท : “นี่คืองานแต่งงานที่ผมเตรียมให้คุณ ผมไม่อนุญาตให้ใครมาทำให้แปดเปื้อนทั้งนั้น !”
ตอนนี้เอง
กลุ่มคนเข้าไปยืนล้อมฉินเย่เอาไว้
แต่ฉินเย่กลับเริ่มแสยะยิ้มออกมา ตั้งแต่ต้นจนจบ ไม่มีความกลัวปรากฏให้เห็นบนใบหน้าของเขาเลยแม้แต่น้อย
“เฉินเต้าหลิน……” หลี่หลานกัดริมฝีปากของเธออย่างแรง
“พี่เต้าหลิน……” กู้โก๋ฮั๋วเองก็อดไม่ได้ที่จะพูดออกมา
บรรยากาศเต็มไปด้วยความเหน็บหนาวและน่ากลัว
ในที่สุด
เฉินเต้าหลินเงยหน้าขึ้นมองท้องฟ้า แล้วถอนหายใจออกมา จากนั้นจึงพูดว่า : “เขาไม่เพียงแต่ทำลายบรรยากาศงานของฉัน ยิ่งไปกว่านั้นเขาทำลายบรรยากาศของงานลูกชายฉัน ทำลายบรรยากาศของงานตระกูลเฉิน !”
“ถ้าฉันไม่ฆ่าเขา คนอื่นก็จะคิดว่าตระกูลเฉินของฉันสามารถรังแกได้ง่าย !”
ดำพูดประโยคนี้เป็นการชี้เป็นชี้ตาย !
ทันใดนั้นแววตาของเฉินเต้าหลินก็ปรากฏความดุร้ายขึ้นมา
ตอนนี้ เจ้าบ้านตระกูลเฉินได้ตัดสินใจอย่างเด็ดขาดแล้วโดยไม่ต้องสงสัย
“ฆ่าเขา !”
กลุ่มคนกลุ่มนั้นพุ่งตรงเข้าไปหาฉินเย่ทันที
ฟึ่บ !
แสงแวววาวของดาบวาดอยู่บนอากาศ
ทุกคนต่างหน้าถอดสีทันที และรีบถอยห่างออกไปด้วยความตกใจ
“พี่ชาย ฉันจะไปอยู่เป็นเพื่อนนายแล้ว !”
ฉินเย่ปิดตาลง ไม่คิดที่จะตอบโต้
อันที่จริงแล้ว ด้วยสภาพร่างกายที่บาดเจ็บของเขาในตอนนี้ การที่เขาสามารถเดินทางมาถึงงานแต่งงานได้ ก็ถือว่าทนฝืนมากพอควรแล้ว !
ในขณะที่เขาปิดตา ฉินเย่ก็เงยหน้าขึ้นและตะโกนออกมาว่า : “จริงๆ แล้วเขาไม่ใช่เฉินตง !”
“ตายซะเถอะ !”
เฉินตงที่อยู่บนเวทีขู่คำรามออกมาราวกับสิงโตที่กำลังโกรธ
คนที่อยู่ในงาน ต่างก็ปิดตาลง เพราะกลัวจะต้องเห็นฉากนองเลือดที่กำลังจะเกิดขึ้น
กู้ชิงหยิ่งกรีดร้องออกมา แล้วพุ่งเข้าไปอยู่ในอ้อมแขนของกู้โก๋ฮั๋ว เพราะไม่กล้าที่จะมองดูอีกต่อไป
ส่วนฉู่เจียนเจีย ท่านหลง และคุนหลุนก็ค่อยๆ เบนสายตาไปมองทางอื่น
เมื่อเจ้าบ้านโกรธ ก็ไม่มีใครสามารถช่วยฉินเย่ได้อีกต่อไป !
ขณะที่คมดาบกำลังจะลงมาเชือดคอของฉินเย่
ฮึ่มๆๆ……
บทท้องฟ้าก็มีเสียงดังกระหึ่มราวกับฟ้าผ่าดังขึ้น
เสียงดังสนั่นหวั่นไหว
มีเงาขนาดใหญ่เข้าปกคลุมทั่วท้องฟ้า
ทำให้ทุกคนเงยหน้าขึ้นมองด้วยความตกตะลึง
เครื่องบินรบลำหนึ่ง ส่งเสียงดังกระหึ่ม กำลังบินอยู่เหนือท้องฟ้าด้วยความเร็วสูง
ในขณะเดียวกัน
มีร่างร่างหนึ่งปรากฏตัวขึ้นกลางอากาศ ร่มชูชีพค่อยๆ กางออก และค่อยๆ ร่อนลงสู่พื้นดิน……