ณ โรงพยาบาลลี่จิง
ภายในห้องวีไอพี
รอบด้านเงียบกริบจนสามารถได้ยินเสียงเข็มหล่น
เครื่องมือตรวจสอบ ส่งเสียงดังต่อเนื่องกันอย่างเป็นระเบียบ
กู้ชิงหยิ่งยกมือขึ้นมาปิดปาก มองท่านหลงที่นอนนิ่งอยู่บนเตียงผู้ป่วยด้วยสายตาที่ไม่อยากเชื่อ ขอบตาแดงก่ำอย่างห้ามไม่อยู่
ฟ่านลู่ที่ติดตามไปด้วย ก็ตกใจมากไม่แพ้กัน
ในเวลานั้น ท่านหลงนอนนิ่งอยู่บนเตียง ยังอยู่ในสภาพโคม่าไม่รู้สึกตัว
บนหลังของเขา มีรอยฟกช้ำที่มองเห็นได้อย่างชัดเจน บางแห่งถึงกับเนื้อแตกจนเลือดไหลอาบ แลดูน่ากลัวอย่างยิ่ง
“ลุงหลิว นี่มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่คะ?”
กู้ชิงหยิ่งสูดลมหายใจเข้าลึก ๆ หันไปมอง ผอ. หลิว
ผอ. หลิวสงบสติอารมณ์แล้วพูดว่า “ท่านหลงไม่ได้มีปัญหาที่น่าเป็นห่วงอะไรมากแล้วล่ะ บาดแผลบนตัวของเขา ล้วนเกิดจากการถูกเฆี่ยนตี ผู้ชายคนที่อยู่ด้านนอกนั่นเป็นคนพาท่านหลงมาส่งที่โรงพยาบาล เขาบอกว่าเขาก็ไม่รู้ ว่าใครเป็นคนที่ทำร้ายท่านหลง”
“ถูกเฆี่ยน? !”
ใบหน้าของกู้ชิงหยิ่งถึงกับเผือดสี
ใครกันนะ ที่ลงมืออย่างโหดเหี้ยมกับคนแก่ได้ขนาดนี้?
“แต่คนที่ทำก็ร้ายกาจมากเหมือนกัน คล้ายว่าจะสามารถควบคุมแรงที่ใช้ฟาดได้ทุกตารางนิ้วอย่างแม่นยำมาก เรียกได้ว่า เป็นการลงมือที่ไม่ได้หมายเอาชีวิตของท่านหลง” ผอ.หลิวอดทอดถอนใจไม่ได้
“เสี่ยวลู่ พี่ดูแลท่านหลงก่อนนะ ฉันจะไปถามกูหลังหน่อย”
กู้ชิงหยิ่งหันหลังแล้วเดินออกจากผู้ป่วยไป
ท่านหลงถูกกูหลังนำตัวมาส่งโรงพยาบาลลี่จิง เหตุผลที่ ผอ.หลิวเป็นคนโทรมา ก็เพราะเมื่อครู่นี้เขายังพอมีเวลา ในช่วงระหว่างที่กูหลังกำลังวิ่งวุ่น เพื่อเข็นตัวท่านหลงไปยังห้องฉุกเฉิน
ตอนนี้เฉินตงไม่อยู่ สามัญสำนึกของเธอจึงบอกกู้ชิงหยิ่งไม่หยุดว่า เธอควรเป็นคนรับผิดชอบเรื่องเรื่องนี้
กูหลังนั่งยองๆ อย่างหดหู่อยู่ที่ประตูทางเข้า ยกสองมือขึ้นมากำทึ้งที่ผมจนแน่น รู้สึกผิดอย่างยิ่งและโทษตัวเองไม่หยุด
เมื่อเห็นกู้ชิงหยิ่ง กูหลังก็รีบลุกขึ้นแล้วพูดว่า “คุณหนูกู้ เป็นความผิดของผมเอง ผมไม่ได้ปกป้องท่านหลงให้ดี”
“ตอนนี้ไม่ใช่เวลามาตามหาคนรับผิดชอบนะ”
กู้ชิงหยิ่งส่ายหน้า “สรุปว่ามันเกิดอะไรขึ้นกับท่านหลงกันแน่?”
กูหลังส่ายหน้ารัว: “ตอนเที่ยง ท่านหลงบอกผมว่ามีคนมาหาเขา ยังบอกด้วยว่าไม่ให้ผมตามเขาไป จากนั้นก็ออกไปเองตามลำพัง”
“หลังจากรอได้ราว ๆ ครึ่งชั่วโมง จู่ ๆ ท่านหลงก็โทรมาหาผม บอกให้ผมไปรับเขาที่โรงแรม แล้วพาไปส่งโรงพยาบาลที จากนั้นเรื่องก็กลายมาเป็นอย่างนี้แล้วครับ”
“โรงแรม?”
คิ้วของกู้ชิงหยิ่งขมวดมุ่น หรือว่าท่านหลงจะ “เล่นSM” หนักข้อจนเกินไป?
ไม่แปลกที่เธอจะคิดอะไรแบบนั้น นับตั้งแต่ฉินเย่ย้ายมาอยู่ข้าง ๆ บ้าน เธอก็มักได้ยินเฉินตงพูดถึง “การกระทำลับๆล่อๆ” ของฉินเย่กับท่านหลงอยู่หลายครั้ง
ภายใต้ร่างแก่ชรานั้น เก็บงำซ่อนเร้นหัวใจที่ทั้งเกกมะเหรกเกเร มัวเมาลุ่มหลงความดิบเถื่อน และรักอิสระไม่ชอบอยู่ในกรอบ
แต่… นี่ไม่ใช่ว่าออกจะเล่นแรงไปหน่อยแล้วหรอกเหรอ?
กู้ชิงหยิ่งสูดหายใจเข้าลึก ๆ ระงับความคิดที่ทำให้เสียสมาธิ: “รีบไปตรวจสอบที่โรงแรมทันที”
กูหลังพูดอย่างจนใจว่า: “เมื่อครู่ตอนที่ผมไปถึงโรงแรม ผมก็รีบทำการตรวจสอบภายในโรงแรมทันที จนพบว่ามีผู้หญิงคนหนึ่ง ออกมาจากห้องของท่านหลงครับ”
กู้ชิงหยิ่ง: “……”
เธอเริ่มคิดมั่วแบบหลับหูหลับตาแล้วจริงๆ
เธอลังเลอยู่ครู่หนึ่ง
เธอหยิบโทรศัพท์มือถือออกมาตรวจดูเวลา ตอนนี้เฉินตงน่าจะเกือบมาถึงแล้ว
เรื่องแบบนี้ เธอในฐานะผู้หญิงคนหนึ่ง ให้เป็นคนจัดการก็คงดูไม่ค่อยดีเท่าไหร่นัก
กู้ชิงหยิ่งต่อสายโทรศัพท์ จากนั้นจึงเล่าเรื่องราวทั้งหมดให้เฉินตงฟัง แล้วขอให้เฉินตงรีบมาที่โรงพยาบาลเลยโดยตรง
…………………………..
เมื่อเฉินตงพร้อมด้วยคุนหลุนและฉินเย่มาถึงโรงพยาบาล
กู้ชิงหยิ่งกับกูหลัง ก็รีบออกมาต้อนรับพวกเขา
“ท่านหลงอยู่ที่ไหนเหรอ?”
ท่าทางของเฉินตงเคร่งเครียด สีหน้าบูดบึ้งเล็กน้อย
เมื่อครั้งที่เขาตกอยู่ในสถานการณ์ที่สิ้นหวัง การปรากฏตัวของท่านหลง เป็นสิ่งที่ช่วยดึงเขากับแม่ออกมาจากความมืดมิดนั้น
หลังจากนั้นมา ท่านหลงก็ยังเป็นทั้งครู และเป็นทั้งเพื่อนที่ดีของเขามาตลอดอีกด้วย
เมื่อเกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้น หัวใจของเฉินตงก็คล้ายถูกไฟกองหนึ่งสำทับทันที
“ยังอยู่ในอาการโคม่า แต่เรื่องมันค่อนข้างจะยุ่งยากอยู่สักหน่อย น่าจะเพราะการเล่นที่มันเลยเถิดเกินไป” กู้ชิงหยิ่งพูดในขณะที่คิ้วก็ขมวดมุ่น
“เล่นจนเลยเถิด?” เฉินตงตกตะลึง
หลังจากที่สายตาของกู้ชิงหยิ่งเหลือบไปมองที่ฉินเย่ เฉินตงก็ตระหนักรู้ได้ทันที
“ไปดูท่านหลงก่อนแล้วกัน”
ทั้งหมดพากันเดินเข้าไปในห้องผู้ป่วยพร้อมกัน
เมื่อได้เห็นท่านหลงนอนหมดสติอยู่บนเตียง รูม่านตาของเฉินตงก็ถึงกับหดกระชับไปเลยทีเดียว
ฉินเย่โพล่งอุทานออกมาว่า: “เชร้ด! รสนิยมของท่านหลง เปลี่ยนไปเป็นรุนแรงขนาดนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่กันล่ะเนี่ย?”
“อย่าพูดจาเหลวไหลน่า!”
เฉินตงเหยียดสายตามองฉินเย่แวบหนึ่ง
กู้ชิงหยิ่งก้มหน้าลง กระซิบว่า : “เป็นกูหลังที่ไปโรงแรมเพื่อพาท่านหลงมาส่งโรงพยาบาล กูหลังรีบตรวจสอบทันทีที่ไปถึง พบผู้หญิงคนหนึ่งเดินออกมาจากห้องของท่านหลง”
เฉินตง: “……”
หรือว่าจะเล่นสนุกจนเลยเถิดแล้วจริงๆ?
“จิ๊ ๆ ๆ… ท่านหลงนี่น๊า ไม่พบแค่สามวันพลันกลายเป็นอื่นซะแล้ว ทำให้ฉันได้ เปลี่ยนแปลงมุมมองด้านใหม่ซะจริง” ฉินเย่ร้องอุทานเสียงดังด้วยท่าทางไร้สำนึก: “อายุก็จนปูนนี้แล้ว ยังกล้าเล่นอะไรไม่แพ้ชายหนุ่มวัยคึกเชียวนะ ฉันที่อายุยังน้อย ยังไม่กล้าเล่นอะไรแบบนี้เลย เขาช่างกล้าเล่นซะจริงเนอะ”
คำพูดประโยคนี้ ทำเอาผู้หญิงหลายคนในห้อง หน้าแดงก่ำไปตาม ๆ กัน
ฉินเสี่ยวเชียนรีบสะกิด ๆ ฉินเย่เบา ๆ เป็นสัญญาณให้เขาหุบปาก
เฉินตงถูจมูก แล้วจู่ ๆ ก็ยกยิ้มเย็นชา: “นายเองก็รู้นี่ว่าตัวเองไม่กล้าเล่น แล้วท่านหลงจะกล้าเล่นใหญ่ขนาดนี้เลยเชียวเหรอ?”
พูดไปพลางจ้องมองไปที่คุนหลุน
คุนหลุนรับรู้ จึงก้าวไปข้างหน้าเพื่อตรวจสอบอาการบาดเจ็บของท่านหลง
จากนั้น คิ้วของเขาก็ค่อย ๆ ขมวดเข้าหากัน
ในเวลานั้นเอง กู้ชิงหยิ่งก็พูดขึ้นว่า “ลุงหลิวบอกว่า คนที่เฆี่ยนท่านหลงสามารถควบคุมแรงของตัวเองได้อย่างแม่นยำ เป็นการลงมือที่ไม่ได้หมายเอาชีวิตของท่านหลง”
เสียงเพิ่งออกจากปากไป
คุนหลุนหันกลับมา แล้วพูดด้วยน้ำเสียงที่หนักแน่นว่า “ที่จริงแล้ว ท่านหลงอายุก็มากขนาดนี้แล้ว ถ้าต้องการเอาชีวิตเขาจริง ๆ แค่ลงแส้หนัก ๆไม่กี่ครั้งก็เหลือเฟือ บาดแผลพวกนี้ แสดงว่าคนทำสามารถควบคุมแรงได้อย่างแม่นยำมาก ผู้หญิงธรรมดา ๆไม่มีทางออกแรงเฆี่ยนได้อย่างแม่นยำขนาดนี้แน่”
“นั่นแปลว่ามีคนจงใจทำแบบนี้!”
เฉินตงถอนหายใจเฮือก ดวงตาเย็นชาขึ้นมาทันที: “ฉันจะควานหาให้ทั่วเมือง ตามหาคนที่ทำร้ายท่านหลงให้เจอให้ได้”
ด้วยเสียงอันเย็นชานั่น อุณหภูมิในห้องก็ดูเหมือนจะลดลงจนถึงจุดเยือกแข็ง
รอจนทุกคนฟื้นคืนสติดีแล้ว เฉินตงก็หันหลังแล้วเดินออกไป: “คุนหลุน กูหลัง ตามฉันมา เสี่ยวหยิ่งพาเสี่ยวเชียนกลับบ้านไปก่อน ให้ฉินเย่กับฟ่านลู่อยู่ที่โรงพยาบาลนี่แหละ”
สีหน้าของทุกคนพลันเปลี่ยนไป แต่ก็ไม่มีใครพูดอะไรออกมา
ทุกคนรู้ดี ถึงความสัมพันธ์ระหว่างเฉินตงกับท่านหลง
กระทั่งพวกเขา ก็ยังรู้สึกโกรธอยู่ในใจ
แม้ว่าอีกฝ่ายจะไม่ได้ถึงกับเอาชีวิตของท่านหลงก็จริง แต่หลังของเขาก็เต็มไปด้วยรอยแส้ สำหรับคนแก่คนหนึ่ง การกระทำแบบนี้ ถือได้ว่าเป็นอาชญากรรมที่ร้ายแรงมาก หากประมาทไปเพียงเล็กน้อย ย่อมเป็นอันตรายถึงชีวิต
หลังจากออกจากโรงพยาบาล
คุนหลุนแนะนำ “คุณชาย คุณต้องการให้ท่านเมิ่งช่วยสืบสวนเรื่องนี้มั้ยครับ?”
“ไม่ต้องหรอก ฉันพอจะรู้แล้วว่า ใครมันเป็นคนทำเรื่องนี้”
เฉินตงส่ายหน้าด้วยท่าทางเย็นชา กัดฟันระงับความโกรธ: “ด้วยทักษะของท่านหลง หากเขาไม่เป็นฝ่ายยอมให้เอง คุนหลุน นายคิดว่านายจะเล่นงานเขาได้ในระยะเวลาอันสั้นขนาดนี้มั้ย?”
คุนหลุนตกใจจนผงะ ยืนนิ่งค้างอยู่กับที่
คำพูดของเฉินตง ทำให้คุนหลุนคล้ายคนโดนน้ำมนต์แล้วรู้สึกตัว ตาสว่างขึ้นมาโดยพลัน
อันที่จริงทักษะของท่านหลงนั้น ไม่อาจนำไปเทียบกับฝีไม้ลายมือของคนหนุ่มสาวทั่วไปได้จริง ๆ นั่นแหละ!
อีกทั้งเฉินตงเอง ก็เคยได้เห็นฝีมือของท่านหลงมากับตาแล้ว
แม้ปากจะเรียกกันว่าคนแก่ แต่ขอแค่เขาพลิกฝ่ามือทีเดียว ก็สามารถตบคนอายุน้อยจนร่วงได้ง่าย ๆ ถ้าไม่เพราะเจ้าตัวยอมให้ ชนิดที่ว่าไม่มีความคิดจะต่อต้าน แม้กระทั่งเป็นผู้ฝึกบู๊ ไม่สิ! แม้กระทั่งคุนหลุน ก็ไม่สามารถเอาชนะท่านหลงได้ง่าย ๆ อย่างแน่นอน!
“แปลว่าเป็นคนใกล้ตัวทำสินะ?”
คุนหลุนสูดลมหายใจเข้าเฮือกหนึ่ง ตอนนี้มีเพียงความเป็นไปได้นี้เพียงอย่างเดียวเท่านั้นแล้ว
เฉินตงยกยิ้มเย็นชา: “ตระกูลฉินในช่วงสามวันนี้ ก็เหมือนสายน้ำที่กำลังไหลลงสู่ที่ต่ำนั่นล่ะ คุณหญิงใหญ่ตระกูลเฉินนั่น ถูกพ่อบังคับให้ทำได้แค่ต้องเฝ้าดูไฟข้ามฝั่ง ไม่สามารถยื่นมือไปช่วยเหลืออะไรได้ การที่คุณหญิงใหญ่ตระกูลเฉินจะไม่โกรธเลย นั่นย่อมเป็นการเสแสร้งแน่นอนตอนนี้ฝุ่นผงก็ร่วงหล่นหมดแล้ว ( เปรียบเทียบว่าเรื่องราวสิ้นสุดลงแล้ว ) ตาเฒ่าตายยากนั่น น่าจะเริ่มลิดรอนสิทธิ์อำนาจของหล่อนแล้วล่ะมั้ง?”
คุนหลุนกับกูหลังได้ยินดังนั้น รู้สึกราวกับว่าถูกฟ้าผ่าจนชาไปทั้งร่าง
และในขณะนี้
ทั้งสามเดินออกจากโรงพยาบาลไปแล้ว
จู่ๆ คุนหลุนก็เห็นเงาร่างร่างหนึ่ง อยู่ที่ริมสวนของโรงพยาบาล รูม่านตาของเขาพลันหดเล็กลงทันที
หมับ!
คุนหลุนยกมือขึ้น แล้วยื่นออกไปคว้าตัวเฉินตงกับกูหลังไว้จนแน่น