The Winner is king ผู้ชนะเลศคือราชา – บทที่ 290 เดรัจฉานสวมเสื้อผ้า สามีฉันจะช่วยคุณเอง

บทที่ 290 เดรัจฉานสวมเสื้อผ้า สามีฉันจะช่วยคุณเอง

เกิดความเงียบขึ้นในห้องนั่งเล่น

บรรยากาศกดดันจนแทบหายใจไม่ออก

ทุกคนต่างรู้สึกอับจนหนทาง สิ้นหวังอย่างถึงที่สุด

เฉินตงรู้สึกหดหู่ใจมากกว่าที่เคย เหมือนคนที่กำลังจะจมน้ำตาย กระทั่งจะไขว่คว้าหาจับฟางช่วยชีวิตสักเส้นรอบกายก็ยังไม่มีแม้เพียงครึ่งเส้น

ดาบที่ทรงพลังยิ่งใหญ่ขนาดผลักภูเขาพลิกทะเลได้เล่มนี้ มันชี้ตรงมาที่ลำคอของเขาแล้ว

และทั้งที่เป็นอย่างนั้น กลับไม่มีที่ไหนให้เขาหลบหลีกต่อต้าน ทำได้เพียงแค่ต้องยื่นคอเปล่า ๆ ไปรับดาบที่จ่อมา

เสียงโทรศัพท์ดังขึ้น

เฉินตงที่สิ้นหวังหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดู ดวงตาของเขาพลันสว่างวาบขึ้นมาทันใด

เป็นคุณพ่อนั่นเอง!

บางที…..อาจจะยังพอมีทางรอด!

เฉินตงรีบกดรับสาย

ที่ปลายสาย เสียงทื่อ ๆ ด้าน ๆ ราวแม่เหล็กของเฉินเต้าหลินแผ่วต่ำจมดิ่งอย่างมาก: “พ่อรู้เรื่องทั้งหมดแล้ว แต่เฒ่าหนังเหนียวตายยากนั่นคอยปกป้องเฉินหยู่เฟยอยู่ พ่อไม่สามารถใช้พลังของตระกูลเฉิน ไปบังคับความคิดเห็นของสาธารณชนบนโลกโซเชียลได้ ลูกคิดว่าจะทำยังไงล่ะ? พ่อจะพยายามช่วยลูกอย่างสุดความสามารถเอง”

คำถามสุดท้ายนั่น ทำให้เฉินตงต้องหัวเราะออกมาเลยทีเดียว

มีเพียงรอยยิ้มที่ขมขื่นปรากฏบนใบหน้าเขาซ้ำ ๆ ไปมาไม่รู้จบ

แม้แต่คุณพ่อก็ยังต้องถามเลยว่า ฉันพอจะมีหนทางอะไรบ้างไหม ? เห็นได้ชัดว่า สถานการณ์ตอนนี้ มันเกินจะควบคุมได้แล้วจริงๆ

หากเป็นเวลาปกติ ความคิดเห็นในโลกโซเชียลทำนองนี้ ไม่ใช่อะไรนอกจากพายุลูกเล็ก ๆ ที่หมุนวนอยู่ตรงหน้าพวกตระกูลระดับมหาเศรษฐีก็เท่านั้น

ในตอนที่ความคิดเห็นของสาธารณชนเพิ่งจะปรากฏบนโซเชียล ขอแค่ตระกูลเฉินใช้กำลังอำนาจที่มีในมือทำการเคลื่อนไหว ความคิดเห็นของสาธารณชนในโซเชียลทั้งหมด ก็อาจหายไปได้อย่างง่ายดาย เรียกว่าสามารถปิดได้อย่างมิดชิดไม่มีเหลือ

แต่ตอนนี้มันไม่เหมือนเดิมแล้ว

ความคิดเห็นของประชาชนรุนแรงดุเดือดมาก นี่เพิ่งผ่านไปนานเท่าไหร่เอง ? ทั่วทั้งโลกโซเชียลต่างก็พากันรุมประณามเขาแล้ว

ยิ่งไปกว่านั้น ยังมีคุณหญิงใหญ่ตระกูลเฉินที่คอยช่วยเหลือ ทั้งยังช่วยสนับสนุนเฉินหยู่เฟยอยู่เบื้องหลังให้อีก เมื่อถูกยับยั้งหน่วงเหนี่ยวแบบนี้ จึงเห็นได้ชัดว่าเป็นไปไม่ได้ที่จะใช้พลังของตระกูลเฉิน ไปขจัดความคิดเห็นของสาธารณชนได้

ตอนนี้คุณหญิงใหญ่ตระกูลเฉินกับเฉินหยู่เฟย คงกำลังหัวเราะร่าอย่างมีชัยอยู่หน้าโทรศัพท์มือถือของตัวเองแล้วล่ะมั้ง?

เฉินตงคิดในใจ

แต่แล้ว เสียงแผ่วต่ำของเฉินเต้าหลินก็กลับดังขึ้นที่ข้างหูของเขาอีกครั้ง: “ตงเอ๋อ ขอโทษด้วยนะลูก มันเป็นเพราะไร้ความสามารถของพ่อแท้ ๆ”

“พ่อครับ ไม่เป็นไรหรอก ขอผมลองคิดดูอีกสักหน่อย ฟ้าย่อมมีทางออกให้คนเราเสมอ ต้องมีวิธีแก้ไขสักวิธีแน่ครับ” เฉินตงพูดปลอบใจ

เพื่อเขาแล้วเฉินเต้าหลินกล้าจนถึงขั้นที่ว่า พร้อมจะส่งคุณหญิงใหญ่ตระกูลเฉินไปตายได้ด้วยซ้ำ

หากมีวิธีจริง ๆ เฉินเต้าหลินคงจะลงมือทำไปตั้งนานแล้ว

กระแสคอมเม้นท์ที่ถาโถมเข้ามาอย่างล้นหลามนี้ เฉินเต้าหลินไม่มีทางหยุดยั้งมันได้ เฉินตงไม่ถือสาเรื่องนี้แม้แต่น้อย

“พวกเรามาพยายามด้วยกันเถอะ พ่อเองก็จะพยายามอย่างเต็มที่เพื่อช่วยลูกให้ได้”

เสียงของเฉินเต้าหลินสูงขึ้นเล็กน้อย: “มีพ่ออยู่ ใครมันก็ทำลายลูกไม่ได้!”

หลังจากวางสาย

ดวงตาของเฉินตงสั่นไหว บางครั้งก็สว่างเป็นประกาย บางครั้งก็สลัวมัวหม่นไร้แสง

แม้ว่าพวกท่านหลงจะไม่รู้เนื้อหาของบทสนทนาระหว่างเฉินตงกับเฉินเต้าหลิน แต่จากท่าทางการแสดงออกของเฉินตงแล้ว พวกเขาก็รู้ได้ทันทีว่าผลลัพธ์ที่ได้นั้นต้องไม่ค่อยดีแน่

“คุณชายครับ”

ท่านหลงเรียกเบา ๆ

“ไม่เป็นไรหรอก มันต้องมีวิธีแน่ ดูกันไปทีละก้าว ๆ เถอะ ยังไงซะคิดให้มาก ๆ หน่อย มันคงจะมีทางออกสักทางแหละ”

เฉินตงยืดเอวบิดขี้เกียจ แสร้งทำเป็นผ่อนคลาย ตบ ๆ ที่ท้องแล้วพูดว่า “ว่าก็ว่าเถอะ ที่บ้านมีอะไรกินบ้าง ? ฉันยังไม่ได้กินข้าวเช้าเลย ตอนนี้หิวจนปวดกระเพาะไปหมดแล้ว”

“เดี๋ยวฉันไปทำอาหารเช้าให้พี่ตงแล้วกันนะ” เฉินเสี่ยวเชียนลุกขึ้น แล้วเดินตรงไปที่ห้องครัว

“ขอบคุณนะเสี่ยวเชียน”

เฉินตงพูดด้วยรอยยิ้ม แล้วยักไหล่ให้พวกท่านหลง “ ทุกคนอย่าขมวดคิ้วนิ่วหน้ากันสิ เรื่องนี้ยังไม่ถึงขั้นที่ฉันจะต้องตายลงเดี๋ยวนี้ซะเมื่อไหร่ คุณหญิงใหญ่เฉินกับตระกูลฉินร่วมมือกันลอบฆ่าฉัน ถึงขั้นที่เคยผลักฉันไปอยู่ในสถานการณ์ที่สิ้นหวังอย่างเข้าคุกเข้าตารางมาแล้วด้วยซ้ำ แต่ฉันก็ยังกลับมาได้แบบครบสามสิบสองเลยไม่ใช่รึไง?”

รอยยิ้มที่แกล้งทำเป็นผ่อนคลายสบายใจนั้น ทุกคนต่างก็มองออกทั้งหมด

แต่ตอนนี้ เฉินตงไม่มัวมาสนใจแล้วว่า การแสดงของเขาจะยอดเยี่ยมหรือไม่

เขาไม่ใช่คนที่มีนิสัยยอมแพ้อะไรง่าย ๆ ทั้งยิ่งไม่มีนิสัยนั่งรอความตายอยู่ในพจนานุกรมด้วย

คนเราเมื่อยังไม่ถึงที่ตาย จะอย่างไรก็ต้องหาทางรอดได้เสมอ

ก็เหมือนกับตอนที่อยู่ในคุกนั่นปะไร

ยิ่งไปกว่านั้น เขาคือคนที่อยู่ในใจกลางของวังวน ทุกคนรอบตัวเขาต่างก็เป็นห่วงเขา ทั้งยังช่วยคิดหาทางให้เขาอีก

ถ้าเขาที่เป็นคู่กรณีเกิดยอมแพ้ เตรียมตัวยืดคอรอการประหารชีวิตง่าย ๆ แล้วล่ะก็ หลังจากนี้ไปคนรอบตัวเขาจะเป็นยังไงล่ะ?

“พูดก็พูดเหอะ…สรุปแล้ว คุณกับผู้หญิงคนนั้น ได้ทำอะไรกันจริง ๆ รึเปล่า?”

จู่ ๆ ฉินเย่ก็เลิกคิ้วขึ้นสูง ถามด้วยดวงตาที่ลุกเป็นประกาย: “ ถ้าเกิดคุณทำจริง ๆ นะ คุณก็ไม่เสียเปรียบหรอก เฉินหยู่เฟยเป็นถึงซูเปอร์สตาร์เชียวนะ ด้วยรูปร่างหน้าตาระดับนั้นของเธอ ต่อให้ต้องตายภายใต้ต้นดอกโบตั๋น เป็นผีก็คุ้มค่าอยู่นา”

“ไสหัวไปให้พ้น!”

จู่ ๆ เฉินตงก็ยิ้มไม่ออกซะแล้ว ทำได้แค่จ้องฉินเย่ด้วยสายตาโกรธเกรี้ยว

ฉินเย่แบมือออก พลางพูดว่า “ผมไม่ได้คิดเหมือนอย่างที่คุณคิดหรอกเรอะ? ทำให้ทุกคนผ่อนคลายสักหน่อย บรรยากาศมันจะได้มีชีวิตชีวาขึ้นไง”

“เฮ้อ……”

เฉินตงถอนหายใจเฮือก เหลือบมองขึ้นไปชั้นบนด้วยความรู้สึกผิด

ในระยะเวลาสั้น ๆ เพียงวันเดียว

คอมเม้นท์ของประชาชน ได้พัฒนาไปจนถึงจุดที่ทุกคนต้องหวาดกลัวสิ้นหวังกันแล้ว

เครือข่ายบนโซเชียลทั้งหมดถูกโจมตีรอบด้าน ผู้คนก่นด่าสาปแช่งจนมืดฟ้ามัวดิน

เหมือนกับกระแสน้ำอันเชี่ยวกราก ฟ้าถล่มภูเขาทลาย พื้นธรณีแยกแตกเป็นผงธุลี พัดทำลายต้นไม้แห้งและท่อนซุงจนพังพินาศสิ้น

กองทัพนักล่าแม่มด ต่างพากันขุดรายละเอียดของเฉินตงออกมาแบบทุกซอกทุกมุม นอกจากข้อมูลเรื่องผู้สืบทอดตระกูลเฉินแล้ว ข้อมูลที่เหลือทั้งหมด ต่างก็ถูกขุดออกมาโชว์หราบนโลกอินเทอร์เน็ต

ประวัติชีวิตอันสุดบรรเจิด ชีวิตแต่งงานอันชวนโศกาน่ารันทด ล้วนถูกเปลี่ยนเสริมเติมแต่งขึ้นมาอย่างกะทันหัน

ถึงขั้นขุดเรื่องชีวิตแต่งงานอันไร้สุขตลอดสามปีของเฉินตงกับหวางหนันหนันไม่พอ แม้แต่รายละเอียดบางอย่าง รวมไปถึงการแต่งงานของคนตระกูลหวางกับ หวางเห้าก็ยังถูกขุดออกมาประจานไปด้วย

นี่เองจึงทำให้เฉินตงกลายเป็น ” เดรัจฉานสวมเสื้อผ้า ” ตามขี้ปากของผู้คนที่พากันก่นด่าว่าร้ายเขาไปโดยปริยาย

ต่างคนต่างก็ร่วมกันคอมเม้นท์ ความโกรธแค้นของผู้คนก็ยิ่งโหมกระหน่ำจนมืดฟ้ามัวดิน

ไม่มีใครสนใจแล้วว่า ข้อมูลข่าวที่เห็นนั้นมันเป็นความจริงหรือเท็จ ภายใต้การนำของผู้คนที่แสดงความห่วงใยใส่ใจหญิงสาวอ่อนแอ คนส่วนใหญ่จึงเต็มไปด้วยความโกรธแค้นขุ่นเคือง ต่างก็กระหายอยากเรียกร้องความเป็นธรรมตาม ๆ กันไปจนหน้ามืด

เวลาผ่านไปอย่างรวดเร็ว

คอมเม้นท์ในโลกโซเชียล ก็ยังคงพุ่งทะยานอย่างบ้าคลั่งไม่หยุด

ในเช้าวันที่สอง แฟนๆ ที่เทิดทูนบูชาเฉินหยู่เฟย ได้มารวมตัวกันปิดกั้นที่หน้าประตูทางเข้าของบริษัทไท่ติ่ง แล้วอาละวาดขว้างปาข้าวของอย่างบ้าคลั่ง

บรรดาบริษัทใหญ่ ๆ ที่อยู่ในมือของเฉินตง ต่างก็พลอยติดร่างแห ตกอยู่ในอันตรายไปด้วย

บริษัทอสังหาริมทรัพย์จุนหลงต้องหยุดกิจการไปอีกครั้ง ถึงกับทำให้โจวจุนหลงต้องทุบหน้าอกตัวเองระบายอาการจุกอกเลยทีเดียว

บริษัทเอนเตอร์เทนของฉู่เจียนเจีย ต้องหยุดการทำงานหมดทุกด้าน เพราะข่าวใหญ่ที่เกิดในวงการบันเทิง ย่อมทำให้คนที่อยู่ในวงในของธุรกิจบันเทิงอย่างฉู่เจียนเจีย ได้รับผลกระทบอย่างมหาศาลไปด้วย

บริษัทการเงินของฉินเย่กับฉินเสี่ยวเชียน แทบจะไม่สามารถดำเนินการใด ๆ ได้เลย ทำได้แค่ฝืนดำเนินการต่อไปอย่างทุลักทุเล แต่ข่าวที่ฉินเสี่ยวเชียนรายงานกลับไปให้เฉินตงนั้น กลับเป็นเรื่องที่ชวนทำให้ปวดหัวยิ่งกว่า เพราะเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของบริษัท ได้พบตัวบุคคลน่าสงสัย ซึ่งมีสถานะความเป็นมาไม่ชัดเจนจำนวนหนึ่ง มาเดินเข้าเดินออกภายในบริษัท

และสิ่งที่ยิ่งทำให้เฉินตงแทบเป็นบ้าไปจริง ๆ ก็คือ

The Winner is king ผู้ชนะเลศคือราชา

The Winner is king ผู้ชนะเลศคือราชา

เฉินตงกับหวางหนันหนันแต่งงานกัน3ปี ถูกภรรยาที่ยกน้องชายเป็นหัวแก้วหัวแหวนบีบคั้น แล้วยังถูกดูถูกเหยียดหยาม วันหนึ่งได้กลับตระกูลมหาเศรษฐี เขาสาบานว่าต้องกอบกู้ศักดิ์ศรีกลับคืนมา ต้องทำให้คนที่ดูถูกเขาเสียใจกับสิ่งที่ทำ ให้คนที่เหยียดหยามเขาต้องชดใช้อย่างสาสม

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท