The Winner is king ผู้ชนะเลศคือราชา – บทที่ 284 ฉันไม่ทำร้ายผู้หญิง

บทที่ 284 ฉันไม่ทำร้ายผู้หญิง

คุนหลุนตกตะลึง

ริมฝีปากของเขาขยับไปมา คล้ายพยายามจะพูดอะไรบางอย่าง

เฉินตงพูดซ้ำด้วยน้ำเสียงกดต่ำเคร่งเครียด: “ฉันบอกให้พาตัวเธอไปไงเล่า!”

“พี่ตงจะพาฉันไปไหนงั้นเหรอ?” เฉินหยู่เฟยลุกขึ้นยืน เผยรอยยิ้มเต็มใบหน้า ไม่มีท่าทีตื่นตระหนกเลยแม้แต่น้อย

เฉินตงไม่พูดอะไร หันหลังเดินออกไปทันที

ที่ด้านหลัง เฉินหยู่เฟยรีบตามไปอย่างรวดเร็ว

กูหลังที่ถูกทิ้งไว้เป็นคนสุดท้าย เกิดอาการงุนงงเล็กน้อย: “พี่คุนหลุน ท่านเฉินโกรธจริง ๆ แล้วนะ แม่เฉินหยู่เฟยนั่นไม่ได้สังเกตเห็นสักนิดเลยเหรอ?”

“อ๋อ เธอสังเกตเห็นแล้วล่ะ”

คุนหลุนยกยิ้มเย็นชา: “แต่เธอถูกตามใจจนเคยตัวแล้ว เพราะที่แล้วมาได้รับความรักใคร่เอ็นดูจากคุณหญิงใหญ่ ตั้งแต่เล็กจนโต แม้แต่ท่านใหญ่ก็ยังแตะต้องเธอไม่ได้ด้วยซ้ำ ดังนั้น เธอก็คงจะมองว่า คุณชายเป็นเหมือนกับคนในตระกูลเฉินพวกนั้นนั่นแหละ”

“นี่……”

กูหลังขมวดคิ้วมุ่น เกิดอาการพูดไม่ออกไปชั่วขณะ

“ไปกันเถอะ.”

คุนหลุนถอนหายใจ แล้วเดินตามไปอย่างรวดเร็ว

เขารู้ดีว่า เมื่อนิสัยของใครสักคน ที่เคยตัวจนถูกบิดเบือนจากสามัญสำนึกปกติไปในระดับหนึ่ง จะเย่อหยิ่งจองหองไม่เห็นหัวใครในสายตา นิสัยของเฉินหยู่เฟยก็เป็นเช่นนั้น

แต่เฉินหยู่เฟยมองข้ามจุดหนึ่งไป นั่นคือเฉินตงไม่เคยอาศัยอยู่ในตระกูลเฉิน อีกทั้งเฉินตงก็เป็นคนที่ มักเก็บซ่อนจุดอ่อนของตัวเองต่อหน้าคนอื่นมาก ๆ อีกด้วย

คำพูดที่ว่า “ไม่มีใครกล้าแตะต้อง” ของเธอ ไม่สามารถใช้ได้กับเฉินตง

เมื่อออกจากร้านอาหาร

เฉินตงไม่ได้ขึ้นรถ แต่กลับเดินเลี้ยวที่หัวมุมถนน เข้าไปในห้องพักของโรงแรมแห่งหนึ่ง

หลังจากเปิดห้องชุดห้องหนึ่ง เขาก็พูดกับเฉินหยู่เฟยอย่างเย็นชาว่า: “เธออยากตามก็ต้องตาม ไม่อยากตามก็ต้องตาม”

“ไม่ต้องห่วงหรอกค่ะ พี่ตง”

เฉินหยู่เฟยโบกมืออย่างไม่ใส่ใจ มองไปที่เงาด้านหลังของเฉินตง รอยยิ้มเริ่มเปลี่ยนเป็นไม่สบอารมณ์น้อย ๆ กระซิบพูดเสียงเบาว่า: “ฉันเป็นหลานสาวที่คุณย่ารักที่สุด ก็แค่ตีคนใช้ในบ้านเองไม่ใช่เหรอ ฉันไม่เชื่อหรอกว่าพี่จะกล้าทำร้ายฉัน”

เธอยึดเอาความคิดนี้ไว้มั่น

เฉินหยู่เฟยเดินตามเฉินตงเข้าไปในห้องพัก

เธอเดินไปที่หน้าต่างด้วยท่าทางไม่ยินดียินร้าย แล้วเปิดม่านเพื่อให้แสงแดดส่องเข้ามา

จากนั้นจึงหันกลับมา แล้วเดินไปหาเฉินตงอย่างรังเกียจ: “พี่ตง ต่อให้อยากเปลี่ยนที่มาเฆี่ยนมาตีฉันจริง ๆ ก็น่าจะหาโรงแรมที่มันระดับสูงกว่านี้หน่อยไม่ได้รึไง?”

จู่ ๆ เฉินตงก็พูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า “ฉันไม่ทำร้ายผู้หญิง”

เฉินหยู่เฟยเลิกคิ้วขึ้นสูงพลางยกยิ้ม: “แล้วพี่ตงพาฉันมาที่ห้องนี้ทำไมล่ะ?”

เพี๊ยะ!

พูดไม่ทันจบ เงาที่รวดเร็วเกินสายตาจะจับภาพได้ทันสายหนึ่ง ก็ผุดวาบขึ้นกลางอากาศ

แล้วฟาดลงบนใบหน้าของเฉินหยู่เฟยอย่างรุนแรง

เฉินหยู่เฟยที่ไม่ทันได้ตั้งตัวถึงกับโซเซ แล้วทรุดล้มลงไปกับพื้น

เธอตกตะลึงจนชะงักไปชั่วขณะ ความเจ็บปวดบนใบหน้า ทำให้เธอถึงกับนึกว่าตัวเองฝันร้ายเลยทีเดียว

เสียงเยือกเย็นดังก้องอยู่ในห้อง: “แต่กับพวกอสรพิษถือเป็นข้อยกเว้น!”

ชั่วขณะนั้น ก็มีเสียงฝีเท้าของคุนหลุนกับกูหลัง เดินตามเข้ามาในห้อง

เมื่อเห็นเฉินหยู่เฟยที่ทรุดนั่งอยู่บนพื้น บนใบหน้าขาวนวลปรากฏรอยนิ้วมือเป็นริ้วอย่างชัดเจน

คุนหลุนก็ถึงกับตกใจจนตาค้าง “คุณชาย…..”

แล้วก็พูดอะไรไม่ออกอีก

สิ่งที่ได้รับมาแทน กลับกลายเป็นดวงตาที่เย็นชาสุดขีดของเฉินตง

“ท่านหลงเป็นคนของฉัน ฉันที่มอบความเคารพให้เขาเอาเวลานี้ ยังนับว่าช้าเกินไปด้วยซ้ำ ฉันไม่อนุญาตให้ใครแตะต้องเขา ต่อให้เป็นเง็กเซียนฮ่องเต้ก็ไม่ได้!”

คำพูดที่ดังสนั่น ทำเอาแผ่นหลังของคุนหลุนถึงกับขนลุกเกรียว คำพูดที่กำลังมาถึงที่ปาก จึงมีอันต้องถูกกลืนกลับลงท้องไปอย่างรวดเร็ว

“แก… นี่แกกล้าตบฉันเหรอ? นี่แกถึงกับกล้าตบฉันจริง ๆ งั้นเหรอ?”

ในที่สุด เฉินหยู่เฟยที่มึนงงไปครู่หนึ่งก็ฟื้นคืนสติ ยกมือที่เรียวยาว ขาวละเอียดดังหยกขึ้นมาลูบแก้ม ความรู้สึกเจ็บปวดทะลุไปจนถึงหัวใจ ทำให้ดวงตาคู่สวยเต็มไปด้วยหยาดน้ำตา

ตั้งแต่เล็กจนโต เพราะความที่คุณหญิงใหญ่เฉินรักใคร่เอ็นดู เธอจึงเป็นดั่งอัญมณีอันแสนมีค่า ที่อยู่ในฝ่ามือของคนทั้งตระกูล

ทั้งตระกูลเฉิน มีใครบ้างที่จะไม่โอบอุ้มเธอไว้ในอุ้งมือราวอัญมณี?

เธออยากเข้าสู่วงการบันเทิง อยากกลายเป็นดาราดังที่ได้รับความนิยมชมชอบ คุณหญิงใหญ่เฉินก็ออกคำสั่ง ให้ตระกูลเฉินใช้พลังอำนาจอันมหาศาล ช่วยให้เธอได้เป็นดาราชั้นแนวหน้าของวงการบันเทิงภายในระยะเวลาเพียงปีเดียวเท่านั้น

เป็นเพราะความรักของคุณหญิงใหญ่ตระกูลเฉิน ในตอนที่เธอได้รู้ถึงความโกรธของคุณย่า

เฉินหยู่เฟยถึงได้มาที่นี่ เพราะอยากจะถามคุณหญิงใหญ่เรื่องนี้เพื่อช่วยแก้แค้นแทนให้

แต่ทว่า!

ตั้งแต่เมื่อไหร่กันที่คนอย่างเธอ เฉินหยู่เฟย แค่เฆี่ยนตีคนใช้ในบ้าน กลับต้องได้รับการปฏิบัติแบบนี้กลับมา?

“ไม่เชื่องั้นเหรอ?”

คิ้วของเฉินตงยกสูงชี้ชัน ใบหน้าเย็นชา เต็มไปด้วยแววเกลียดชังรังเกียจ

เขานั่งยอง ๆ ลงตรงหน้าเฉินหยู่เฟยอย่างเย็นชา คว้าคอเสื้อของเธอด้วยมือข้างหนึ่ง แล้วลากตัวเธอไปด้านหน้าด้วยท่าทางพาลพาโลสุดขีด

ทันใดนั้น

เพี๊ยะ!

ฝ่ามือหนัก ๆ อีกหนึ่งถูกตบลงไปอย่างแรง

สิ้นเสียงตบหน้าที่ดังแจ่มชัด ก็ตามมาด้วยเสียงกรีดร้องอันน่าเวทนาของเฉินหยู่เฟย

คุนหลุนกับกูหลังถึงกับอดเปลี่ยนสีหน้าไม่ได้

เฉินตงพูดขึ้นช้า ๆ ราวกับลมหนาวที่พัดมาจากส่วนลึกของนรกก็ไม่ปาน

“มีปัญหาอะไร ให้มาลงที่ฉัน! แต่ถ้าเธอยังกล้ามาแตะต้องคนรอบตัวฉันอีกล่ะก็ อย่าหาว่าฉันไม่เตือนล่ะ ต่อให้เป็นคุณหญิงใหญ่เฉิน คนอย่างฉันเฉินตงก็จะสั่งสอนให้รู้เองว่า พวกไม่มีปัญญา แต่อยากวัดรอยเท้าฉัน จุดจบมันจะเป็นยังไง!”

พลั๊ก!

เฉินตงปล่อยมือจากคอเสื้อเฉินหยู่เฟย ปล่อยให้เจ้าหล่อนร่วงลงไปกองกับพื้น ไม่มีความคิดที่จะรักหยกถนอมบุปผาเลยแม้แต่น้อย

ถ้าคนนอกได้มาเห็นฉากนี้ จะต้องตกตะลึงจนคางร่วง กรามหลุดกันอย่างแน่นอน

ซูเปอร์สตาร์สุดฮอตแห่งวงการบันเทิง ถึงกับถูกคนตบตีจนมีสภาพน่าอนาถถึงขนาดนี้เลย?

“เฉินตง แกคิดว่าตัวเองเป็นใคร? แกมันก็แค่ลูกสวะของตระกูลเฉิน นายท่านใหญ่อาจจะปกป้องแก แต่ตระกูลเฉินไม่มีวันปล่อยให้แกลอยนวลแน่!”

เฉินหยู่เฟยกัดฟัน แผดเสียงตะโกนอย่างโกรธเคือง: “แกทำให้คุณย่าโกรธ ฉันในฐานะที่เป็นหลานสาว จะล้างแค้นแทนคุณย่ามันก็ถูกต้องแล้วนี่!”

จู่ๆ เฉินตงก็รู้สึกว่า เรื่องนี้ช่างน่าขำสิ้นดีขึ้นมาซะเฉย ๆ

ล้างแค้น?

ใครกันแน่ที่ควรเป็นฝ่ายล้างแค้น?

ในสายตาของเขา เรื่องที่เฉินหยู่เฟยเฆี่ยนตีท่านหลงในครั้งนี้ ไม่ต่างอะไรกับพฤติกรรมของเด็กเลวจอมอาละวาดคนหนึ่งเลยสักนิด

เป็นเรื่องยากมากที่จะจินตนาการว่า คนที่มีวุฒิภาวะจนถึงวัยยี่สิบกว่า ๆ คนหนึ่ง จะใช้วิธีการสิ้นคิดอย่างนี้ มาเป็นการแก้แค้นใครสักคนได้จริง ๆ

เขาลูบๆจมูก ยกยิ้มเหยียดหยาม: “คำพูดก็อปกันมาเป๊ะเลยนะ ตอนแรกสองพี่น้องเฉินเทียนเซิงกับเฉินเทียนหย่างก็พูดแบบนี้นี่แหละ มาตอนนี้บาดแผลของพวกนั้นหายดีรึยังล่ะ?”

เฉินหยู่เฟยตกใจจนผงะ

ในดวงตาคู่สวย มีหยาดน้ำตารินไหล

เธอกัดฟันอย่างโกรธแค้น : “อย่าลำพองใจไปหน่อยเลย ฉันจะต้องให้แกชดใช้อย่างสาสมแน่!”

“ฉันชดใช้มามากพอแล้วล่ะ”

เฉินตงยิ้มอย่างฝืดฝืน จู่ ๆ ท่าทางก็เปลี่ยนเป็นอ้างว้างโดดเดี่ยวขึ้นมาอย่างน่าใจหาย: “นับจากวันนี้ไป ฝ่ายที่มันยั่วโทสะฉัน ถึงเวลาที่จะต้องชดใช้คืนให้ฉันบ้างได้แล้ว”

เขาไม่คิดจะเสียเวลากับเฉินหยู่เฟยอีกต่อไป แค่หันหลังกลับ แล้วเดินออกไปทันที

ขณะที่เขาเดินไปพลาง ก็พูดไปพลางว่า: “ครั้งนี้ถือว่าเป็นแค่คำเตือนนะ ถ้ายังมีครั้งหน้าอีก ก็อย่ามาโทษที่ฉันตัดบัวไม่ไว้ไยล่ะ!”

“แกกล้าเหรอ!”

เฉินหยู่เฟย ผงกหัวขึ้นมาอย่างเย่อหยิ่งดื้อรั้น: “ฉันคือผู้สืบทอดของตระกูลเฉิน ถ้าแกกล้าแหกกฎของตระกูล ก็เท่ากับว่าแกอยากลงนรกล่ะสินะ!”

เฉินตงรู้สึกประหลาดใจไปครู่หนึ่งทีเดียว

ต้องยอมรับว่าคุณหญิงใหญ่เฉิน โอ๋เฉินหยู่เฟยราวกับอัญมณีในฝ่ามือจริง ๆ นั่นแหละ

ตระกูลเฉินอันสูงส่ง แม้จะแตกต่างจากตระกูลใหญ่อื่น ๆ แต่ก็ยึดถือศาสตร์ในการเอาตัวรอดการต่อสู้แย่งชิงของบรรดาผู้ที่เหมาะสมที่สุด สุดท้ายผู้ชนะ จึงจะได้เป็นราชามาโดยตลอด

แต่ถ้าผู้หญิงคนหนึ่ง คิดอยากได้สิทธิ์ในการขึ้นเป็นผู้สืบทอดตระกูล นับว่าต้องเป็นเรื่องที่ยากมาก ต่อให้เฉินตงจะไม่สืบสาวลงไปให้ลึก ก็รู้ได้ว่ามันต้องยากเย็นราวกับพลิกแผ่นฟ้าเลยทีเดียว

แต่ทั้ง ๆ ที่เป็นอย่างนั้น เฉินหยู่เฟยกลับมีอภิสิทธิ์ที่ว่านี้!

“คุนหลุน นี่คือสิ่งที่นายคิดจะพูดเมื่อกี๊สินะ?”

ขณะที่เดินไปพลาง เฉินตงก็ถามไปพลาง

คุนหลุนมีท่าทางสับสน พยักหน้ารับอย่างจนใจ: “เธอเป็นหนึ่งในสองคน ที่มีคุณสมบัติมากพอที่จะได้เป็นผู้สืบทอดรุ่นต่อไปของตระกูลเฉิน ด้วยสถานะของเธอ การเฆี่ยนตีท่านหลงครั้งนี้ ในสายตาของเธอแล้ว ไม่นับว่าเป็นเรื่องใหญ่อะไรเลย”

“ยังมีอีกคนงั้นเหรอ?” เฉินตงถึงกับตกใจไปชั่วขณะ

มองดูทั้งสามคนที่จากไป

ในห้อง เฉินหยู่เฟยกัดริมฝีปากสีแดงสดของเธอแน่น ดวงตาเต็มไปด้วยความเคียดแค้นและน้ำตาคลอหน่วย

บนใบหน้าอันงดงาม ยังมีรอยนิ้วสีแดงทั้งห้านิ้วเด่นหราชัดเจน

แต่เมื่อพวกเฉินตงทั้งสาม เดินหายไปหลังทางเดินในโรงแรมแล้วนั่นเอง

มุมปากของเฉินหยู่เฟยก็พลันยกโค้งขึ้นโดยพลัน เผยให้เห็นรอยยิ้มที่พึงพอใจอย่างยิ่ง

เธอค่อย ๆ ลุกขึ้น หยิบโทรศัพท์ออกมา แล้วปิดประตู

ชั่วเวลานั้น ทั่วทั้งร่างของเธอ คล้ายมีบรรยากาศแห่งความเย็นเยียบจนหนาวเยือกแผ่ไปจนทั่ว

ซึ่งแตกต่างจากความรู้สึกโกรธแค้น ความชิงชังเมื่อครู่นี้อย่างสิ้นเชิง

เฉินหยู่เฟยเดินไปที่หน้าต่าง แล้วมองไปยังอาคารสูงที่อยู่ฝั่งตรงกันข้าม

มีคนรับสายแล้ว

“ถ่ายไว้ได้ทั้งหมดแล้วใช่มั้ย?” เฉินหยู่เฟย ถามคนที่อยู่ปลายสายด้วยน้ำเสียงเย็นชา

แล้วหยุดฟังไปราว ๆ สามสี่วินาที

รอยยิ้มบนใบหน้าของเธอ ยิ่งแสดงความลำพองใจในชัยชนะมากขึ้นเรื่อย ๆ นิ้วเรียวยาวเคลื่อนผ่านแก้มที่มีรอยนิ้วประทับไปอย่างช้า ๆ

“ถ้าอย่างนั้น เราก็เริ่มแผนขั้นต่อไปกันได้แล้วล่ะ.…

The Winner is king ผู้ชนะเลศคือราชา

The Winner is king ผู้ชนะเลศคือราชา

เฉินตงกับหวางหนันหนันแต่งงานกัน3ปี ถูกภรรยาที่ยกน้องชายเป็นหัวแก้วหัวแหวนบีบคั้น แล้วยังถูกดูถูกเหยียดหยาม วันหนึ่งได้กลับตระกูลมหาเศรษฐี เขาสาบานว่าต้องกอบกู้ศักดิ์ศรีกลับคืนมา ต้องทำให้คนที่ดูถูกเขาเสียใจกับสิ่งที่ทำ ให้คนที่เหยียดหยามเขาต้องชดใช้อย่างสาสม

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท