ไม่มีคำพูดจาใดๆ ตลอดทั้งคืน
คืนนี้ ไม่ว่าจะเป็นกู้ชิงหยิ่งหรือเฉินตง ต่างก็นอนหลับสนิทและหลับลึกเป็นพิเศษ
ในระยะเวลาสั้นๆ เพียงไม่กี่วัน
ทั้งสองต้องแบกรับความกดดันที่คาดไม่ถึงเอาไว้
ตอนนี้ความเข้าใจผิดได้คลี่คลายลงแล้ว ทำให้ทั้งสองฝ่ายต่างก็รู้สึกผ่อนคลายลง
เช้าตรู่
ฟ่านลู่เตรียมอาหารมื้อเช้ามื้อใหญ่อย่างมีความสุข
เธอรู้ดีว่า สองสามวันมานี้ ไม่มีใครสักคนในบ้าน ที่ได้รับประทานอาหารอย่างเป็นสุขเลย
ตอนนี้เรื่องทุกอย่างคลี่คลายลงแล้ว ถึงเวลาที่เธอควรจะต้องดูแลเรื่องอาหารการกินให้กับทุกคนแล้ว
คุนหลุนกับท่านหลงลงมาชั้นล่างแทบจะพร้อมกัน
เมื่อเห็นอาหารเช้าที่วางอยู่เต็มโต๊ะ ท่านหลงก็หัวเราะออกมาเสียงดัง : “ลำบากเสี่ยวลู่แล้ว รู้ว่าช่วงนี้ทุกคนไม่ได้กินข้าวอย่างเป็นสุข วันนี้จึงได้เตรียมอาหารอันโอชะมากมายขนาดนี้”
“ท่านหลงกล่าวเกินไปแล้ว สองสามวันมานี้เห็นทุกคนต่างร้อนใจ ฉันเองก็พลอยร้อนใจไปด้วย แต่ฉันก็ทำได้เพียงแค่ทำอาหารเล็กๆ น้อยๆ เพื่อคอยสนับสนุนด้านปากท้องเท่านั้น” ฟ่านลู่พูดด้วยความรู้สึกผิดเล็กน้อย
สองสามวันมานี้ทุกคนต่างวิ่งวุ่นด้วยเรื่องของเฉินตง
ส่วนเธอทำได้เพียงแค่มองดู สิ่งนี้ทำให้เธอรู้สึกไม่สบายใจ
ชีวิตของเธอในตอนนี้ เฉินตงเป็นผู้มอบให้ เฉินตงเองก็ไม่เคยเห็นเธอเป็นเพียงแค่พี่เลี้ยงเลย มีใครสักกี่คนที่จะสามารถทำได้เช่นนี้ ? ความเมตตาเหล่านี้ ฟ่านลู่จดจำได้อย่างชัดเจนอยู่เสมอ
และด้วยเหตุนี้ ทำให้เธอยิ่งรู้สึกไม่สบายใจ
“การสนับสนุนด้านปากท้อง ก็เป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้เช่นกันนี่”
คุนหลุนนั่งลงบนเก้าอี้อย่างสบายใจ แล้วหยิบปาท่องโก๋ใส่เข้าปาก
“ฮ่าฮ่า……นับวันคุนหลุนจะยิ่งรู้จักพูดมากขึ้นนะ” ท่านหลงยิ้มแล้วนั่งลง
แต่ฟ่านลู่กลับหันไปมองคุนหลุนอย่างตำหนิ : “คุณเฉินกับคุณหนูกู้ยังไม่ลงมาเลยนะ ทำไมคุณถึงรีบกินก่อน ?”
“ไม่เป็นไรหรอกเสี่ยวลู่ เกรงว่าหากยังไม่ถึงเที่ยง คุณชายกับคุณผู้หญิงคงจะยังไม่ลงมาง่ายๆ” ท่านหลงออกปากแทนคุนหลุน
ฟ่านลู่ผงะไป แล้วไปหน้าอันงดงามของเธอก็แดงก่ำ
ฟ่านลู่เหลือบไปมองคุนหลุนที่กำลังตกตะลึงและคาบปาท่องโก๋เอาไว้ในปาก จากนั้นจึงพูดออกมาอย่างไม่ค่อยพอใจว่า : “กินๆ ไปเถอะ อันที่จริงแล้วก็เตรียมเอาไว้ให้คุณนั่นแหละ”
คุนหลุนยิ้มและทานอาหารต่ออย่างเอร็ดอร่อย
ท่านหลงยิ้มแล้วมองดูภาพที่เกิดขึ้นตรงหน้า จากนั้นจึงกินอาหารเช้าต่ออย่างเงียบๆ
“พี่เสี่ยวลู่ ทำของอร่อยไว้มากมายขนาดนี้เชียวหรือ ?”
น้ำเสียงที่แสดงออกถึงความประหลาดใจเสียงหนึ่งดังขึ้น
ทั้งสามหันไปมองพร้อมกัน เฉินตงและกู้ชิงหยิ่งกำลังเดินจูงมือกันลงมาชั้นล่าง
นี่มันเกิดอะไรขึ้น ?
ทั้งสามตกตะลึงไปพร้อมกัน
จากนั้น คุนหลุนและฟ่านลู่ก็หันไปมองท่านหลงโดยพร้อมเพรียงกัน
ไหนบอกว่าตอนเที่ยงถึงจะลงมาไม่ใช่หรือ ?
เมื่อรับรู้ถึงสายตาของทั้งสองคนที่มองมา ท่านหลงก็หน้าแดงด้วยความเขินอาย
ท่านหลงกระแอมออกมาหนึ่งครั้ง แล้วพูดว่า : “เสี่ยวลู่ ยังไม่รีบไปเตรียมถ้วยกับตะเกียบให้คุณชายกับคุณผู้หญิงอีก”
ขณะที่พูด เขาก็ลุกขึ้นแล้วหันไปหาเฉินตงกับกู้ชิงหยิ่ง
“คุณชาย คุณผู้หญิง ทำไมถึงลงมาเช้าขนาดนี้ล่ะครับ ?”
“ตื่นแล้วก็ลงมาสิ” เฉินตงพูดอย่างไม่พอใจ
ใบหน้าของท่านหลงยิ่งแดงก่ำมากขึ้น เขาแอบถอนหายใจ มาตกม้าตายเอาตอนแก่เสียแล้ว
บรรยากาศอาหารเช้าไม่อึมครึมเหมือนช่วงก่อนหน้านี้อีกแล้ว
ทุกคนต่างรู้สึกโล่งใจเป็นอย่างมาก
หลังจากทานอาหารเช้าเสร็จ เฉินตงก็ยังไม่คิดที่จะเข้าบริษัททันที
แต่เขากลับพากู้ชิงหยิ่งไปเดินเล่น
งานของเขายุ่งมาก ยุ่งจนกระทั่งเท้าแทบจะไม่ได้แตะพื้นดิน เขาจึงไปไหมมาไหนกับกู้ชิงหยิ่งน้อยครั้งมาก
ถึงแม้ว่ากูชิงหยิ่งจะยุ่งอยู่กับกิจการบริษัทวัสดุก่อสร้างยิงลี่อยู่ด้วยเช่นกัน แต่ในฐานะสามีภรรยา ก็ควรที่จะมีเวลาอยู่ร่วมกันบ้าง
ถึงแม้เหตุการณ์ในครั้งนี้ เฉินหยู่เฟยเกือบจะทำให้เฉินตงเดินไปถึงทางตัน
แต่หลังจากที่เหตุการณ์ทุกอย่างคลี่คลายลงแล้ว บริษัททั้งหมดที่อยู่ในมือของเฉินตงก็ยังไม่อาจกลับมาดำเนินการเป็นปกติได้ในทันที นั่นทำให้เฉินตงมีเวลาที่จะอยู่เป็นเพื่อนกู้ชิงหยิ่งเพิ่มขึ้น
โอกาสเช่นนี้ไม่ได้เกิดขึ้นง่ายๆ จึงต้องเห็นคุณค่าให้มาก
ส่วนกระแสสังคมในโลกอินเทอร์เน็ต เฉินตงไม่ได้สนใจอีกต่อไปแล้ว
ทั้งเรื่องที่แต่งครึ่ง และเรื่องจริงที่เข้าโจมตีเป็นระลอก ก็เพียงพอที่จะเอาชนะเฉินหยู่เฟยได้แล้ว
คลิปวิดีโอกล่าวขอโทษของเฉินหยู่เฟย ก็ทำให้เกิดกระแสบนโลกอินเทอร์เน็ตเช่นกัน
แนวโน้มของความคิดเห็นที่เกิดขึ้นหลังจากนี้ อยู่ภายใต้การควบคุมของฉินเย่ กับตระกูลจางและตระกูลเฉิน ซึ่งเป็นสิ่งที่สามารถประมาณการได้
ในการต่อสู้ครั้งนี้ เฉินหยู่เฟยได้รับบาดเจ็บมากขนาดไหน เฉินตงเองก็ไม่คิดที่จะสนใจ
เขาเอาชนะได้แล้ว
ความเข้าใจผิดที่มีกับกู้ชิงหยิ่งก็คลี่คลายลงแล้ว
นี่ก็เพียงพอแล้ว จึงไม่จำเป็นจะต้องกังวลเรื่องที่จะเกิดขึ้นตามมาอีก
พวกเขาขับรถปอร์เช่ 911 ของกู้ชิงหยิ่งเข้าไปที่ศูนย์กลางการค้าที่ใหญ่ที่สุดในเมืองอย่างรวดเร็วราวกับสายฟ้า
ที่นี่คือศูนย์การค้าครบวงจร CBD ซึ่งมีลักษณะเดียวกันกับยี่เคอกรุ๊ป
ซึ่งมีครบทุกอย่าง ไม่ว่าจะเป็นที่กินหรือที่เที่ยวเล่นสนุกสนาน
มีผู้คนในเมืองนี้หลั่งไหลเข้ามาเป็นจำนวนมากทุกวัน
หลังจากจอดรถในลานจอดรถเรียบร้อยแล้ว กู้ชิงหยิ่งก็ลากเฉินตงออกไปด้านนอกศูนย์การค้า
“เสี่ยวหยิ่ง ที่นี่มีลิฟต์ สามารถเข้าไปในห้างสรรพสินค้าโดยตรงได้” เฉินตงทำหน้างุนงง
“ไม่เอา จะเข้าทางประตูใหญ่ คุณบอกฉันเองว่าจะเดินเล่นเป็นเพื่อนฉัน ดังนั้นต้องเชื่อฟังฉัน วันนี้คุณต้องเดินกับฉันให้ครบทุกร้าน ห้ามขี้เกียจเด็ดขาด”
กู้ชิงหยิ่งยิ้มอย่างมีความสุข
นี่เป็นครั้งแรกที่เธอยิ้มอย่างมีความสุขในรอบหลายวัน
เมื่อเห็นรอยยิ้มบนใบหน้าของเธอ เฉินตงก็ยิ้มอย่างอ่อนโยน และไม่ซักถามให้มากความอีก
ประตูใหญ่ของศูนย์การค้า มีผู้คนจำนวนมากเดินผ่านไปมา
กู้ชิงหยิ่งผายมือทั้งสองข้างออก แล้วสูดหายใจเข้าเต็มปอด
เธอยิ้มอย่างสบายใจ แล้วพึมพำว่า : “ไม่ได้เดินเล่นนานแล้ว คนโง่ วันนี้จะลงโทษคุณด้วยการซื้อของที่นี่ทั้งหมด……”
“ไม่ดีมั้ง ?”
เฉินตงอดไม่ได้ที่จะพูดออกมา
กู้ชิงหยิ่งหันเหลือบมองเฉินตงด้วยท่าทีประหลาดใจ : “คุณเป็นคนรับปากเองนะ ห้ามเสียใจทีหลังเด็ดขาด”
“ก็ได้”
เฉินตงยิ้มอย่างจนใจ แล้วหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา
ภาพที่เห็นทำให้กู้ชิงหยิ่งผงะไป : “คุณจะทำอะไร ?”
“คุณบอกให้ผมซื้อที่นี่ให้คุณไม่ใช่หรือ ?”
เฉินตงค้นหาเบอร์โทรศัพท์ของท่านหลงไปพลาง ตอบกลับไปพลาง : “ดูเหมือนว่าจะไม่เคยให้อะไรคุณเลย ห้างสรรพสินค้านี้ ถือเสียว่ามอบให้คุณเป็นของขวัญก็แล้วกัน ถึงแม้จะดูอวดร่ำอวดรวยไปหน่อย แต่ขอแค่คุณมีความสุข ถึงต้องอวดรวยก็ไม่เป็นไร”
กู้ชิงหยิ่งรู้สึกกลืนไม่เข้าคายไม่ออกในทันที
คนโง่นี่……
เมื่อเห็นเฉินตงยกโทรศัพท์ขึ้นแนบหู
เผียะ !
กู้ชิงหยิ่งตบหน้าผากของเฉินตงหนึ่งครั้งด้วยความหงุดหงิด : “คุณบ้าไปแล้วหรือยังไง ? ฉันแค่จะให้คุณซื้อกระเป๋า ซื้อเสื้อผ้าให้ฉัน ไม่ใช่ซื้อห้างสรรพสินค้าแห่งนี้”
“ร้านพวกนั้นนะหรือ ?” เฉินตงคิดอยู่ครู่หนึ่ง “ผมจะให้ท่านหลงกับคุนหลุนมาช่วยตรวจนับแล้วเหมากลับไปให้หมด”
กู้ชิงหยิ่งกระทืบเท้าด้วยความโมโห : “มีเงินแล้วคิดจะทำอะไรก็ได้อย่างนั้นหรือ ? ตามฉันมา เจ้าคนโง่ !”
ขณะที่พูด เธอก็จูงมือของเฉินตง แล้วเดินเข้าไปในห้างสรรพสินค้าอย่างรวดเร็ว
เดิมทีเฉินตงคิดว่าการเดินเล่นเป็นเพื่อนกู้ชิงหยิ่งหนึ่งวัน ต่อให้ต้องเหนื่อยสักหน่อยก็มีความสุขมากอยู่ดี
เพราะอย่างไรเสีย ประสบการณ์ในการเดินเล่นเป็นเพื่อนผู้หญิง เขาเองก็ต้องประสบพบเจอมาตลอดสามปี ในขณะที่ใช้ชีวิตร่วมกับหวางหนันหนัน
แต่ทว่า หลังจากเดินเป็นเพื่อนไปได้เพียงแค่ครึ่งชั่วโมง เฉินตงก็รู้สึกหมดเรี่ยวหมดแรงเสียแล้ว
แต่เมื่อเห็นท่าทีที่ดูร่าเริงและมีความสุขของกู้ชิงหยิ่ง เฉินตงก็กัดฟันและพยายามเดินต่อไป
ยอมทุกอย่างเพื่อที่จะให้ภรรยามีความสุข
เดินเป็นเพื่อนกู้ชิงหยิ่งไปทีละชั้นๆ และทีละร้านๆ
ราวกับเป็นการทำความสะอาดที่ครบทุกซอกทุกมุมจริงๆ
เฉินตงเองก็กลายเป็นเหมือนพนักงานขนย้าย เดินตามหลังกู้ชิงหยิ่งมาโดยมีของทั้งถุงเล็กถุงใหญ่อยู่ในมือ และทำท่าทางเหมือนกลไกอัตโนมัติซ้ำไปซ้ำมา
ชอบ ?
รูดบัตร !
ร้านต่อไป !
สองชั่วโมงต่อมา
เฉินตงไม่อาจทนฝืนได้อีกแล้ว เขาให้กู้ชิงหยิ่งเดินเข้าไปในร้านค้าด้วยตัวเอง ส่วนเขาก็นั่งพักผ่อนอยู่ที่เก้าอี้ด้านนอกทางเดิน
เฉินตงวางผลงานของกู้ชิงหยิ่งลง จากนั้นจึงเช็ดเหงื่อที่ไหลอาบหน้าผาก แล้วหายใจอย่างเหนื่อยหอบ
ส่วนอีกทางด้านหนึ่ง มีผู้ชายกำลังอุ้มลูกสุนัขด้วยความเป็นห่วง เพราะมันกำลังน้ำลายฟูมปากอยู่
เฉินตงพูดอย่างเป็นกันเอง : “พี่ชาย สุนัขตัวนี้น้ำลายฟูมปากแล้ว ต้องรีบพาไปส่งโรงพยาบาลสัตว์”
“ไม่เป็นไร”
ชายที่นั่งอยู่ด้านข้างคนนั้น โบกมืออย่างไม่แยแสนัก ราวกับว่านี่เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นเป็นปกติ แล้วพูดว่า : “น้องชายอายุยังน้อย เลยยังไม่เข้าใจ สุนัขของฉันเดินเล่นเป็นเพื่อนภรรยาฉันจนเหนื่อย อีกเดี๋ยวมันก็คงจะหายดี”
เฉินตง : “……”
เขารู้สึกตกใจมาก
จากนั้นจึงหันมองสุนัขที่น้ำลายฟูมปากด้วยแววตาที่ลึกซึ้ง
ผู้หญิง……ร้ายกาจจริงๆ !