ทุกคนที่อยู่ในนี้ สีหน้าเปลี่ยนไปหมดแล้ว
สีหน้าของเฉินเทียนฟ่างแน่วแน่ เส้นเอ็นตรงหางตานูนขึ้นมาอย่างชัดเจน แสดงให้เห็นถึงความดุร้าย
“แกกล้า!”
“ฉัน ทำไมจะไม่กล้า?” เฉินตงยิ้มเยาะ ด้วยท่าทางที่กดขี่ข่มเหง
พริบตาเดียว
ในเรือน เกิดการปะทะได้ทุกเมื่อ
สถานการณ์ตึงเครียดอย่างมาก
ท่านหลงกับคุนหลุนมีใจอยากจะห้ามปราม แต่ทั้งสองคนเข้าใจดี เรื่องได้ดำเนินมาถึงขั้นที่ไม่อาจจะย้อนกลับไปได้แล้ว
เป็นอย่างนั้น ตั้งแต่ที่เขาลงมือกับคุณหญิงใหญ่ตระกูลเฉินแล้ว
และการปรากฏตัวของเฉินเทียนฟ่าง เป็นเหมือนดั่งที่เฉินตงพูด ก็แค่ต้องการเหยียบเฉินตงขึ้นไป ที่เฉินตงทำเช่นนี้ ก็เพื่อทุบความคิดของเฉินเทียนฟ่างให้แหลกละเอียดเท่านั้น
ทันใดนั้น เสียงหัวเราะได้ดังขึ้น
คุณหญิงใหญ่ตระกูลเฉินก้มหน้าลง หัวเราะจนร่างกายสั่นไปทั้งตัว
ทำให้ทุกคนมองอย่างตกตะลึง
ทันใดนั้น คุณหญิงใหญ่ตระกูลเฉินก็เงยหน้าขึ้น: “เทียนฟ่างตอนนั้นย่ามองแกผิดไป ไม่ได้ให้สิทธิ์ในการสืบทอดกับแก วันนี้หากแกฆ่าไอ้เดรัจฉานตัวนี้ ตำแหน่งผู้สืบทอดของเขา ก็มีแกเป็นคนแทนที่!”
“คุณหญิงใหญ่!”
เพื่อจะพูดออกมา ท่านหลงกับคุนหลุนก็พูดห้ามพร้อมกัน
นี่เหมือนกับการใช้ตำแหน่งผู้สืบทอดที่เป็นผลประโยชน์มหาศาล ล่อให้เฉินเทียนฟ่างฆ่าเฉินตง!
และผลประโยชน์ที่มหาศาลแบบนี้ เด็กรุ่นใหม่ของตระกูลเฉิน ยังไม่มีใครสามารถปฏิเสธมันได้
“ขอบคุณคุณย่า!”
เฉินเทียนฟ่างยิ้มด้วยความปีติ ใบหน้าดุร้ายและเย็นชา แต่นิ้วชี้ของมือขวาของเขาอยู่ที่ไกรปืนแล้ว
ถูกเฉินตงเปิดโปงความคิดของเขา ทำให้เขาหงุดหงิดเล็กน้อย
แต่ตอนนี้มีคำสัญญาของคุณหญิงใหญ่ตระกูลเฉิน ซึ่งตรงตามความต้องการของตัวเอง
เฉินเทียนฟ่างในอดีต ดื้อรั้นไม่เอาไหนจริงๆ แต่เขาก็ยังคงใฝ่ฝันที่อยากจะได้ตำแหน่งของผู้สืบทอด
มีแต่อำนาจเท่านั้น ที่จะสามารถบันดาลให้ทุกสิ่ง!
มันคือสิ่งที่ผู้ชายทุกคนใฝ่หา
และในฐานะคนของตระกูลเฉิน ขอเพียงได้เป็นเจ้าบ้าน ฝันก็จะเป็นจริง
อย่างไรก็ตาม เพราะนิสัยในอดีตของเขา ทำให้พลาดตำแหน่งผู้สืบทอด และถูกส่งตัวไปเป็นทหารที่แดนตะวันตก
วันนี้กลับมาพร้อมกับเครื่องแบบที่น่าภูมิใจ เจอกับเฉินตงที่คิดอยากจะฆ่าคุณหญิงใหญ่ตระกูลเฉิน ทำให้เฉินเทียนฟ่างเห็นโอกาสในการแก้ไขชะตาชีวิต
เขาเชื่อว่า ด้วยผลงานของเขา มันเพียงพอที่จะแย่งชิงตำแหน่งเจ้าบ้าน และตำแหน่งผู้สืบทอด ก็คือสิทธิ์ที่เขาควรจะได้!
“ท่านหลง คุนหลุน พวกคุณสองคน คนหนึ่งเป็นคนรับใช้เก่าแก่ของตระกูล คนหนึ่งคือบอดี้การ์ดข้างกาย อาหารที่กินก็เป็นของตระกูลเฉิน คงไม่ใช่เลี้ยงหมาจนอ้วน ตอนนี้ยังรวมหัวกับไอ้ลูกสวะคนนี้มาแว้งกัดเจ้าของ?”
สีหน้าและน้ำเสียงของคุณหญิงใหญ่ตระกูลเฉินจริงจังมาก ท่าทางที่น่ากลัวบีบบังคับจนท่านหลงกับคุนหลุนหน้าเปลี่ยนสี ไม่กล้าพูดจา
วินาทีต่อมา
คุณหญิงใหญ่ตระกูลเฉินปริปากพูดอีกครั้ง “ไอ้ลูกสวะเอ๊ย อยากจะฆ่าฉัน ก็สมควรตายแล้ว ต่อให้…….แกจะเป็นลูกชายของเฉินเต้าหลิน!”
“งั้นก็ มาเดิมพันกันสักตั้ง!”
เฉินตงยังคงไม่มีความกลัว มือขวากำด้ามดาบไว้แน่น จนเกิดเสียงดังเอี๊ยดๆ
เวลา ตอนนี้เหมือนได้หยุดนิ่งไปแล้ว
อากาศยิ่งทำให้คนหายใจไม่ออก
ราวกับมือที่ไร้รูปขนาดใหญ่ ได้บีบรัดลำคอของทุกคนเอาไว้
ความขัดแย้งถึงทางตัน
เฉินเทียนเซิงได้ดึงตัวคุณหญิงใหญ่ตระกูลเฉินไปอยู่ด้านหลังโดยสัญชาตญาณ ตัวเองก็ก้าวมาข้างหน้าครึ่งตัว
แบบนี้ก็นับว่าคุ้มครองเหรอ
แม้ตอนแรกจะไม่ได้หน้า ครั้งนี้จะต้องได้
“เทียนฟ่าง! ลั่นไกรสิ!”
คุณหญิงใหญ่ตระกูลเฉินสั่งอย่างเฉียบขาด ใบหน้าที่แก่เต็มไปด้วยความดุร้าย ราวกับสัตว์ร้ายที่กำลังคลุ้งคลั่ง
“คุณชาย!”
เกือบจะในเวลาเดียวกัน ท่านหลงกับคุนหลุนก็พุ่งเข้าไปทางเฉินตง
“มาเลย ครั้งนี้ ฉันต้องอาศัยแกขึ้นตำแหน่งแล้วจริงๆ!”
เฉินเทียนฟ่างหน้าตาดุร้าย มือขวาค่อยๆกดลงไป เขาไม่ถือสาที่จะฆ่าคน เป็นทหารอยู่ที่แดนตะวันตกสามปี มือของเขาเปื้อนเต็มไปด้วยเลือดของศัตรู
เพิ่มเลือกของลูกสวะในตระกูลเฉินอีกคน ทำไมจะไม่ได้ล่ะ?
และแล้ว
“เจ้าบ้านมาแล้ว!”
ด้านนอกเรือน ทันใดนั้นก็มีเสียงตะโกนดังขึ้น
โครม!
เสมือนเสียงฟ้าผ่าฟ้าร้อง
ทำให้ทุกอย่างที่อยู่ในเรือนข้างใน หยุดชะงักไปในพริบตา
บู๊ม!
ไม่ได้รับอนุญาตจากคุณหญิงใหญ่ตระกูลเฉิน ประตูเรือนก็ถูกเตะออกอย่างแรง
สายตาทุกดวงได้มองตามเสียงไป
สายตาของเฉินตงแฝงไปด้วยความคาดหวังและความกังวล
คุณหญิงใหญ่ตระกูลเฉินก็ตกตะลึง แววตาขุ่นมัว
เฉินเทียนเซิง เฉินเทียนฟ่างก็ได้แสดงอาการหวาดกลัวออกมาในเวลาเดียวกัน
“นายท่านมาแล้ว ในที่สุดนายท่านก็มาแล้ว!”
ท่านหลงตื่นเต้นดีใจ ใบหน้าแดงก่ำ มือขวาได้จับตัวคุนหลุนที่กำลังตื่นเต้นเหมือนกันอย่างแน่นๆ
มีเพียงแต่นายท่าน ที่สามารถช่วยคุณชายได้ในตอนนี้!
ตามมาด้วยประตูถูกเปิดออก
ใบหน้าที่ไม่แยแสของเฉินเต้าหลินปรากฏขึ้นก่อนในสายตาของทุกคน
เขานั่งอยู่บนวีลแชร์ แววตาดุจสายฟ้า จับจ้องไปที่คุณหญิงใหญ่ตระกูลเฉินโดยตรง
และด้านหลังของเขา ฟ่านลู่เป็นคนเข็นวีลแชร์ ค่อยๆเข็นมาข้างหน้า
ซ้ายขาวยังมีสมาชิกหลายสิบคนของคนในตระกูลเฉินมาด้วย
บรรยากาศตึงเครียด กดดัน
แม่ว่าจะนั่งอยู่บนวีลแชร์ เผยให้เห็นถึงความอ่อนแอ แต่ว่าร่างกายของเฉินเต้าหลินก็ยังคงกระจายไปด้วยความน่าเกรงขาม ที่ทำให้คนกลัว
“เป็นฟ่านลู่ที่หาคุณพ่อจนเจอ?”
เฉินตงเห็นฟ่านลู่ ก็เข้าใจทันที เหลือบมองท่านหลงกับคุนหลุนโดยสัญชาตญาณ ดูท่าเมื่อกี้ฟ่านลู่ที่ให้รออยู่ข้างนอกคนเดียว เป็นการตัดสินใจที่ถูกต้องแล้ว
“เต้าหลิน นี่มันเป็นเรือนของฉัน แกฝ่าเข้ามาโดยตรง มันหมายความว่ายังไง?”
คุณหญิงใหญ่ตระกูลเฉินหาเรื่องก่อน
“ฝ่าเข้ามา?”
เฉินเต้าหลินยกมุมปากขึ้น “คุณน้าสามพูดเล่นแล้ว ในตระกูลเฉินผมถึงจะเป็นเจ้าบ้าน ทุกมุมในคฤหาสน์ มีตรงไหนที่ผมเข้าไม่ได้? คุณคงไม่คิดว่าที่ผมเคารพคุณ คุณก็เลยคิดว่าเรือนนี้เป็นที่หวงห้ามของตัวเองจริงๆ?”
“แก……….” คุณหญิงใหญ่ตระกูลเฉินสีหน้าเปลี่ยนไปอย่างมาก กัดฟันอย่างอดกลั้น
เฉินเต้าหลินยกมือขึ้นขัดจังหวะ “คุณน้าสามใจเย็น ผมแค่ได้ยินมาว่าที่เรือนของคุณน้าครึกครื้นอย่างมาก ดังนั้นจึงเกิดความคิดที่อยากจะมาดูความครึกครื้น”
“ยัยเด็กบ้า แกก็กล้าบุกเข้ามาก่อความวุ่นวายในตระกูลเฉินของฉัน!”
คุณหญิงใหญ่ตระกูลเฉินกัดฟันจ้องไปทางฟ่านลู่ด้วยสายตาที่ขุ่นเคือง
สีหน้าของฟ่านลู่เปลี่ยนไปเล็กน้อย มีความหวาดกลัว
“กลัวอะไร? เธอเชิญฉันมาดูความครึกครื้น มันผิดตรงไหน?”
เฉินเต้าหลินเงยหน้ายิ้มปลอบฟ่านลู่ไปหนึ่งประโยค จากนั้นก็มองไปที่ผู้คน แล้วก็ยักไหล่อย่างไม่แยแส “ฉันแค่มาดูความครึกครื้น พวกแกต่อเลย”
ต่อเหรอ?!
ในเวลาเดียวกันคุณหญิงใหญ่ตระกูลเฉิน เฉินเทียนฟ่างกับเฉินเทียนเซิงตื่นตระหนกจนไม่รู้จะทำยังไง
ตอนนี้จะฆ่าลูกของเขาแล้ว คนเป็นพ่ออยู่ในที่เกิดเหตุ จะให้ต่อยังไง?
โดยเฉพาะเฉินเทียนฟ่าง
เมื่อกี้ตอนที่เฉินเต้าหลินเข้ามาในเรือน เขากำลังเอาปืนจ่อไปทางเฉินตง
ภาพนี้ นอกเสียจากว่าเฉินเต้าหลินจะตาบอด ไม่เช่นนั้นเป็นไปไม่ได้ที่จะมองไม่เห็น
ชั่วขณะนั้น เฉินเทียนฟ่างใจลอย เกิดความหวาดกลัว
ปืนในมือ ก็ค่อยๆตกลงไป
“เทียนฟ่าง นายว่าวางปืนทำไม?”
เฉินเต้าหลินยิ้มเยาะ “นายจะใช้ปืนยิงลูกชายฉัน เอาต่อเลยสิ?”
เสียงพรึบดังขึ้นหนึ่งที!
เฉินเทียนฟ่างเหมือนถูกฟ้าผ่า ตกใจจนคุกเข่าอยู่บนพื้น รีบอธิบาย “เจ้าบ้าน โปรดฟังผมอธิบายก่อน!”
“อธิบายอะไร ผู้ชายที่ดีของตระกูลเฉิน กลับมาพร้อมกับผลงานและเครื่องแบบอันมีเกียรติ ยังต้องอธิบายอะไร? เฉินเต้าหลินเลิกคิ้วแล้วยิ้ม หันไปทางคุณหญิงใหญ่ตระกูลเฉิน คุณน้าสาม คุณน้าว่าผมพูดถูกมั้ย?”
“เฉินเต้าหลิน แกรังแกคนแก่ที่ไร้กำลัง!”
คุณหญิงใหญ่ตระกูลเฉินมีหรือจะฟันไม่ออกว่าเฉินเต้าหลินกำลังพูดจากวนประสาท กัดฟันชี้ไปทางเฉินนตง “แกบาดเจ็บ ฉันช่วยแกดูแลตระกูลเฉิน ลูกสวะของแกเข้ามาก็ทำร้ายเทียนหย่างจนพิการ ทำร้ายเทียนเซิง ฉันเรียกเขามาที่นี่ ก็เพื่ออยากจะจัดการเรื่องนี้ ไอ้เดรัจฉานคนนี้แม้แต่ฉันก็ยังอยากจะฆ่าแล้ว แกยังจะปกป้องเขาเหรอ?”
“เหรอ?!”
เฉินเต้าหลินตอบอย่างไม่แยแส
สายตามองไปทางเฉินตง
เฉินตงวางดาบในมือลง มองสายตาที่จะกินคนของคุณหญิงใหญ่ตระกูลเฉิน อย่างไม่หดถอย
“ผมแค่มาเยี่ยมคุณพ่อ ตอนแรกที่มาถึงหน้าซุ้มประตูตระกูลเฉิน เฉินเทียนหย่างใช้ชื่ออย่างลูกสวะไล่ผมกลับไป เท่ากับหยามผม ผมไม่ควรลงมือเหรอ?”
“ตรงระเบียงทางเดินสีเขียว มีสมาชิกและคนรับใช้นับพันอยู่ตรงนั้น เฉินเทียนเซิงเรียกผมว่าลูกสวะ ข่มขู่ว่าจะฆ่าผม ผมไม่ควรลงมือเหรอ?”
“อยู่ในเรือนนี้ คุณพูดขาวให้เป็นดำ ใช้อำนาจในการข่มเหงผม จะหักแข้งหักขาผม แย่งสิทธิ์ในการเป็นผู้สืบทอดของฉัน ผมยังต้องกล้ำกลืนฝืนทนอีกเหรอ?”
ถามซ้อนกันสามคำถาม จี้ใจโดยตรง
ทำให้คุณหญิงใหญ่ตระกูลเฉินและเฉินเทียนเซิงสีหน้าเปลี่ยนไปอย่างมาก
เฉินตงที่เต็มไปด้วยพลัง มองอย่างดูถูก
“พวกคุณเห็นผมเฉินตงเป็นลูกสวะ อ่อนแอรังแกง่าย ใครๆก็สามารถเหยียบย่ำได้ กลับไม่รู้ว่าพระก็โกรธมีความโกรธเหมือนกัน หากผมไม่ต่อต้าน ผมไม่ต้องถูกหามศพออกไปจากตระกูลเฉินหรอกเหรอ?”
“แก แกมันอวดดีเกินไปแล้วจริงๆ สมควรฆ่า สมควรฆ่าจริงๆ!”
คุณหญิงใหญ่ตระกูลเฉินถูกถามจริงกระวนกระวาย เธอชี้ไปตำหนิเฉินตงอย่างคนคลั่ง
“สมควรฆ่า สมควรฆ่าจริงๆ!”
เฉินเต้าหลินจู่ๆก็พอย้ำขึ้นมาอีกครั้ง ทำให้คุณหญิงใหญ่ตระกูลเฉินตกตะลึงทันที
จากนั้น ใบหน้าของเฉินเต้าหลินก็เยือกเย็น ดุเดือดไปด้วยแรงอาฆาต
“ดูถูกเหยียบหยามลูกชายฉันขนาดนี้ สมควรฆ่าจริงๆ!”