ตอนนั้นเอง
เฉินตงรู้สึกราวกับโดนไฟช็อต กระแสไฟแล่นพล่านไปทั่วร่าง ทำให้เขารู้สึกตาสว่างขึ้นมา
เขาเริ่มรู้สึกถึงความพรั่นพรึง
หลังจากที่ฉินเย่เตือนสติเขาโดยไม่ได้ตั้งใจแล้ว ความคิดของเขาจึงเปลี่ยนไปและจับประเด็นสำคัญได้ในทันที
“พี่ตง เป็นอะไรไป?”
เมื่อฉินเย่เห็นเฉินตงผิดปกติไป ก็เข้าใจว่าเฉินตงดื่มหนักเกินไปจึงรีบเข้าไปพยุงเฉินตงเอาไว้
เพิ่งสิ้นเสียง
เฉินตงพลันเงยหน้าขึ้นอย่างรวดเร็วจ้องไปที่ฉินเย่
นาทีนั้น อากัปกิริยาของเฉินตงเปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง แววตาของเขาคมปราบราวกระบี่นอกฝัก
แม้แต่ฉินเย่เองก็ยังตกใจจนกลืนน้ำลายเสียงดัง “เอื๊อก”
ขณะที่เขาเตรียมจะถาม
เฉินตงพลันเอ่ยแทรกขึ้นมา “ถ้าหากเรื่องที่ยิวหมินจะฆ่าพ่อฉัน ที่แท้เป็นการเล่นมืออยู่เบื้องหลังล่ะ”
หัวใจกระตุกวูบ
คำพูดของเฉินตง ทิ่มแทงเข้าไปในสมองของเขาอย่างรุนแรง
คนทั้งสองไม่ใช่คนโง่ ในทางกลับกันถือว่าเป็นคนฉลาดด้วยซ้ำ
ไม่อย่างนั้นแล้วคงไม่ประสบความสำเร็จอย่างเช่นทุกวันนี้
“ถ้ามีธุรกิจอยู่เบื้องหลัง”
คิ้วของฉินเย่ขมวดแน่นจนเกิดรอยย่น ความสยองขวัญแล่นพล่านราวกับฝูงมดที่คืบคลานเข้ามาในจิตใจ เขาเบิกตากว้าง “อย่างนั้นการฆ่าแกก็เป็นแค่การจัดฉากบังหน้า แต่เป้าหมายที่แท้จริง…”
“แย่แล้ว!”
เฉินตงกับฉินเย่ตะโกนออกมาพร้อมกัน
เวลานั้นทั้งคู่ต่างสร่างเมาและพากันวิ่งเข้าไปในห้องรับแขก
ท่านหลง คุนหลุนและคนอื่นๆ ที่อยู่ในห้องต่างตกใจไปพร้อมๆ กันเมื่อทั้งคู่ไปถึง
สายตาเคลือบแคลงสงสัยพุ่งตรงไปที่คนทั้งสอง
“ที่รัก เป็นอะไรไปหรือคะ”
กู้ชิ่งหยิ่งเป็นคนเดียวในสถานที่นี้ที่ไม่ได้ดื่มแอลกอฮอล์จึงเอ่ยถามขึ้น
สีหน้าของเฉินตงแข็งกร้าว สายตาของเขาคมปลาบจนไม่มีใครกล้าสบตา
เขามองไปที่ท่านหลงแล้วกัดฟันเอ่ยว่า “ท่านหลง รีบสั่งให้การ์ดทั้งหมดกลับไปที่ตระกูลเฉินเดี๋ยวนี้ และบอกพ่อด้วยว่าให้ระวังตัวให้ดี มีคนต้องการฆ่าเขา!”
“อะไรนะ?!”
สีหน้าของท่านหลงเปลี่ยนไป เขารู้สึกคล้ายโดนฟ้าผ่าก่อนจะได้สติคืนมา
คุนหลุน ฟ่านลู่และกูหลังต่างลุกขึ้นพร้อมๆ กัน
“ไม่มีเวลาอธิบายแล้ว!”
เฉินตงกัดฟันกรอด “ทำตามที่ผมบอก ทำยังไงก็ได้ให้การ์ดทั้งหมดกลับไปที่บ้านตระกูลเฉินในคืนนี้และเอาอาวุธทั้งหมดของพวกเขาไปด้วย!”
ระหว่างพูด เฉินตงก็รีบร้อนหยิบมือถือออกมา และกดเบอร์โทรของเฉินเต้าหลิน
ในห้องรับแขก
บรรยากาศเต็มไปด้วยความเครียดจนหนาวสันหลัง
ท่านหลงหยิบถ้วยน้ำชาขึ้นมาจากโต๊ะแล้วเทรดหน้าตนเอง เขาเอามือลูบหน้าเพื่อให้ตนเองมีสติมากขึ้น
เมื่อเห็นเฉินตงกำลังโทรศัพท์อยู่ เขาก็รีบพาคุนหลุนออกไปที่ห้องโถง
พวกเขาต่างไม่เข้าใจว่าทำไมจู่ๆ เฉินตงถึงได้เดือดดาลขึ้นมาแบบนี้
แต่สิ่งที่แน่ใจได้คือ เฉินตงกับฉินเย่ไม่มีทางเข้าใจอะไรผิดไปแน่
จะต้องเกิดเรื่องใหญ่อย่างแน่นอน!
แถมเรื่องนี้ยังเกี่ยวกับเจ้าของตระกูลอีกด้วย!
“รับโทรศัพท์สิ รีบรับเร็วเข้า!”
เฉินตงร้อนใจจนเหงื่อบนหน้าผากผุดออกมา เขาเดินวนไปวนมาอยู่ตรงปากประตูห้องรับแขก
สีหน้าของกู้ชิงหยิ่งซีดเผือด เธอเตรียมจะลุกขึ้นไปปลอบเขา
แต่ฉินเย่กลับห้ามเธอเอาไว้ “ไม่ต้องหรอก พวกเราโดนเล่นงานซะแล้ว”
“เล่นงานอะไรหรอคะ?” กู้ชิงหยิ่งเอ่ยถาม
ฉินเย่ยักไหล่ “มีคนตั้งใจฆ่าคุณท่านใหญ่หลี่ ยุยงให้ตระกูลหลี่สั่งองค์กร Hidden Killers จัดการภารกิจลอบสังหารพี่ตงและจงใจปล่อยภารกิจลงในดาร์กเว็บ และนี่ก็ทำไปเพื่อบังหน้า ปิดหูปิดตาทำให้พวกเราประมาทเลินเล่อ”
“มันจะเป็นไปได้ยังไง?” กูชิงหยิ่งยกมือขึ้นมาปิดปาก
ฟ่านลู่เองก็ส่ายหน้าอย่างเด็ดเดี่ยว “เป็นไปไม่ได้ หนึ่งเดือนที่ผ่านมานี้ทุกคนต่างรู้ซึ้งถึงสถานการณ์ลอบสังหารที่เกิดขึ้นเป็นอย่างดี”
ฉินเย่ยิ้มเป็นนัย “แล้วถ้าหากทำเหมือนว่าการปรากฏตัวของยิวหมินที่คลับสี่ยิ่นไม่เคยเกิดขึ้นล่ะ”
ฟ่านลู่กับกูหลังชะงักงัน
จากนั้นฉินเย่ก็ชี้ไปที่เฉินตงทันทีแล้วเอ่ยว่า “เมื่อกี้พี่ตงเพิ่งบอกว่า หลังจากที่ยิวหมินออกไปแล้วก็บุกไปที่บ้านตระกูลเฉินเพื่อฆ่าเจ้าบ้านตระกูลเฉิน พี่เสี่ยวลู่เคยไปที่บ้านตระกูลเฉินกับพี่ตงก็คงจะรู้เรื่องนี้ดี”
ฟ่านลู่รู้สึกสยอง
ศีรษะของยิวหมินที่ถูกแขวนอยู่บนป้ายของคฤหาสน์ตระกูลเฉิน ตอนนั้นเธอเองที่เห็นเป็นคนแรก
ภาพเหตุการณ์ฉากนั้น เธอไม่มีทางลืม!
“สมมติว่ายิวหมินไม่ได้มาที่คลับสี่ยิ่น แต่มุ่งหน้าไปที่บ้านตระกูลเฉินโดยตรง ถึงตรงนี้…พี่เสี่ยวลู่พอจะเข้าใจรึยัง?” ฉินเย่อธิบายเพิ่มอีกประโยค
เปรี้ยง!
ฟ่านลู่ตัวสั่นแล้วหลุดปากออกมาด้วยความตระหนก “คนที่คอยบงการอยู่เบื้องหลัง ที่จริงแล้วต้องการฆ่าเจ้าบ้านตระกูลเฉิน การลอบฆ่าคุณชายเป็นเพียงแผนลวงที่จงใจคิดเพิ่มออกมาเท่านั้น?”
ฉินเย่พยักหน้า
ฟ่านลู่พึมพำต่อว่า “ไม่มีการ์ดคอยป้องกันอย่างแน่นหนา เจ้าบ้านตระกูลเฉินกำลังตกอยู่ในอันตรายมาก แต่ยิวหมินตายไปแล้ว อย่างนั้น…”
พูดยังไม่ทันจบ สีหน้าของฟ่านลู่ก็ปรากฏความพรั่นพรึงขึ้นมาทันที
“ต่อให้ยิวหมินตายไปแล้ว ต่อให้ภารกิจลอบสังหารคุณเฉินจบลงแล้ว แต่คนที่คอยบงการอยู่เบื้องหลังยังอยู่ เป้าหมายแท้จริงของเขาคือการสังหารเจ้าบ้านตระกูลเฉิน ดังนั้น…ยังมีคนตามฆ่าเจ้าบ้านตระกูลเฉินอยู่!”
กู้ชิงหยิ่งที่ฟังอยู่ด้านข้าง ตอนนี้ได้จมอยู่ในภวังค์ไปแล้ว
บรรยากาศอันน่าเขย่าขวัญในห้องรับแขก ทำให้เธอตัวเกร็ง ใบหน้าขาวซีด
และในตอนนั้นเอง
เบอร์ที่เฉินตงโทรไปก็มีคนรับสาย
“พ่อ พวกมันไม่ได้จะฆ่าผม พวกมันใช้การฆ่าผมเป็นแผนบังหน้าเพื่อจะฆ่าพ่อต่างหาก!”
เฉินตงเอ่ยออกไปราวกับตะคอก
ในขณะที่ตัวเขาอยู่ในสถานการณ์ปลอดภัย แต่ตั้งแต่เริ่มต้นจนจบ พ่อของเขาไม่เคยปลอดภัยเลย!
แถมยังอันตรายกว่าการสังหารที่เขาเผชิญอยู่เป็นร้อยเท่า พันเท่า!
ทว่า
เสียงที่ดังออกมาจากโทรศัพท์ ทำให้ร่างของเฉินตงชาไปทั่วร่าง ภาพพร่ามัว
“เฮ้! แกรู้ตัวเร็วเหมือนกันนะ!”
เสียงที่ลอดออกมาไม่ใช่เสียงของพ่อ แต่เป็นเสียงที่แหบพร่าราวกับโดนเม็ดทรายละเอียดเสียดสี
น้ำเสียงหยอกเย้า แฝงให้เห็นถึงความอำมหิต
และสิ่งที่ทำให้เฉินตงขนลุกยิ่งไปกว่านั้น เบอร์ที่เขาโทร…คือเบอร์มือถือของพ่อ!
“หยุดเดี๋ยวนี้! แกหยุดเดี๋ยวนี้!”
เฉินตงตัวสั่น ตาของเขาแดงก่ำราวกับสิงโตที่กำลังกราดเกรี้ยว เขากัดฟันเอ่ยด้วยแหบพร่า “ถ้าแกแตะต้องพ่อฉัน ฉันสาบานเลยว่าไม่ว่าแกจะขึ้นสวรรค์หรือไปปรโลก ฉันก็จะตามไปจับแกมาบดกระดูกให้ละเอียด!”
เสียงกราดเกรี้ยว
ทำให้ทุกคนที่อยู่ในห้องรับแขกจมอยู่ในความหวาดผวาอย่างที่สุด
และในขณะเดียวกัน
ท่านหลงกับคุนหลุนที่วิ่งออกไปในตอนแรกก็กลับมาถึงสนามพอดี
จึงได้ยินเสียงตวาดของเฉินตงอย่างชัดเจน
ใช่แล้ว…เรื่องใหญ่จริงๆ!
ปั้ง!
เมื่อสิ้นเสียงของเฉินตง ปลายสายไม่มีเสียงตอบกลับมาอีก แถมยังได้ตัดสายไปแล้ว
ในตอนนั้น
เฉินตงสติหลุดจนตัวสั่นอย่างไม่อาจควบคุม
แม้แต่คนที่อยู่ใน ณ ที่นั้น ยังได้ยินเสียงเฉินตงกัดฟันกรอดๆ
“พวกแกเอาชีวิตแม่ของฉันไปคนหนึ่งแล้ว ตอนนี้…ยังจะเอาชีวิตพ่อฉันไปด้วยรึ?”
เสียงแหบกร้าวก้องกังวานไปทั่วลานป่าไผ่ ทำให้ทุกคนรู้สึกสั่นสะท้านออกมาจากทรวง
“พี่ตง ใจเย็นก่อน!”
ฉินเย่เข้ามาขวางเฉินตงเอาไว้
“จะให้ใจเย็นได้ยังไง!”
เฉินตงผลักฉินเย่ออก “ถ้าพวกมันทำให้ครอบครัวของฉันพังทลาย ฉันจะเอากระดูกมันมาบดให้ละเอียด!”
“คุณชาย!”
“คุณเฉิน!”
ท่านหลง คุนหลุน กูหลัง ฟ่านลู่ หรือแม้กระทั่งฉินเสี่ยวเชียนต่างร้องขึ้นมาพร้อมกัน
ทุกคนออกันเข้ามาเพื่อขวางเฉินตงเอาไว้
“คุณชาย ตอนนี้จะไปที่ตระกูลเฉินไม่ได้นะครับ!” ท่านหลงร้อนใจ “กระผมกับคุนหลุนจะกลับไปเอง คุณชายห้ามกลับไปเด็ดขาดไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น!”
ทว่า
ดวงตาแดงก่ำราวสัตว์ดุร้ายของเฉินตงจ้องเขม็งไปที่ท่านหลง
เขาแค่นหัวเราะ “จะขวางฉันหรอ?”