จากชื่อเสียงในการครอบครองทรัพย์สมบัติของตระกูลเฉินนั้น
การมอบของขวัญหรูหราราคาแพง ถือเป็นเรื่องปกติอย่างยิ่ง
พันล้านหรือหมื่นล้านก็ไม่ถือเป็นเรื่องใหญ่อะไร
แต่อย่างไรก็ต้องมีเหตุมีผลในการให้
เงินเล็กน้อยเพียงหนึ่งพันล้าน พ่อยังสามารถใช้เหตุผลในการชดเชยความผิดมาเป็นข้ออ้างในการให้เงินก้นกระเป๋าได้
เงินหมื่นล้าน หากใช้ข้ออ้างเดียวกันนี้เกรงว่าจะต้องตกเป็นขี้ปากของคนในตระกูลเฉินอย่างแน่นอน
แต่เมื่อกู้ชิงหยิ่งตั้งครรภ์ พ่อจึงสามารถใช้เรื่องนี้เป็นข้ออ้างได้
แม้ว่าจะดูเว่อร์กว่าที่ควรจะเป็นไปบ้าง แต่หากเทียบกับข้ออ้างให้เป็นเงินก้นกระเป๋าแล้ว ข้ออ้างนี้ทำให้คนยากจะโต้แย้ง
หลังจากที่เคยไปบ้านตระกูลเฉินมาครั้งหนึ่งแล้ว เฉินตรงก็เข้าใจเรื่องศึกในตระกูลอย่างแจ่มแจ้ง
ระดับบนมีคุณหญิงใหญ่ตระกูลเฉินเป็นผู้ปกครองโดยใช้ความอาวุโสทำให้คนอื่นเกรงใจ
ส่วนระดับล่าง ผู้มีอำนาจระดับเดียวกันจะแบ่งแยกเป็นสำนักของตนก่อกวนให้เกิดคลื่นใต้น้ำ
ตระกูลเฉินไม่เหมือนอย่างตระกูลร่ำรวยอื่น ที่เจ้าของตระกูลจะมีอำนาจเพียงคนเดียว
ท่านหลงยิ้มด้วยความยินดีแล้วพยักหน้า “ถูกต้อง เวลาหนึ่งปีผ่านไปรวดเร็วเหลือเกิน ตอนเด็กคุณชายใช้ชีวิตลำบาก จึงสู้พวกผู้สืบทอดที่ร่ำรวยไม่ได้ มีเพียงวิธีนี้เท่านั้นที่จะสามารถให้เงินสนับสนุนคุณชายได้ คุณชายจะได้ประสบความสำเร็จได้ง่ายขึ้น”
เงียบไปครู่หนึ่ง ท่านหลงก็เอ่ยขึ้นอีกว่า “อันที่จริงเมื่อวานตอนที่กระผมแจ้งข่าวดีกับคุณท่าน คุณท่านก็แอบบอกใบ้มาแล้ว เพียงแค่เรื่องนี้อาจจะทำให้คุณนายน้อยไม่สบายใจได้”
เฉินตงชะงักงันและแอบรู้สึกละอายใจ
แน่นอน การใช้เรื่องตั้งครรภ์ของกู้ชิงหยิ่งเป็นข้ออ้างเพื่อจะสนับสนุนเขา สำหรับกู้ชิงหยิ่งแล้วถือว่าไม่เป็นธรรมกับเธอนัก
“ฉันไม่รู้สึกอะไรเลยค่ะ”
กู้ชิงหยิ่งส่ายศีรษะแล้วยิ้มชวนมอง “ตอนแรกฉันกลัวของขวัญมูลค่าหมื่นล้านนี้ด้วยซ้ำ ตอนนี้พอรู้สาเหตุที่แท้จริงฉันกลับรู้สึกสบายใจขึ้นด้วยซ้ำ”
กู้ชิงหยิ่งกล่าวพลางเอนกายซบไหล่เฉินตง ก่อนจะเอ่ยต่ออย่างนุ่มนวลว่า “ฉันเป็นภรรยาของคุณนะ แน่นอนว่าฉันต้องอยากเห็นคุณบินได้สูงขึ้น ถ้าคุณสามารถที่จะทำตามความใฝ่ฝันได้สำเร็จ แค่ฉันดีใจกับคุณยังน้อยเกินไปเลย ฉันจะรู้สึกไม่สบายใจได้ยังไงล่ะคะ”
“ขอบคุณนะ” เฉินตงยิ้มด้วยความปลาบปลื้ม
ได้ภรรยาเช่นนี้ ชีวิตคู่จะยังต้องการอะไรอีก?
“คนโง่” กู้ชิงหยิ่งใช้สายตาตำหนิแล้วก้มลงเอามือลูบท้องตัวเองแล้วเอ่ยอย่างอ่อนโยน “แต่คุณต้องรับปากกับฉันก่อนว่าจะทุ่มเทให้มาก! นี่เป็นของขวัญที่ปู่ให้ลูกของเรา ขืนคุณยอมแพ้ ฉันไม่ปล่อยคุณแน่”
“วางใจได้เลย เพื่อคุณกับลูก ผมจะต้องคว้ามงกุฎของตระกูลเฉินมาใส่ให้ได้!”
แววตาของเฉินตงแน่วแน่
เมื่อเห็นภาพเช่นนี้
ท่านหลงเลยยิ้มแปลกๆ ก่อนจะออกจากห้องรับแขกไปอย่างรู้งาน
แถมยังปิดประตูห้องรับแขกให้ด้วย
เฉินตงกับกู้ชิงหยิ่งชะงักไปพร้อมๆ กัน จากนั้นจึงสบตากันแล้วหัวเราะออกมา
“ท่านหลงต้องเข้าใจอะไรผิดแน่ๆ”
“นับวันก็ยิ่งแปลกขึ้นเรื่อยๆ” กู้ชิงหยิ่งบ่นออกมา
เฉินตงเลยกล่าวว่า “เขาก็ไม่เคยปกติอยู่แล้ว”
เวลาก่อนเที่ยงวัน
ฉินเย่พาฉินเสี่ยวเชียนมาที่ลานป่าไผ่ด้วยเช่นกัน
เมื่อรู้ว่ากู้ชิงหยิ่งตั้งครรภ์ ฉินเย่ก็รีบบังคับให้เฉินตงรับปากว่าจะให้ตนเป็นพ่อเลี้ยงของเด็กคนนี้ด้วย เฉินตงจึงรับปากด้วยความยินดี
ข่าวดีทั้งสองเรื่องในตอนนี้
ข่าวแรกคือกู้ชิงหยิ่งตั้งครรภ์ ข่าวที่สองคือองค์กร Hidden Killers ล้มเลิกภารกิจลอบสังหารเฉินตง
ทุกคนจึงเตรียมจัดงานเลี้ยงฉลองครั้งใหญ่ตามคำชักชวนของท่านหลงกับฉินเย่
เฉินตงจึงเชิญกูหลังมาด้วย เพื่อเตรียมดูแลการ์ดทุกคนที่มาร่วมงาน
ช่วงที่ผ่านมานี้ทุกคนต่างเก็บกดกันมานาน เพราะตกอยู่ในสถานการณ์ที่ต้องหวาดระแวงการลอบฆ่าตลอดเวลา
ตอนนี้ท้องฟ้าสดใสแล้ว ความเก็บกดทั้งหมดก็สมควรถูกปลดปล่อยออกมา
ช่วงเวลาโพล้เพล้ ลานป่าไผ่แห่งนี้สว่างไสวไปด้วยแสงไฟ
เสียงหัวเราะสรวลเสเฮฮา
อาหารมากมาย ทุกคนชนแก้วกันอย่างครึกครื้น
ณ ห้องโถงด้านนอกลานป่าไผ่ ทุกที่นั่งถูกจับจอง บรรยากาศเต็มไปด้วยความครื้นเครงสนุกสนาน
เฉินตงดื่มเหล้าเข้าไปไม่น้อย กูชิงหยิ่งจึงนำน้ำผสมน้ำผึ้งมาให้เขาดื่ม จากนั้นเขาจึงเดินโอบไหล่ฉินเย่ออกไปที่สนาม
ลมเย็นพัดโชย ทำให้สร่างเมาไปได้มากทีเดียว
“ช่วงหนึ่งเดือนที่ผ่านมานี้อย่างกับความฝันเลย” เฉินตงยิ้ม แต่น้ำเสียงของเขาเจือความเศร้าใจ
“จริงด้วย หนึ่งเดือนที่ผ่านมาต้องคอยระแวงว่าจะโดนฆ่าตายอยู่ตลอด ไม่ว่าใครก็คงทนไม่ไหวทั้งนั้น” ในมือของฉินเย่ถือขวดเบียร์อยู่ขวดหนึ่ง จากนั้นจึงกระดกเบียร์ดื่มเข้าไปหนึ่งอึก “จริงสิ พวกการ์ดที่ตายไปแล้ว พี่ตั้งใจว่าจะจัดการยังไง?”
“ท่านหลงเตรียมแผนการช่วยเหลือเอาไว้แล้ว แต่ฉันก็ตั้งใจเอาไว้แล้วว่าจะเอาเงินจากบัตรตัวเองชดเชยให้พวกพี่น้องที่เสียชีวิตไปด้วย”
เฉินตงเอ่ยตามตรง ดวงตาที่เป็นประกายเพราะฤทธิ์สุราเริ่มปรากฏไอน้ำอุ่นๆ
ในหัวของเขาปรากฏภาพการต่อสู้ที่เกิดขึ้นในเขตวิลล่าเขาเทียนชานวันนั้น
การต่อสู้ครั้งนั้น พวกการ์ดต่างยอมสละชีวิตที่เหลือของตนเพื่อช่วยให้เขารอดออกมา!
“ดีเลย” ฉินเย่ยิ้มพลางพผงกศีรษะ “นี่แหละคือสไตล์ของคนเป็นพี่ใหญ่”
“ไสหัวไป!”
เฉินตงด่าออกมาคำหนึ่งแล้วทำท่าเงยหน้ามองท้องฟ้า แต่อันที่จริงแล้วทำไปเพื่อปิดบังน้ำตาของตน เขาแอบถอนใจแล้วเอ่ยว่า “ทุกคนมีพ่อมีแม่เลี้ยงมา ชีวิตจึงสำคัญกว่าอะไรทั้งนั้น แต่พวกเขายอมสละชีวิตเพื่อช่วยฉัน ดังนั้นสิ่งที่ฉันพอจะทำได้ก็คือเงินชดเชยเล็กๆ น้อยๆ ก้อนนี้”
ฉินเย่เหลือบมองเฉินตงด้วยแววตาซับซ้อน
ปากของเขากระอึกกระอัก แต่สุดท้ายก็กลืนคำพูดที่เตรียมจะพูดลงท้องไป
เงียบไปครู่หนึ่ง ฉินเย่ก็ขมวดคิ้วขึ้นมาด้วยความสงสัย “อันที่จริงแล้วฉันยังมีอีกคำถาม”
“อะไรล่ะ” เฉินตงเอ่ย
ฉินเย่เงยหน้ากระดกเบียร์หมดเกลี้ยง เมื่อวางขวดเบียร์ลงแล้ว เขาจึงหันมามองเฉินตงด้วยแววตาเป็นประกาย “คนที่ฆ่าคุณท่านใหญ่หลี่!”
“อันที่จริงฉันก็สงสัยเหมือนกัน”
เฉินตงไม่ได้แปลกใจเท่าไหร่ สายตาของเขาอยู่ห่างไกลออกไป “คนที่ฆ่าคุณท่านใหญ่หลี่เป็นคนปล่อยภารกิจลอบสังหารขององค์กร Hidden Killers หลุดออกไปในดาร์กเว็บ และ…”
หยุดไปพักหนึ่ง ก่อนเฉินตงจะลดเสียงลง “และก็เหตุผลที่ยิวหมินล้มเลิกตามฆ่าฉัน แต่หันปืนไปที่พ่อของฉันแทน”
“จะฆ่าเจ้าบ้านตระกูลเฉินเลยหรอ?” สีหน้าของฉินเย่เปลี่ยนไป “สมควรตาย มันกินอะไรเข้าไปถึงได้บ้าบิ่นแบบนี้?”
“มันตายไปแล้วล่ะ”
เฉินตงหันไปหาฉินเย่แล้วผายมือออกด้านข้าง เพราะเรื่องราวพวกนี้เขาไม่จำเป็นต้องปิดบังอีก
นิ่งไปพักใหญ่ เขากะพริบตาใช้เวลาครุ่นคิดเรื่องราว “แกไม่คิดหรือว่าเรื่องราวพวกนี้พอโยงเข้าด้วยกันแล้วอยู่บนเส้นทางเดียวกัน ตั้งแต่เริ่มจนจบมีคนคอยบงการอยู่ คอยปั่นหัวพวกตระกูลหลี่หน้าโง่ให้เล่นไปตามเกม และหันปลายมีดทั้งหมดมาที่ฉันคนเดียว?”
“ไม่ว่าจะคิดยังไง เรื่องนี้ก็เป็นฝีมือของคนคนเดียว หรือไม่ก็มาจากกลุ่มอำนาจเดียวกัน”
ฉินเย่ขมวดคิ้วราวกับกำลังใช้ความคิด เขาเงียบไปสองสามวินาทีก่อนจะเอ่ยถามขึ้นมาอีกว่า “จุดที่ยากจะเข้าใจคือเรื่องที่ยิวหมินจะฆ่าพ่อของพี่”
เฉินตงเงียบไม่ตอบ
อันที่จริงเขาไม่ได้เพิ่งจะมาคิดตอนนี้ ตั้งแต่ตอนที่ตระกูลหลี่ให้องค์กร Hidden Killers ปล่อยภารกิจลอบสังหาร เขาก็คิดมาตลอดว่าคนที่คอยบงการเรื่องนี้คือใครกันแน่
ตอนเขาไปที่ตระกูลเฉิน เขาก็พยายามหาคำตอบอยู่ตลอดว่ายิวหมินหันปืนมาโจมตีพ่อของเขาทำไม
แต่เรื่องราวหลายเรื่องที่เกิดขึ้นก็สามารถสรุปออกมาได้ว่าเป็นฝีมือของคนคนเดียวหรือกลุ่มอำนาจเดียวเท่านั้น
แต่เรื่องที่ยิวหมินเบนกระบอกปืนนั้น เป็นเรื่องที่ยังค้างคาอยู่อย่างไร้สาเหตุ
เมื่อสุราออกฤทธิ์ เฉินตงก็พยายามสะบัดหน้าเพื่อให้หายมึน ยิ่งคิดมากขึ้นเท่าไหร่ อาการมึนหัวก็ยิ่งรุนแรงมากขึ้น
“เอาล่ะ เลิกคิดก่อนเถอะ”
ฉินเย่เห็นเฉินตงเมาไม่น้อย จึงส่ายหน้า “ผมไปส่งพี่เอง พี่สะใภ้กำลังท้องกำลังไส้ พี่ก็อย่าดื่มหนักนักเลย งานเลี้ยงคืนนี้คงใกล้จะเลิกแล้วล่ะ ผมกับท่านหลงยังมีแผนต้องไปต่อกันอีก”
“แลกเปลี่ยนเทคนิคกันน่ะเหรอ?” เฉินตงลุกขึ้นเดินไปยังห้องรับแขก
ฉินเย่ยิ้มอย่างมีเลศนัย “พวกเราอยู่กันสองคนจะอายอะไร เอาเรื่องแลกเปลี่ยนเทคนิคมาบังหน้าไปงั้น แต่เบื้องหลังก็คือการทำธุรกิจนั่นแหละ”
เฉินตงยิ้มอย่างอารมณ์ดี
แต่ก้าวไปข้างหน้าได้เพียงสองก้าว เขาก็ยิ้มไม่ออกและชะงักงันอยู่กับที่
ใช่แล้ว
เบื้องหลังก็แค่การทำธุรกิจ?
การตายของคุณท่านใหญ่หลี่ ภารกิจลอบสังหารที่ถูกปล่อยไปในดาร์กเว็บ ยิวหมินโจมตีพ่อของเขา ทั้งหมดนี้ไม่ใช่แค่เรื่องบังหน้าหรอกหรือ?
เบื้องหลังของเรื่องทั้งหมดนี้มีคนหรือกลุ่มอำนาจหนึ่งซ่อนอยู่เบื้องหลัง
เรื่องที่ยิวหมินโจมตีพ่อของเขา หากมองเพียงเบื้องหน้าอย่างเดียวคงคิดไม่ออก แต่หากเรื่องนี้เดิมทีมีการเล่นมืออยู่เบื้องหลังล่ะ?