ครืดดด….
เสียงใบพัดเฮลิคอปเตอร์ที่บินอยู่กลางท้องฟ้าส่งเสียงดังสนั่น
แหวกให้เกิดลมพัดกระหน่ำราวพายุ
แต่สิ่งที่ทำให้เฉินตงประหลาดใจคือกลางท้องฟ้าไม่ได้มีเฮลิคอปเตอร์เพียงลำเดียว แต่มีถึงสามลำ!
ใต้เฮลิคอปเตอร์ทุกลำล้วนมีตู้คอนเทนเนอร์ทรงสี่เหลี่ยมห้อยต่องแต่งอยู่
ในตอนนี้เฮลิคอปเตอร์หยุดนิ่งอยู่กลางอากาศแล้วและค่อยๆ หย่อนเชือกหนาลงมาเพื่อวางตู้ลง
เป็นภาพเหตุการณ์ที่น่าตื่นตาตื่นใจอย่างยิ่ง
กลุ่มคนที่มุงอยู่บริเวณนั้นนับไม่ถ้วนต่างส่งเสียงร้องอื้ออึง
เพราะนอกจากเหล่าการ์ดประจำตัวของเฉินตงแล้ว การ์ดที่ประจำอยู่ในคลับสี่ยิ่นแทบจะไม่เคยเห็นภาพเหตุการณ์เช่นนี้เลย
เฉินตงเอ่ยอย่างกระอักกระอ่วนว่า “แน่ใจนะว่านี่เป็นการมอบของขวัญ ไม่ใช่กำลังย้ายบ้าน?”
“เรื่องเล็กน้อยเท่านั้นเอง คุณท่านเป็นคนใจกว้างเสมอ จะให้ขี้งกกับลูกชาย ลูกสะใภ้และหลานได้ยังไง”
ท่านหลงยิ้มจนหน้าแดงก่ำ เขาหรี่ตา “อันที่จริงแล้วกระผมยังรู้สึกว่าคุณท่านขี้เหนียวเกินไปหน่อยด้วยซ้ำ เวลาเขาไปเจรจาธุรกิจข้างนอกยังใจป้ำกว่านี้เสียอีก”
“ให้บ่อน้ำมันน่ะเหรอ?”
เฉินตงนึกถึงเรื่องบ้าระห่ำของพ่อที่ท่านหลงเคยเล่าให้ฟังขึ้นมา
“ใช่แล้ว” ท่านหลงพยักหน้า
ส่วนกู้ชิงหยิ่งที่อยู่ในอ้อมกอดของเฉินตงนั้นตกใจเสียจนยกมือเรียวยาวของเธอขึ้นมาปิดปากเอาไว้ไม่ให้ส่งเสียงร้องออกมา
เพราะที่ผ่านมาเธอยังไม่เคยเห็นการมอบของขวัญด้วยวิธีการเช่นนี้ในตระกูลของเธอเลย
ตึ้ง ตึ้ง ตึ้ง
ในที่สุดตู้คอนเทนเนอร์ทั้งสามตู้ก็ถูกวางลงบนพื้นอย่างมั่นคงภายใต้การควบคุมของผู้สั่งการ
ชายวัยกลางคนที่ทำหน้าที่สั่งการรีบรุดก้าวเข้ามา ในมือของเขาถือหนังสือมาด้วยเล่มหนึ่ง
“ขอแสดงความยินดีกับคุณชายและคุณนายน้อยด้วยครับ”
ชายวัยกลางคนตะโกนแสดงความยินดีด้วยรอยยิ้มกว้าง
จากนั้นจึงเปิดหนังสือที่อยู่ในมือออก
เฉินตงเบิกตาค้าง สิ่งที่อยู่ในมือของชายวัยกลางคนนั้นคือรายการของขวัญ
เขาหันไปมองท่านหลงอย่างประหลาดใจ “ถึงขั้นต้องประกาศด้วยเหรอ?”
“แน่นอนๆ” ท่านหลงพยักหน้า
จากนั้นชายวัยกลางคนจึงเปล่งเสียงอ่านด้วยเสียงดังฟังชัด
“โสมป่าพันปีสิบหัว”
“เตียงไม้หนานมู่เนื้อทองโบราณหนึ่งหลัง”
……
ชายวัยกลางคนอ่านรายชื่อของขวัญออกมาทีละรายการ
เฉินตงประหลาดใจจนอ้าปากค้าง สีหน้าของกู้ชิงหยิ่งก็แปลกใจไม่แพ้กัน
ของขวัญทุกชิ้น ไม่เพียงราคาสูงลิ่วเท่านั้น แต่ยังเป็นของล้ำค่าหายากอีกด้วย
ฝูงชนที่ห้อมล้อมอยู่บริเวณนั้นต่างพากันทอดถอนใจกันอย่างตื่นเต้น
อะไรที่เรียกว่าบ้าระห่ำน่ะหรือ?
ก็คงจะประมาณนี้ล่ะมั้ง!
รายการของขวัญยาวเหยียดราวกับหนังสือเล่มหนึ่ง
เมื่อชายวัยกลางคนอ่านจบไปหนึ่งเล่มก็พลิกหน้าต่อไป เตรียมจะอ่านต่อ
ไม่นานนักฝูงชนที่ห้อมล้อมอยู่ก็ค่อยๆ เงียบลง ราวกับน้ำมันรถที่หยุดนิ่งอยู่บนพื้น
และในตอนที่ชายวัยกลางคนอ่านถึงคำว่า “บ้านซื่อเหอเอวี้ยนที่เมืองหลวงหนึ่งหลัง” เฉินตงก็อดทนต่อไปไม่ไหว
เขารีบร้องสั่งให้หยุดอ่าน ลำพังแค่บ้านซื่อเหอเอวี้ยนกับของที่อ่านไปก่อนหน้า มูลค่าก็มากกว่าหนึ่งพันล้านแล้ว การให้ของขวัญครั้งนี้นับว่ามากเกินไปแล้ว
“คุณชาย เป็นอะไรไปหรือครับ”
ชายวัยกลางคนมองไปที่เฉินตงอย่างไม่เข้าใจนัก แล้วโบกรายการของขวัญที่อยู่ในมือ “เหลืออีกสามหน้าก็จบแล้วครับ”
ดวงตาของเฉินตงเบิกกว้างออกมา
กู้ชิงหยิ่งที่อยู่ในอ้อมอกของเขาเริ่มตัวอ่อนระทวย
“พอแล้วๆ อ่านเท่านี้ก็พอแล้ว และก็พูดเบาหน่อย”
เฉินตงเอ่ยอย่างไม่สบอารมณ์ การแสดงความบ้าระห่ำต่อหน้าคนมากมายกลางที่สาธารณะเช่นนี้ไม่ใช่นิสัยที่เขาชอบนัก
เมืองหลวงเป็นสถานที่แบบไหนหรือ?
เมืองที่มีชนชั้นปกครองรวมถึงคนที่มีความสามารถมากมายแอบซ่อนอยู่ บ้านเนื้อที่เพียงน้อยนิดแต่ผู้คนต่างแก่งแย่งกันราวกับทองคำ ยิ่งไม่ต้องพูดถึงบ้านอย่างซื่อเหอเอวี้ยนที่ราคาสูงเสียดฟ้า
ของขวัญเช่นนี้พ่อยังกล้าส่งมา ไม่แน่ว่ารายการของขวัญต่อจากนี้อาจจะมีสิ่งของอะไรที่ฟังแล้วน่าตกใจอีกก็เป็นไปได้
“ใช่ๆๆ พวกเราซาบซึ้งน้ำใจของคุณพ่อมากแล้ว หลังจากนี้ไม่ต้องอ่านแล้วล่ะค่ะ”
กู้ชิงหยิ่งรีบร้อนเอ่ยสนับสนุนเฉินตง
ในฐานะของเธอ เธอเคยเห็นกู้โก๋ฮั๋วส่งของขวัญให้คนนอกอยู่บ่อยครั้งและก็เห็นคนนอกส่งของขวัญมาให้ตระกูลของเธออยู่หลายครั้งเช่นกัน แต่ก็ไม่มีใครเคยส่งของขวัญที่หรูหราเท่านี้เลย
“คุณชาย ไม่ได้นะครับ ก่อนจะออกเดินทาง คุณท่านได้กำชับมาแล้วว่าจะต้องอ่านแจกแจงให้ชัดเจน”
ชายวัยกลางคนเริ่มลังเลพลางชี้ไปที่รายการของขวัญ “รายการต่อจากนี้ยังมี…”
“พอแล้ว!”
เฉินตงรีบเอ่ยห้ามด้วยสีหน้าเคร่งเครียด “ไม่ว่าจะเหลืออะไร ก็ไม่ต้องอ่านทั้งนั้น!”
“เอาอย่างนั้นก็ได้”
ชายวัยกลางคนทำท่าละล้าละลัง ก่อนค้อมตัวลงยื่นรายการของขวัญให้เฉินตง
เฉินตงไม่ยอมอ่านต่อ เพราะเขาเพียงมองผ่านแวบเดียวก็ตกใจจนหน้าซีดเผือด จากนั้นจึงมองไปที่ฝูงชนที่ยืนออกันอยู่อย่างเงียบกริบพลางโบกมือ “ขอโทษทุกท่านด้วย รบกวนเวลาพอแล้ว แยกย้ายกันเถอะ”
จากนั้น เขาก็ไม่มีกระจิตกระใจจะสนใจฝูงชนที่ยืนนิ่งไม่ไหวติงอีก
แล้วรีบหันมาสั่งการท่านหลงและชายวัยกลางคนต่อ
จากนั้นจึงพากู้ชิงหยิ่งเดินอย่างข้องใจกลับเข้าไปในห้องรับแขก
หลังจากที่นั่งลงแล้ว กู้ชิงหยิ่งยังคงใจลอยอยู่ “ที่รัก คุณพ่อใจดีเกินไปไหมคะ ตั้งแต่เล็กจนโต ฉันไม่เคยเห็นคนให้ของขวัญกันแบบนี้เลย รู้สึกอย่างกับฝันไปเลยค่ะ”
“อย่าว่าแต่เคยเห็นเลย แค่ได้ยินยังไม่เคยได้ยินเลย”
เฉินตงเกาหัวอย่างงุนงง ตอนนี้เขาเชื่อเรื่องที่ท่านหลงเล่าให้ฟังแล้วว่าพ่อของเขาเคยมอบบ่อน้ำมันให้เป็นของขวัญตอนออกไปเจรจาธุรกิจ
เฉินตงหยิบรายการของขวัญขึ้นมาแล้วพลิกอ่าน จากนั้นเอ่ยออกมาอย่างประหลาดใจ “ที่รัก ไหนลองทายดูสิว่ามูลค่ารายการของขวัญทั้งหมดนี้รวมกันเป็นเท่าไหร่?”
“สองพันล้าน?”
กู้ชิงหยิ่งครุ่นคิดก่อนจะตอบจำนวนที่ตนเองคิดว่าเป็นไปได้มากที่สุดออกมา
ทว่า
เฉินตงกลับส่ายศีรษะ “คุณประมาณค่าต่ำเกินไปแล้ว เดาให้มากกว่านี้หน่อย!”
ร่างบอบบางของกู้ชิงหยิ่งสั่นไหว พร้อมยกมือของตนขึ้นมาปิดปาก
เธอพยายามไม่กรี๊ดออกมาแล้วเอ่ยว่า “ฉัน ฉันไม่เดาแล้วดีกว่า คุณบอกฉันมาเลยเถอะ”
เฉินตงยกนิ้วขึ้นมากางทั้งสิบนิ้ว
“เอาเลขที่คุณบอกคูณห้าเข้าไป!”
ประโยคเรียบๆ หนึ่งประโยคแต่กลับทำให้กู้ชิงหยิ่งรู้สึกราวกับถูกฟ้าฟาด เธอตกใจจนหน้าซีดขาว
ช่วงเวลานั้น
กู้ชิงหยิ่งไม่เพียงไม่มีท่าทางยินดีเท่านั้น ใบหน้างดงามของเธอกลับซีดขาวด้วยความพรั่นพรึง
แค่ตั้งครรภ์ กลับได้ของขวัญมูลค่าหมื่นล้าน?!
ตระกูลเฉินบ้าระห่ำกันขนาดนี้เลยหรือ?
“พ่อคิดอะไรอยู่กันแน่?” เฉินตงเกาหัวด้วยสีหน้าข้องใจ “เพิ่งจะตั้งท้องแท้ๆ ก็ส่งของขวัญแบบนี้มาให้แล้ว ทำไมผมรู้สึกว่ามันแปลกๆ”
ถ้าหากเป็นของขวัญมูลค่าพัน สองพันล้าน เขายังรู้สึกว่าปกติ
เพราะก่อนหน้านี้พ่อเคยให้เงินก้นกระเป๋าเขามาสองครั้ง แต่ละครั้งมูลค่าประมาณหนึ่งพันล้าน
แต่หมื่นล้าน มันน่ากลัวเกินไปหน่อย!
ในตอนนั้นเอง
ท่านหลงที่จัดการเรื่องการส่งมอบของเสร็จเรียบร้อยแล้วก็เดินเข้ามา
เมื่อเห็นเฉินตงกับกู้ชิงหยิ่งกำลังหน้านิ่วคิ้วขมวดครุ่นคิดบางอย่างอยู่นั้น เขาก็ยิ้มออกมา
“คุณชาย คุณนายน้อย กำลังตกใจนิสัยการใช้เงินของนายท่านอยู่หรือครับ”
“อืม”
เฉินตงกับกู้ชิงหยิ่งพยักหน้าตอบรับพร้อมกัน
ท่านหลงหัวเราะเสียงดัง “คุณชายกับคุณนายน้อยอย่าคิดมากเลย เงินหมื่นล้านสำหรับตระกูลเฉินไม่ถือว่ามากมายอะไร”
“สำหรับตระกูลเฉินอาจจะไม่มากมายอะไร แต่สำหรับพวกเราแล้ว นี่มันตั้งหมื่นล้าน!”
กูชิงหยิ่งเอ่ยอย่างหนักแน่น แสดงให้เห็นว่าเธอกำลังรู้สึกกังวล
หากสะใภ้บ้านอื่นตั้งครรภ์ การที่พ่อตา แม่ยายมอบของขวัญให้ ควรจะเป็นเรื่องที่น่ายินดี
แต่ตอนนี้เธอไม่รู้สึกยินดีเลยสักนิด
ท่านหลงหันไปมองตู้ใบใหญ่สามตู้ที่วางอยู่กลางสนาม ในนั้นมีเพียงของบางส่วนที่อยู่ในรายการของขวัญเท่านั้น ของชิ้นใหญ่อย่างบ้านซื่อเหอเอวี้ยนยังต้องเซ็นสัญญาโอนกรรมสิทธิ์ก่อน
เมื่อหันกลับไปมองเฉินตงกับกู้ชิงหยิ่ง ท่านหลงก็ยิ้มออกมาอย่างแปลกประหลาด
กะพริบตาปริบๆ และนิ่งเงียบอยู่พักใหญ่ก่อนจะกล่าวออกไปว่า “คุณชายกับคุณนายน้อยคิดว่าของขวัญมูลค่าหมื่นล้านส่งมาเพื่อแสดงความยินดีเรื่องที่คุณนายน้อยตั้งครรภ์อย่างนั้นหรือ?”
“แล้วไม่ใช่เหรอ?”
เฉินตงกับกู้ชิงหยิ่งเอ่ยถามอย่างพร้อมเพรียง
วินาทีต่อมา
แววตาของเฉินตงเกิดประกายสว่างวาบ เขาเข้าใจแจ่มแจ้ง
“ไม่ถูก ความหมายของท่านหลงคือ พ่อใช้เรื่องนี้เป็นข้ออ้างเพื่อช่วยผม?”
ท่านหลงยิ้มแต่ไม่เอ่ยตอบ เขาเพียงพยักหน้าเท่านั้น