ลมริมแม่น้ำเย็นเล็กน้อย
บนผิวน้ำ ระยิบระยับไปด้วยแสงของดวงไฟ
ผู้หญิงคนนั้นที่สวมเสื้อกันลมยาวสีดำ ยืนเงียบๆ อยู่ตรงรั้วกั้น ใบหน้าด้านข้างที่ขาวและคม ภายใต้เส้นผมสีดำยาวสลวยที่ถูกลมพัด ทำให้ดูเศร้าเล็กน้อย
“คุณชาย คุณนายน้อย เป็นอะไรหรอ?”
คุนหลุนเห็นถึงความผิดปกติ เดินไปข้างหน้าอย่างรวดเร็วแล้วถาม
“กลับบ้านเถอะ”
เฉินตงพูดขึ้นมาทันที อารมณ์ที่มีความสุขในตอนแรก เวลานี้กลับกลายเป็นความเคร่งขรึม ถึงขนาดสะอิดสะเอียนเล็กน้อย
กลับบ้าน?!
เพิ่งจะมาถึงเอง
คุนหลุนแปลกใจ รีบมองตามสายตาของเฉินตง
เมื่อเห็นแล้ว ก็เข้าใจทันที
ไม่ได้พูดอะไรอีก ได้ตามเฉินตงหันหลังเดินจากไป
แต่ มือที่เรียวยาวก็ได้จับแขนของเฉินตงเอาไว้อย่างเบาๆ
“หลายปีแล้ว ไม่ทักทายหน่อยเหรอ?” กู้ชิงหยิ่งกล่าว
“ผมจะเอาอารมณ์ที่ไหนไปทักทายหล่อน” เฉินตงไม่ได้ปกปิดความรังเกียจของเขาเลย
แต่งงานกันไปสามปี มีแต่ความเจ็บปวด
แม่นอนป่วยหนักอยู่บนเตียง ยังสามารถเอาเงินที่จะช่วยชีวิตคนไปให้กับครอบครัวของตัวหล่อน เพียงเพื่อซื้อบ้านให้กับน้องชายที่จะแต่งงาน
แม้กระทั่งหย่าร้างกันไปแล้ว หล่อนยังคงสร้างความวุ่นวายและแอบเล่นงานเขาครั้งแล้วครั้งเล่า
หากไม่รักแล้ว ก็ให้ปล่อย
แต่เมื่อเกิดกับหล่อน กลับกลายเป็นว่าหากไม่รักแล้ว ก็จะทำร้ายให้ถึงที่สุด
ถึงขนาดตอนแรกหากไม่ใช่กู้ชิงหยิ่งไว้เนื้อเชื่อใจเขาอย่างมาก เขากับกู้ชิงหยิ่งคงเลิกกันไปนานแล้ว คงเดินมาไม่ถึงวันนี้กันแล้ว
เห็นกู้ชิงหยิ่งลังเล
เฉินตงกัดฟันกล่าว “คุณคิดว่าที่หวางหนันหนันทำร้ายพวกเรา ยังไม่พอใช่มั้ย?”
กู้ชิงหยิ่งลังเลไปครู่หนึ่ง ก็ไม่เถียงอีก ไปจากที่นี่พร้อมกับเฉินตง
จนกระทั่งทั้งสามคนขึ้นรถ หลังจากนั่งรถออกไปแล้ว
เงาคนที่ยืนอยู่ตรงรั้วกั้นริมแม่น้ำ ในที่สุดก็ขยับตัวแล้ว
มือที่เรียวยาวกระตุกไปหนึ่งที ลูบผมที่หน้าผากไปทักที่ข้างหู ยิ้มอย่างเศร้าๆ “อดีตท้ายที่สุดก็ผ่านไปแล้ว ฉันก็ควรปล่อยมันแล้ว ได้เวลาต้อนรับชีวิตใหม่แล้ว”
หวางหนันหนันค่อยๆ หันหน้า เตรียมตัวเดินไปจากที่นี่
เธอยังคงสวยเหมือนเมื่อก่อน แต่เธอในวันนี้ นอกจากความสวยแล้ว กลับเพิ่มขึ้นด้วยความสง่างามแบบผู้ใหญ่
เหมือนกับว่าหลังจากที่เกิดคลื่นยักษ์ขนาดใหญ่ ก็กลับมาสู่พื้นผิวน้ำที่สงบนิ่ง
ไม่เหลือเค้าความหยิ่งผยองในอดีตอีก
อย่างไรก็ตาม เมื่อหวางหนันหนันเงยหน้าขึ้น เห็นรถโรลส์-รอยซ์ขับผ่านไปพอดี
เธออดไม่ได้ที่จะตกใจ
รถคันนั้น คุ้นจัง
มองไปโดยรอบริมแม่น้ำ อารมณ์ที่สลบนิ่งของหวางหนันหนันก็ถูกคลื่นกระทบเล็กน้อย แววตาเปล่งประกาย “เมื่อกี้ มาที่นี่เหรอ?”
เธอยิ้มอย่างขมขื่น แล้วก็รวบเสื้อกันลมที่อยู่บนตัว มุ่งหน้าเดินตรงไปอีกทาง
เมื่อเดินลงมาจากริมฝั่ง ข้างถนนก็มีรถแลนด์โรเวอร์คันหนึ่งจอดรออยู่
เมื่อขึ้นรถ โชเฟอร์ที่ขับรถได้หันมากล่าวอย่างสุภาพ “คุณหวาง พี่หลิ่งตงเพิ่งจะโทรมาเมื่อกี้ บอกว่ารายการมีการเปลี่ยนแปลง งานเลี้ยงคืนนี้ยกเลิกแล้ว”
“อืม ไปบ้านเขาเถอะ” หวางหนันหนันกล่าวอย่างใจเย็น
“อะไรนะ?” โชเฟอร์แปลกใจ
“ไปบ้านเขา” หวางหนันหนันพูด
สีหน้าของโชโฟอร์เปลี่ยนไปอย่างมาก มีความรู้สึกเหมือนกำลังฝัน
น้ำเสียงที่ตื่นเต้นของเขามีความสั่นเล็กน้อย “คุณ คุณหวาง คุณ คุณตกลงแล้ว?”
“อืม” หวางหนันหนันพยักหน้า
“พี่หลิ่งตงรู้ต้องดีใจมากๆ เลย ผมจะโทรแจ้งข่าวดีเขาตอนนี้เลย!”
โชโฟอร์พลางสตาร์ทรถ พลางโทรศัพท์ให้หลิ่งตง
หวางหนันหนันนั่งเอนหลังอย่างเกียจคร้านอยู่ตรงเบาะหลัง มองทิวทัศน์ยามค่ำคืนที่กรอถอยหลังอย่างรวดเร็วนอกหน้าต่าง แล้วยิ้มอย่างอ่อนโยน “ไปจากเมืองนี้แล้ว ยังไงก็ต้องหาคนที่ห่วงใยเรา เขาเป็นคนที่ไม่เลวจริงๆ อย่างน้อยเขาก็รู้จักให้เกียรติฉัน”
หลังจากผ่านประสบการณ์ในตอนแรกทั้งหมด เธอในวันนี้ ได้ชะล้างสิ่งที่ไม่ดีออกไปหมดแล้ว
สิ่งที่เรียกว่ามหาเศรษฐีกับความฝันที่สวยงาม มันก็เป็นเพียงความคิดที่จอมปลอมไม่สมเหตุสมผล
จนถึงสุดท้าย ท้ายที่สุดแล้วก็ไม่ได้รับความเคารพแต่อย่างไร เป็นเพียงของเล่น เล่นเสร็จแล้ว ก็ถูกทิ้งไป
หลังจากที่ไปจากเมืองแห่งนี้แล้ว เขาใช้แรงกายแรงใจอย่างมาก สุดท้ายถึงสามารถทำให้ตัวเอง “เกิดใหม่อีกครั้ง”
การได้พบกับหลินหลิ่งตง ทำให้เธอได้เห็นชีวิตที่แตกต่างออกไป
เงินทองแม้ไม่ได้อยู่ในระดับมั่งคั่งที่สุด ไม่ได้อยู่ระดับมหาเศรษฐี แต่ก็มั่งมีพอสมควร สิ่งสำคัญที่สุด คืออีกฝ่ายให้ความเคารพเธออย่างสูงสุด
เธอรู้จักตัวตนและภูมิหลังของหลินหลิ่งตงดี ดังนั้นจึงยิ่งรู้ว่าความเคารพนี้ มีค่ามากขนาดไหน
ด้วยการที่มีชีวิตแบบนั้น ผู้หญิงที่เขาถูกใจ ในคืนนั้นก็สามารถมานอนอยู่บนเตียงได้เลย
แต่หลินหลิ่งตง แสดงความอดทนต่อเธออย่างมาก ทำให้เธอรู้สึกว่าหลินหลิ่งตงไม่ได้เป็นเหมือนในข่าวลือ
คืนนี้ เขากลับมาที่นี่ ก็เพื่อบอกลากับอดีต แล้วต้อนรับอนาคตใหม่
คนเรา ไม่ว่าอย่างไรก็ต้องมองไปข้างหน้าไม่ใช่เหรอ?
หลินหลิ่งตงท้อใจมาก เป็นความท้อใจที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน
นอนอยู่บนเตียงขนาดใหญ่ในคฤหาสน์ที่อยู่ในหมู่ตึกหลิ่งตง กลับนอนไม่หลับ
เขาอยากเป็นเพื่อนกับเฉินตง การมีอยู่แบบนั้น หากสามารถเป็นเพื่อนกัน ต้องมีประโยชน์อย่างมาก
เดิมทีคิดว่าเรื่องที่ดิน จะเป็นขั้นบันไดที่ยอดเยี่ยมในการเชื่อมความสัมพันธ์ ดังนั้นเขาจึงใช้เวลาไม่นาน รีบจัดงานเลี้ยงเชิญเฉินตง
เป็นเพราะเรื่องที่ยกที่ดีให้ ทำให้เขาที่อยู่ในเมืองหลิ่งตงถูกนินทาและหัวเราะเยาะ เขาไม่ได้สนใจเลย
การทำงานของคนที่ทะเยอทะยาน โดยปกติก็ไม่ได้สนใจเรื่องที่ต้องเสียไปเพียงเล็กๆ น้อย
คิดคำนวณไปทั้งหมด ถึงจะเป็นสิ่งที่เขาควรจะทำ คนที่เยาะเย้ยเขา เป็นเพียงคนธรรมดาที่มองการณ์ตื้นเขินในสายตาของเท่านั้น
อย่างไรก็ตาม หลินหลิ่งตงนั้นคาดไม่ถึงเลย
การเชื้อเชิญของตัวเอง กลับเหมือนโยนหินลงในทะเล ไม่ได้รับการตอบสนองเลย
เมืองข้างๆ มีมังกรตัวจริงอาศัยอยู่
เขาถึงขึ้นเคยเผชิญหน้ากับมังกรตัวจริงตัวนี้แล้ว
ตอนนี้เขากลับไม่สามารถที่จะเข้าใกล้ขึ้นไปอีก เรื่องนี้ทำให้หลินหลิ่งตงที่ทำทุกอย่างราบรื่นมาโดยตลอดได้เรียนรู้ถึงอุปสรรค ใจไม่สามารถที่จะสงบลงได้เลย
โทรศัพท์ดังขึ้น
หลินหลิ่งตงรับโทรศัพท์อย่างหงุดหงิด
หลังจากปลายสายคุยไปไม่กี่วินาที
หลินหลิ่งตงก็กระโดดขึ้นมานั่ง ใบหน้าเต็มไปด้วยความดีใจ “จริงเหรอ?”
ก็ได้หยุดนิ่งไปอีกหนึ่งวินาที
หลินหลิ่งตงตื่นเต้นจนหายใจเร็ว ใบหน้าเต็มไปด้วยรอยยิ้มสดใสอย่างห้ามไม่อยู่
“เร็ว รีบเอาโทรศัพท์ให้หนันหนัน ฉันจะฟังเขาพูดด้วยตัวเอง!” หลินหลิ่งตงพูดอย่างตื่นเต้น
ไม่นาน ในโทรศัพท์ ก็ดังขึ้นด้วยเสียงของหวางหนันหนัน
“คุณไม่เต็มใจเหรอ?”
“เต็มใจ! ผมเต็มใจ! ผมรอวันนี้ รอมานานมากแล้ว!”
น้ำเสียงของหลินหลิ่งตงสั่นเล็กน้อย พูดอย่างตื่นเต้นดีใจ “กลับบ้านนะ ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป ที่ตรงนี้ก็คือบ้านของคุณ คุณก็คือคนที่ผมหลินหลิ่งตงรักมากที่สุด ผมจะให้คุณทุกอย่าง ขอเพียงคุณมีความสุข!”
“ขอบคุณค่ะ”
ปลายสาย น้ำเสียงของหวางหนันหนันเหมือนจะร้องไห้
หลินหลิ่งตงก็อึ้งไปทันที “หนันหนัน คุณเป็นอะไร? ทำไมจู่ๆ ถึงร้องไห้?”
“ไม่มีอะไร ขอบคุณนะหลิ่งตง”
หลังจากพูดด้วยน้ำเสียงที่จะร้องไห้ หวางหนันหนันก็ได้วางสายไป
หลินหลิ่งตงนิ่งไปครู่หนึ่ง
หรือว่าเป็นเพราะหนันหนันดีใจมากเกินไป?
ใช่ ต้องใช่แน่ๆ !
หลังจากที่หลินหลิ่งตงคิดออกแล้ว เขาก็รีบสั่งให้คนรับใช้ในคฤหาสน์ ทำความสะอาดห้อง และเปลี่ยนผ้าปูที่นอนทั้งหมดในห้องนอนของเขา
แต่เมื่อลังเลไปครู่หนึ่ง สุดท้ายหลินหลิ่งตงก็ได้ให้คนรับใช้เตรียมห้องนอนอีกห้อง
มันเป็นการเคารพหวางหนันหนัน เขาจะไม่ฝืนใจใคร โดยเฉพาะกับคนที่ตัวเองรัก นอกเสียจากอีกฝ่ายจะเต็มใจ
อย่างไรก็ตาม หลินหลิ่งตงนั้นกลับไม่รู้เลย คำว่าขอบคุณที่หวางหนันหนันพูดคำสุดท้าย แท้จริงแล้วมีความหมายที่ลึกซึ้งกว่า
นั่นเป็นเพราะว่าหลังจากผ่านทัศนคติที่แย่และชีวิตพังทลายไปโดยสิ้นเชิง มันเป็นความรู้สึกขอบคุณที่ได้เจอกับที่พึ่งใหม่และทำให้ตัวเองรอดมาได้……