ม่?”
นาสต์เจ้าของหน้าผากย่นเล็กๆ ตอบหลังจากเงียบไปนาน
“ข้ามิได้รู้จักพระองค์มากนัก จึงมิอาจสัมผัสถึงความผิดปรกติ… สิ่งเดียวที่ทำให้ข้าแปลกใจก็คือ ในตอนที่ข้าและบิดาเข้าเฝ้า ไม่ว่าจะเป็นตอนเช้า ตอนเที่ยง ตอนเย็น พระองค์จะยืนริมหน้าต่างที่สูงจากพื้นจรดเพดานเสมอ หันหน้าไปทางทิศตะวันตก มองออกไปยังสถานที่ห่างไกล… และไม่ใช่แค่ห้องเดียวที่มีหน้าต่างสูงจากพื้นจรดเพดาน”
“ตะวันตก… ในที่ห่างไกล… ทะเลหมอก?” ไคลน์พึมพำกับตัวเอง แต่คล้ายกับต้องการให้อีกฝ่ายได้ยินและช่วยยืนยัน
มันยังจำเกาะโบราณลึกลับที่จักรพรรดิกล่าวถึงในไดอารีได้ดี รวมถึง ‘นรก’ ที่ซ่อนอยู่สักแห่งภายในทะเลหมอก
‘ราชาแห่งห้าห้วงสมุทร’ นาสต์พยักหน้าแผ่วเบา
“ข้าเองก็คิดเช่นนั้น”
ฟู่ว… ไคลน์ถอนหายใจเงียบ ไตร่ตรองสักพัก มันลุกขึ้นพูด
“หมดคำถามแล้ว ได้โปรดยกโทษให้กับการเข้าพบที่เสียมารยาทครั้งนี้… ท่านเอิร์ล ลองบอกความประสงค์ของท่านมา บางทีข้าอาจช่วยเหลือได้”
มันกำลังทำตามสัญญา
นาสต์เงียบสองสามวินาที
“หาไพ่เย้ยเทพของเส้นทางจักรพรรดิมืดให้ข้า”
เป็นเวลาครู่หนึ่งที่ไคลน์สงสัยว่าตนกำลังถูกทดสอบ แต่เมื่อลองวิเคราะห์อย่างรอบคอบ เป็นเรื่องยากที่นาสต์จะเชื่อมโยงครึ่งเทพไร้หัวนอนปลายเท้าเข้ากับไพ่จักรพรรดิมืด จึงทำเพียงยิ้มและกล่าว
“จะพยายามอย่างสุดฝีมือ… แต่คำถามในวันนี้ไม่คุ้มกับมูลค่าของไพ่เย้ยเทพ หากทางนี้มีโอกาสครอบครองมัน จะใช้เนื้อหาภายในเป็นเครื่องแลกเปลี่ยน หรือบางที ผมอาจช่วยคุณแจ้งเบาะแสของมัน”
นาสต์ลูบที่เข้าแขนของบัลลังก์เหล็กดำ ตอบอย่างไร้อารมณ์
“ตกลงตามนั้น”
ไคลน์ถอดหมวกอีกครั้ง คำนับเล็กน้อยและเปิดประตูออกไป กลับไปยังดาดฟ้าเรือ
ภายใต้การจ้องมองของไวเคาต์แห่งความกลัว เบิร์ด·มัสแตงและโจรสลัดที่เหลือ มันยกแขนขึ้น
ร่างกายหดกลับอย่างรวดเร็ว หน้ากากขนนกขยายออก เพียงสองสามวินาที มันกลายเป็นนกอินทรีทะเลหัวแดงธรรมดาๆ ตัวหนึ่ง
นกอินทรีทะเลหัวแดงกระพือปีก บินเฉียงขึ้นไปในกระแสลมและสายฝนที่มืดครึ้ม อันตรธานหายไปท่ามกลางสายตาของเหล่าโจรสลัดแห่งเรือจักรพรรดิมืด
นี่คือครึ่งเทพ… เบิร์ด·มัสแตงแหงนมองท้องฟ้า ถอนหายใจสักพัก
แม้การเลื่อนขึ้นมาเป็นลำดับ 5 จะเพิ่มความเสี่ยงในการคลุ้มคลั่ง รวมถึงมีโอกาสประกอบพิธีกรรมเลื่อนลำดับล้มเหลว แต่คำว่าครึ่งเทพก็ยังน่าดึงดูดใจเสมอ เพราะตราบใดที่ประสบความสำเร็จและได้รับเศษเสี้ยวพลังเทพ ระดับตัวตนทางธรรมชาติจะเปลี่ยนไปโดยสิ้นเชิง ไม่ว่าจะเป็นด้านอายุขัยหรือฝีมือ มนุษย์จะไม่มีทางเทียบติด
ภายในเรือโดยสารไฮบริดไอน้ำและใบเรือ ไคลน์หยุดการควบคุมนกอินทรีทะเลหัวแดง ปล่อยให้มันตกลงไปในทะเลที่ไม่มีใครมองเห็น กลายเป็นอาหารปลา
ณ ปัจจุบัน ผู้โดยสารบนเรือกำลังตึงเครียดสุดขีด เพราะเรือจักรพรรดิมืดกำลังแล่นเข้ามาใกล้
อันที่จริง นั่นคือสิ่งที่จะเกิดขึ้นเมื่อไม่กี่นาทีก่อน แต่ด้วยเหตุผลบางประการ เรือจักรพรรดิมืดกลับเลิกสนใจเรือโดยสาร เพียงแล่นตรงผ่านไปราวกับไม่มีตัวตน ทว่า แทนที่เรือโดยสารจะถือโอกาสแล่นหนี มันกลับแล่นตามเรือจักรพรรดิมืดไปโดยรักษาระยะห่างไว้หลายร้อยเมตร
หลังจากสถานการณ์พิสดารเช่นนี้เกิดขึ้นระยะหนึ่ง ในที่สุดก็ได้ข้อสรุป เรือทั้งสองลำแล่นเข้าหากันโดยมีระยะห่างเพียงไม่กี่สิบเมตร
จนกระทั่งเรือจักรพรรดิมืดแล่นผ่านเรือโดยสารไปทางด้านข้าง หันหัวเข้าไปในพายุลมฝนและไม่ย้อนกลับมาอีกเลย
ผู้โดยสารและลูกเรือมองหน้ากันด้วยสายตาว่างเปล่า ผ่านไปหลายนาทีกว่าจะได้สติ
เรือจักรพรรดิมืดหายไปแล้ว! พวกมันไม่ได้ลงมือปล้นเรือ!
ผู้โดยสารบางคนส่งเสียงยินดี บางคนหลั่งน้ำตา บางคนทรุดลงกับพื้นอย่างอ่อนแรง มีเพียงไม่กี่คนที่รักษาความเยือกเย็นไว้ได้ ผุดคำถามมากมายเกี่ยวกับสิ่งที่เกิดขึ้น แต่แน่นอน ไม่ใช่ว่าทุกสิ่งจะมีคำตอบให้กับทุกคน พวกมันทำได้เพียงกุเรื่องขึ้นมาปลอบใจ
เรือจักรพรรดิมืดคงเพิ่งเสร็จการปล้นมาจากที่อื่นและกำลังอิ่มหนำ จึงไม่แยแสเรือโดยสารเล็กๆ ที่มิใช่เรือบรรทุกสินค้า ไม่มีการชายตามอง!
ความยินดีกำลังแผ่ซ่านไปทั่วลำเรือ ไคลน์ที่อยู่ในร่างดอน·ดันเตสหันหน้าไปทางทิศเหนือ
เมื่อเทียบกับราชาแห่งห้าห้วงสมุทรที่ได้เห็นจักรพรรดิโรซายล์แค่ไม่กี่ครั้ง ยังมีอีกหนึ่งคนที่คุ้นเคยกับจักรพรรดิผู้ยิ่งใหญ่มากกว่า
‘ราชินีเงื่อนงำ’ แบร์นาแดต!
สตรีผู้นี้เป็นราชาโจรสลัดในระดับทัดเทียมนาสต์ แถมในระยะหลังยังอยู่ที่เบ็คลันด์!
ไว้กลับถึงเบ็คลันด์เมื่อไร ค่อยบอกให้พลเรือเอกดวงดาวติดต่อกับราชินีเงื่อนงำ นัดพบกันอีกครั้ง… ไคลน์ถอนสายตากลับ ขึงผ้าม่านและนอนลงบนเตียง
…
น่านน้ำของหมู่เกาะรอสต์ บนอนาคตกาล
ในที่สุด ‘พลเรือเอกดวงดาว’ แคทลียาก็ได้รับคำตอบจาก ‘ราชินีเงื่อนงำ’ แบร์นาแดต
เธอไม่ทราบว่าผู้ส่งสารล่องหนมาถึงตอนไหน แต่นั่นก็มิได้ทำให้ความยินดีลดลง
เปิดซองจดหมาย หลังจากคลี่กระดาษ แคทลียารอไม่ไหวแล้วที่จะอ่านบรรทัดแรก:
“นั่นคือทายาทของชิเอล…”
ช่างฝีมือรายนั้นเป็นทายาทสายเลือดแท้ของจักรพรรดิโรซายล์… เราจะไม่ปล่อยให้เขาเข้าไปพัวพันกับสาวกดวงจันทร์บรรพกาลอีก เขาจะต้องถูกพาขึ้นมายังอนาคตกาล… แคทลียาพยักหน้าเล็กๆ พลางครุ่นคิด
หลังจากตัดสินใจหนักแน่น เธอนึกทบทวนเกี่ยวกับนิสัยที่ชวนให้ปวดหัว รวมถึงศีลธรรมของช่างฝีมือนามว่าชาฟฟ์ และตระหนักว่าตนต้องอบรมสั่งสอนด้านวินัยสักเล็กน้อย
ครุ่นคิดสักพัก แคทลียาเดินไปที่หน้าต่างห้องกัปตัน มองออกไปด้านนอก
เมื่อค้นพบบางสิ่ง เธอชำเลืองไปทางกราบเรือ เห็นแฟรง·ลีกำลังเคี้ยวเห็ด
“แฟรงค์” แคทลียาตะโกน
แฟรงค์ในสภาพพันแขนเสื้อขึ้น ได้สติกลับมาทันที
“กัปตัน มีอะไรหรือ?”
แคทลียากล่าวเสียงขรึม
“ฉันจะหาผู้ช่วยให้คุณ”
แฟรงค์อึ้งไปสักพัก จากนั้นก็เผยรอยยิ้มแสนสดใส
“ตกลง!”