EP 403
By loop
หลิงรันเริ่มทำการรักษาต่อจนถึงดึงวันนั้น
ถ้าหลิงรันกลับบ้านในตอนนี้ขาก็รู้ดีว่าไม่มีใครอยู่บ้านแน่ๆ และเขาจะต้องมาทำการผ่าตัดในเช้าวันพรุ่งนี้ดังนั้นหลิงรันจึงตัดสินใจนอนพักที่ห้องพักแพทย์ในวันนี้เลย
หลังจากศูนย์การแพทย์ฉุกเฉินสร้างเสร็จอาการของห้องพักแพทย์ก็ถูกปรับปรุงให้ดีขึ้นเช่นกัน หัวหน้าทีมรักษาแต่ละกลุ่มสามารถนอนในห้องพักแพทย์ที่สามได้ดังนั้น หลิงรันจึงได้ห้องที่เป็นห้องแยกจากคนอื่นๆ มีคนมาเปลี่ยนผ้าเช็ดตัวผ้าปูที่นอนและสิ่งของอื่น ๆ ทั้งหมดให้ ซึ่งห้องพักแพทย์ในตอนนั้นไม่ต่างอะไรจากห้องพักผู้ป่วยเลย
หลิงรันไม่ได้เข้าไปในห้องพักแพทย์ในทันทีหลังจากที่เขาผ่าตัดเสร็จในวันนั้น เขาแวะเข้าไปเลือกห้องพักแพทย์ในศูนย์ฉุกเฉินแห่งใหม่ก่อน และในที่สุดหลิงรันก็ตัดสินใจเลือกจุดที่อยู่ชั้นบนสุดเหนือประตูทางเข้าหลักและวางเก้าอี้นอนไว้ตรงนั้นก่อนที่เขาจะนอนหลับไป
มุมที่ไม่มีคนอยู่ในยามค่ำคืนนี้เป็นจุดที่หลิงรันชื่นชอบเพราะมันเต็มไปด้วยความสงบ
สำหรับที่นี้นั้นมันตกต่างจากห้องพักแพทย์ทั่วไปมาก ไม่มีเสียงของคนกรีดร้อง คนกร่น เสียงพูดคุยโวกเวกโวยวายหรือการสะกิดทั้งๆที่ไม่ได้มีอะไรสำคัญแต่เพียงเพราะแค่อยากพูดคุยกับเขาเท่านั้น นั้นคือสิ่งที่เขาไม่ชอบมันเลย
หลิงรันยืนพิงอยู่สักพักก่อนที่เอนกายและคิดถึงการได้ช่วยชีวิตคนในวันนี้ และตรวจดูว่าเขาได้พลาดอะไรไปหรือไหม
แน่นอนว่ามันไม่ใช่เรื่องง่ายเลยที่จะช่วยชีวิตคนได้สำเร็จและสมบูรณ์แบบทุกครั้ง
การแข่งขันกับเวลาและความกดดันทางจิตใจเป็นศัตรูตัวฉกาจของการช่วยชีวิต
ในฐานะมนุษย์พวกเขามักต้องการเร่งความเร็วโดยไม่รู้ตัวและหวังว่าจะใช้วิธีที่จะช่วยประหยัดเวลาเพื่อลดความยุ่งยากในการคัดกรองผ่านทางเลือกต่างๆและชดเชยความเสี่ยงที่เกิดจากการตัดสินใจอยู่เสมอ
อย่างไรก็ตามความเสี่ยงมันก็ยังคงมีอยู่
มีหลายครั้งที่แพทย์ไม่แน่ใจว่าการตัดสินใจของเขาถูกต้องหรือไม่ แต่แน่นอนเวลาไม่เคยรอพวกเขา พวกเขาแทบจะไม่มีเวลาตัดสินใจเลยด้วยซ้ำสิ่งเดียวที่พวกเขาทำได้คือ การยอมรับผลที่จะตามมาจากการตัดสินใจใน วินาทีนั้นๆ
หลิงรันนึกถึงวิธีการที่เขาใช้ในการทำซีพีอาร์ของวันนี้เป็นครั้งแรก ในการทำซีพีอาร์ระดับที่สมบูรณ์แบบทำให้การเคลื่อนไหวของเขาสมบูรณ์แบบในช่วงแรกของการช่วยชีวิตผู้ป่วย อย่างไรก็ตามหลิงรันเองก็แสดงอาการประมาทออกมาในระยะหลังอาจเป็นเพราะว่าเขาอาจจะเหนื่อยจากการเกร็งอยู่ตลอดเวลา? หลิงรันนึกถึงขั้นตอนนี้อย่างเงียบ ๆ แต่เขาไม่สามารถมั่นใจได้
ถ้ามีคนช่วยเขาทำซีพีอาร์เพิ่มขึ้นอีกคนมันจะช่วยแบ่งเบาความเครียดนี้ลงได้ไหม?
การมีคนช่วยทำซีพีอาร์สองคนจะช่วยลดความเครียดทางร่างกายของหลิงรันได้อ ซึ่งทั่วไปมันทำให้เขาสามารถรักษาการกดหน้าอกให้มีคุณภาพสูงเป็นเวลานานได้ง่ายขึ้น อย่างไรก็ตามการให้ใครมาแทนที่เขาและคนที่มาแทนที่เขาจะรักษาคุณภาพของการกดหน้าอกระยะเวลาหนึ่งนั้นจะเป็นไปได้ไหม?
มันเป็นเรื่องยากสำหรับ หลิงรันที่จะมั่นใจในเรื่องนี้
ในตอนนี้หลิงรันได้แต่คิดกับการตัดสินใจในรูปแบบต่างๆมากมายที่อยู่ในหัวเขา
“อย่างไรก็ตามการไม่ใช้ยากระตุ้นหัวใจ น่าจะเป็นการตัดสินใจที่ดี” หลิงหรันถอนหายใจราวกับว่าเขาพยายามปลอบใจตัวเองและดึงโทรศัพท์ออกมา
“ศัตรูจะมาถึงสนามรบในห้าวินาที … “
เมื่อเขาฟังเสียงที่คุ้นเคยการแสดงออกทางสีหน้าของหลิงรันก็ผ่อนคลายลงอย่างเป็นธรรมชาติ
สิ่งที่สนุกที่สุดในการเล่นเกมก็คือเขาไม่ต้องแบกรับความรับผิดชอบมากเกินไปและการเล่นเกมสามารถปรับอารมณ์ของเขาได้อย่างสมเหตุสมผล …
“ …เม๊ะ”
หลิงรันหายใจเข้าลึก ๆ สองสามครั้งแล้วปรับโทรศัพท์ของเขา
อีกนัด!
ไม่กี่นาทีต่อมา…
* งับ! *
หลิงรันเงยหน้าขึ้นและถอนหายใจอีกครั้ง เขาอดไม่ได้ที่จะคิดถึงไม่ได้ถ้ามีผู้ป่วยมากมายที่เขาเคยรักษามา เขาเพียงคิดว่าถ้านี้เป็นเกมส์การรักษาผู้ป่วยเหล่านั้นก็เพียงแค่ร่ายเวทรักษาคนๆนั้นก็หายจากอาการบาดเจ็บแล้วไม่ต้องมาวุ่นวายในการรักษาเช่นนี้หรอก ซึ่งนั้นมันก็เป็นเพียงจิตนาการของเขาเพียงเท่านั้น
“บุคลากรที่ปฏิบัติหน้าที่ทุกคนโปรดใส่ใจบุคลากรทุกคนที่ปฏิบัติหน้าที่โปรดมารวมตัวกันที่ห้องกู้ชีพศูนย์การแพทย์ฉุกเฉินทันทีบุคลากรทุกคนที่ปฏิบัติหน้าที่โปรดใส่ใจ … “
ทันใดนั้นเสียงของการออกอากาศก็ดังขึ้นในอาคารที่เงียบสงบในตอนกลางคืนและมันสร้างความตกใจให้กับผู้ที่ได้ยินอย่างแน่นอน
หลิงรันตกตะลึงไปชั่วขณะ แต่ในเวลาต่อมาเขาลุกขึ้นยืนเก็บโทรศัพท์ของเขากลับเข้าไปในกระเป๋าเสื้อและลงไปชั้นล่างอย่างรวดเร็ว
แน่นอนว่าเสียงตามสายเช่นนี้ไม่ได้มีบ่อยมากนัก โดยเฉพาะเสียงตามจากแผนกฉุกเฉิน เมื่อมันดังขึ้นเมื่อไรมันก็หมายถึงว่ามีปัญหาเกิดขึ้นแน่นอน
เมื่อหลิงรันมาถึงห้องกู้ชีพแพทย์ประจำของแผนกฉุกเฉินสี่คนรวมถึงหมอโจวก็มาถึงจุดนัดหมาย นอกจากนี้ยังมีแพทย์ศัลยกรรมกระดูก 2 คนแพทย์จากแผนกศัลยกรรมมือ 1 คนและแพทย์จากแผนกศัลยกรรมทั่วไป 1 คน
หมอโจวเห็นหลิงรันและพยักหน้า เขารอสักพักเพื่อพบแพทย์ประจำบ้านสองคนจากแผนกหัวใจและทรวงอกและแผนกศัลยกรรมประสาทก็รีบมาที่ข้างพวกเขา จากนั้นเขาก็กล่าวว่า “อาคารที่กำลังก่อสร้างในย่านลู่เซียถล่มลงมาและอาจมีคนมากกว่าห้าสิบคนที่ได้รับบาดเจ็บในครั้งนี้”
ดูเหมือนว่าทุกคนจะตกใจและแสดงท่าทีๆจริงจังออกมา
“อย่างงั้นเรามาแบ่งงานกันทำไว้ก่อนเลย” แพทย์ที่อาวุโสที่สุดในแผนกฉุกเฉินคนปัจจุบันคือเจิ้งเป่ย เขามีเคราเล็ก ๆ ที่คางและจริงๆแล้วเขาน่าจะไปเป็นศิลปินเสียมากกว่า อย่างไรก็ตามเขานั้นดูไม่น่าเชื่อถือเท่าไร และเขาเองดูค่อนข้างขี้เกียจ แม้ว่าเขาจะพูดถึงเรื่องที่จริงจัง แต่ก็เป็นเรื่องง่ายสำหรับเจิ้งเพ่ยที่ทำให้เรื่องเครียดๆเหล่านั้นดูไม่จริงจังในสายตาเขา
หมอโจวมองไปที่ทั้งสองฝ่ายและกล่าวว่า “เราไม่แน่ใจว่าจะมีคนมาถึงจุดสุดท้ายกี่คนกล่าวกันว่าอาคารที่ถล่มส่งผลกระทบต่อบ้านในระแวกนั้นอีกเท่าไรดังนั้นจำนวนผู้บาดเจ็บทั้งหมดอาจจะมากกว่าที่คาดการณ์ไว้ .”
ทุกคนสบตากันและอดไม่ได้ที่จะรู้สึกตกใจเล็กน้อย
ผู้บาดเจ็บห้าสิบคนถือเป็นงานใหญ่แล้ว อาจมีผู้โชคดีในอุบัติเหตุที่ไม่ได้รับบาดเจ็บหนักและผู้ที่ได้รับบาดเจ็บจริงๆโดยเฉพาะผู้ที่ได้รับบาดเจ็บสาหัสหรือเสียชีวิตอาจมีจำนวนไม่ถึงห้าสิบคน
อย่างไรก็ตามเมื่อเกี่ยวข้องกับพื้นที่อยู่อาศัยแล้วจำนวนคนก็ยากที่จะคาดเดาได้
ไม่จำเป็นต้องเพิ่มจำนวนมากเข้าไปในห้าสิบคนที่จะทำให้เหตุการณ์นี้ถือเป็นงานใหญ่ โดยมีผู้ป่วยอีกเพียงห้าสิบคนขนาดของเหตุการณ์สาธารณะนี้น่าจะเป็นหนึ่งในเหตุฉุกเฉินอันดับต้น ๆ ในหยุนหัว
“มีผู้ได้รับการยืนยัน 12 คนในชุดแรกของผู้บาดเจ็บที่ถูกส่งมาที่โรงพยาบาลหยุนหัว สี่คนมีอาการบาดเจ็บเล็กน้อยและแปดคนมีอาการบาดเจ็บสาหัส” หมอโจวเพียงแค่บรรยายสรุปสถานการณ์จริงให้พวกเขาฟังและไม่พูดอะไรเพิ่มเติม “ทุกคนสวมชุดผ่าตัดถุงมือและชุดป้องกันไว้อย่างแน่นหนา”
“ เราต้องใส่ชุดป้องกันไหม” แพทย์ประจำจากแผนกศัลยกรรมทั่วไปค่อนข้างดูไม่เต็มใจ
หมอโจวให้เขาดูและพูดว่า “เราไม่มีเวลารอการทดสอบผู้ป่วยที่เป็นโรคติดต่อหรอกนะ นั่นเป็นวิธีการทำงานของแผนกฉุกเฉินเราจะช่วยชีวิตและรักษาอาการบาดเจ็บก่อนแต่ถ้านายอยากทราบผลว่าจะต้องใส่ชุดป้องกันใหม่ก็รอให้การช่วยเหลือเบื้องต้นเสร็จสิ้นก่อนและรอรายงานผล”
โรงพยาบาลในประเทศเริ่มเรียนรู้วิธีใช้มาตรการป้องกันโรคติดต่ออย่างช้าๆหลังปี 2546
หน่วยต่างๆเช่นแผนกฉุกเฉินก็เรียนรู้สิ่งนี้ได้เร็วที่สุดเช่นกัน แต่พวกเขาถูกบังคับให้เรียนรู้อย่างรวดเร็ว
แพทย์ไม่มีใครบ่นเรื่องนี้อีกแล้ว แต่ละคนมองหาสถานที่สำหรับสวมเสื้อผ้าและถุงมือ
พยาบาลทุกคนพร้อมกันหมด พวกเขายังล้างห้องกู้ชีพและห้องรักษา
ในขณะเดียวกันพยาบาลบางคนก็ไปทำความสะอาดโรงพยาบาลและห้องสังเกตการณ์
แผนกอื่น ๆ นอกเหนือจากแผนกฉุกเฉินก็เริ่มเข้าสู่ทำตามแผนกฉุกเฉินอย่างช้าๆ
“นี่เป็นเหตุฉุกเฉินครั้งใหญ่ที่สุดที่เราเคยพบมานับตั้งแต่มีการจัดตั้งศูนย์การแพทย์ฉุกเฉินขึ้นอยู่กับเราว่าจะแสดงให้เห็นว่าศูนย์การแพทย์ฉุกเฉินสามารถทำงานได้ดีเพียงใด” หมอโจวเรียกหลิงรันและแพทย์คนอื่น ๆ ในศูนย์การแพทย์ฉุกเฉินมารวมตัวกันสีหน้าของเขาก็ดูเคร่งขรึม
เจิ้งเป่ยกระซิบ“ เมื่อไหร่ผู้อำนวยการแผนกจะมา?”
“เขาต้องใช้เวลาอย่างน้อยหนึ่งชั่วโมง”
“แล้วรถพยาบาลล่ะ”
“จะมาถึงหลังสิบห้านาที” หมอโจวมองไปที่นาฬิกาของเขาและพูดว่า “ในเวลานี้อย่านับคนอื่น”
แพทย์ประจำที่อยู่ในแผนกฉุกเฉินหลายคนพยักหน้าอย่างเคร่งขรึม
แม้ว่าพวกเขาจะมีประสบการณ์ทางการแพทย์มาหลายปี แต่พวกเขาก็รู้ดีว่าการบาดเจ็บของผู้ป่วยในตอนนี้มันไม่ได้สามารถจัดการง่ายขนาดนั้น
“ ไปเตรียมตัวกันเถอะ” หมอโจวมองดูเจ้าหน้าที่ทางการแพทย์สวมชุดป้องกันและชุดผ่าตัดยกแขนขึ้นแล้วพาทุกคนออกไปยืนนอกประตูแผนกต้อนรับ
ลมในตอนกลางคืนค่อนข้างเย็น แต่ใบหน้าของแพทย์และพยาบาลทุกคนดูเคร่งเครียดขณะรออย่างเงียบ ๆ
หมอโจวกล่าวว่า “อีกสามนาทีถ้ารถพยาบาลมาถึงเร็วกว่าที่คาดไว้เราก็ต้องเตรียมพร้อม”
ไม่มีใครพูดอะไร
หลิงรันมองตรงไปข้างหน้า นิ้วของเขาขยับเล็กน้อยในอากาศ
‘ระบบเปิดหีบสมบัติ‘
หลิงหรันมองไปที่จำนวนที่ระบุจำนวนหีบสมบัติพื้นฐานที่ได้รับ – 126 เขาให้เหตุผลกับตัวเองอย่างเงียบ ๆ ว่า ‘127 ลบหนึ่งคือ 126 127 เป็นจำนวนเฉพาะ! เป็นตัวเลขที่ดี! ‘