EP 523
By loop
“ตอนนี้ผู้ป่วยนิ้วขาดจะมาถึงแล้วอีกราวๆ 3 นาที ” พยาบาลหน้าแผนกต้อนรับตะโกนก่อนที่เธอจะรับสายอีกครั้งอย่างรวดเร็ว
หมอลู่และหยูหยวนเองก็รีบเดินไปที่ประตูแผนกต้อนรับสวมถุงมือและรอด้วยมือที่ชูขึ้นตรงหน้าพวกเขา
สักพักหนึ่งก็มีรถพยาบาลมาจอดหน้าแผนกต้อนรับ
“ขออนุญาต.” แพทย์ประจำบ้านรีบวิ่งออกมาจากด้านหลังเขาเหลือบไปที่ป้ายทะเบียนรถและรีบพาคนไข้ที่มีอาการชักกระตุกที่ท้องออกไปทันที
หยูหยวนเธอมองไปที่ผู้ป่วยในรถและกระซิบว่า “ฉันเดาว่าน่าจะเป็นลำไส้อุดตันที่เกิดจากอาการท้องผูก”
“เธอคิดอะไรที่ดีๆกว่านี้ไม่ได้แล้วหรือยังไงกัน?” หมอลู่เดินไปข้างหน้าสองก้าวและกลับไปที่หน้าประตูแผนกต้อนรับ
หยูหยวนได้แต่หัวเราะเบา ๆ สองสามครั้งและกล่าวว่า “คนจากแผนกศัลยกรรมทั่วไปจะทำความสะอาดอุจจาระให้อยู่แล้วไม่ใช่นายต้องทำสักหน่อย”
“อย่างงั้นฉันก็โชคดีแล้วที่ได้เลือกแผนกฉุกเฉิน?” หมอลู่พูดเชิดหน้าของเขาขึ้น “รถพยาบาลมาถึงแล้ว”
“ไม่ใช่ของนาย.” แพทย์ประจำบ้านที่มีใบหน้าเรียบเฉยจนไม่มีใครจำชื่อของเขาได้เดินหน้ามาด้วยสีหน้าสงบขณะที่เขาแสดงท่าทางที่เฉยชาออกมา “รถพยาบาลที่มีป้ายทะเบียนรถที่ลงท้ายด้วย 820 มีผู้ป่วยที่สงสัยว่าเป็นไส้ติ่งอักเสบเฉียบพลัน”
“เกิดอะไรขึ้ก่อนหน้านี้ นี้ไส้ติ่งอักเสบลำไส้อุดตันและมือบาดเจ็บรุนแรงจากดอกประทัดนี่มันเป็นฤดูอะไรกัน? หมอลู่ได้แต่ ถอนหายใจ “การเป็นฮีตสโตรกช่วงหน้าร้อนเป็นไข้ หรือโดนไฟลวกโรคพวกนี้หายไปไหนกัน”
“พวกเขาทั้งหมดไปที่กองเวชศาสตร์ฉุกเฉินเรารับคนที่มีอาการเลือดออกในสมองและเส้นเลือดในสมองตีบด้วย” แพทย์ประจำบ้านที่มีใบหน้าเรียบเฉยและชื่อที่ไม่มีใครจำได้หันศีรษะไปรอบ ๆ และมองไปที่ถุงใต้ตาสีดำของหมอลู่ก่อนที่เขาจะพูดว่า “นายควรใส่ใจตัวเองอย่าเพิ่งตายในแผนกก่อนล่ะ”
หมอลู่ตกตะลึงไปชั่วขณะก่อนที่เขาจะรู้สึกอบอุ่นในใจ ในฐานะชายโสดที่โดดเดี่ยวและไม่มีอะไรจะเสียแล้ว เขามักจะรอคอยคนที่แสดงความห่วงใยเขาเป็นครั้งคราว
“ถึงจะตายกะทันหัน แต่ฉันก็อยากตายข้างหม้อซุปตีนหมูของฉัน” หมอลู่กัดฟันขณะที่เขาพยายามทำตัวเข้มแข็ง
แพทย์ประจำบ้านที่มีใบหน้าเรียบเฉยและชื่อที่ไม่มีใครจำได้โบกมือต่อหน้าเขาเพื่อแสดงความรังเกียจเขาอย่างสุดซึ้ง
“แหย่ะ” หยูหยวนเธอพูดออกมา”ตรวจสอบให้แน่ใจว่ามันปลอดเชื้อนะ”
หมอลู่มองไปข้างหน้าและไม่พูดอะไรอยู่นาน
รถพยาบาลอีกคันตามมา ผู้ป่วยที่ถูกส่งตัวไปนั้นก็ยังไม่ใช่ผู้ป่วยอาการนิ้วขาดอยู่ดี
แผนกฉุกเฉินของโรงพยาบาลหยุนหัวเป็นแผนกที่โดดเด่นในโรงพยาบาลหยุนหัวมาโดยตลอด หลังจากกลายเป็นศูนย์การแพทย์ฉุกเฉินผู้ป่วยที่มารับการรักษาและจำนวนรถพยาบาลที่รับส่งผู้ป่วยเพิ่มขึ้น
และนี่เป็นช่วงที่ศูนย์การแพทย์ฉุกเฉินยังเปิดใช้งานไม่เต็มที่ จากความคิดของผู้อำนวยการฮวงเขาควรมีสิทธิ์ในการจัดการสถานีฉุกเฉิน ปักกิ่ง 120 ในเวลานั้นการจัดสรรผู้ป่วยฉุกเฉินจะถูกกำหนดโดยศูนย์การแพทย์ฉุกเฉินหยุนหัวทันที โดยปกติแล้วแผนกฉุกเฉินของโรงพยาบาลอื่น ๆ จะกลายเป็นหน่วยรองของศูนย์การแพทย์ฉุกเฉิน พวกเขาจะต้องรับผู้ป่วยที่เกิดอุบัติเหตุหรืออาการป่วยเฉียบพลันและร้ายแรงหรือการบาดเจ็บในบริเวณใกล้เคียงพาผู้ป่วยมาที่โรงพยาบาลหยุนหัว ไม่ต้องการหรือพัฒนาแผนกของตนเอง เป็นวิธีที่ดีในการเริ่มต้นนวัตกรรมใหม่ ๆ …
แน่นอนผู้อำนวยการฮวงคิดถึงแต่เรื่องนี้เท่านั้น
ในระดับจังหวัดบางแห่งแม้ว่าแผนกฉุกเฉินของโรงพยาบาลเกรด A ที่ใหญ่ที่สุด ต้องการอำนาจเช่นนี้เหมือนกันพวกเขาก็ต้องการเงื่อนไขที่เอื้ออำนวยทุกประเภทเพื่อช่วยเหลือให้พวกเขาทำงานง่ายขึ้น มันยากยิ่งกว่าสำหรับหยุนหัวเนื่องจากเป็นเมืองที่มีประชากรมากกว่าหนึ่งล้านคน
นอกจากนี้ขนาดที่แท้จริงของศูนย์การแพทย์ฉุกเฉิน หยุนหัวยังไม่ใหญ่พอ
ปัจจุบันแพทย์และพยาบาลในแผนกฉุกเฉินยุ่งเกินกว่าที่จะรับผิดชอบมากขึ้น หากผู้อำนวยการฮวง ต้องการให้แผนกรับผิดชอบมากขึ้นเขาอาจมีเจ้าหน้าที่ไม่เพียงพอแม้ว่าเขาจะเพิ่มจำนวนแพทย์และพยาบาลเป็นสองเท่าก็ตาม แน่นอนว่านี่เป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้โรงพยาบาลหยุนหัวและแม้แต่ผู้อำนวยการโรงพยาบาลหยุนหัวสนับสนุน ผู้อำนวยการฮวงอย่างจริงจัง การขยายแผนกเป็นเรื่องที่ดีในระยะยาว
หมอลู่เลยถามอย่างร้อนรนออกมาว่า “แล้วป้ายรถพยาบาลของเราคือป้ายเลขไหนกัน?“
“ นายไม่ได้ถามพวกเขามาอย่างงั้นเหรอ?” หยูหยวน โต้กลับ
“ ฉันคิดว่าเธอเป็นคนที่ควรจะถามไม่ใช่หรอ…” หมอลู่เขามึนงงไปหมด เขาอยากจะหยิบโทรศัพท์ออกมา แต่ในขณะเดียวกันก็ทำไม่ได้
หยูหยวน เห็นว่า หมอลู่ไม่เข้าใจมุกตลกของเธอ เธอจึงส่ายหัวออกมาก่อนที่จะพูดว่า “P70″
“อะไร?” หมอลู่ได้ยินไม่ชัด
หยูหยวน พูดด้วยสำเนียงแหลมขึ้นมาอีกครั้ง เธอจึงพูดซ้ำ “P70, P ของ ABCDEFGH … P ตามตัวอักษร”
“อะไรนะ?”
“ ไม่คิดว่าคำว่าพีมันจะทำให้การสื่อสารระหว่างฉันกับนายมันยุ่งยากขนาดนี้” หยูหยวนเองพยายามคิดว่าสิ่งที่เธอพูดมันผิดตรงไหน
… ..
รถพยาบาลที่มีป้ายทะเบียนที่ลงท้ายด้วย P70 มาถึงหลังจากนั้นสองนาที
เมื่อเปิดท้ายรถพยาบาลผู้ปกครองของผู้ป่วยก็ปรากฏตัวขึ้นแล้วเขาก็กรีดร้องด้วยเสียงโห่ร้อง “หมอครับหมอ!”
“ความดันโลหิตและการเต้นของหัวใจเป็นอย่างไร” หยูหยวนรีบลุกขึ้นทันที เธอไม่ได้สนใจผู้ปกครองของผู้ป่วยที่มีกับรถเลย จากนั้นเธอก็ถามแพทย์ที่อยู่บนรถฉุกเฉินว่า “คุณได้เอานิ้วที่ขาดมาด้วยหรือเปล่ายื่นให้หมอลู่ทันที”
แพทย์เข้ามาในความคิดของมืออาชีพในครั้งเดียว ผู้ปกครองไม่สามารถขัดขวางพวกเขาได้ พวกเขาทำได้เพียงถามคนข้างๆว่า “หมอช่วยต่อนิ้วกลับเข้าไปใหม่ได้ไหมลูกของฉัน เขายังเด็กมากถ้าเขาพิการชีวิตทั้งชีวิตของเขาจะต้องแตกสลายแน่ๆ …
หยูหยวน พยักหน้า เธอเคลื่อนไหวไปพร้อมหมอลู่ที่ออกไปกับกรูนีย์(เตียงผู้ป่วย) จากนั้นเธอก็หันหน้าไปรอบ ๆ และพูดอย่างเย็นชาว่า “มีญาติมาที่นี่กี่คน?”
“สอง.”
“หนึ่งคนอยู่ที่นี้เพื่อเซ็นแบบฟอร์ม อีกคนไปจ่ายเงินคุณรู้ไหมว่าคุณไม่สามารถทาซีอิ๊วบนแผลได้”
“ ทำไมถึงทำไม่ได้” ผู้ปกครองตะลึง
“เพราะซีอิ๊วจะเร่งการติดเชื้อตอนนี้ส่งคนไปตามฉันเพื่อเซ็นแบบฟอร์มส่วนอีกคนไปจ่ายเงิน” หยูหยวนพูดอย่างรวดเร็ว
ในขณะนั้นผู้หญิงที่มากับเขาลังเล เธอดึงแขนของชายคนนั้นก่อนที่เธอจะกระซิบเบา ๆ “อืมหมอขอจ่ายแค่ส่วนหนึ่งก่อนได้ไหม”
หยูหยวน และ หมอลู่ มองหน้ากันและเดินต่อไปราวกับว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น
พวกเขาทำงานในโรงพยาบาลแห่งนี้เป็นเวลานานพวกเขาสามารถเดาได้แล้วว่าสถานการณ์เป็นอย่างไร
“ใช่ถ้าคุณมาจากครัวเรือนที่มีรายได้น้อยคุณสามารถอธิบายสถานการณ์ได้ที่เคาน์เตอร์โรงพยาบาลแห่งนี้มีช่องสีเขียวค่าใช้จ่ายในการเปลี่ยนนิ้วไม่สูงมากนักหากคุณมาจากครัวเรือนที่มีรายได้น้อยก็สามารถลดลงได้มาก . ทักษะหมอหลิงของเราดีมากสำหรับเด็กเช่นนี้การปลูกนิ้วเป็นสิ่งที่จำเป็นมาก” หยูหยวน กล่าวสั้น ๆ
“ เรา…เราไม่ได้มาจากครัวเรือนที่มีรายได้น้อยเรายังจ่ายค่ารักษาได้หญิงสาวบิดตัวเล็กน้อยแล้วพูดว่า“ ฉันเป็นป้าของเด็ก พี่ชายของฉันและพี่สะใภ้ของฉันได้หย่าร้างกันไปแล้ว เห็นมั้ยพี่ชายของฉันไม่สามารถจ่ายค่ารักษานี้ได้คนเดียวได้ พี่สะใภ้ของฉันบอกว่าเงินจะซื้อของให้ลูกได้ทุกอย่าง เธอหวงลูกมาก ตอนนี้เด็กต้องได้รับการรักษา เนื่องจากเธอขอเงินมาตลอดตอนนี้เธอควรจะจ่ายเงินส่วนหนึ่งร่วมด้วยไม่ใช่หรือยังไง “
เมื่อผู้หญิงคนนั้นเริ่มพูดพล่ามเธอก็ยังคงพูดถึงหัวข้อนี้และเธอก็พูดต่อไปจนกระทั่งเธอเริ่มพูดถึงการหย่าร้างของพี่ชายของเธอ
หยูหยวน และ หมอลู่ มองหน้ากันอีกครั้งและก้มหัวลงโดยไม่รู้ตัว
ท้ายที่สุดพวกเขาเป็นเพียงหมอประจำและประสบการณ์ในชีวิตยังน้อยเกินไป …
ในห้องผ่าตัดปฏิบัติการ หลิงรันได้ตรวจสอบทั้งจอภาพและอุปกรณ์
งานเหล่านี้มักจะทำโดยผู้ช่วย หลิงรันค่อนข้างว่างดังนั้นเขาจึงตรวจสอบอีกรอบ
หัวหน้าพยาบาลหลิว จงใจเข้ามาในขณะที่เธอกำลังเดินตรวจในความเรียบร้อย เธอเฝ้าดูหลิงรัน ขณะที่เขาทำงานของเขา เธอยิ้มและพูดว่า “หมอหลิงคุณจริงจังมากแพทย์ที่เข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลของเราจะทำทุกอย่างเท่าที่ทำได้เพื่อหลีกเลี่ยงการผ่าตัดเย็บแผล”
“แต่แพทย้เหล่านั้นสามารถหลีกเลี่ยงได้หรือไม่” หลิงรันอยู่ในโรงพยาบาลมานานกว่าหนึ่งปีแล้วและเขาไม่รู้มากเกี่ยวกับการปฏิบัติของห้องผ่าตัดอื่น ๆ
พยาบาลหลิวยิ้ม “ไม่แน่นอนในแผนกฉุกเฉินของเราแพทย์ที่เข้ารับการรักษาเพียงคนเดียวที่ไม่จำเป็นต้องทำการผ่าตัดคือหมอโจว”
หลิงรันแสดงความเข้าใจ “โอ้”
“หัวหน้าแพทย์สมทบโดยทั่วไปไม่จำเป็นต้องทำการเดรปพวกเขาทั้งหมดมีแพทย์รุ่นน้องที่จะทำศัลยกรรมให้พวกเขาหากผู้อำนวยการแผนก ฮวงกำลังทำการผ่าตัดทุกคนจะต้องรีบไปแต่งตัวเพื่อเตรียมความพร้อม” นางพยาบาลหลิว กล่าวพร้อมกับหัวเราะเบา ๆ
จากมุมมองของพยาบาลแบบจำลองระบบนิเวศของแพทย์ก็เหมือนกับการต่อสู้ของเด็ก ๆ ในโรงเรียนอนุบาลโดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับศัลยแพทย์ พวกเขาตรงไปตรงมามากขึ้นเรื่องของทัศนคติ ศัลยแพทย์ก็เปรียบได้กับพวกเด็กดื้อเป็นเหมือนเด็กที่หัวแข็งในโรงเรียนอนุบาลที่รังแกเด็กคนอื่น ๆ ตามที่พวกเขาชอบ และเด็กที่ผอมจะค่อยๆชินหลังจากถูกรังแกมาระยะหนึ่ง จากนั้นพวกเขาจะทำงานหนักอย่างเชื่อฟังเพื่อเด็กที่หัวแข็งเช่นนี้อยู่ใกล้ ๆ พวกเขา
หลิงรันเองก็เก่งอย่างไม่น่าเชื่อโดยเฉพาะอย่างยิ่งหลังจากเหตุการณ์การติดเชื้อในโพรงจมูกเมื่อไม่นานมานี้ เขาทิ้งความประทับใจไว้ให้กับบุคลากรทางการแพทย์ที่อยู่รอบตัวเขา
* ชิ. *
ประตูเปิดออกหวงเหมาชิ ซึ่งไม่ใช่เจ้าหน้าที่ทางการแพทย์หรือผู้ป่วยของห้องผ่าตัดเดินเข้ามาเขาสวมสครับและถือกล่องสีขาว
หวงเหมาชิ สุดหล่อที่เคยทำงานเป็นนายแบบยืนอยู่ข้างประตูทางเข้าที่ปิดสนิทราวกับว่าเขากำลังเดินโชว์บนรันเวย์
เขามีรอยยิ้มกว้างบนใบหน้าของเขา หวงเหมาชิ เคยชินกับการยิ้มตลอดทั้งวัน
ด้วยรอยยิ้มเขาอาจจะหล่อกว่าเดิม ถ้าคุณจะตัดสินรูปลักษณ์ของหวงเหมาชิด้วยการให้คะนแนน อย่างน้อยเขาควรได้เจ็ดคะแนนเมื่อเขาแต่งตัวเรียบร้อย เมื่อเขายิ้มคุณสามารถเพิ่มคะแนนได้อีก 2.1 คะแนน ดังนั้นสถานะที่ดีที่สุดของหวงเหมาชิ คือเมื่อเขามีรอยยิ้มและเขาจะเป็นเก้าแต้มที่มั่นคง ดังนั้นจึงไม่มีข้อเสียของการที่เขาอยู่ในโรงพยาบาล เขาเป็นคนดังในหมู่คนรุ่นใหม่ใน บริษัท การแพทย์ฉางซี
“สวัสดีหมอลิงผมมาส่งอุปกรณ์ให้คุณ” หวงเหมาชิ วางกล่องสีขาวไว้บนชั้นว่างตรงหน้าเขา จากนั้นเขาก็เปิดมันและยิ้ม “ช่วยดูหน่อยได้ไหมถ้าเจออะไรที่เหมาะสม”
หลิงรันขมวดคิ้วเล็กน้อยและพูดว่า “ฉันกำลังจะปลูกถ่ายนิ้ว”
การปลูกถ่ายนิ้วใช้วัสดุสิ้นเปลืองน้อยมากจึงไม่ได้รับการต้อนรับจากศัลยกรรมกระดูกและมักกลายเป็นโครงการของโรงพยาบาลเอกชน
หวงเหมาชิยิ้มและพูดว่า “เรามีเข็ม คิกเชอร์ด้วยคุณสามารถลองเข็มที่ทำจากโลหะผสมไททาเนียมนำเข้ามีหลายรุ่นเลยนะ … “
“ฉันไม่ใช้ของพวกนั้นหรอก”
“หมอหลิงมันไม่ได้เสียหายอะไร ที่จะลองพวกมันไม่ใช่หรอ”
หลิงรันขี้เกียจเกินไปที่จะตอบกลับเขา เขาได้ แต่ส่ายหัวเบา ๆ
หวงเหมาชิยังคงต้องการที่จะพยายามเกลี้ยกล่อมเขา เมื่อเขากำลังจะอ้าปากพยาบาลหลิวก็หยุดเขา
นางพยาบาลหลิว จ้องมองเขาและพูดว่า “น้องหวง หมอหลิงบอกให้หยุดและคุณควรออกไปได้แล้ว” หวงเหมาชิตะลึง จากนั้นเขาก็ยิ้มและมองไปที่พยาบาลหลิว
เมื่อพยาบาลสาวเผชิญหน้ากับหวงเหมาชิ พวกเธอก็จะพยายามประณีประณอมกับเขา
มันเป็นระเบียบสังคมขั้นพื้นฐานที่ต้องอดทนต่อผู้ชายที่มีรูปลักษณ์คะแนนเกือบเต็มเช่นนี้ และ หวงเหมาชิ ก็เคยชินกับมันเช่นกัน
อย่างไรก็ตามการเปรียบเทียบแล้วสิ่งนี้ถือเป็นพิษร้ายที่จะทำลายระบบการทำงานภายในห้องผ่าตัด
ด้านหน้าของหลิงรันมีเครื่องวัดเก้าตัวเหมือน ไม่มีใครอยากมองมัน นี่เป็นเรื่องจริงโดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับพยาบาลหลิว ด้วยสายตาที่เฉียบคมเธอจึงพูดอย่างหนักแน่นว่า “ออกไป”
“ เอาล่ะผมจะออกไปแล้วนะ….” หวงเหมาชิ ตกใจและก้าวถอยหลังไปที่ประตู เขาตระหนักว่าเขาไม่สามารถละทิ้งโอกาสนี้ได้และตะโกนว่า “หมอหลิงเข็มคิกเชอร์ ของเราไม่แพงเลยนะ มีอยู่ในแคตตาล็อกของโรงพยาบาลแล้วมันเป็นไททาเนียมอัลลอยด์นะ
“เดี๋ยวก่อน.” หยูหยวน ที่กำลังจะเข้าประตูได้ยินดังนั้น เธอตะโกนใส่หวงเหมาชิ และรีบวิ่งไปที่หลิงรันแล้วก้าวขึ้นไปบนเก้าอี้สตูลยืนเขย่งหัวขึ้นและกระซิบกับหลิงรันในทันที