ณ แผนกโลจิสติกส์
ฟางผิงค่อนข้างแปลกใจที่หลู่เฟิ่งโหรวพาเขามาที่แผนกโลจิสติกส์
พวกเขาไม่ได้ไปที่สำนักงานแลกเปลี่ยนที่ชั้นแรก แต่ตรงไปที่ชั้นสามแทน
แม้ว่าท้องฟ้าจะมืดมิด แต่สำนักงานแลกเปลี่ยนยังเปิดอยู่ ผู้ฝึกยุทธฝึกฝนทั้งกลางวันกลางคืน
“ชั้นแรกเป็นสำนักงานรวบรวมคะแนนกับสำนักงานแลกเปลี่ยน ชั้นสองยืนยันพลัง ชั้นสามเป็นชั้นรับภารกิจ”
หลู่เฟิ่งโหรวอธิบายไปพลางเดินไปพลาง “แน่นอนไม่ใช่ทุกคนที่ขึ้นไปได้ เตรียมผู้ฝึกยุทธขึ้นไปไม่ได้ ผู้ฝึกยุทธขั้นหนึ่งก็ขึ้นไปไม่ได้ถ้าไม่มีการรับรองจากอาจารย์”
เมื่อพวกเขามาถึงชั้นสาม พวกเขาก็เห็นคนอยู่หลังโต๊ะยามต้อนรับข้างทางเข้า
เมื่อได้ยินเสียงคนเข้ามาในห้อง ผู้ฝึกยุทธที่เฝ้าห้องก็เงยหน้ามองพวกเขา เมื่อเขาเห็นหลู่เฟิ่งโหรว เขาก็รีบทักทายเธอ “สวัสดีครับอาจารย์หลู่”
“อืม”
หลู่เฟิ่งโหรวไม่ได้พูดอะไรมาก เธอพาฟางผิงและจ้าวเสวี่ยเหมยเข้าไปข้างใน
มันค่อนข้างแตกต่างจากที่ฟางผิงจินตนาการไว้ ไม่ได้มีกระดานดำที่มีภารกิจเต็มไปหมดเหมือนที่คิด
มีเพียงเครื่องจักรอัจฉริยะสูงกว่าหนึ่งเมตรเล็กน้อยอยู่เครื่องนึง
หลู่เฟิ่งโหรวเดินไปที่เครื่องจักรอย่างขอไปทีแล้วหันไปมองฟางผิง “ใบอนุญาตวิชายุทธของนายอยู่ไหน?”
ฟางผิงรีบหยิบออกมา หลู่เฟิ่งโหรวเสียบใบรับรองวิชายุทธกับเครื่องแล้วพูดขึ้นมา “นายต้องได้รับอนุญาตก่อนถึงเข้าระบบได้ ฉันอนุญาตให้นายรับภารกิจได้แล้ว”
“ถ้าไม่มีการอนุญาตจากอาจารย์ ต่อให้เข้ามารับภารกิจก็ไม่มีประโยชน์ เพราะเข้าระบบไม่ได้”
ขณะที่เธอพูด เธอก็หยุดมือ
มีสี่รายการปรากฏบนหน้าจอ
“ภารกิจกองทัพ”
“ภารกิจกรมสืบสวน”
“ภารกิจตำรวจ”
“ภารกิจมหาลัย”
…..
“ภารกิจกองทัพกับกรมสืบสวนยากสุด แน่นอนเนื่องจากนายอยู่แค่ขั้นหนึ่ง ภารกิจที่เห็นบนหน้าจอจึงมีจำกัด แต่มันก็ยังยาก”
“กรมสืบสวนกับกองทัพมียอดยุทธมากมาย แต่บางครั้งพวกเขามีคนไม่พอ หรือเพราะเหตุผลอื่นก็ตาม พวกเขาจึงมอบภารกิจบางอย่างให้กับนักศึกษามหาลัยวิชายุทธ”
“กองทัพไม่ได้ให้ค่าตอบแทนมากเท่าไหร่ แต่บางครั้งพวกเขาก็ให้ทรัพยากรหายากหรือแต้มกองทัพ”
“แต้มกองทัพมีประโยชน์มากมาย มันใช้ได้ทั้งเอาไว้เข้ากองทัพหรือเลื่อนยศทหาร หรือจะเอาไปแลกเปลี่ยนทรัพยากรหายากก็ได้”
“กรมให้ค่าตอบแทนมากกว่า แต่ภารกิจยาก บางครั้งพวกเขาก็ให้เป็นคะแนนเหมือนกัน คะแนนพวกนี้จะทำให้นายมีอาชีพในกรมในอนาคต”
“ภารกิจของตำรวจจะง่ายกว่า แต่ก็ห้ามลดความระวังลง”
หลู่เฟิ่งโหรวเตือนฟางผิง “ภารกิจของตำรวจส่วนใหญ่จะเป็นคนธรรมดา”
“แต่ทุกคนเป็นจำพวกโจร ส่วนใหญ่มีอาวุธติดตัว”
“แม้พวกมันจะไม่ใช่ผู้ฝึกยุทธ แต่พวกมันชั่วร้ายและโหดเหี้ยมมาก ผู้ฝึกยุทธขั้นหนึ่งอย่างนายถูกฆ่าตายได้ง่ายๆถ้าไม่ระวัง”
“ตำรวจมักจะให้ค่าตอบแทนเป็นเงินสดไม่เหมือนกองทัพกับกรม สองอย่างหลังะจ่ายด้วยเม็ดยาหรือวัสดุอย่างอื่น”
“ส่วนอันสุดท้าย ภารกิจของมหาลัย”
หลู่เฟิ่งโหรวหัวเราะ “มันมีทั้งยากและมีทั้งง่าย”
“ภารกิจที่ง่ายๆก็จะง่ายมาก ยกตัวอย่างนักศึกษาบางคนอาจมอบภารกิจต่อสู้ให้เมื่อใกล้ทะลวงขั้นแล้วอยากหาคู่ต่อสู้มาประลองด้วย ปกติแล้วภารกิจแบบนี้จะไม่เป็นอันตราย จะรับภารกิจแบบนี้ก็ได้”
“อาจารย์บางคนก็อาจมอบภารกิจบางอย่างให้ อย่างเช่นให้ไปทำธุระให้หรือไปส่งของ มีหมด”
“ภารกิจง่ายมาก ดังนั้นจึงมีของตอบแทนไม่มากนัก”
“ภารกิจยากๆก็มี ยกตัวอย่างนักศึกษาบางคนอาจอยากสร้างทีมไปทำภารกิจ อาจารย์บางคนก็อาจอยากได้นักศึกษาที่เก่งกล้าไปช่วยเหลือ…”
“เดี๋ยวพอถึงเวลานายก็จะรู้เอง”
“จะลองค้นหาภารกิจก่อนก็ได้ ถ้าอยากรับภารกิจก็เลือกและรับภารกิจไปเลย แต่นายยังเป็นปีหนึ่ง ถ้าอยากรับภารกิจ ต้องเลือกภารกิจง่ายๆและใช้เวลาไม่นาน”
“มีหลายอย่างที่นายไม่ได้เรียนรู้ แต่อย่าไปเอาอย่างรุ่นพี่ที่ใช้เวลาทำภารกิจเป็นเดือนเป็นครึ่งปีก็แล้วกัน”
สุดท้ายหลู่เฟิ่งโหรวก็กล่าว “ระบบภารกิจในแผนกโลจิสติกส์มีไว้ให้นักศึกษาขั้นหนึ่งและขั้นสอง พอนายขั้นสาม นายต้องไปรับภารกิจที่อื่น”
“นอกจากนี้นายจะเข้าระบบผ่านเว็บไซต์ทางการของมหาลัยได้ นายก็แค่ใส่รหัสนักศึกษากับรหัสผ่าน”
“ที่นี่มีไว้ให้เด็กใหม่มาดูและรายงานเสร็จภารกิจ”
“ตอนที่อยากได้ความช่วยเหลือจากนักศึกษา ฉันก็มาออกภารกิจเหมือนกัน แต่นายไม่ต้องสนใจหรอก นายอ่อนแอเกินไป ไม่มีภารกิจให้นาย”
ฟางผิงพยักหน้าหงึกๆ จ้าวเสว่ยเหมยยืนอยู่ข้างเขาเอ่ยถามอย่างระมัดระวัง “อาจารย์ แล้วหนู…”
“เธอเหรอ?”
หลู่เฟิ่งโหรวยิ้มอย่างเรียบเฉย “เธอรู้แค่ขั้นตอนก็พอ ตอนนี้ยังไม่ถึงเวลา”
“โอ้”
จ้าวเสวี่ยเหมยค่อนข้างผิดหวัง เมื่อสังเกตเห็นสีหน้าของเธอ ฟางผิงก็ยิ้มให้เธอ “ไม่เป็นไร ถ้าฉันรับภารกิจ ฉันจะพาเธอไปด้วย…”
“เงียบ!”
หลู่เฟิ่งโหรวที่เรียบเฉยแปรเปลี่ยนเป็นความโกรธ “เหลวไหล!”
“ถ้าไม่มีความสามารถจะทำอะไรได้? รับภารกิจ? ไปตายเหรอ?”
“ถ้านายอยากตายก็อย่าพาคนอื่นไปด้วย!”
“นอกจากนี้ภารกิจที่นายรับมาเป็นความลับ อย่าบอกคนอื่นว่านายรับภารกิจมา นายก็รู้ไม่ใช่เหรอว่ามันจะเกิดอะไรขึ้นเมื่อบอกความลับไป?”
“เว้นแต่นายจะอยากได้ทีมไปทำภารกิจ ไม่งั้นนายต้องพึ่งตัวเอง”
“บนระบบ นายจะเห็นรายละเอียดสั้นๆของภารกิจเท่านั้น รายละเอียดเจาะจงจะไม่เปิดเผยจนกว่าจะรับภารกิจ”
“อีกอย่าง ถ้านายทำภารกิจล้มเหลวหรือยกเลิกภารกิจ คะแนนของนายจะถูกหักออกโดยอิงจากรางวัล อย่าลับภารกิจซี้ซั้ว”
ฟางผิงพยักหน้าอย่างรวดเร็วและพูดยอมรับความผิดพลาด “ผมผิดเอง ผมจะไม่ร่วมมือกับคนอื่นโดยไม่ระวัง”
“รู้ตัวก็ดี” หลู่เฟิ่งโหรวกล่าว เธอหันไปมองจ้าวเสวี่ยเหมย “เธอต้องฝึกเท้าทะลวงให้เชี่ยวชาญก่อนและขัดเกลากระดูกให้มากกว่า 50 ชิ้นค่อยมาพูดเรื่องนี้กัน”
“อย่าอิจฉาคนอื่น มันไม่จำเป็น”
“หนูเข้าใจ”
“ไปกันเถอะ ฟางผิงจะดูอยู่ที่นี่หรือกลับไปดูก็ได้”
หลู่เฟิ่งโหรวไม่ได้รอให้เขาพูด เธอเดินจากไปทันทีหลังพูดจบประโยค
จ้าวเสวี่ยเหมยอยากอยู่ต่ออีกสักหน่อย แต่เมื่อเห็นหลู่เฟิ่งโหรวออกไปแล้ว เธอจึงไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องบอกลา “ฟางผิง ฉันขอตัวก่อนนะ”
“อืม”
World’s Best Martial Artist – ตอนที่ 121.1 ระบบภารกิจ (1)
ตอนที่ 121.1 ระบบภารกิจ (1)
Posted by ? Views, Released on ตุลาคม 17, 2022
, World’s Best Martial Artist
Status: Ongoing
ฟางผิงใช้เวลาครึ่งชั่วโมงในที่สุดก็ตัดสินได้ว่าเขาไม่ได้ฝันไปหรือไม่ได้ถ่ายหนัง…อย่าไร้สาระน่า ถ้าการถ่ายหนังชุบความเป็นหนุ่มของเขากลับมาได้ งั้นกองถ่ายก็คงไปถ่ายทำที่สวรรค์ได้แล้ว!
หลังยืนยันว่าเขากลับมาเกิดใหม่ ฟางผิงก็รู้สึกถึงความตื่นตระหนกก่อนจะค่อยๆยอมรับความจริง
ความจริงอะไรงั้นเหรอ? ความจริงที่ว่าเขากลับมาเกิดใหม่ในร่างตัวเองตอนเด็ก และเนื่องจากเขามีความรู้ของอนาคตติดตัวมาด้วย เขาจะทำวันนี้ให้ดีที่สุดแล้วกลายเป็นผู้ยิ่งใหญ่ในแวดวงธุรกิจ! เขาจะรวย!
นั่นเป็นความคิดของเขาจนกระทั่งเพื่อนเขามาขัดจังหวะ
“สรุปนายจะลงทะเบียนสอบวิชาการต่อสู้ไหม?”
อะไรนะ? พูดเล่นเหรอ? หรือเขาส่งบทผิด? วิชาการต่อสู้คืออะไร? ทำไมถึงมีค่าลงทะเบียนหมื่นหยวน? หัวของเขาเต็มไปด้วยประโยคคำถาม ไม่นานฟางผิงก็ตระหนักว่าเขาอาจไม่ได้โชคดีเหมือนที่เขาคิดไว้ตอนแรก…