World’s Best Martial Artist – ตอนที่ 158.2 ไร้เทียมทาน (2)

ตอนที่ 158.2 ไร้เทียมทาน (2)

  บนเวทีประลอง

  ฟางผิงหลั่งเหงื่อเย็นเหยียบ หลังความรู้สึกถูกจับตามองหายไป ฟางผิงก็ถอนหายใจเฮือกใหญ่

  เขาไม่อยากเปิดเผยระบบ แต่เป็นไปไม่ได้ที่เขาจะไม่ใช้ความสามารถฟื้นฟูปราณและเลือดของระบบ

  กลับกันยิ่งเขาซ่อนไว้เท่าไหร่ ผู้คนก็เริ่มสงสัยขึ้นเท่านั้น

  ดังนั้น ใช้ความสามารถนี้ต่อหน้าปรมาจารย์มากมายยังดีเสียกว่า แถมมันยังทำให้ทุกคนคิดว่าเขาใช้เม็ดยาเพื่อฟื้นฟูปราณและเลือด

  ตราบใดที่ปรมาจารย์มีความประทับใจแบบนี้ ต่อให้อนาคตเขาอยู่ที่อื่นและฟื้นฟูปราณและเลือดได้อย่างรวดเร็ว มันก็ไม่เป็นที่สงสัย

  เวลานี้ เมื่อเห็นว่าปรมาจารย์ไม่ได้เพ่งเล็งอีก ฟางผิงก็ลอบถอนหายใจ

  เมื่อเฉินหงเหว่ยขึ้นเวที ฟางผิงไม่ระวังตัวเหมือนรอบแรกอีก เขาเผยรอยยิ้มออกมา  ครั้งก่อน ฉันเห็นนายใช้อาวุธ วันนี้เหมาะพอดีที่ฉันจะได้ทดสอบวิชาดาบคลั่งระเบิดเลือด! 

  เมื่อเขาพูดจบ ฟางผิงก็ลงมือทันที!

  ฝีเท้าของฟางผิงเคลื่อนเร็วราวสายฟ้า ปลายเท้าดีดพื้นไม่กี่ครั้ง เขาก็ประชิดตัวเฉินหงเหว่ยแล้ว!

  เฉินหงเหว่ยหน้าเปลี่ยนสีเล็กน้อย เขาไม่คิดเลยว่าฟางผิงจะเร็วมากเหมือนกัน!

   เมื่อกี้นี้ ผมเกือบคิดแล้วว่าฟางผิงขัดเกลากระดูกแขน แต่ด้วยท่าร่างของเขา ผมพึ่งนึกได้ว่าเขาขัดเกลากระดูกขา 

   ย่ำเมฆา ความเร็วไม่เท่าก้าวย่างภูติพราย แต่ความเร็วจะขึ้นอยู่กับระดับการบ่มเพาะ… 

  เขาไม่สามารถพูดต่อได้!

  พอเขาพูดมาถึงตรงนี้ ฟางผิงก็ประชิดตัวเฉินหงเหว่ยแล้ว เขาควงดาบยาวฟันจากบนลงล่าง!

  เคร้ง! เคร้ง! เสียงอาวุธกระทบกันดังขึ้นมาอีกครั้ง

  ฟางผิงใช้วิธีเดิม ‘ฉันจะฟันอาวุธของนายทิ้งจนนายป้องกันไม่ได้!’

  เคร้งงงง! เสียงดังขึ้นยาวนานกว่าเดิม ใบดาบครึ่งบนในมือเฉินหงเหว่ยหล่นลงกับพื้น

  เฉินหงเหว่ยไม่มีเวลาล่าถอย หรือพูดให้ถูกก็คือ การฟันของฟางผิงแข็งแกร่งและทรงพลังมากจนเขาล่าถอยไปไม่ได้

  เฉินหงเหว่ยกู่ร้อง เขาทิ้งดาบในมือทันทีแล้วเอื้อมมือไปจับดาบของฟางผิงด้วยมือเปล่า!

  เขาคิดว่าฟางผิงจะวัดพลังกับเขา แต่ฟางผิงไม่ได้ออกแรงกดดาบ ตัวคนเสือกเท้าก้าวเข้าไปแทน!

  ปลายเท้าเหยียดตรง ถีบเท้าเตะออกไปอย่างรุนแรง จนเกิดเสียงระเบิดในอากาศ!

  ปัง!

  เฉินหงเหว่ยที่พึ่งเงื้อมมือจับดาบหมายกันดาบยาวฟางผิง ถูกปลายเท้าฟางผิงแทงเข้าที่เอว ฟางผิงรีบชักเท้ากลับ เปลี่ยนจากแทง เป็นเพลงเตะ ไหววูบออกไปอย่างรวดเร็วอีกครั้ง!

  ปัง!

  เฉินหงเหว่ยถูกเตะอย่างแรง ร่างกายกระเด็นออกจากเวทีประลอง

   เร็วมาก! 

  หลิวหัวหรงอธิบายทันที  ดาบฟางผิงเร็วมาก ลูกเตะเขาก็ไม่ต่างกัน! ปราณและเลือดที่ระเบิดออกมาก็แข็งแกร่ง สมาชิกทั้งสองของแปดมหาลัยพันธมิตรถูกสะกดจนทำอะไรแทบไม่ได้ 

   นอกจากนี้ฟางผิงยังฟื้นฟูปราณและเลือดได้เร็วมาก ถ้าแปดมหาลัยพันธมิตรไม่มีกลยุทธ์ดีๆมากดดันฟางผิง ผมเกรงว่าพวกเขาคงลำบากแล้ว 

  ผู้ชมล่างเวทีตกตะลึง

  ฟางผิงชนะการประลองสองตาติดอย่างง่ายดาย

  พวกเขาไม่รู้ว่าปราณและเลือดของฟางผิงทรงพลังขนาดไหน ฟื้นฟูเร็วแค่ไหน แต่มันแค่เร็วกว่าที่พวกเขาคิด!

  พวกเขารู้สึกเพียงแค่ว่าหัวหน้าทีมโม๋อู่เอาชนะแปดมหาลัยพันธมิตรอย่างสบายๆ การประลองรอบเช้า ทั้งสองต่างก็เหนื่อยอ่อน ต่างก็บาดเจ็บ รอบบ่ายไม่มีอะไรแบบนั้นเลย

  …

  หลังเวที

  เว่ยปินหน้าเปลี่ยนสีเล็กน้อย อาจารย์ของแปดมหาลัยพันธมิตรกล่าวด้วยสีหน้าจริงจัง  ท่าร่างเขาเร็วมาก วิชาดาบก็ไม่ต่างกัน! 

   นี่ยังไม่ใช่ประเด็นหลัก ประเด็นหลักก็คือ ทุกกระบวนท่าของเขาบรรลุถึงขั้นกระบวนท่าร้ายแรงแล้ว ปราณและเลือดระเบิดออกมาสูงกว่า 60แคล 

   จากรูปแบบนี้ ให้หลีกเลี่ยงสามดาบของเขา ไม่ก็ปล่อยให้เขาโจมตีมาสามดาบ แล้วเราค่อยสวนกลับ 

   อย่างไรก็ตามตอนนี้… 

  ตอนนี้ ปราณและเลือดของฟางผิงยังไม่หมด แถมอาจารย์ของแปดมหาลัยพันธมิตรยังเห็นว่าฟางผิงเริ่มยัดเม็ดยาเข้าปากอีกครั้ง!

  เมื่อเขากินยาเสร็จ ปราณและเลือดของอีกฝ่ายก็พู่งสูงขึ้นทันที!

   เว่ยปิน หาวิธีหลบสามกระบวนท่าแรกของเขา อย่าให้โอกาสเขากินยา พอผ่านไปสามกระบวนท่าแล้ว ให้จัดการเขาทันที! 

  อาจารย์ได้แต่ให้คำแนะนำแบบนี้ อย่าปล่อยให้ฟางผิงมีเวลากินยา ไม่งั้นพวกเขามีปัญหาแน่

  แถมอาจารย์ยังรู้สึกอีกเช่นกันว่า ร่างกายมักมีขีดจำกัดอยู่เสมอ

  เป็นไปไม่ได้ที่ฟางผิงจะฟื้นฟูทุกครั้งที่กินยา

  ปัญหาคือ ขีดจำกัดอยู่ตรงไหน? นี่เป็นครั้งแรกที่ฟางผิงประลองต่อหน้าสาธารณะ จึงไม่มีใครรู้และไม่มีใครทดสอบได้

  …

  ไม่นาน เว่ยปินก็ก้าวขึ้นสู่เวที

  เมื่อเห็นปราณและเลือดของฟางผิงที่กำลังพลั่งพลู เว่ยปินก็แสดงสีหน้าไม่พอใจ ความพ่ายแพ้สองรอบแรกไร้ประโยชน์มาก!

  ปราณและเลือดของฟางผิงฟื้นฟูแล้ว จะรีบเข้าปะทะก็ไม่มีประโยชน์เท่าไหร่ เว่ยปินไม่ได้เร่งรีบและพูดหยั่งเชิงออกมาแทน  ฟางผิง ถ้านายใช้ยาแบบนั้น ร่างกายจะเป็นอันตรายเอานะ นายชนะมาสองรอบแล้ว นายไม่จำเป็นต้องทำลายรากฐานของตัวเองหรอก… 

  ฟางผิงยิ้มราบเรียบ  ไม่เป็นไร ฉันเคยกินเม็ดยาปราณและเลือดไปร้อยเม็ด พอย่อยฤทธิ์ยาเสร็จ ได้ระบายออกสักหน่อยก็ไม่เป็นไรแล้ว… 

   … 

  เว่ยปินไม่รู้ว่าฟางผิงพูดจริงไหม แต่เวลานี้เขาจำต้องกัดฟันเตรียมสู้ถวายชีวิต!

  ไม่งั้นถ้าฟางผิงสู้แบบนี้ต่อ เป็นไปได้สูงที่เขาจะเอาชนะห้าคนติด!

  กรรการออกคำสั่ง ‘เริ่ม’ ทั้งคู่ก็วาดดาบพร้อมกัน!

  เว่ยปินก็ใช้ดาบ แต่มันไม่ใช่ดาบยาวอย่างที่ฟางผิงใช้!

  เว่ยปินวาดดาบได้ครั้งเดียว เขาก็รีบหันมาป้องกัน ส่วนฟางผิงก็ใช้กลยุทธ์เดิมอีกครั้ง หมายแยกดาบเขาเป็นสองท่อน!

  ชั้นบน ถังเฟิงสบถ  โง่! 

  ชนชั้นผู้นำของแปดมหาลัยพันธมิตรก็หัวเราะขึ้นมา ฟางผิงคิดเหรอว่าคมดาบเขาจะทำลายอาวุธฝ่ายตรงข้ามได้ทุกครั้งไป?

  สองคนก่อนใช้อาวุธอัลลอยเกรดเอฟ แต่เว่ยปินไม่ใช่!

  คมดาบเขาเป็นอัลลอยเกรดดี!

  เคร้ง! เคร้ง! เคร้ง!

  หลังฟันไปสามดาบ ปราณและเลือดของฟางผิงก็ถูกใช้ไปมาก

  แต่ละดาบมีความแข็งแกร่งถึง 60แคล รวมสามดาบก็ผลาญไปเกือบ 200แคลแล้ว ตอนนี้ฟางผิงมีพลังเหลือฟันได้อีกครั้งเท่านั้น

  ขณะที่เว่ยปินเอาแต่ป้องกัน ปริมาณเผาผลาญน้อยกว่ามาก

  สามดาบถูกใช้ออกแล้ว แต่คราวนี้มันไม่เหมือนกับคนก่อนที่ฟางผิงฟันอาวุธของคู่ต่อสู้เป็นสองส่วนได้ ผู้ชมประหลาดใจเล็กน้อย

  เว่ยปินรีบคว้าโอกาสนี้ ไม่ให้ฟางผิงมีเวลาฟื้นฟู!

  เว่ยปินคำราม เขาย่ำเท้ากับพื้น รองเท้ากลายเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย ดีดตัวพุ่งโจมตีฟางผิงปานพยัคฆ์ร้าย!

  เขาโยนทิ้งดาบไป เว่ยปินหมายต่อสู้ประชิดตัวกับฟางผิง ไม่ยอมให้เขากินยา

  เมื่อเว่ยปินพุ่งเข้ามา ฟางผิงก็มีรอยยิ้มวูบนึง

  เว่ยปินแข็งแกร่งมาก อย่างน้อยถ้าเขาอยากสู้ประชิดตัว ฟางผิงก็เอาชนะเขาไม่ง่ายนัก

  อย่างไรก็ตาม อีกฝ่ายทิ้งดาบเพื่อเข้าประชิดตัว คิดว่าเขาระเบิดพลังอีกไม่ได้แล้ว ถ้าแบบนี้ เขาเก็บชัยชนะมาง่ายๆก็อย่ามาตำหนิเขา!

   ถอย! 

  มีคนตะโกนออกมาอย่างอดไม่ได้ แต่ก็ถูกคนอื่นตำหนิเบาๆ

  ก่อนที่เว่ยปินจะรู้ตัว ฟางผิงก็โยนดาบทิ้งไป และชั่วพริบตานั้นก็เกิดเรื่องไม่สมเหตุสมผลขึ้น

  ฟางผิงดีดตัวทะยานขึ้นบนอากาศสูงกว่าหนึ่งเมตรเพื่อหลบเลี่ยงการโจมตีของเว่ยปิน จากนั้นเท้าซ้ายของฟางผิงก็เหมือนเหยียบอากาศ ดีดเท้าเข้าหาเว่ยปินในก้าวเดียว!

  มันขัดกับสามัญสำนึกชัดๆ!

  ฟางผิงใช้กำลังเหยียบอากาศ!

  หลิวหัวหรงประหลาดใจมากเช่นกัน  มันเป็นจวงกงขั้นว่างเปล่า! 

   ขั้นว่างเปล่า! 

  ฟางผิงที่เป็นจุดสูงสุดของขั้นหนึ่งบรรลุจวงกงขั้นว่างเปล่า!

  จวงกงขั้นว่างเปล่าไม่ถึงขั้นบินผ่านอากาศได้ แต่ฟางผิงก็ยังอาศัยพลังก้าวย่างบนอากาศได้หลายก้าว

  นี่เป็นความหมายของขั้นว่างเปล่า ขั้นว่างเปล่าเป็นภาพรวมของจวงกงทั้งสามระดับ

  ยืนอยู่บนความว่างเปล่าได้!

  ท่ามกลางเสียงอุทานของฝูงชน ฟางผิงเตะเท้าขวาออกไปเต็มแรงปานสายฟ้า กระแทกเข้าที่หน้าอกเว่ยปินเสียงดังปัง

  เว่ยปินไม่รู้ว่าฟางผิงจะโจมตีเขาได้จากกลางอากาศ ทั้งคาดไม่ถึงว่าฟางผิงจะยังเหลือปราณและเลือดระเบิดออกมา!

  อกของเว่ยปินถึงกับยุบในลูกเตะเดียว!

  เว่ยปินสีหน้าบิดเบี้ยวด้วยความเจ็บปวด แต่เขาก็กัดฟัน กำหมัดเล็งเข้าที่เป้าของฟางผิง!

  เมื่อเห็นแบบนั้น ฟางผิงก็ไม่สุภาพอีก ขาทั้งสองข้างหนีบหมัดอีกฝ่ายไว้ ขณะที่กำลังหล่นลง ฟางผิงก็ประสานหมัด ทุบเข้ากลางหัว!

   ยอมแพ้! 

  บนชั้นสอง มีคนตะโกนยอมแพ้อีกครั้ง ไม่งั้นเว่ยปินหัวยุบแน่ เพราะเขายังไม่ได้ขัดเกลากระดูก

   อ้าก! 

  เว่ยปินคำรามด้วยความโกรธเกรี้ยว ดูไม่พอใจอย่างยิ่ง!

  ตั้งแต่เริ่มการประลอง เขาถูกเล่นงานตลอด ไม่ทันแสดงฝีมือออกมาสักนิด

  ถ้าเขาไม่แหกปากก็ยังไม่เป็นไร แต่เมื่อเขาแหกปากปุ๊บ เลือดในปากก็พุ่งพรวดออกมาทันที ลูกเตะที่กระแทกเข้าที่อกไม่ใช่เบาๆ

  ถ้าให้พูดจริงๆก็คือ ลูกเตะของฟางผิงมีพลังจากการระเบิดปราณและเลือดไม่น้อยไปกว่าการวาดดาบตอนแรกเลย

   เว่ยปินก็แพ้… 

  หลิวหัวหรงสะเทือนอารมณ์ เขาอดพูดขึ้นมาไม่ได้  จวงกงของฟางผิงเป็นขั้นว่างเปล่า เขาสำเร็จกระบวนท่าร้ายแรงถึงสองวิชา วิชาดาบ กับเพลงเตะ…เว้นแต่จะเป็นขั้นหนึ่งที่สำเร็จกระบวนท่าไม้ตายและมีความเร็วเหนือกว่าเขา ไม่งั้นผมเกรงว่า… 

   ผมเกรงว่าเขาจะไร้เทียมทานในระดับขั้นเดียวกัน 

  เฉินเสวี่ยเยี่ยนพูดเสริม  เด็กรุ่นใหม่ลำบากแล้ว จำเป็นต้องมีคนที่เร็วกว่าเขาและอย่างน้อยต้องบรรลุถึงขั้นกระบวนท่าร้ายแรง…งั้นเราต้องดูหานซวี่ หานซวี่ค่อนข้างเร็วกว่า 

  แม้ว่าหานซวี่จะไม่ได้แสดงกระบวนท่าที่ทรงพลัง แต่เขาเร็วมาก ฟางผิงอาจเทียบกับเขาไม่ได้ด้วยซ้ำ

  ถ้าหานซวี่พัวพันฟางผิง หลีกเลี่ยงกระบวนท่าสังหาร ทั้งสองอาจได้แลกเปลี่ยนฝีมือกัน ส่วนคนอื่น เกรงว่าจะห่างชั้นไปหน่อย

 

World’s Best Martial Artist

World’s Best Martial Artist

Status: Ongoing

ฟางผิงใช้เวลาครึ่งชั่วโมงในที่สุดก็ตัดสินได้ว่าเขาไม่ได้ฝันไปหรือไม่ได้ถ่ายหนัง…อย่าไร้สาระน่า ถ้าการถ่ายหนังชุบความเป็นหนุ่มของเขากลับมาได้ งั้นกองถ่ายก็คงไปถ่ายทำที่สวรรค์ได้แล้ว!

หลังยืนยันว่าเขากลับมาเกิดใหม่ ฟางผิงก็รู้สึกถึงความตื่นตระหนกก่อนจะค่อยๆยอมรับความจริง

ความจริงอะไรงั้นเหรอ? ความจริงที่ว่าเขากลับมาเกิดใหม่ในร่างตัวเองตอนเด็ก และเนื่องจากเขามีความรู้ของอนาคตติดตัวมาด้วย เขาจะทำวันนี้ให้ดีที่สุดแล้วกลายเป็นผู้ยิ่งใหญ่ในแวดวงธุรกิจ! เขาจะรวย!

นั่นเป็นความคิดของเขาจนกระทั่งเพื่อนเขามาขัดจังหวะ

“สรุปนายจะลงทะเบียนสอบวิชาการต่อสู้ไหม?”

อะไรนะ? พูดเล่นเหรอ? หรือเขาส่งบทผิด? วิชาการต่อสู้คืออะไร? ทำไมถึงมีค่าลงทะเบียนหมื่นหยวน? หัวของเขาเต็มไปด้วยประโยคคำถาม ไม่นานฟางผิงก็ตระหนักว่าเขาอาจไม่ได้โชคดีเหมือนที่เขาคิดไว้ตอนแรก…

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท