บนเวทีประลอง
ฟางผิงหลั่งเหงื่อเย็นเหยียบ หลังความรู้สึกถูกจับตามองหายไป ฟางผิงก็ถอนหายใจเฮือกใหญ่
เขาไม่อยากเปิดเผยระบบ แต่เป็นไปไม่ได้ที่เขาจะไม่ใช้ความสามารถฟื้นฟูปราณและเลือดของระบบ
กลับกันยิ่งเขาซ่อนไว้เท่าไหร่ ผู้คนก็เริ่มสงสัยขึ้นเท่านั้น
ดังนั้น ใช้ความสามารถนี้ต่อหน้าปรมาจารย์มากมายยังดีเสียกว่า แถมมันยังทำให้ทุกคนคิดว่าเขาใช้เม็ดยาเพื่อฟื้นฟูปราณและเลือด
ตราบใดที่ปรมาจารย์มีความประทับใจแบบนี้ ต่อให้อนาคตเขาอยู่ที่อื่นและฟื้นฟูปราณและเลือดได้อย่างรวดเร็ว มันก็ไม่เป็นที่สงสัย
เวลานี้ เมื่อเห็นว่าปรมาจารย์ไม่ได้เพ่งเล็งอีก ฟางผิงก็ลอบถอนหายใจ
เมื่อเฉินหงเหว่ยขึ้นเวที ฟางผิงไม่ระวังตัวเหมือนรอบแรกอีก เขาเผยรอยยิ้มออกมา ครั้งก่อน ฉันเห็นนายใช้อาวุธ วันนี้เหมาะพอดีที่ฉันจะได้ทดสอบวิชาดาบคลั่งระเบิดเลือด!
เมื่อเขาพูดจบ ฟางผิงก็ลงมือทันที!
ฝีเท้าของฟางผิงเคลื่อนเร็วราวสายฟ้า ปลายเท้าดีดพื้นไม่กี่ครั้ง เขาก็ประชิดตัวเฉินหงเหว่ยแล้ว!
เฉินหงเหว่ยหน้าเปลี่ยนสีเล็กน้อย เขาไม่คิดเลยว่าฟางผิงจะเร็วมากเหมือนกัน!
เมื่อกี้นี้ ผมเกือบคิดแล้วว่าฟางผิงขัดเกลากระดูกแขน แต่ด้วยท่าร่างของเขา ผมพึ่งนึกได้ว่าเขาขัดเกลากระดูกขา
ย่ำเมฆา ความเร็วไม่เท่าก้าวย่างภูติพราย แต่ความเร็วจะขึ้นอยู่กับระดับการบ่มเพาะ…
เขาไม่สามารถพูดต่อได้!
พอเขาพูดมาถึงตรงนี้ ฟางผิงก็ประชิดตัวเฉินหงเหว่ยแล้ว เขาควงดาบยาวฟันจากบนลงล่าง!
เคร้ง! เคร้ง! เสียงอาวุธกระทบกันดังขึ้นมาอีกครั้ง
ฟางผิงใช้วิธีเดิม ‘ฉันจะฟันอาวุธของนายทิ้งจนนายป้องกันไม่ได้!’
เคร้งงงง! เสียงดังขึ้นยาวนานกว่าเดิม ใบดาบครึ่งบนในมือเฉินหงเหว่ยหล่นลงกับพื้น
เฉินหงเหว่ยไม่มีเวลาล่าถอย หรือพูดให้ถูกก็คือ การฟันของฟางผิงแข็งแกร่งและทรงพลังมากจนเขาล่าถอยไปไม่ได้
เฉินหงเหว่ยกู่ร้อง เขาทิ้งดาบในมือทันทีแล้วเอื้อมมือไปจับดาบของฟางผิงด้วยมือเปล่า!
เขาคิดว่าฟางผิงจะวัดพลังกับเขา แต่ฟางผิงไม่ได้ออกแรงกดดาบ ตัวคนเสือกเท้าก้าวเข้าไปแทน!
ปลายเท้าเหยียดตรง ถีบเท้าเตะออกไปอย่างรุนแรง จนเกิดเสียงระเบิดในอากาศ!
ปัง!
เฉินหงเหว่ยที่พึ่งเงื้อมมือจับดาบหมายกันดาบยาวฟางผิง ถูกปลายเท้าฟางผิงแทงเข้าที่เอว ฟางผิงรีบชักเท้ากลับ เปลี่ยนจากแทง เป็นเพลงเตะ ไหววูบออกไปอย่างรวดเร็วอีกครั้ง!
ปัง!
เฉินหงเหว่ยถูกเตะอย่างแรง ร่างกายกระเด็นออกจากเวทีประลอง
เร็วมาก!
หลิวหัวหรงอธิบายทันที ดาบฟางผิงเร็วมาก ลูกเตะเขาก็ไม่ต่างกัน! ปราณและเลือดที่ระเบิดออกมาก็แข็งแกร่ง สมาชิกทั้งสองของแปดมหาลัยพันธมิตรถูกสะกดจนทำอะไรแทบไม่ได้
นอกจากนี้ฟางผิงยังฟื้นฟูปราณและเลือดได้เร็วมาก ถ้าแปดมหาลัยพันธมิตรไม่มีกลยุทธ์ดีๆมากดดันฟางผิง ผมเกรงว่าพวกเขาคงลำบากแล้ว
ผู้ชมล่างเวทีตกตะลึง
ฟางผิงชนะการประลองสองตาติดอย่างง่ายดาย
พวกเขาไม่รู้ว่าปราณและเลือดของฟางผิงทรงพลังขนาดไหน ฟื้นฟูเร็วแค่ไหน แต่มันแค่เร็วกว่าที่พวกเขาคิด!
พวกเขารู้สึกเพียงแค่ว่าหัวหน้าทีมโม๋อู่เอาชนะแปดมหาลัยพันธมิตรอย่างสบายๆ การประลองรอบเช้า ทั้งสองต่างก็เหนื่อยอ่อน ต่างก็บาดเจ็บ รอบบ่ายไม่มีอะไรแบบนั้นเลย
…
หลังเวที
เว่ยปินหน้าเปลี่ยนสีเล็กน้อย อาจารย์ของแปดมหาลัยพันธมิตรกล่าวด้วยสีหน้าจริงจัง ท่าร่างเขาเร็วมาก วิชาดาบก็ไม่ต่างกัน!
นี่ยังไม่ใช่ประเด็นหลัก ประเด็นหลักก็คือ ทุกกระบวนท่าของเขาบรรลุถึงขั้นกระบวนท่าร้ายแรงแล้ว ปราณและเลือดระเบิดออกมาสูงกว่า 60แคล
จากรูปแบบนี้ ให้หลีกเลี่ยงสามดาบของเขา ไม่ก็ปล่อยให้เขาโจมตีมาสามดาบ แล้วเราค่อยสวนกลับ
อย่างไรก็ตามตอนนี้…
ตอนนี้ ปราณและเลือดของฟางผิงยังไม่หมด แถมอาจารย์ของแปดมหาลัยพันธมิตรยังเห็นว่าฟางผิงเริ่มยัดเม็ดยาเข้าปากอีกครั้ง!
เมื่อเขากินยาเสร็จ ปราณและเลือดของอีกฝ่ายก็พู่งสูงขึ้นทันที!
เว่ยปิน หาวิธีหลบสามกระบวนท่าแรกของเขา อย่าให้โอกาสเขากินยา พอผ่านไปสามกระบวนท่าแล้ว ให้จัดการเขาทันที!
อาจารย์ได้แต่ให้คำแนะนำแบบนี้ อย่าปล่อยให้ฟางผิงมีเวลากินยา ไม่งั้นพวกเขามีปัญหาแน่
แถมอาจารย์ยังรู้สึกอีกเช่นกันว่า ร่างกายมักมีขีดจำกัดอยู่เสมอ
เป็นไปไม่ได้ที่ฟางผิงจะฟื้นฟูทุกครั้งที่กินยา
ปัญหาคือ ขีดจำกัดอยู่ตรงไหน? นี่เป็นครั้งแรกที่ฟางผิงประลองต่อหน้าสาธารณะ จึงไม่มีใครรู้และไม่มีใครทดสอบได้
…
ไม่นาน เว่ยปินก็ก้าวขึ้นสู่เวที
เมื่อเห็นปราณและเลือดของฟางผิงที่กำลังพลั่งพลู เว่ยปินก็แสดงสีหน้าไม่พอใจ ความพ่ายแพ้สองรอบแรกไร้ประโยชน์มาก!
ปราณและเลือดของฟางผิงฟื้นฟูแล้ว จะรีบเข้าปะทะก็ไม่มีประโยชน์เท่าไหร่ เว่ยปินไม่ได้เร่งรีบและพูดหยั่งเชิงออกมาแทน ฟางผิง ถ้านายใช้ยาแบบนั้น ร่างกายจะเป็นอันตรายเอานะ นายชนะมาสองรอบแล้ว นายไม่จำเป็นต้องทำลายรากฐานของตัวเองหรอก…
ฟางผิงยิ้มราบเรียบ ไม่เป็นไร ฉันเคยกินเม็ดยาปราณและเลือดไปร้อยเม็ด พอย่อยฤทธิ์ยาเสร็จ ได้ระบายออกสักหน่อยก็ไม่เป็นไรแล้ว…
…
เว่ยปินไม่รู้ว่าฟางผิงพูดจริงไหม แต่เวลานี้เขาจำต้องกัดฟันเตรียมสู้ถวายชีวิต!
ไม่งั้นถ้าฟางผิงสู้แบบนี้ต่อ เป็นไปได้สูงที่เขาจะเอาชนะห้าคนติด!
กรรการออกคำสั่ง ‘เริ่ม’ ทั้งคู่ก็วาดดาบพร้อมกัน!
เว่ยปินก็ใช้ดาบ แต่มันไม่ใช่ดาบยาวอย่างที่ฟางผิงใช้!
เว่ยปินวาดดาบได้ครั้งเดียว เขาก็รีบหันมาป้องกัน ส่วนฟางผิงก็ใช้กลยุทธ์เดิมอีกครั้ง หมายแยกดาบเขาเป็นสองท่อน!
ชั้นบน ถังเฟิงสบถ โง่!
ชนชั้นผู้นำของแปดมหาลัยพันธมิตรก็หัวเราะขึ้นมา ฟางผิงคิดเหรอว่าคมดาบเขาจะทำลายอาวุธฝ่ายตรงข้ามได้ทุกครั้งไป?
สองคนก่อนใช้อาวุธอัลลอยเกรดเอฟ แต่เว่ยปินไม่ใช่!
คมดาบเขาเป็นอัลลอยเกรดดี!
เคร้ง! เคร้ง! เคร้ง!
หลังฟันไปสามดาบ ปราณและเลือดของฟางผิงก็ถูกใช้ไปมาก
แต่ละดาบมีความแข็งแกร่งถึง 60แคล รวมสามดาบก็ผลาญไปเกือบ 200แคลแล้ว ตอนนี้ฟางผิงมีพลังเหลือฟันได้อีกครั้งเท่านั้น
ขณะที่เว่ยปินเอาแต่ป้องกัน ปริมาณเผาผลาญน้อยกว่ามาก
สามดาบถูกใช้ออกแล้ว แต่คราวนี้มันไม่เหมือนกับคนก่อนที่ฟางผิงฟันอาวุธของคู่ต่อสู้เป็นสองส่วนได้ ผู้ชมประหลาดใจเล็กน้อย
เว่ยปินรีบคว้าโอกาสนี้ ไม่ให้ฟางผิงมีเวลาฟื้นฟู!
เว่ยปินคำราม เขาย่ำเท้ากับพื้น รองเท้ากลายเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย ดีดตัวพุ่งโจมตีฟางผิงปานพยัคฆ์ร้าย!
เขาโยนทิ้งดาบไป เว่ยปินหมายต่อสู้ประชิดตัวกับฟางผิง ไม่ยอมให้เขากินยา
เมื่อเว่ยปินพุ่งเข้ามา ฟางผิงก็มีรอยยิ้มวูบนึง
เว่ยปินแข็งแกร่งมาก อย่างน้อยถ้าเขาอยากสู้ประชิดตัว ฟางผิงก็เอาชนะเขาไม่ง่ายนัก
อย่างไรก็ตาม อีกฝ่ายทิ้งดาบเพื่อเข้าประชิดตัว คิดว่าเขาระเบิดพลังอีกไม่ได้แล้ว ถ้าแบบนี้ เขาเก็บชัยชนะมาง่ายๆก็อย่ามาตำหนิเขา!
ถอย!
มีคนตะโกนออกมาอย่างอดไม่ได้ แต่ก็ถูกคนอื่นตำหนิเบาๆ
ก่อนที่เว่ยปินจะรู้ตัว ฟางผิงก็โยนดาบทิ้งไป และชั่วพริบตานั้นก็เกิดเรื่องไม่สมเหตุสมผลขึ้น
ฟางผิงดีดตัวทะยานขึ้นบนอากาศสูงกว่าหนึ่งเมตรเพื่อหลบเลี่ยงการโจมตีของเว่ยปิน จากนั้นเท้าซ้ายของฟางผิงก็เหมือนเหยียบอากาศ ดีดเท้าเข้าหาเว่ยปินในก้าวเดียว!
มันขัดกับสามัญสำนึกชัดๆ!
ฟางผิงใช้กำลังเหยียบอากาศ!
หลิวหัวหรงประหลาดใจมากเช่นกัน มันเป็นจวงกงขั้นว่างเปล่า!
ขั้นว่างเปล่า!
ฟางผิงที่เป็นจุดสูงสุดของขั้นหนึ่งบรรลุจวงกงขั้นว่างเปล่า!
จวงกงขั้นว่างเปล่าไม่ถึงขั้นบินผ่านอากาศได้ แต่ฟางผิงก็ยังอาศัยพลังก้าวย่างบนอากาศได้หลายก้าว
นี่เป็นความหมายของขั้นว่างเปล่า ขั้นว่างเปล่าเป็นภาพรวมของจวงกงทั้งสามระดับ
ยืนอยู่บนความว่างเปล่าได้!
ท่ามกลางเสียงอุทานของฝูงชน ฟางผิงเตะเท้าขวาออกไปเต็มแรงปานสายฟ้า กระแทกเข้าที่หน้าอกเว่ยปินเสียงดังปัง
เว่ยปินไม่รู้ว่าฟางผิงจะโจมตีเขาได้จากกลางอากาศ ทั้งคาดไม่ถึงว่าฟางผิงจะยังเหลือปราณและเลือดระเบิดออกมา!
อกของเว่ยปินถึงกับยุบในลูกเตะเดียว!
เว่ยปินสีหน้าบิดเบี้ยวด้วยความเจ็บปวด แต่เขาก็กัดฟัน กำหมัดเล็งเข้าที่เป้าของฟางผิง!
เมื่อเห็นแบบนั้น ฟางผิงก็ไม่สุภาพอีก ขาทั้งสองข้างหนีบหมัดอีกฝ่ายไว้ ขณะที่กำลังหล่นลง ฟางผิงก็ประสานหมัด ทุบเข้ากลางหัว!
ยอมแพ้!
บนชั้นสอง มีคนตะโกนยอมแพ้อีกครั้ง ไม่งั้นเว่ยปินหัวยุบแน่ เพราะเขายังไม่ได้ขัดเกลากระดูก
อ้าก!
เว่ยปินคำรามด้วยความโกรธเกรี้ยว ดูไม่พอใจอย่างยิ่ง!
ตั้งแต่เริ่มการประลอง เขาถูกเล่นงานตลอด ไม่ทันแสดงฝีมือออกมาสักนิด
ถ้าเขาไม่แหกปากก็ยังไม่เป็นไร แต่เมื่อเขาแหกปากปุ๊บ เลือดในปากก็พุ่งพรวดออกมาทันที ลูกเตะที่กระแทกเข้าที่อกไม่ใช่เบาๆ
ถ้าให้พูดจริงๆก็คือ ลูกเตะของฟางผิงมีพลังจากการระเบิดปราณและเลือดไม่น้อยไปกว่าการวาดดาบตอนแรกเลย
เว่ยปินก็แพ้…
หลิวหัวหรงสะเทือนอารมณ์ เขาอดพูดขึ้นมาไม่ได้ จวงกงของฟางผิงเป็นขั้นว่างเปล่า เขาสำเร็จกระบวนท่าร้ายแรงถึงสองวิชา วิชาดาบ กับเพลงเตะ…เว้นแต่จะเป็นขั้นหนึ่งที่สำเร็จกระบวนท่าไม้ตายและมีความเร็วเหนือกว่าเขา ไม่งั้นผมเกรงว่า…
ผมเกรงว่าเขาจะไร้เทียมทานในระดับขั้นเดียวกัน
เฉินเสวี่ยเยี่ยนพูดเสริม เด็กรุ่นใหม่ลำบากแล้ว จำเป็นต้องมีคนที่เร็วกว่าเขาและอย่างน้อยต้องบรรลุถึงขั้นกระบวนท่าร้ายแรง…งั้นเราต้องดูหานซวี่ หานซวี่ค่อนข้างเร็วกว่า
แม้ว่าหานซวี่จะไม่ได้แสดงกระบวนท่าที่ทรงพลัง แต่เขาเร็วมาก ฟางผิงอาจเทียบกับเขาไม่ได้ด้วยซ้ำ
ถ้าหานซวี่พัวพันฟางผิง หลีกเลี่ยงกระบวนท่าสังหาร ทั้งสองอาจได้แลกเปลี่ยนฝีมือกัน ส่วนคนอื่น เกรงว่าจะห่างชั้นไปหน่อย