World’s Best Martial Artist – ตอนที่ 209.2 จุดประสงค์ของการฝึกเก็บประสบการณ์ครั้งนี้ (2/2)

ตอนที่ 209.2 จุดประสงค์ของการฝึกเก็บประสบการณ์ครั้งนี้ (2/2)

  ขณะที่บรรดาอาจารย์เห็นตรงกัน พวกฟางผิงก็เกือบมาถึงหมู่บ้านผานสือแล้ว

  เพราะมันถูกกำหนดให้เป็นพื้นที่สงคราม เวลานี้หมู่บ้านใกล้เคียงทั้งหมดจึงถูกทิ้งร้าง ระหว่างทางพวกเขาไม่พบผู้คนแม้แต่คนเดียว

   ครั้งนี้เราจ่ายไปไม่น้อยเลย…  ฟางผิงถอนหายใจ เพื่อฝึกทหาร หนานเจียงจ่ายไปมหาศาล

  อพยพผู้คนจำนวนมากแบบนี้ย่อมไม่ใช่เรื่องธรรมดา

  ยิ่งกว่านั้นเมื่อหนานเจียงประกาศซ้อมรบในประเทศตอนนาทีสุดท้าย รัฐบาลก็โดนประณามอย่างกว้างขวาง

   นายว่าสมาชิกลัทธิชั่วคนอื่นอยู่ไหน?  ฟางผิงเอ่ยถาม ครั้งนี้ไม่ใช่แค่นักศึกษามหาลัยวิชายุทธที่เข้าร่วมการฝึกฝนเท่านั้น กองทัพก็ฝึกทหารด้วย แถมหมู่บ้านผานสือยังไม่ใช่แหล่งกบดานเพียงแห่งเดียว หยูเซี่ยงฮวาครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะกล่าว  พวกมันน่าจะอยู่ที่นี่ทั้งหมด หนานเจียงจะไม่กำหนดเขตทหารมากเกินไป ไม่งั้นจะเกิดปัญหามากมาย 

   ตอนนี้เราอยู่พื้นที่ชนบททางเหนือของชางหนาน นอกเสียจากจะเกิดเรื่องร้ายแรง ผู้ฝึกยุทธลัทธิชั่วควรถูกบีบให้มาอยู่ที่นี่ทั้งหมด 

   ถ้าเราไปทางอื่น บางทีเราอาจไปถึงแหล่งกบดานอื่นที่ถูกโอบล้อมอยู่ก็ได้ 

  แววตาฟางผิงทอแววเล็กน้อย  ถ้าเราทำภารกิจเสร็จ เราไปช่วยคนอื่นโอบล้อมแหล่งกบดานเป็นไง? เราจะได้ผลประโยชน์เพิ่มขึ้นไหม? 

  ทุกคนคิ้วขมวดเล็กน้อย ฟางผิงยิ้ม  ไว้เสร็จงานแล้วค่อยทบทวนเรื่องนี้กันใหม่ ถ้าผู้ฝึกยุทธขั้นสามไม่มีอะไรทำก็มาร่วมกับฉัน ได้สินสงครามเพิ่มก็ดีเหมือนกัน 

  หลังเดินมาครึ่งค่อนวันก็มองเห็นหมู่บ้านรำไรแล้ว

  เมื่อพวกฟางผิงมาถึง พวกเขาก็ได้รับการต้อนรับอย่างอบอุ่น!

  พวกเขาอยู่ห่างจากหมู่บ้านผานสือไม่ถึง 500 เมตรจู่ๆก้อนหินขนาดใหญ่ก็ตกลงมาจากฟากฟ้า!

  ทุกคนไม่เคยพบเจอสถานการณ์เช่นนี้มาก่อน พวกเขายืนอึ้งอยู่กับที่ วินาทีถัดมา ก็มีคนคำรามก้อง  ถอย! 

  ทุกคนถอยกลับ กู้เสียงตะโกน  ผู้ฝึกยุทธขั้นสามคุ้มกัน! 

  ตอนแรกฟางผิงกับอีกสองสามคนที่อยู่กับเขาก็อึ้งเหมือนกับคนอื่นๆเช่นกัน แต่เมื่อเขาได้ยินคำสั่งของกู้เสียง ฟางผิงก็เคลื่อนไหวทันที เขาดีดตัวกับพื้น แหว่งดาบใส่หินที่พุ่งมาหากลุ่ม

  เกิดเสียงดัง ‘ปัง’ ก้อนหินแตกกระจาย แทบไม่เหลือภัยคุกคาม

  ผู้ฝึกยุทธขั้นสามคนอื่นๆ ไม่ว่าจะด้วยอาวุธ จะด้วยกำปั้นหรือขา พวกเขาก็ลงมือปิดกั้นก้อนหินด้วยกัน

  ทุกคนรีบก้าวถอยออกนอกระยะโจมตี

  พวกฟางผิงก็รีบถอยเช่นกัน แม้การใช้ดาบทำลายหินจะดูดีมาก แต่มันก็ผลาญปราณและเลือดไปมากมายเช่นกัน ทุกคนจึงไม่กล้าทำลายอย่างผลีผลาม

  เมื่อพวกเขาก้าวถอยไป ในฝูงชนก็มีเสียงคนแผดร้อง

  เสี้ยววินาทีต่อมาก็มีใครบางคนร้องตะโกน  มีคนอยู่ใต้ดิน! 

   บัดซบ ทุกคนกระจายไปสังหารพวกมัน!  ฟางผิงคำราม เขาก้าวเท้าออกไป ใช้ดาบในมือตัดหัวผู้ฝึกยุทธที่พึ่งคลานออกมาจากใต้ดินในดาบเดียว!

   ทุกคน สู้! 

  เมื่อทุกคนเริ่มสู้กัน สถานการณ์ก็วุ่นวายหนักขึ้นไปอีก

  …

  ห้านาทีถัดมา สถานการณ์ก็สงบลง

  มีคนพูดขึ้นมาเบาๆ  ตายสามคน… 

  ผู้ฝึกยุทธลัทธิชั่ววางแผนไว้ก่อน ขุดหลุมไว้หลายที่แล้วซุกซ่อนคนไว้เกือบ 20 คน

  โจมตีด้วยก้อนหินเป็นการนำร่อง ขณะที่เหล่านักศึกษาตื่นตระหนกจนไม่ทันตั้งตัว แม้จำนวนจะมากกว่าศัตรูถึงสิบเท่า แต่สุดท้ายก็มีคนเสียชีวิตถึงสามคน

   บัดซบ! 

  ฟางผิงอารมณ์เสียมาก ทุกคนที่อยู่ตรงนี้ล้วนเป็นผู้แข็งแกร่ง ถ้าพวกเขาเจอผู้ฝึกยุทธลัทธิชั่วตรงๆ ต่อให้ทั้งลัทธิจะมาโจมตีพวกเขา พวกเขาก็อาจไม่มีผู้เสียชีวิตก็ได้ อย่างไรก็ตามทันทีที่พวกเขามาถึง ก็มีคนเสียชีวิตถึงสามคน แถมยังมีผู้บาดเจ็บอีกไม่น้อย

  ในฝูงชนผู้ฝึกยุทธสาวสะอื้นเบาๆ นักศึกษาที่เสียชีวิตไปมีเพื่อนและเพื่อนร่วมชั้นรวมอยู่ด้วย

  คนจากจิงอู่ไม่มีใครเสียชีวิต แต่มีบาดเจ็บอยู่หลายคน ผู้เสียชีวิตทั้งหมดมาจากมหาลัยวิชายุทธแห่งอื่น

  กู้เสียงถอนหายใจ เขาพูดเบาๆ  นี่แหละสงคราม ถ้ำใต้ดินอันตรายยิ่งกว่านี้อีก… 

   พอแล้ว!  ฟางผิงขัดจังหวะ  ไม่ว่านายจะว่ายังไง สุดท้ายมันก็เป็นเพราะเราแข็งแกร่งไม่พอ! 

   ถ้าเราเป็นปรมาจารย์ พวกมันจะซุ่มโจมตีไหมมันก็ไม่สำคัญหรอก! 

  จากนั้นฟางผิงก็กัดฟันกรอดแล้วพูด  คนพวกนี้ทำเครื่องยิงหินได้ด้วยเหรอ? 

  หานซวี่จากจิงอู่เดินเข้ามา มองดูหมู่บ้านผานสือที่อยู่ห่างออกไป เขาพูดเสียงหม่น  ถ้าจะทำ ผู้ฝึกยุทธสร้างขึ้นมาได้ง่ายๆเลย ด้วยความแข็งแกร่งของผู้ฝึกยุทธ ถ้าจะเตรียมการล่วงหน้าแล้วสร้างเครื่องยิงหินสักสองสามเครื่อง พวกเขาสามารถจำลองผลของเครื่องยิงหินได้ด้วยพลังของตัวเอง 

  หลังพูดจบหานซวี่ก็พูดต่อ  ในสถานการณ์ตอนนี้ ทุกคนกำลังขวัญเสีย แถมยังกังวลเรื่องกับดักอื่นๆอีก… 

   นายจะพูดอะไรก็พูดมาตรงๆ! 

   ที่เราจิงอู่จะพูดก็คือเราไม่ควรสู้เป็นกลุ่มใหญ่อีก มันไม่สอดคล้องกับรูปแบบของผู้ฝึกยุทธ 

   เราไม่ใช่ผู้ฝึกยุทธของกองทัพ เราเป็นผู้ฝึกยุทธอิสระ 

   จะมาเลียนแบบกลยุทธ์ของกองทัพสุ่มสี่สุ่มห้าก็ไม่ใช่เรื่องดี 

   เราควรแบ่งเป็นหลายทีม ทั้งทีมเล็กและลุยเดี่ยว! 

   ยอดฝีมือตั้งทีมอื่นแล้วบุกโจมตีหมู่บ้านผานสือซึ่งๆหน้า 

   เราจะกันหินแล้วเปิดทางให้คนข้างหลังเข้าไปบุกสังหารด้วยกัน ศัตรูแข็งแกร่งไม่เท่าเรา เราควรเป็นเหมือนดาบที่แหลมคม ไม่ใช่ทหารในสนามรบ! 

  หานซวี่กล่าวเสริม  เกรี้ยวกราดดุจเปลวเพลิง รวดเร็วดั่งสายลม นั่นแหละคือผู้ฝึกยุทธ! 

   บุกจู่โจมซึ่งๆหน้า สังหารเท่าที่ไหว ถ้าไม่ไหวเราก็รีบล่าถอย พวกมันเป็นหนูติดจั่น ไม่ใช่เรา! 

   สู้กับคนหมู่มาก เราพึ่งมีประสบการณ์ครั้งแรก เราจำเป็นต้องพัฒนารูปแบบการต่อสู้ของเราเอง ไม่ใช่หลับหูหลับตาเลียนแบบคนอื่น 

  ฟางผิงบ่นพึมพำ  มันทำให้แผนเดิมของเราวุ่นวายไปหมด… 

   ก่อนหน้านี้เราเป็นแค่กลุ่มมือใหม่ เป็นแค่การพูดบนกระดาษ! ตอนนี้เราตายกันไปสามคนแล้ว แถมเรายังไปไม่ถึงรังของศัตรูด้วยซ้ำ ทั้งสามตายอย่างสูญเปล่า… 

  หานซวี่ถาม  โม๋อู่นำได้ไหม? 

  ฟางผิงยังคงลังเลอยู่ครู่หนึ่งจนกระทั่งเขาเห็นจินเหล่ยเดินกะเผลกมา เขาจึงกล่าวขึ้นมาฉับพลัน  เอาล่ะ ตกลง ฝ่ายเราจะส่งผู้ฝึกยุทธขั้นสาม 3 คนกับขั้นสองสูงสุด 7 คนไป ตั้งเป็นทีม 10 คน 

   เดี๋ยวเราจะบุกโจมตีด้วยกันซึ่งๆหน้านี่แหละ! 

   ตอนนี้พวกเรายังมีปราณและเลือดเต็มเปี่ยม ต่อให้เจอกับศัตรูที่แข็งแกร่ง เราก็ยังมีพลังสู้! 

   ถ้าเราชักช้าอยู่อีก เราจะรักษาระดับความแข็งแกร่งในตอนนี้ไว้ไม่ได้! 

  หานซวี่พยักหน้า  จิงอู่จะทำแบบเดียวกัน เราจะรวมทีม 30 คนแล้วแบ่งออกเป็น 3 กลุ่มเล็ก จิงอู่จะโจมตีประตูหลักของหมู่บ้าน นายจัดการจากด้านข้างทั้งสองฝั่ง จากนั้นเราจะล้างบางพวกมันด้วยกัน! 

   คนอื่นโอบล้อมหมู่บ้านทั้งสามฝั่ง ต่อให้นายบีบบังคับศัตรูขึ้นไปบนเขา นายก็ยังจำเป็นต้องเพิ่มขวัญกำลังใจ! 

  ฟางผิงพยักหน้า เขาไม่ได้พูดอะไรอีก แต่กลับเดินไปหาพวกหยูเซี่ยงฮวาแทนเพื่อหารือกลยุทธ์ใหม่

  กลยุทธ์เดิมอ้างอิงจากสมมติฐานว่าศัตรูรอพวกเขาโจมตีอย่างโง่เขลา ตอนนี้เห็นได้ชัดแล้วว่ามันไม่ได้เป็นไปตามแผน

  นี่เป็นครั้งแรกเช่นกันที่ฟางผิงมีประสบการณ์การต่อสู้ขนาดใหญ่ของผู้ฝึกยุทธ

  บางทีเมื่อพูดถึงถ้ำใต้ดิน การต่อสู้ของคนหลายร้อยคนอาจไม่ใช่การต่อสู้ขนาดใหญ่ แต่สำหรับฟางผิง เขาเรียนรู้มากมายจากเรื่องนี้ มันมากเกินไปด้วยซ้ำ

  เวลานี้เขาเข้าใจจุดประสงค์ของการประเมินในระดับหนึ่งแล้ว

  นี่เป็นโอกาสที่ทุกคนจะพัฒนารูปแบบการต่อสู้เป็นของตัวเอง แทนที่จะหลับหูหลับตาเลียนแบบคนรุ่นก่อน

  ส่วนการเสียชีวิตของนักศึกษาไม่กี่คน ฟางผิงไม่รู้ว่าการเสียสละของพวกเขาจะคุ้มค่าไหม

  บางทีในสายตาของหลายๆคน เมื่อต้องประสบกับความตายด้วยตัวเองเท่านั้น ถึงจะจำบทเรียนตอนนั้นได้อย่างล้ำลึก

  เพราะไม่ว่าพวกเขาจะพูดให้ตายยังไง ความตายของคนอื่น ทุกคนอาจไม่เก็บไปคิดจริงจัง

  ‘อันที่จริง สุดท้ายคนอ่อนแอก็ยังตกเป็นเหยื่อของผู้แข็งแกร่ง คนอ่อนแอถูกกำจัด ผู้แข็งแกร่งอยู่รอด ผู้ที่ปรับตัวได้จะอยู่รอด…’ ฟางผิงครุ่นคิดในใจ ‘ถ้าเป็นอย่างนั้น ฉันอยากเป็นหนึ่งในผู้แข็งแกร่งมากกว่าเป็นคนอ่อนแอ!’

  เสียชีวิตโดยไม่รู้ตัวในการทดสอบมีค่าน้อยกว่าเสียชีวิตในถ้ำใต้ดินเสียอีก

  ‘แม้แต่ในถ้ำใต้ดิน ผู้แข็งแกร่งก็มีสิทธิ์ออกเสียง คนที่แข็งแกร่งระดับผู้บัญชาการหลี่เจิ้นก็สามารถเดินทางในถ้ำใต้ดินได้อย่างอิสระ…’

  ฟางผิงสูดหายใจลึกๆ ไม่นานนักศึกษาโม๋อู่อีก 9 คนก็มาถึง

   เดี๋ยวเราจะจู่โจมจากฝั่งขวา! ฆ่าหนึ่งก็นับหนึ่ง ถ้าฆ่าไม่ได้ก็ให้รอสัญญาณแล้วถอนตัวพร้อมกัน อย่าหนีมั่วซั่ว! 

   คนอื่นให้รออยู่ข้างนอก! พอเราปล่อยให้เข้าไป ก็เข้าไปเข่นฆ่าทันที! ถ้าเราไม่ปล่อยให้เข้าไปก็รีบถอนตัว! 

   ผู้ฝึกยุทธต้องยืดหยุ่นสูง เราไม่จำเป็นต้องเหมือนคนธรรมดาที่ต้องใช้ชีวิตมาเติมเต็ม! ยอดฝีมือที่แข็งแกร่งผู้ฝึกยุทธลัทธิชั่วที่แข็งแกร่งที่สุดเพียงคนเดียวก็กวาดล้างลัทธิชั่วได้ทั้งลัทธิ! 

  ฟางผิงคำนวณในใจคร่าวๆ หลังออกคำสั่ง ทุกคนก็เริ่มเตรียมตัวบุกโจมตี

  เมื่อจ้าวหยาง กู้เสียงและอีกหลายๆคนเตรียมตัวอยู่อีกฝั่งซ้าย ทั้งสามก็แลกเปลี่ยนสายตากัน จากนั้นฟางผิงก็แผดเสียงขึ้นมาเบาๆ  ไป! 

  สิ้นเสียงพูด ผู้ฝึกยุทธทั้งสามด้านก็พุ่งไปทางหมู่บ้านผานสืออย่างรวดเร็ว

  ก้อนหินก็เริ่มล่วงลงมาอีกครั้ง!

 

World’s Best Martial Artist

World’s Best Martial Artist

Status: Ongoing

ฟางผิงใช้เวลาครึ่งชั่วโมงในที่สุดก็ตัดสินได้ว่าเขาไม่ได้ฝันไปหรือไม่ได้ถ่ายหนัง…อย่าไร้สาระน่า ถ้าการถ่ายหนังชุบความเป็นหนุ่มของเขากลับมาได้ งั้นกองถ่ายก็คงไปถ่ายทำที่สวรรค์ได้แล้ว!

หลังยืนยันว่าเขากลับมาเกิดใหม่ ฟางผิงก็รู้สึกถึงความตื่นตระหนกก่อนจะค่อยๆยอมรับความจริง

ความจริงอะไรงั้นเหรอ? ความจริงที่ว่าเขากลับมาเกิดใหม่ในร่างตัวเองตอนเด็ก และเนื่องจากเขามีความรู้ของอนาคตติดตัวมาด้วย เขาจะทำวันนี้ให้ดีที่สุดแล้วกลายเป็นผู้ยิ่งใหญ่ในแวดวงธุรกิจ! เขาจะรวย!

นั่นเป็นความคิดของเขาจนกระทั่งเพื่อนเขามาขัดจังหวะ

“สรุปนายจะลงทะเบียนสอบวิชาการต่อสู้ไหม?”

อะไรนะ? พูดเล่นเหรอ? หรือเขาส่งบทผิด? วิชาการต่อสู้คืออะไร? ทำไมถึงมีค่าลงทะเบียนหมื่นหยวน? หัวของเขาเต็มไปด้วยประโยคคำถาม ไม่นานฟางผิงก็ตระหนักว่าเขาอาจไม่ได้โชคดีเหมือนที่เขาคิดไว้ตอนแรก…

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท