Chapter 155 : เธอต้องการอะไรล่ะหนุ่มน้อย ?
ร้านอาหารตกอยู่ในความเงียบ พวกเขาทุกคนกำลังพิจารณาเกี่ยวกับคำพูดของแม็กซ์อย่างรอบคอบ
พ่อครัวเป็นแค่คนธรรมดา แต่ร้านอาหารไม่สามารถเปิดทำการได้ถ้าหากว่าไม่มีพวกเขา
พ่อครัวส่วนใหญ่ไม่อยากถูกเรียกว่าพ่อครัวเมื่อพวกเขาเป็นเจ้าของร้านอาหารของตัวเองด้วย พวกเขาคิดว่าตัวเองเป็นมากกว่าพ่อครัว
แต่ไม่ใช่สำหรับแม็กซ์ ถึงแม้ว่าอาหารของเขาจะยอดเยี่ยม ร้านอาหารของเขาก็สวยงามและธุรกิจของเขาก็ไปได้ดีแต่เขาก็ยังเรียกตัวเองว่าพ่อครัว
ความอ่อนน้อมถ่อมตนของเขาเอาชนะใจลูกค้าได้เป็นจำนวนมาก
ไม่น่าแปลกใจที่เขาสามารถทำอาหารที่น่าทึ่งแบบนี้ออกมาได้ เขารู้จักตัวเองและรู้ว่าจุดประสงค์ในชีวิตของเขาคืออะไร เขาเป็นคู่ต่อสู้ที่น่าเกรงขาม ไมล์คิดอย่างยอมรับ
แอนดรูและเจ้าของร้านคนอื่น ๆ พยักหน้าให้กับแม็กซ์ จากนั้นพวกเขาก็เดินออกไป
ฉันแค่ใช้ประโยคหนึ่งจากหนังของสตีเฟ่น โจว1 แต่ทำไมฉันถึงรู้สึกว่าฉันได้ให้แรงบันดาลใจกับพวกเขา? แม็กซ์คิดอย่างมีความสุขแล้วเดินกลับเข้าไปในห้องครัว
เจ้าของร้านอาหารพวกนั้นไม่ได้ถามอะไรเกี่ยวกับสูตรอาหารหรือว่าเครื่องปรุงที่เขาใช้ พวกเขาทำแค่แสดงความเคารพและความเข้าใจ
ถึงอย่างนั้นพวกเขาก็อาจจะได้เรียนรู้อะไรไปสักหนึ่งหรือสองอย่างเพราะว่าพวกเขาเป็นพ่อครัวไม่ใช่ลูกค้า ๆ ทั่วไป
ฉันไม่สนใจว่าพวกเขาจะได้เรียนรู้อะไรไปหรือไม่ แม็กซ์คิดและเริ่มทำอาหารอีกครั้ง
“ฉันตั้งตารอที่จะได้กินพุดดิ้งเต้าหู้ในตอนเย็น” แอนเดรียพูด
“ฉันด้วย แล้วเธอชอบแบบหวานหรือแบบคาวเผ็ดล่ะ?” โมโยชิถาม
“แบบหวานสิ” แอนเดรียตอบ “แล้วเธอล่ะ?”
“ฉันชอบแบบคาว” มาโยชิพูดอึกอัก จากนั้นทั้งสองคนก็เงียบลง
“ไม่เป็นไรหรอก เราจะไม่เถียงกันว่าแบบไหนดีกว่า” แอนเดรียพูดออกมาอย่างงุ่มง่าม เมื่อเช้าครัสซูและอูเรี่ยนสู้กันเรื่องรสชาติของพุดดิ้งเต้าหู้ ไม่มีใครรู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นเมื่อแม็กซ์เริ่มขายมันตอนเย็นนี้
แต่แอนเดรียและโมโยชิโตมาด้วยกัน พวกเธอสนิทกันเกินกว่าจะต่อสู้กันเพื่อเรื่องไร้สาระ
…
แบรนลี่เดินเข้าไปหาครัสซูที่กำลังเดินไปที่ทางออกของลานเอเดนอย่างประหม่าและไม่สบายใจ “ท่านครัสซู”
ครัสซูหยุดเดินแล้วหันไปมอง เขาเห็นสัญลักษณ์รูปดาบและโล่สีเทาบนชุดด้านหน้าของเขา “เธอเป็นคนของวิหารสีเทา เธอต้องการอะไรล่ะหนุ่มน้อย?”
แบรนลี่นิ่งค้างไปครู่หนึ่ง เขามีอายุมากกว่า 70 ปี ไม่มีใครเรียกเขาว่า ‘หนุ่มน้อย’ มานานมากแล้ว
จากนั้นเขาก็จำได้ว่าครัสซูมีอายุมากกว่า 120 ปี เขาโตขึ้นมากับการฟังตำนานของเขา
แม้แต่อาจารย์ของเขาก็ยังเป็นแฟนตัวยงของครัสซูตั้งแต่ยังเด็ก แต่เขาไม่มีความสามารถพอที่จะเป็นนักเวทระยะประชิด หลังจากที่เขาถูกโจมตีด้วยอัศวินระดับต่ำเขาก็ละทิ้งเวทมนต์ระยะประชิดและกลายเป็นนักเวทระยะไกล
มีนักเวทระยะประชิดที่เก่งกาจอยู่ไม่มากและครัสซูเป็นคนที่เก่งที่สุดในนั้น
และเอมี่ก็กลายเป็นลูกศิษย์เพียงคนเดียวของเขา นี่เป็นข่าวใหญ่ในชุมชนเวทมนต์
ในช่วงหลายปีที่ผ่านมาครัสซูมีสภาพที่ไม่ดีนัก นักเวทหลายคนกังวลว่าเวทมนต์ของเขาอาจจะตายไปกับเขาด้วย
แม้แต่อูเรี่ยน ‘นายเหนือแห่งน้ำแข็ง’ ก็ยังรับเอมี่เป็นลูกศิษย์ของเขาด้วย ใครจะไปคิดว่ามันจะเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้น?
นักเวทบางคนอาจจะไม่สบายใจเมื่อรู้ข่าวนี้ ไม่มีใครจินตนาการได้ว่าลูกศิษย์ของพวกเขาจะแข็งแกร่งขนาดไหน
หลังจากผ่านไปหลายสิบปีเธออาจจะใช้ได้ทั้งเวทมนต์ไฟและน้ำแข็ง และต่อสู้ได้ทั้งระยะประชิดและระยะไกล คงไม่มีใครที่กล้าขวางทางเธอ
ใบหน้าของครัสซูนั้นนั้นไร้ความรู้สึก แต่ถึงอย่างนั้นแบรนลี่ก็ยังสัมผัสได้ถึงพลังของเขา “ท่านครัสซู ผมคือแบรนลี่ ผมมาที่นี่เพื่อต้อนรับท่านสู่เมืองเคออสในนามของวิหารสีเทา” เขาพูดด้วยความเคารพ “เราจะต้อนรับอย่างเป็นทางการมากกว่านี้ถ้าเรารู้ล่วงหน้าว่าท่านจะมา”
“ไม่เป็นไร ฉันไม่ได้บอกวิหารสีเทาเองเมื่อฉันมาถึงที่นี่ ฉันหวังว่าเหตุการณ์เล็ก ๆ น้อย ๆ เมื่อเช้าจะไม่ทำให้คุณเดือดร้อนมากนะ คุณอยู่ที่นั่นด้วยใช่มั้ย? คุณรายงานเรื่องนี้กับหัวหน้าของคุณหรือยัง?”
แบรนลี่ผงะ เขาไม่คิดว่าเมื่อเช้าครัสซูจะสังเกตเห็นเขา ตอนนี้เขาก็ไม่ได้ใกล้ชิดและใจดีเหมือนกับตอนที่เขาพูดคุยกับเอมี่ เขาส่ายหัวอย่างรีบเร่ง “ไม่เลยครับท่าน การต่อสู้ระหว่างท่านกับท่านอูเรี่ยนเป็นสิ่งที่น่ายินดีเสมอตราบใดที่ไม่มีใครบาดเจ็บ ผมรู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้เห็นการต่อสู้ของท่านในตอนเช้าและผมมาที่นี่เพื่อต้อนรับท่าน ถ้าหากว่าท่านต้องการอะไรท่านสามารถบอกผมมาได้เลย”
……….
สตีเฟ่น โจว / Stephen Chow : ‘สตีเฟ่น โจว’ หรืออีกชื่อหนึ่งก็คือ ‘โจวซิงฉือ’ เขาเป็นทั้งผู้กำกับ โปรดิวเซอร์ ผู้อำนวยการสร้าง ผู้เขียนบทและนักแสดงชาวฮ่องกงที่มีชื่อเสียงโด่งดัง เขาได้รับการยกย่องให้เป็น ‘เจ้าพ่อหนังตลก’ หรือ ‘King of Comedy’ ของวงการหนังฮ่องกงและเอเชียและเป็นผู้ริเริ่มหนังแนวคอมเมดี้-ดราม่า (Comedy-Drama) ในโลกภาพยนตร์