Chapter 278 : ฉันรู้สึกว่าฉันกินข้าวได้อีก 10 ถ้วย
ฉีฉี ยิ้ม “เธอน่ารักมากและเธอก็เรียกฉันว่าพี่สาว!” เธอพูดกับลูลู่ จากนั้นเธอหันไปหาเอมี่แล้วส่ายหัว “ไม่จ้ะ ฉันไม่ใช่นางไม้หรือว่านางฟ้าดอกไม้ แต่ฉันเป็นดรายแอดที่มีอายุมากกว่า 100 ปีแล้ว”
ลู่ลู่มองไปที่ฉีฉีและเอมี่ด้วยรอยยิ้มกว้าง
“คุณมีอายุมากกว่า 100 ปีแล้วเหรอ?” เอมี่รู้สึกทึ่ง “แต่คุณยังดูเด็กและน่ารักมาก”
“ขอบคุณนะ ฉันคิดว่าฉันแก่แล้วล่ะ” ฉีฉียิ้มและลูบหัวเอมี่ “หนูชื่ออะไรเหรอจ้ะ?”
เอมี่พบว่าเธอเป็นมิตรมากจริง ๆ “หนูชื่อเอมี่และนี่คือลูกเป็ดขี้เหร่”
“ชื่อของหนูเพราะเหมาะกับหนูมากเลย หนูเรียกฉันว่าพี่สาวฉีฉีได้นะ แต่ดูเหมือนว่ามันจะเป็นแมวนะ ทำไมหนูถึงเรียกมันว่าลูกเป็ดขี้เหร่ล่ะ?”
“มันออกมาจากไข่ดังนั้นมันต้องเป็นลูกเป็ดแน่ ๆ แต่มันน่าเกลียดมากหนูเลยเรียกมันว่าลูกเป็ดขี้เหร่ ถึงแม้ว่าตอนนี้มันจะน่าเกลียด แต่เมื่อมันโตขึ้นมันจะกลายเป็นหงส์…” เอมี่ก้มหน้ามองลูกแมวและทำราวกับว่าเธอกำลังมองอาหารจานโปรด
“เหมียว เหมียว” ลูกเป็ดขี้เหร่ร้องออกมาอย่างหวาดกลัวในทันที
“น่ารักมาก! มาเถอะ ขอฉันกอดหน่อย” ฉีฉีขอ
“คุณอยากการกอดลูกเป็ดขี้เหร่เหรอคะ?”
“ไม่ใช่จ้ะ หนูน่ารักกว่ามันมากเลย ฉันอยากกอดหนู” ฉีฉีพูดพร้อมกับมองเอมี่ด้วยความรัก
เอมี่ลังเลอยู่ครู่หนึ่งแล้วพยักหน้า “ได้ค่ะ” เธอดูใจดีและอ่อนโยนมาก
“ขอบคุณนะ” ฉีฉีค่อย ๆ ยกเธอขึ้นมาบนตักแล้วลูบหัวลูกแมวเบา ๆ “ลูกเป็ดขี้เหร่เองก็น่ารักเหมือนกัน พ่อของหนูโชคดีมากที่มีลูกสาวที่น่ารักแบบหนู”
ปกติแล้วลูกเป็ดขี้เหร่จะหลบเลี่ยงคนแปลกหน้าแต่ไม่ใช่ในตอนนี้ มันเพลิดเพลินไปกับการสัมผัสของเธอแล้วมันยังถูหัวของมันกับมือของเธอด้วยตัวเองด้วย
“ไม่ค่ะ หนูโชคดีที่มีพ่อ พ่อเป็นพ่อครัวที่ยอดเยี่ยมและหล่อมาก พ่อของหนูเป็นผู้ชายที่ดีที่สุดในโลก” เอมี่พูดด้วยน้ำเสียงจริงจัง
ฉีฉี หัวเราะ “ฉันแน่ใจว่าเขาเป็นแบบนั้น มันคงจะดีถ้ามีพ่อที่เก่งในเรื่องการทำอาหาร หนูได้กินอาหารอร่อย ๆ ทุกอย่างเลย”
ลู่ลู่กำมือของเขาและดูเศร้าเล็กน้อย ปากของเขาเปิดและปิด
“ข้าวไก่ตุ๋นได้ของคุณแล้วค่ะ กินให้อร่อยนะคะ” ยาเบะมิยะพูดพร้อมกับวางอาหารลงตรงหน้าฉีฉี เธอรู้สึกแปลกใจเมื่อเห็นว่าเอมี่ถูกกอดไว้ในอ้อมแขน ฉันคิดว่าเอมี่ชอบให้แม็กซ์กอดคนเดียวซะอีก
เอมี่ลงจากตักของเธอ “ลองกินดูสิคะพี่สาวฉีฉี มันอร่อยมากเลยนะ”
“กลิ่นของมันน่ากินมาก! มันมีดวงจันทร์เล็ก ๆ อยู่ในเมล็ดข้าวด้วย!” ดวงตาของฉีฉีเป็นประกายด้วยความประหลาดใจ “กินกันเถอะลู่ลู่”
ลู่ลู่ส่ายหัว “ฉันจะดูเธอกินก่อน ฉันจะกินหลังจากที่เธอกินอิ่มแล้ว” ดวงตาของเขาเต็มไปด้วยความรักและความห่วงใย
“ลู่ลู่? ชื่อของคุณแปลกมากเลยคุณหมีใหญ่” เอมี่พูดกับลู่ลู่
ฉีฉีหัวเราะ “หมีใหญ่ ฉันชอบชื่อเล่นนี้นะ ขอบคุณนะเอมี่” เธอตักไก่ขึ้นมาแล้วยื่นไปที่ปากของเขา “กินนี่สิที่รัก มันอาจจะไม่มีอะไรเหลือหลังจากที่ฉันอิ่มแล้ว”
“ฉันไม่คิดว่าเธอจะกินได้หมด” เขาพูดแต่เขาก็อ้าปากรับ ดวงตาของเขาเป็นประกายขึ้นมา
พวกเขาเคยไปมาหลายที่ในหลายช่วงปีที่ผ่านมา ทุกครั้งที่พวกเขามาถึงที่ใหม่ ๆ พวกเขาจะมองหาร้านอาหารที่จะกินเพราะว่าฉีฉีเป็นนักชิม บางครั้งพวกเขาจะถูกพบหรือถูกซุ่มโจมตีเพราะเรื่องนี้ แต่ลู่ลู่ก็ตามใจเธอเสมอ
เขาเคยกินอาหารมาหลายอย่าง แต่ไม่มีอะไรเทียบกับสิ่งนี้ได้เลย มันอยู่ในระดับที่แตกต่างกันโดยสิ้นเชิง
ฉีฉีรู้ว่าลู่ลู่เป็นกลางเรื่องอาหารที่เข้าไปในปากของเขาดังนั้นเมื่อเธอมองไปที่ใบหน้าของเขาเธอจึงบอกได้ว่าอาหารนั้นอร่อย “มันอร่อยมั้ย?” เธอถาม
“ใช่ มันอร่อยมาก เริ่มกินได้แล้วล่ะ” ลู่ลู่ตอบด้วยรอยยิ้มในขณะที่เขาผลักชามไปทางฉีฉี
“งั้นก็กินด้วยกันสิ”
“ไม่ล่ะ ฉันจะดูเธอกิน” เขาลูบหัวเธอ “เธอจะชอบมันแน่”
“ตกลง” เธอตักไก่เข้าปาก เธอเคยกินไก่เพลิงมาเป็นจำนวนมากเพราะบ่อยครั้งที่พวกเขาต้องเดินทางผ่านป่าแต่เธอไม่เคยคิดเลยว่ามันจะอร่อยได้มากขนาดนี้
จากนั้นเธอก็ตักเห็ดหอมเข้าปากไปหนึ่งชิ้น ซุปนี่อร่อยจนทำให้คนเสพติดจริง ๆ!
เธอตักซุปใส่ข้าวแล้วตักข้าวเข้าปากหนึ่งช้อน
“มันอร่อยมาก! ฉันรู้สึกว่าฉันกินข้าวได้อีก 10 ถ้วย!” ฉีฉีพูดด้วยความตื่นเต้น
ลู่ลู่ยิ้ม “กินเท่าที่เธอต้องการเลย” เขาเอื้อมมือมาหยิบข้าวที่ติดแก้มของเธอออกแล้วเอามันเข้าปากตัวเอง “ขอโทษนะ เราอยากได้ไก่ตุ๋นอีกชามกับข้าวอีก 10 ถ้วย” เขาพูดกับยาเบะมิยะ