Chapter 284 : เธอจำแม็กซ์และเอมี่ได้
“ทางไหนแบล็กกี้?” แอนเซียมถาม พวกเขาต่างก็มองชายวัยกลางคนด้วยความตื่นเต้น
“ตะวันตก ตะวันออก เหนือและใต้” แบล็กกี้พูดอย่างจริงจังพร้อมกับชี้ไปตามทิศต่าง ๆ
แอนเซียมตบหัวเขา “งั้นนายบอกแค่ว่าพวกเขาอยู่ในทวีปนี้ก็ได้!” เขาพูดด้วยความโกรธ
“หัวหน้า ผมกำลังบอกว่าพวกเขาอาจจะยังอยู่ในลานนี้ก็ได้” แบล็กกี้ตอบด้วยท่าทางเศร้าโศก
แอนเซียมพยักหน้าอย่างใช้ความคิด “จำรายการพวกนี้เอาไว้แล้วไปกันเถอะ!” เขาบอกกับคนของเขา
พวกเขาพบว่าพวกเขากำลังตกที่นั่งลำบาก พวกเขาไม่สามารถจำอะไรได้มากมายนัก
“ผมเจอใบรายการอยู่ตรงนี้ครับหัวหน้า” คนที่อายุน้อยที่สุดพูดพร้อมกับหยิบแผ่นกระดาษสีทองอมแดงขึ้นมาจากข้าง ๆ กล่องบัตรเลือกตั้ง
“ดี”แอนเซียมชม ไปกันเถอะ!” อย่าลืมมองไปรอบ ๆ ด้วยล่ะ!” พวกเขาเดินไปที่ร้านอาหารดูคัส
“พวกเขาดูน่าสงสัยมากเลยนะครับหัวหน้า” ลิงพูดกับบาร์เซล
“หนึ่งในพวกเขาต้องการที่จะฆ่าผู้หญิงคนหนึ่งในตอนนี้” บาร์เซลพูดอย่างเคร่งเครียด ฉันรู้สึกได้ถึงความกระหายเลือดในตัวของพวกเขา พวกเขาเป็นนักฆ่า เป็นนักฆ่าที่อันตราย คนที่มีหนวดเคราบนใบหน้าอาจจะแข็งแกร่งกว่าฉัน
นักล่าพวกนี้จะจากไปในเวลาไม่นานหลังจากที่พวกเขาเข้ามาในเมือง นั่นเป็นสาเหตุที่อัตราการเกิดอาชญากรรมของเมืองนี้น้อยกว่าของเมืองโรดูถึง 10 เท่า
“ลิง ไปที่ร้านอาหารมามี่ บอกท่านแบรนลี่เกี่ยวกับเรื่องนี้เมื่อเขาออกมา พวกมันอาจจะไม่ได้ก่ออาชญากรรมอะไร แต่ฉันกลัวว่าพวกมันจะลงมือในเร็ว ๆ นี้ พวกมันอันตรายมาก” บาร์เซลกล่าว
“ครับหัวหน้า!” ลิงรีบวิ่งไปที่ร้านอาหารในทันที หัวหน้าบอกว่าพวกมันอันตรายดังนั้นพวกมันจะต้องจัดอยู่เหนือกว่าระดับ 5 ประชากรบริเวณนี้หนาแน่นมาก เราต้องทำให้แน่ใจว่าพวกเขาจะไม่ทำร้ายใคร
…
“ตอนบ่ายอย่าลืมไปรับเอมี่ด้วยนะ” ครัสซูพูดกับแม็กซ์หลังจากที่เขาจ่ายเงิน
แม็กซ์พยักหน้า “ไม่ลืมครับ”
“บ๊ายบายค่ะอาจารย์เคราครึ่ง!” เอมี่พูดพร้อมกับโบกมือให้ครัสซู
“บ๊ายบายเอมี่” ครัสซูยิ้มแล้วก็จากไป
ในที่สุดช่วงเวลาอาหารกลางวันแสนวุ่นวายก็จบลง “เธอแจกบัตรลงคะแนนไปกี่ใบ?” แม็กซ์ถามแซลลี่
แซลลี่นับจำนวนบัตรที่ยังเหลืออยู่ในมือของเธอ “380 ใบค่ะ” เธอตอบอย่างใจเย็น ถึงอย่างนั้นเธอก็ไม่สามารถซ่อนความตื่นเต้นภายในดวงตาของเธอได้
แม็กซ์พยักหน้า บัตรลงคะแนน 2,000 ใบไม่มากพอ ช่วงเวลาอาหารเย็นนั้นยาวนานและยุ่งมาก ฉันคิดว่าวันนี้เราแจกบัตรลงคะแนนได้มากกว่า 1,000 ใบ
“อาหารทั้งห้าอย่างนี้น่าจะขึ้นไปได้ถึง 10 อันดับแรก ไม่มีใครทำอาหารเก่งไปกว่าคุณอีกแล้ว” ยาเบะมิยะกล่าว
แม็กซ์ยิ้ม “มันไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะขึ้นไปถึง 10 อันดับแรก” มีคนจำนวนมากมาที่ลานเอเดนนี้ทุกวัน มีร้านอาหารขนาดใหญ่มากมายที่แจกบัตรลงคะแนนได้หลายพันใบต่อวันและอาหารบางจานของพวกเขาก็แพงกว่าของฉันมาก
แม็กซ์ไม่สนใจเรื่องการจัดอันดับตราบใดที่อาหารของเขาติดอยู่ใน 30 อันดับแรก ในอัตรานี้เขาเชื่อว่าเขาสามารถทำได้ เขามีลางสังหรณ์ว่าเขาจะได้รับภารกิจแบบนี้อีกในไม่ช้า ดังนั้นเขาจึงไม่อยากให้อันดับของเขาสูงเกินไป ไม่งั้นระบบอาจจะขอให้เขาเป็นอันดับหนึ่งในการแข่งขันครั้งต่อไป
“พ่อคะ อาหารทุกอย่างของพ่อควรได้ที่หนึ่ง พวกทชมันอร่อยมาก” เอมี่ชม
แม็กซ์ยิ้มและลูบหัวเธอ “วันหนึ่งพวกมันจะได้เป็น” เขาอุ้มเธอขึ้นมาไว้ในอ้อมแขนของเขา “ไปงีบกันเถอะ เดี๋ยวพ่อจะพาหนูไปโรงเรียน”
“ค่ะพ่อ” เอมี่วางหัวของเธอไว้บนไหล่ของเขาแล้วหลับตาลง
“เหมียว เหมียว” ลูกเป็ดขี้เหร่ตะกุยขาของแม็กซ์และเงยหน้ามองเขาด้วยใบหน้าที่น่าสงสาร มันกลัวที่จะถูกทิ้งเอาไว้ข้างหลัง
“ฉันเกือบจะลืมแกแล้ว” แม็กซ์ย่อตัวลงแล้วอุ้มมันขึ้นมา “ฉันฝากพวกเธอจัดการส่วนที่เหลือด้วยนะ” เขาพูดกับยาเบะมิยะและแซลลี่ “พวกเธอจะนั่งพักกันก่อนก็ได้นะถ้ายังเหนื่อยอยู่”
“ค่ะหัวหน้า” พนักงานเสิร์ฟสาวทั้งสองคนของเขาพยักหน้าและมองดูเขาเดินขึ้นไปชั้นบน
“เธอทำงานได้ดีขึ้นแล้วไอช่า เธอเรียนรู้ได้เร็วมาก” ยาเบะมิยะพูดและยกนิ้วให้เธอ
“ขอบคุณนะ แต่ฉันยังมีอีกหลายอย่างที่ต้องเรียนรู้จากเธอ” แววตาของแซลลี่เต็มไปด้วยความเบิกบานใจ
เมื่อแม็กซ์และเอมี่กลับลงมาที่ชั้นล่าง ร้านอาหารก็สะอาดเรียบร้อยแล้ว แซลลี่กลับไปแล้วและยาเบะมิยะก็นอนฟุบอยู่บนโต๊ะ
“เดินเงียบ ๆ และอย่าปลุกเธอนะ เธอเหนื่อยมาก” แม็กซ์กระซิบ
เอมี่พยักหน้าและเอานิ้วชี้ไปที่ริมฝีปากเพื่อบอกให้ลูกเป็ดขี้เหร่เงียบ พวกเขาเดินออกไปเบา ๆ พร้อมกับจักรยาน
มันเลยช่วงเวลาอาหารกลางวันมาแล้วและมีคนอยู่ไม่มากที่เดินอยู่บนถนน แต่พวกเขาก็ต้องจ้องมองเมื่อพวกเขาขี่จักรยานผ่านไป
บนชั้นสองของโรงน้ำชามีหญิงสาวคนหนึ่งสวมชุดสีขาวเหมือนกับที่เธอสวมเมื่อครั้งที่เธอพบกับแม็กซ์ที่ประตูฝั่งตะวันตก เธอจำแม็กซ์และเอมี่ได้