A Stay-at-home Dad’s Restaurant In An Alternate World – ตอนที่ 302

ตอนที่ 302

Chapter 302 : โร่วเจียหมัวศักดิ์สิทธิ์!

ครัสซูรู้สึกตลกมากกับสีหน้าไม่พอใจที่เอมี่แสดงออกมา แต่เขาก็ตอบอย่างจริงจังว่า “ใครบอกแบบนั้น? แค่เอมี่ตัวน้อยของเราโยนลูกไฟออกไปแค่ลูกเดียวหมาน้อยพวกนั้นก็ถูกจัดการจนหมดแล้ว”

“จริงเหรอคะ?” เอมี่รู้สึกสงสัยเล็กน้อย ถึงแม้ว่าเธอจะไม่ได้ลอง แต่หมาตัวใหญ่พวกนั้นดูดุร้ายมากและเธอก็ไม่รู้ว่าคาถาลูกไฟจะเพียงพอสำหรับการจัดการพวกมันมั้ย

“แน่นอน! แต่ยังไม่ใช่ตอนนี้นะ ตราบใดที่หนูยังเรียนรู้เวทมนตร์จากฉันอย่างขยันขันแข็ง อีกไม่นานหนูก็จะระเบิดหมาน้อยพวกนั้นได้ด้วยเวทมนตร์ลูกไฟของหนู” ครัสซูพยักหน้าอย่างเอาจริงเอาจังก่อนที่จะเขายิ้มออกมา “แน่นอนว่าถ้าหนูอยากใช้ไม้เท้าของหนูฟาดหัวพวกมันนั่นก็เป็นวิธีที่ดีเหมือนกัน”

“เอาล่ะ หนูจะให้ความสำคัญกับการเรียน ถ้าพวกมันกลับมาหนูจะทุบหัวพวกมัน!” เอมี่พยักหน้าอย่างจริงจังก่อนที่สายตาของเธอจะตกลงไปที่ถ้วยพุดดิ้งเต้าหู้ ทันใดนั้นดวงตาของเธอก็เป็นประกายขึ้นมาจากนั้นเธอก็หันไปหาครัสซูด้วยความยินดีบนใบหน้าของเธอ “อาจารย์ นี่สำหรับหนูเหรอคะ?”

“หนูยังไม่อิ่มเหรอ?” ครัสซูถามด้วยสีหน้าแปลก ๆ

“หนูอิ่มแล้ว แต่หนูโกรธมากและนั่นทำให้หนูหิวขึ้นมาอีก ดังนั้นหนูควรกินมัน คืนนี้หนูยังไม่ได้กินพุดดิ้งเต้าหู้แบบคาวเลย” เอมี่คว้าถ้วยขึ้นมาและกินมันด้วยความอิ่มเอมใจ

“…” ครัสซูส่ายหัวด้วยรอยยิ้มจนใจ แต่มันก็ดีสำหรับเขาที่ได้เห็นเธอเพลิดเพลินไปกับอาหารของเธอ ดังนั้นเขาจึงหยิบพุดดิ้งเต้าหู้แบบหวานของเขาขึ้นมากินต่อ

“เอมี่ นี่เป็นเกราะเวทมนตร์ที่สามารถใช้ได้สามครั้ง ถ้าหนูตกอยู่ในอันตรายให้ใช้ลูกไฟขนาดเล็กเผาลูกปัดนี่แล้วโล่เวทมนตร์จะกางออกมาด้วยตัวของมันเองเพื่อปกป้องหนู” ครัสซูหยิบสร้อยข้อมือคริสตัลสีฟ้าที่สวยงามออกมาแล้ววางลงบนข้อมือของเอมี่ มันมีลูกปัดสีแดงเล็ก ๆ ที่มีขนาดพอ ๆ กับปลายนิ้วก้อยของเธออยู่ตรงกลาง มีสัญลักษณ์ที่ซับซ้อนบางอย่างถูกจารึกไว้ภายใน ตัวอักษรมีขนาดเล็กมากและทำให้มันดูมีความลึกลับและมนต์ขลัง

ลูกค้าทุกคนต่างก็รู้สึกอิจฉาเล็กน้อยเมื่อได้เห็นสร้อยข้อมือเส้นใหม่ของเอมี่ โล่เวทมนตร์ที่ถูกสร้างขึ้นมาโดยนักเวทที่ทรงพลังจะมีประโยชน์มากอย่างแน่นอน นอกจากนี้มันยังพกพาสะดวกและเบามาก พวกเขาทุกคนต่างก็อยากมีอาจารย์ที่รอบคอบและทรงพลังแบบนี้

“มันฟังดูดีมาก! หนูขอลองได้มั้ยคะ?” ดวงตาของเอมี่เป็นประกายขึ้นมาพร้อมกับการแสดงออกอย่างกระตือรือร้นในขณะที่เธอมองไปที่สร้อยข้อมือ

“ไม่ใช่ตอนนี้ หนูต้องรอจนกว่าหนูจะตกอยู่ในสถานการณ์ที่เป็นอันตรายก่อนที่จะใช้งานมัน หนูใช้งานมันได้แค่สามครั้งเท่านั้น ดังนั้นอย่าทำให้โอกาสพวกนั้นเสียเปล่า ถ้าฉันจะสร้างอันใหม่ฉันจะต้องรอวัสดุที่ขนส่งมาจากเมืองโรดู” ครัสซูรีบหยุดเธอไม่ให้ทดลองใช้สร้อยข้อมือ โล่เวทมนตร์สามารถปกป้องเธอจากการโจมตีทุกชนิดที่มีความรุนแรงต่ำกว่าระดับ 9 เป็นระยะเวลาสามนาที อย่างที่บอก มันเปิดใช้งานได้แค่สามครั้งเท่านั้นและวัสดุที่ใช้รวมถึงกระบวนการผลิตนั้นซับซ้อนมาก

“ก็ได้ค่ะ ขอบคุณนะคะอาจารย์เคราครึ่ง” เอมี่พยักหน้าและพูดขอบคุณครัสซู

“ไม่เป็นไร” ครัสซูโบกมือด้วยรอยยิ้ม เขามีความสุขทุกครั้งที่ได้สปอยลูกศิษย์ตัวน้อยของเขา

หลังจากที่กินพุดดิ้งเต้าหู้เสร็จครัสซูก็จ่ายค่าอาหารแล้วเดินออกไป ซาเจราสออกไปที่ไหนสักที่แต่ไม่นานเขาก็พาคนของเขากลับมาที่ร้านอาหาร อย่างไรก็ตามมีแค่ซาเจราสเท่านั้นที่เข้ามาในร้านอาหารพร้อมกับเก้าอี้เหล็กในมือ ลูกค้าที่นั่งอยู่ที่โต๊ะใกล้กับประตูหลีกทางให้ และเขาก็นั่งลงที่โต๊ะพร้อมเก้าอี้พับ

“สั่งอาหารเลยมั้ยคะ?” ยาเบะมิยะเดินเข้าไปหาเขาด้วยรอยยิ้ม ก่อนหน้านี้ซาเจราสส่งมนุษย์หมาป่าบินออกไปด้วยเก้าอี้เหล็กของเขาและนำกลุ่มปีศาจลาวาเข้าโจมตีกลุ่มมนุษย์หมาป่าเพื่อช่วยพวกเธอ ดังนั้นยาเบะมิยะจึงมีความประทับใจที่ดีมากกับปีศาจลาวาที่ดูน่ากลัวแต่ใจดีคนนี้

จากนั้นเธอก็เหลือบมองปีศาจลาวาคนอื่นที่ยืนอยู่ข้างนอกร้านอาหารและคิดกับตัวเองอย่างสงสัย ในร้านอาหารยังมีโต๊ะว่างอยู่ ทำไมพวกเขาถึงไม่เข้ามานั่งข้างใน?

“ฉันอยากได้โร่วเจียหมัว 30 อัน” ซาเจราสตอบด้วยรอยยิ้มอาย ๆ

ทุกคนในร้านอาหารต่างก็หันมามองเขาอย่างพร้อมเพรียงเมื่อได้ยินว่าโร่วเจียหมัว 30 อัน! พวกเขาไม่เคยเห็นใครสั่งอาหารมากขนาดนี้ในครั้งเดียวมาก่อน

“30 อัน?” ยาเบะมิยะเองก็ผงะไปเล็กน้อย ปกติซาเจราสจะสั่งโร่วเจียหมัวแค่ 11 อันเท่านั้น

“ใช่แล้วล่ะ ตามประเพณีของพวกเราปีศาจลาวา นักรบที่เก่งกาจที่สุดในการต่อสู้จะต้องได้รับรางวัล วันนี้พวกเขาทุกคนทำได้ค่อนข้างดี” ซาเจราสพยักหน้าด้วยรอยยิ้มและหันไปมองปีศาจลาวาที่รออยู่ที่ด้านนอกร้านอาหาร ความพึงพอใจปรากฎอยู่บนใบหน้าของเขา

“ได้ค่ะ รอสักครู่นะคะ ยังไงก็ตามถ้าพวกเขาจะกินอาหารพวกเขาสามารถเข้ามานั่งข้างในได้นะคะ” ยาเบะมิยะเตือนด้วยรอยยิ้ม

“ไม่เป็นไร ปล่อยให้พวกเขากินอยู่ข้างนอกเถอะ ถ้าพวกเขาเข้ามาพวกเขาอาจจะทำให้ลูกค้าคนอื่น ๆ กลัว ซาเจราสส่ายหัวด้วยรอยยิ้มอาย ๆ การทำให้ลูกค้าคนอื่น ๆ กลัวเป็นแค่เหตุผลรอง เขากลัวมากว่าหนึ่งในปีศาจลาวาจะวางเพลิงร้านอาหารโดยไม่ตั้งใจ ซึ่งในกรณีนั้นเขาจะไม่สามารถจ่ายค่าเสียหายได้

“งั้นก็ได้ค่ะ” ยาเบะมิยะไม่ได้เซ้าซี้อะไรต่อ ร้านไม่ได้มีกฎว่าโร่วเจียหมัวต้องกินในร้านเท่านั้น เธอหันหลังกลับไปแล้วเดินไปที่ห้องครัว

แม็กซ์ยิ้มหลังจากที่ได้ยินออเดอร์ของซาเจราสและกล่าวว่า “ฉันจะให้โร่วเจียหมัวกับพวกเขา 36 อันแทนคำขอบคุณของฉัน นั่นจะทำให้พวกเขาแต่ละคนได้กินเพิ่มอีกหนึ่งอัน”

เขามีความประทับใจที่ดีกับปีศาจลาวาเหล่านี้ และเขารู้สึกประทับใจมากเมื่อพวกเขาก้าวเข้ามาและตะโกนว่า ‘เพื่อโร่วเจียหมัว!’

“คีล โร่วเจียหมัวศักดิ์สิทธิ์นี่อร่อยจริง ๆ เหรอ?” มาร์คซาถามคีลที่กำลังรออยู่ด้วยกันด้วยความคาดหวังที่ส่องประกายอยู่ในแววตา

“มันไม่ใช่แค่อร่อย นายจะรู้เมื่อนายได้กินมัน มันอร่อยจนเสพติดเลยล่ะ” คีลตอบด้วยรอยยิ้มลึกลับ

“ตอนนี้ฉันเฝ้ารอจริง ๆ” คอสซัสลูบหัวล้าน ๆ ของเขาด้วยรอยยิ้มขี้อายและกระตือรือร้น

เอมี่ดึงเก้าอี้ออกมาแล้วนั่งลงที่ทางเข้าร้านอาหารพร้อมกับลูกเป็ดขี้เหร่ในอ้อมแขน จากนั้นเธอก็มองไปที่ปีศาจลาวาและเริ่มตั้งฉายาให้กับพวกเขา “หัวล้านใหญ่ และหัวล้านเบอร์ 2, 3, 4…”

คีลและคนอื่น ๆ ต่างก็มีสีหน้าแปลก ๆ แต่หัวหน้าของพวกเขายอมรับชื่อเล่นหัวล้านใหญ่ของเธอแล้ว พวกเขาจะทำอะไรได้?

“โร่วเจียหมัวของคุณได้แล้วค่ะ” หลังจากนั้นไม่นานยาเบะมิยะก็เดินออกมาจากห้องครัวพร้อมกับภูเขาโร่วเจียหมัวเล็ก ๆ เธอวางถาดโร่วเจียหมัวลงบนโต๊ะด้วยรอยยิ้มและกล่าวว่า “ขอบคุณสำหรับความช่วยเหลือก่อนหน้านี้ของพวกคุณ หัวหน้าของเราขอมอบโร่วเจียหมัวให้กับพวกคุณคนละหนึ่งอันฟรี”

“เขาขอบคุณฉัน” ดวงตาของซาเจราสเป็นประกายขึ้นในขณะที่เขาหยิบโร่วเจียหมัว 6 อันของตัวเองออกมาจากถาด

ยาเบะมิยะถือถาดออกไปข้างนอกและแจกจ่ายโร่วเจียหมัวที่เหลือให้กับปีศาจลาวาคนอื่น ๆ

“กลิ่นของเนื้อหอมมาก นี่คือโร่วเจียหมัวศักดิ์สิทธิ์ในตำนานใช่มั้ย?” ดวงตาของคัลแซคเป็นประกายในขณะที่เขามองไปที่โร่วเจียหมัวในมือ

“พวกมันดูน่าอร่อยมาก แต่มันเล็กไปหน่อย ฉันกินแค่สองคำก็หมดแล้ว” คอสซัสฉีกถุงกระดาษออกและกัดโร่วเจียหมัวเข้าไปครึ่งอันในคำเดียว

ปีศาจลาวาคนอื่น ๆ ต่างก็กัดโร่วเจียหมัวเข้าไปคำใหญ่เพื่อเติมพลังที่พวกเขาใช้ในการต่อสู้

“อร่อย! ความรู้สึกนี้! รู้สึกเหมือนกับว่ามีอะไรบางอย่างกำลังจะออกมาจากร่างกายของฉัน!”

ปีศาจลาวาทุกคนที่ได้กินโร่วเจียหมัวเป็นครั้งแรกต่างก็รู้สึกงุนงง

“อ๊าาา!”

พวกเขาทุกคนคำรามออกมาเกือบจะพร้อมเพรียงกันในขณะที่เปลวไฟปะทุออกมาจากร่างกายของพวกเขาและทำให้ดูเหมือนว่ามีลูกไฟถูกจุดขึ้นที่หน้าร้านอาหาร

“ว้าว มันดูเท่มาก…” เอมี่อ้าปากค้างเล็กน้อยเมื่อเธอได้เห็นท่าทางที่แปลกแต่ดูดีนี้

A Stay-at-home Dad’s Restaurant In An Alternate World

A Stay-at-home Dad’s Restaurant In An Alternate World

Status: Ongoing

ที่เมืองเคออส ณ ทวีปนอร์แลนมีร้านอาหารแปลกๆอยู่ร้านหนึ่ง

ที่นี่พวกเอลฟ์กำลังกินเคบับอย่างตะกละตะกลามโดยไม่คำนึงถึงมารยาทที่ควรมี มังกรยักษ์กำลังนั่งอยู่หน้าหม้อไฟอย่างใจจดใจจ่อ ปีศาจกำลังนั่งกินแดงโก้ที่ดูน่าอร่อย…

อยู่ที่นี่พวกเขาต้องทำตามกฎที่แปลกประหลาดและเข้มงวด แต่นั่นไม่ได้ทำให้พวกเขาเลิกมาต่อแถวเพื่อกินอาหารที่ร้านอาหารนี้เลย

พวกเขาพูดถึงความศักดิ์สิทธิ์ของอาหารที่นี่และความสามารถของพ่อครัวที่แสนวิเศษ ที่นี่ไม่มีใครกล้ากินแล้วหนี

“จ่ายเงินมาเดี๋ยวนี้ !” เด็กหญิงตัวน้อยพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงอันแสนน่ารักของเธอ มังกรตัวสูงห้าเมตรถึงกับต้องตัวสั่นเมื่อถูกเธอจ้องมอง

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท