Chapter 315 : มรดก
สายตาของฉีฉีและลู่ลู่เต็มไปด้วยความตกใจ ถึงแม้ว่าพวกเขาจะซ่อนตัวอยู่ในทวีปนี้มานานกว่าร้อยปีแต่พวกเขาเองก็เป็นนักเวท ดังนั้นพวกเขาจึงเคยได้ยินชื่อของบุคคลที่มีชื่อเสียงที่สุดในโลกเวทมนตร์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งพวกเขาคุ้นเคยกับการต่อสู้ที่โด่งดังระหว่างไฟและน้ําแข็ง
ตอนนี้นายเหนือแห่งน้ําแข็งซึ่งเป็นตํานานกําลังนั่งอยู่ตรงหน้าพวกเขา
เมื่อคืนนี้พวกเขาได้เห็นเวทมนตร์น้ําแข็งที่น่ากลัวของอูเรียนแล้ว แต่ทั้งคู่นึกไม่ถึงว่าเขาจะเป็นนักเวทในตํานานคนนั้น
อย่างไรก็ตามพวกเขาไม่มีเวลาที่จะประหลาดใจกับตัวตนของอูเรี่ยนเนื่องจากความสนใจของ พวกเขาถูกดึงดูดไปด้วยกล่องสีเขียวขนาดเล็กในมือของอูเรี่ยนนี้ลังเลอยู่ครู่หนึ่งก่อนที่จะเดินไปข้างหน้าและรับกล่องนั้นมาพร้อมกับน้ําตาที่คลออยู่ในดวงตาของเธอ
กล่องใบนี้ค่อนข้างเก่าและมีสัญลักษณ์แปลก ๆ สลักเรียงรายเอาไว้อยู่บนพื้นผิวของมัน สัญลักษณ์พวกนี้ค่อนข้างวุ่นวายและไก่เขียแต่พวกมันก็ทําให้มีและลู่สู่รู้สึกคิดถึงด้วย
นี่คือภาษาของดรายแอด ตัวอักษรพวกนี้เป็นเอกลักษณ์ของพวกเขาและพวกเขาไม่เคยได้เห็นพวกมันอีกเลยนับตั้งแต่ที่พวกเขาออกมาจากในท์ฟอเรสต์เมื่อร้อยกว่าปีก่อน
นี้ลูบไปที่ลายเป็นที่มุมล่างขวาของกล่องเบา ๆ เธอรู้สึกตื่นเต้นแต่ก็เศร้าสลด “มันเป็นของผู้อาวุโสดรายแอด”
“เขามอบให้ฉันเมื่อร้อยกว่าปีก่อน น่าจะมีตราประทับพิเศษของตรายแอดอยู่บนนั้น ฉันไม่เคยเปิดกล่องเลย” อูเรี่ยนกล่าว
นี้พยักหน้าและอ่านข้อความบนกล่องอย่างรวดเร็ว เธอหงายฝ่ามือซ้ายขึ้นแล้วต้นกล้าขนาดเล็กที่มีใบสีเขียวอยู่ใบหนึ่งที่ปลายยอดก็ปรากฏขึ้นมา ต้นกล้าค่อย ๆ ลอยเข้าไปหากล่องในมือขวาของเธอและใบไม้สีเขียวใบนั้นก็สัมผัสเข้ากับกล่อง
ราวกับก้อนหินที่ถูกโยนลงไปในทะเลสาบที่เงียบสงบ สัญลักษณ์บนกล่องสีเขียวสว่างขึ้นเรื่อย ๆ จากนั้นกล่องก็ลอยขึ้นไปในอากาศอย่างช้า ๆ และระเบิดแสงสีรุ้งออกมา อนุภาคแสงนั้นเหมือนกับเม็ดทรายที่หมุนวนอยู่บนพื้นผิวของกล่องและกลายเป็นภาพที่งดงาม
ฉีฉียกมือขึ้นมาปิดปากด้วยความไม่อยากเชื่อ “นี่คือ…โลกแห่งทรายของผู้อาวุโส”
“มันคือโลกแห่งทรายจริง ๆ ” สู่เองก็ตื่นเต้นมาก ริมฝีปากของเขาสั่นเครือในขณะที่เขาคุกเข่าลงด้วยความเคารพต่อหน้ากล่อง
“โลกแห่งทราย? เจ้าแก่นั่นกล้าจริง ๆ เขาไม่กลัวว่าฉันจะยึดมันไว้เองรึไง?” อูเรี่ยนลุกขึ้นมานั่งตัวตรงพร้อมกับสายตาที่เต็มไปด้วยควาประหลาดใจ เขามองไปที่กล่องที่กําลังเปล่งแสงระยิบระยับอยู่กลางอากาศ จากนั้นเขาก็ลุกไปปิดประตูร้านของเขา
โลกแห่งทรายนับว่าเป็นโลกขนาดเล็กที่แยกตัวเป็นเอกเทศ
เหล่าดรายแอดที่คอยดูแลต้นไม้โลกรู้ว่ามันสามารถสร้างโลกขนาดเล็กให้กลายเป็นจริงขึ้นมาได้ โลกแห่งทรายเป็นโลกขนาดเล็กที่ถูกสร้างขึ้นมาโดยต้นไม้โลกต้นก่อนและมันอยู่ภายใต้การดูแลของผู้อาวุโสดรายแอด
หลังจากที่เหล่าดรายแอดถูกกวาดล้างและต้นไม้โลกถูกหักโค่นก็ไม่มีใครรู้ว่าโลกแห่งทรายหายไปไหน
มีแค่ผู้อาวุโสดรายแอดเท่านั้นที่รู้ตําแหน่งของมันในขณะที่พี่น้องคนอื่น ๆ ของเขาไม่รู้เลยว่า มันอยู่ที่ไหนในโลกนี้ พวกเขาจะได้เห็นมันเมื่อบรรพบุรุษของพวกเขาน้ํามันออกมาในพิธีกรรมต่าง ๆเท่านั้น
มีแค่แสงสีรุ้งและทรายที่หมุนวนเท่านั้นที่จะระบุตัวตนของมันได้
เมื่อได้สัมผัสกับแสงสีรุ้งต้นไม้โลกของฉีฉีก็ดูจะตื่นเต้นมาก มันสั่นกิ่งของมันไปมาในขณะที่มัน อาบแสงนั้น ในไม่ช้าใบสีเขียวที่ปลายยอดของมันก็มีขนาดใหญ่ขึ้นและเต็มไปด้วยพลัง
ในขณะนั้นเองแสงจากกล่องก็กระพริบแล้วฉายภาพคน ๆ หนึ่งขึ้นมา เป็นชายชราที่มีผมสีขาวและสวมชุดคลุมนักเวทสีเขียว หน้าตาของเขาดูใจดีมาก เขาสํารวจนี้นี่และลู่ลู่ด้วยรอยยิ้มอันอบอุ่นก่อนที่เขาจะพูดขึ้น “ฉีฉี ลู่ลู่ ตอนนี้พวกเธอโตขึ้นแล้ว”
“ผู้อาวุโส” และลู่ลูก้าวถอยไปและพูดทักทายเขาด้วยความเคารพ ทั้งคู่มองไปที่ภาพฉายของชายชราและพยายามระงับความโศกเศร้าเอาไว้
“อย่าเศร้าไปเลยเด็ก ๆ พวกเธอสองคนเป็นเพียงกลุ่มเดียวที่จะสืบทอดมรดกของเราได้ ฉันมีความสุขมากที่ได้พบกับพวกเธออีกครั้งและได้เห็นต้นไม้โลกใหม่ นั่นเป็นสิ่งที่บ่งบอกว่าฉันมอบหัวใจของต้นไม้โลกให้ถูกคน” ฟรอยเดนค่อนข้างร่าเริงเมื่อเขามองเห็นต้นกล้าเล็ก ๆ นี้
นี้มองไปที่ต้นกล้าเล็ก ๆ ตรงหน้าและกล่าวโทษตัวเอง “แต่ผู้อาวุโสคะ ฉีฉีปกป้องต้นไม้ โลกได้ไม่ดีพอ มันเกือบจะตายไปแล้วและหนูก็ไม่สามารถฟื้นฟูและทําให้มันเติบโตได้”
ฟรอยเดนส่ายหัวและพูดขม “ไม่หรอก เธอทําภารกิจที่ฉันมอบหมายให้เธอสําเร็จแล้วด้วยการทําให้ต้นไม้โลกงอกออกมา มนุษย์หมาป่าได้ตามล่าพวกเธอสองคนและพวกเอลฟ์ก็เช่นกัน ดังนั้นพวกเธอจะต้องทนทุกข์ทรมานมามากในช่วงหลายปีที่ผ่านมา พวกเธอสองคนเป็นฮีโร่ของเหล่าดรายแอดและสิ่งที่พวกเธอทําก็นับว่าประสบความสําเร็จ
“ตอนนี้ฉันขอฝากโลกแห่งทรายไว้กับพวกเธอด้วยนะ ในการต่อสู้เมื่อหลายปีก่อนโลกแห่งทรายเองก็เกือบจะถูกทําลาย ฉันใช้พลังธรรมชาติเฮือกสุดท้ายที่เหลืออยู่คงสภาพมันเอาไว้ แต่มันก็ตกอยู่ในสภาพที่ไม่มั่นคงและไม่มีใครเข้าไปได้” กล่องขนาดเล็กที่อยู่ที่ด้านหน้าของฟรอยเดนลอยเข้าไปหานีนี้ ดวงตาของเขาเปล่งแสงสลัวในขณะที่เขาพูด “ปลูกต้นไม้โลกไว้ในนี้และใช้พลังของมันเพื่อฟื้นฟูโลกแห่งทราย สร้างโลกใบใหม่ขึ้นมาบนเศษซากของโลกแห่งทราย ถ้าโลกใบนี้ได้ละทิ้งพวกเราเหล่าดรายแอดงั้นพวกเราก็จะสร้างโลกใบใหม่ขึ้นมาเพื่อฟื้นฟูตัวเอง ภาระทั้งหมดนี้จะตกอยู่บนบ่าของพวกเธอ”
นี้นี่รับกล่องมาอย่างเบามือและทรายที่หมุนเวียนอยู่รอบ ๆ ก็เข้าไปปกคลุมมือขวาของเธอก่อนที่จะหมุนไปตามแขนของเธอ พวกมันเกือบทั้งหมดรวมเข้ากับร่างกายของเธอแทบจะในทันที่เหลือเอาไว้เพียงค่าวนหัวและมือที่เธอใช้สัมผัสกล่อง ราวกับว่าเธอสวมชุดสีรุ้งที่ปกคลุมไปทั่วทั้งร่างกายของเบีย
นี้หลับตาลงและรู้สึกได้ถึงความเชื่อมโยงระหว่างเธอกับโลกแห่งทราย ต้นไม้โลกค่อย ๆ ลอยไปที่กล่องก่อนจะหยั่งรากลงบนมัน รากของมันเติบโตขึ้นในอัตราที่มองเห็นได้ด้วยตาเปล่าและยึดจับกับกล่องเอาไว้แน่นราวกับว่าพวกมันเป็นหนวด
ต้นกล้าที่แห้งเหี่ยวหยั่งรากลงในกล่องสีเขียวและทรายสีรุ้งก็หมุนวนไปรอบ ๆ มันและกลายเป็นฉากที่แปลกแต่ก็ดูกลมกลืนกันอย่างมาก
ลู่ลู่มองฉีฉีด้วยสีหน้าเป็นกังวลแต่เขาก็อดกลั้นคําพูดพวกนั้นเอาไว้
เธอได้รับมรดกที่สําคัญ มันคือมรดกของผู้อาวุโสดรายแอด
เธอกําลังสืบทอดโลก นั่นเป็นมรดกที่ล้ำค่าของเหล่าดรายแอด และมีแค่ผู้อาวุโสดรายแอดเท่านั้นที่จะมอบให้ได้
กระบวนการนี้ใช้เวลาประมาณครึ่งชั่วโมง
ฉีฉีค่อย ๆ เปิดตาของเธอขึ้นและสัญลักษณ์ที่มีอยู่นับไม่ถ้วนก็ไหลผ่านรูม่านตาสีทองของเธอทรายที่หมุนวนอยู่รอบตัวเธอก่อตัวขึ้นและกลายเป็นบาเรีย