Chapter 357 : ผมอยากได้ทุกเมนูอย่างละหนึ่ง
“คุณหนูอยู่ที่ไหน?”
ในปราสาทเจ้าเมืองมีห้องที่ตกแต่งด้วยสีชมพูและเฟอร์นิเจอร์สีชมพูอยู่ห้องหนึ่ง ไมเคิลกําลังยืนอยู่ในห้องและมองไปที่กองหมอนที่ถูกยัดเอาไว้ใต้ผ้าห่มด้วยสีหน้าไม่พอใจ
สีหน้าของหญิงสาวที่ยืนอยู่ข้าง ๆ เขาร้อนใจมากและรีบอธิบาย “คุณหนูคุณหนูบอกว่าเธอรู้สึกไม่สบายดังนั้นเธอจึงเข้านอนเร็ว แล้วก็ มันก็เป็นอย่างที่นายท่านเห็นเลยค่ะพวกเราก็ไม่รู้ว่าเธออยู่ที่ไหนเหมือนกันค่ะ”
ถึงแม้ว่าเขาจะรู้อยู่แล้วว่าลูกสาวของเขามักจะแอบหนีออกไปและเขามักจะได้รู้ที่หลังเสมอแต่มันก็ยากที่เขาจะสงบสติอารมณ์ลงได้
“บางที่คุณหนูอาจจะหนีออกไปหาอะไรกินอีกแล้ว เธอน่าจะกลับมาเร็ว ๆ นี้แหละค่ะ” หญิงสาวที่กําลังยิ้มแย้มอยู่ข้าง ๆ อีกคนหนึ่งพูดขึ้น เธอสนิทกับคุณหนูมากดังนั้นเธอจึงรู้ว่าวิเวียนมักจะหนีออกไปหาอะไรกินเสมอ อย่างไรก็ตามสิ่งที่เธอไม่คาดคิดคือวันนี้ท่านเจ้าเมืองจะกลับบ้านเร็ว เขาอยากจะกินอาหารกับลูกสาวและภรรยาของเขาดังนั้นสถานการณ์ปัจจุบันจึงเกิดขึ้น
“พวกเธอลงไปก่อนเถอะ ฉันจะรอเธออยู่ที่นี่เอง” ความไม่พอใจบนใบหน้าของไมเคิลลดลงเมื่อเขาไล่สาวใช้ทั้งสองออกไป ในแววตาของเขาร่องรอยบางอย่างอยู่ เขารู้ว่าลูกสาวของเขามีนิสัยแบบไหน เธอปฏิเสธที่จะเชื่อฟังแม้แต่กับเขาดังนั้นแม่บ้านแค่สองคนจะควบคุมเธอได้ยังไง?
“ได้ค่ะ” สาวใช้ทั้งสองคนรีบลงไปชั้นล่างในทันทีราวกับว่าพวกเธอได้รับการอภัยโทษและไม่ลืมที่จะปิดประตูห้องหลังจากที่พวกเธอเดินออกจากห้องไป
เธอหนีออกไปหาอะไรกินอีกแล้ว เธอต้องกินยาเป็นจํานวนมากในช่วงหลายปีที่ผ่านมาและมีหลายอย่างที่เธอไม่ได้รับอนุญาตให้กิน… ฉันจะพาเธอไปรักษาได้ที่ไหนนะ ไมเคิลถอนหายใจในขณะที่เขานั่งอยู่คนเดียวในห้อง ตีนกาที่หางตาของเขาปรากฏให้เห็นได้อย่างชัดเจนในตอนนี้ผู้ที่มีอํานาจที่สุดของเมืองเคออสเต็มไปด้วยความอ่อนแอและอ่อนล้า
เจ้านายเป็นคนดีจริง ๆ ยาเบะมิยะมองแม็กซ์อย่างชื่นชม เธอรู้สึกอุ่นใจมากกับสิ่งที่เขาทําเมื่อแม็กซ์ยืนอยู่ข้าง ๆ เธอเธอก็ไม่ต้องกังวลเกี่ยวกับการที่เธอเป็นลูกครึ่งมังกรอีกต่อไป เขาเป็นเหมือนร่มที่ช่วยป้องกันเธอจากฝน
แซลลี่มองยาเบะมิยะก่อนที่จะเดินไปที่ห้องครัวพร้อมกับจานในมือของเธอ นี่เป็นเหตุผลที่ทําให้เธอหลงรักที่นี่ เธอไม่ต้องกังวลเกี่ยวกับการแบ่งฝักแบ่งฝ่ายหรือกลัวว่าจะมีใครมาแทงข้างหลังเธอสิ่งที่เธอต้องทํามีแค่การตั้งใจทํางานประจําวันของเธอให้ดี
“แล้วเขาก็ปล่อยให้เรายืนรออยู่แบบนี้น่ะเหรอ?” โทนิสมองแม็กซ์ที่เดินเข้าไปในครัวด้วยความมึนงงเขาคิดว่าอย่างน้อยแม็กซ์ก็น่าจะให้ความสําคัญกับพวกเขาและรีบจัดที่นั่งให้ แต่ความเป็นจริงคือพวกเขาถูกทิ้งไว้ให้ต่อแถวเหมือนกับลูกค้าคนอื่น ๆ
“แค่คิดว่าตัวเองเป็นลูกค้าคนหนึ่งก็พอ บางที่วันนี้เราอาจจะได้กินบางอย่างที่แตกต่างออกไปก็ได้” วอร์เรนค่อนข้างสงบกว่า เขาสังเกตดูลูกค้าที่อยู่รอบ ๆ ตัวเขาและเห็นได้ถึงความสุขบนใบหน้าของทุกคนในขณะที่พวกเขาเพลิดเพลินไปกับอาหารของตัวเอง การแสดงออกพวกนี้ไม่สามารถโกหกได้
ย้อนกลับไปตอนที่เขาออกไปกินอาหารที่ร้านอาหารกับลอร์รี่ ลอร์รี่สอนให้เขาดูว่าสีหน้าของลูกค้าที่กําลังเพลิดเพลินกับอาหารของพวกเขาจริง ๆ เป็นยังไง นี่เป็นทักษะสําคัญในสายงานของพวกเขาเพราะอาหารที่สามารถนําความสุขมาสู่ลูกค้าได้ถือว่าเป็นอาหารที่อร่อยอย่างแท้จริง
เพราะแบบนี้เขาจึงประหลาดใจมากที่ได้เห็นสีหน้าของบรรดาลูกค้าของร้านอาหาร เขาไม่เคย เห็นร้านอาหารไหนที่ลูกค้าทุกคนดื่มดําไปกับอาหารจนมีความสุขออกมาทางสีหน้าขนาดนี้เลยวอร์เรนเคยคิดว่ามันเป็นไปไม่ได้ที่จะได้เห็นอะไรแบบนี้ในร้านอาหารแต่มันเกิดขึ้นตรงหน้าเขาแล้
ในไม่ช้าสายตาของพวกเขาก็มาหยุดอยู่ที่สกอนาร์ดที่กําลังกินปลาตัวใหญ่อยู่ จากขนาดก้างปลาที่พวกเขาเห็นพวกเขาสามารถบอกได้ว่าตอนแรกมันจะต้องเป็นปลาที่มีขนาดใหญ่มากแน่ อย่างไรก็ตามปลาตัวนั้นถูกชายหนุ่มกินจนใกล้จะหมดแล้ว
สิ่งที่ดูน่าสงสัยมากคือควันสีขาวที่ลอยขึ้นมาจากหัวของเขาในขณะที่เขากิน เสื้อผ้าทั้งหมดของเขาเปียกชุ่ม ริมฝีปากของเขานั้นบวมและแดงจนแทบจะกลายเป็นสีม่วง แม้ว่าจะเป็นแบบนั้นแต่ตะเกียบของเขาก็ยังไม่หยุดขยับและยังคงกินต่อไป เขาจมอยู่กับการกินปลาย่างและไม่สนใจสิ่งที่เกิดขึ้นรอบ ๆ ตัวเลย
“ปลาที่ชายหนุ่มคนนั้นกําลังกินอยู่คืออะไร?” วอร์เรนหันไปถามยาเบะมิยะด้วยสีหน้าอยากรู้อยากเห็นเขาไม่เคยเห็นปลาที่ถูกทําด้วยวิธีการแบบนี้มาก่อนและนี่เป็นครั้งแรกที่เขาได้เห็นกระทะร้อนที่ยกมาเสิร์ฟบนโต๊ะอาหาร
นอกจากนี้เมนูนี้ก็ไม่ใช่หนึ่งในห้าเมนูของร้านอาหารมามีบนกระดานจัดอันดับ ดังนั้นมันก็น่าจะเป็นเมนูใหม่
“นั่นคือปลาย่างรสเผ็ดค่ะ เขาเลือกระดับเย็ดอย่างบ้าคลั่ง” ยาเบะมิยะอธิบาย ท่า ทางของเธอเย็นชาลงอย่างมีนัยสําคัญหลังจากที่รู้ว่าพวกเขาคือประธานและรองประธานของสมาคมจัดเลี้ยง เธอโกรธที่ร้านอาหารของพวกเขาถูกลบออกจากการจัดอันดับ
“เหอะ ระดับเย็ดอย่างบ้าคลั่งงั้นเหรอ? มันจะเย็ดสักแค่ไหนเชียว? มันไม่ได้ดูเผ็ดเลยสําหรับฉัน” โทนิสเบ้ปากด้วยความรังเกียจ
“ฉันเองก็ไม่รู้ว่ามันเผ็ดแค่ไหน คุณจะรู้เมื่อคุณได้กินมัน” ยาเบะมิยะพูดด้วยรอยยิ้ม
“แน่นอน ฉันจะสั่งปลาย่างรสเผ็ดระดับเย็ดอย่างบ้าคลั่ง” โทนิสรู้สึกเหมือนว่าเขากําลังถูกดูถูกโดยยาเบะมิยะและพยายามที่จะเอาชนะ
“ปลาย่างมีสามขนาด ขนาดเล็ก กลางและใหญ่ คุณอยากได้ขนาดไหนคะ?” ยาเบะมิยะถาม
โทนิสลังเลอยู่ครู่หนึ่งก่อนที่จะตอบ “ฉันจะเอาขนาดกลาง”
“ได้ค่ะ เราจะเอาอาหารมาให้เมื่อพวกคุณทั้งสองคนได้ที่นั่งแล้วนะคะ” ยาเบะมิยะพยักหน้าถ้าเป็นลูกค้าคนอื่นเธอจะเตือนพวกเขาว่าระดับเย็ดอย่างบ้าคลั่งไม่ใช่สิ่งที่คนธรรมดาจะรับมือได้อย่างไรก็ตามเธอไม่คิดว่าเธอควรจะมอบความปรานี้ให้กับคนที่น่ารังเกียจ
“โทนิส นายเป็นคนกินเผ็ดตั้งแต่เมื่อไหร่?” วอร์เรนหัวเราะเบา ๆ
“จริง ๆ แล้วผมไม่ได้เป็นคนกินเผ็ดแต่ผมรู้สึกว่าร้านอาหารนี้แค่พยายามตบตาเรา เผ็ดอย่างบ้าคลั่งเหรอ? เหอะ ผมจะเปิดโปงมันเอง” โทนิสยิ้มอย่างไม่แยแส
“มันอาจไม่ได้เป็นแบบนั้นก็ได้” วอร์เรนส่ายหัวแล้วมองไปที่สกอนาร์ด อย่างไรก็ตามเมื่อเขาเห็นว่าชายหนุ่มคนนั้นไม่ยอมวางตะเกียบเลยมันก็เป็นข้อพิสูจน์ได้ว่าปลาย่างรสเผ็ดนั่นอร่อยขนาดไหน
หลังจากยืนรออยู่เป็นเวลานาน วอร์เรนและโทนิสก็มีที่นั่ง พวกเขานั่งอยู่ถัดจากมิโนทอร์ตัวใหญ่ โทนิสทําได้แค่เช็ดเหงื่อเย็น ๆ ออกจากหน้าผากของเขา เขารู้สึกกดดันมากเมื่อต้องนั่งอยู่ใกล้ ๆ ปีศาจ โชคดีที่มิโนทอร์คนนี้กําลังจมอยู่กับถ้วยพุดดิ้งเต้าหูสีขาวและไม่แม้แต่จะเงยหน้าขึ้นมามองเขาเลย
“โทนิส นายอยากกินอะไรนอกจากปลาย่าง?” วอร์เรนเปิดเมนู เขารู้ราคามาล่วงหน้าแล้วดังนั้นเขาจึงไม่แปลกใจกับสิ่งที่เขาเห็น
โทนิสลังเลอยู่ครู่หนึ่งก่อนที่จะมีความอับอายปรากฏขึ้นบนใบหน้าของเขา “ผมอยากได้ทุกเมนูอย่างละหนึ่ง”