Chapter 403 : แต่คุณน่าเกลียด
“หนูพูดถูก แต่ด้วยเหตุผลบางอย่างทำไมฉันถึงรู้สึกเศร้านิดหน่อยเมื่อได้ยินสิ่งที่หนูพูดนะ…” ฉีฉีมองเอมและพยักหน้ารับ เธอพูดถูก แทบจะไม่มีใครมาซื้อน้ำยาเวทมนตร์เลยโดยเฉพาะวันหยุดของร้านอาหาร ลูกค้าส่วนใหญ่ของร้านเป็นลูกค้าของร้านอาหารมามีที่ต้องการส่วนผสมสำหรับปรุงยาบางอย่าง
“หนูจะถือว่านี่เป็นการตอบตกลงแล้วนะคะพี่สาวฉีฉี แล้วคุณหมีใหญ่จะมาด้วยมั้ยคะ” เอมถามด้วยรอยยิ้ม
“ถ้าพี่ไปเขาก็จะไปด้วยแน่ แต่พี่ก็กังวลอยู่นิดหน่อยนะ นี่เป็นปาร์ตี้ของเด็ก ๆ แล้วพวกเพื่อน ๆ ของหนูจะไม่กลัวเขาเหรอ? ฉันคิดว่าเขาหล่อนะแต่ฉันไม่แน่ใจว่าคนอื่นคิดกับเขายังไง” ฉีจี้รู้สึกกังวลอยู่เล็กน้อย
“ไม่เป็นไรหรอกค่ะ ถึงแม้ว่าเขาจะน่าเกลียดไปหน่อยแต่เขาก็ดูตลกมาก ดังนั้นเขาจะไม่ทำให้ใครกลัวแน่นอนค่ะ” เอมส่ายหัวอย่างไม่ใส่ใจ
“หนูพูดถูก…” แววตาของฉีฉีเป็นประกายขึ้นมาในทันที แต่สีหน้าแปลก ๆ ก็ปรากฏขึ้นบนใบหน้าของเธออย่างรวดเร็วในขณะที่เธอพูด “แต่…แอม พี่รู้สึกว่าคำพูดของหนูขวานผ่าซากและตรงไปหน่อยนะ”
เอมเงยหน้ามองฉีฉีอย่างจริงจังในขณะที่เธอตอบ “จริงเหรอคะ? พ่อบอกว่าหนูต้องเป็นสาวน้อยที่ชื่อสัตย์ ด้วยวิธีนี้หนูจะโตขึ้นเป็นสาวสวยเหมือนกับพี่สาวฉีฉี”
“พี่เองก็ชอบความซื่อสัตย์ของหนูเหมือนกัน หนูน่ารักมาก ๆ!” ฉีฉีลูบแก้มเอมด้วยรอยยิ้มร่าเริงบนใบหน้าของเธอ
“บ้ายบายค่ะพี่สาวฉีฉี พี่ต้องพาคุณหมีใหญ่มาตอน 11 โมงครึ่งนะคะ!” เอมพูดยืนยันก่อนที่จะกระโดดออกจากร้านไป
“โอเค ฉันจะไปอย่างแน่นอน! เพื่อไก่ตันของฉัน!” ฉีฉีพยักหน้าอย่างจริงจัง
“พ่อคะ พี่สาวฉีฉีกับคุณหมีใหญ่เองก็จะมาด้วย เราเชิญครบทุกคนแล้วใช่มั้ยคะ?” เอมออกมาจากร้านด้วยสีหน้าร่าเริง
แม็กซ์ลูบหัวตัวเล็ก ๆ ของเอมี่และตอบ “อืมม เราเชิญครบทุกคนแล้วล่ะ ทำได้ดีมากเอมี่ ตอนนี้เราไปเตรียมความพร้อมเพื่อต้อนรับแขกของเรากันเถอะ”
“เจ้าหญิงเอมี่ที่รักของฉัน ฉันไปงานปาร์ตี้อาหารกลางวันของเธอด้วยได้มั้ย?” ถ่านดำยื่นหัวเล็ก ๆ ของมันออกมาจากกรงด้วยความคาดหวังในแววตา
“ฉันด้วย ฉันขอไปได้ด้วยได้มั้ย?” ถั่วเขียวเองก็มองเองด้วยความหวังในขณะที่มันพูด “ฉันไม่เคยไปงานปาร์ตี้มาก่อนเลย”
“ถั่วเขียวมาได้นะ ฉันจะแนะนำเธอกับเพื่อน ๆ ทุกคนของฉัน พวกเขาไม่เคยเห็นนกพูดได้มาก่อนเลย” เอมพยักหน้าด้วยรอยยิ้ม
“แล้วฉันล่ะ?” ถ่านดำถาม
“แกมาไม่ได้” เอมส่ายหัว
“ทำไมล่ะ?! ฉันเองก็พูดได้นะ!” ถ่านดำพยายามยื่นตัวออกมาแต่ก็ได้แค่ครึ่งตัวแล้วก็ติด “ไม่ใช่แค่พูดได้นะฉันยังสามารถร้องเพลงได้ด้วย! ฉันร้องเพลงเพราะ ๆ ได้ตั้งเยอะ! ฉันน่าทึ่งมากนะ!”
“แต่แกน่าเกลียด ถ้าแกทำให้เพื่อนของฉันกลัวล่ะ?” เอมส่ายหัวของเธอด้วยท่าทีกังวลและพูดต่อ “ลุงอ้วนน้ำเงินกำลังจะพาลูกสาวที่ยังไม่เกิดของเขามาด้วยดังนั้นมันจะไม่ดีถ้าแกทำให้เธอตกใจตั้งแต่ก่อนที่เธอจะเกิดมา”
“แผละ ”
ถ่านดำทรุดลงกับพื้นกรงอย่างไม่เต็มใจที่จะยอมรับความจริงที่โหดร้าย
“เหมียว” ลูกเป็ดขี้เหร่ร้องออกมาอย่างมีความสุขด้วยสีหน้าสบายใจ
“เอาล่ะ ฉันจะให้แกมาด้วยก็ได้” เอมมองถ่านดำอยู่ครู่หนึ่งก่อนที่จะโบกมือไปด้วยท่าที่จนใจ เธอคิดอยู่ครู่หนึ่งก่อนที่จะพูดต่อ “แต่ฉันจะคลุมกรงของแกไว้ด้วยผ้าสีดำนะ ด้วยวิธีนี้แกจะไม่ได้ไม่ทำให้เพื่อน ๆ ของฉันตกใจ”
“ได้เลย! ฉันจะทำให้แน่ใจว่าฉันจะอยู่แต่ในกรงของฉัน!” ถ่านดำฟื้นตัวอย่างรวดเร็วและเริ่มกระโดดโลดเต้นด้วยความดีใจ
“กลับบ้านกันเถอะ พี่มิยะกับพี่ไอช่ากำลังรอเราอยู่” แม็กซ์พูดด้วยรอยยิ้ม ขนของถ่านดำเริ่มงอกกลับมาแล้วและมันก็ดูดีกว่าขนเก่าของมัน แต่มันก็ยังน่าเกลียดอยู่ดี
“โอเคค่ะ” เอมพยักหน้าก่อนที่จะอุ้มลูกเป็ดขี้เหร่ไว้ในอ้อมแขนอย่างระมัดระวังแล้วเดินกลับไปที่ร้านอาหารไม่นานเธอก็มองเห็นยาเบะมิยะและแซลลี่ที่ยืนอยู่ที่หน้าร้านอาหารเธอจึงตะโกนเรียกทั้งคู่ในทันที “พี่มิยะ พี่ไอช่า เรามาซ้อมเต้น ฤดูใบไม้ผลิมาถึงแล้ว” รอบสุดท้ายกันเถอะค่ะ”
วันนี้แซลลี่สวมชุดกี่เพ้าที่มีตะเข็บสีทองเผยให้เห็นเรียวขาสีขาวราวหิมะของเธอ มันช่วยขับเน้นออร่าความสง่าราศีของเธอให้สมบูรณ์แบบ ในทางตรงกันข้ามยาเบะมิยะสวมชุดเมดสีดำที่มีตะเข็บสีขาวน่ารักทำให้เธอดูอ่อนเยาว์และมีพลัง
“ได้สิ พี่เองก็อยากซ่อมอีกรอบเหมือนกัน นี่เป็นครั้งแรกเลยที่พี่จะได้เต้นต่อหน้าคนอื่น พี่รู้สึกประหม่ามากๆ เลย” ยาเบะมิยะพยักหน้ารับ
“พี่ยังก็ได้” แซลลี่พยักหน้าด้วยรอยยิ้ม เธอดูสงบและนิ่งมาก
เมื่อแม็กซ์เดินมาถึงเขาก็ทักทายทั้งสองก่อนที่จะเปิดประตูร้านอาหาร
ทันทีที่ยาเบะมิยะเดินเข้ามาในร้านเธอก็ถามขึ้นด้วยความอยากรู้อยากเห็น “หัวหน้าคะ วันนี้จะมีเมนูใหม่เหรอคะ?”
“ใช่ค่ะ พ่อคะ ของหวานแสนอร่อยแบบใหม่ที่พ่อพูดถึงคืออะไรเหรอคะ?” เอมถาม แซลลี่เองก็มองมาที่แม็กซ์อย่างรอคอยคำตอบเช่นกัน
“หนูจะรู้เองแหละเมื่อหนูได้เห็นมัน ไปซ้อมเต้นกันก่อนเถอะ พ่อจะไปเตรียมอาหาร ยังไงซะวันนี้เราก็มีแขกไม่มาก” แม็กซ์ส่ายหัวด้วยรอยยิ้มและเดินไปที่ห้องครัว
“ไม่ว่ามันจะเป็นอะไรตราบใดที่พ่อเป็นคนทำมันจะต้องอร่อยมากอย่างแน่นอน!” เอมี่เต็มไปด้วยความมั่นใจ
“พี่เองก็คิดแบบนั้น หัวหน้าไม่เคยทำให้เราผิดหวังเลย” ยาเบะมิยะพยักหน้าอย่างเห็นด้วย
“เริ่มการซ้อมครั้งสุดท้ายกันเถอะ หลังจากนี้เรายังต้องจัดระเบียบร้านอาหารอีก เราต้องเคลียร์พื้นที่สำหรับการเต้นและเราไม่ต้องใช้โต๊ะและเก้าอี้มากนัก” แซลลี่แนะนำด้วยรอยยิ้ม
“โอเคค่ะ!” เอมีพยักหน้ารับ เธอวางลูกเป็ดขี้เหร่ไว้บนเก้าอี้ใกล้ ๆ แล้ววิ่งไปที่เคาน์เตอร์เพื่อหยิบกล่องเพลิง
ในขณะเดียวกันยาเบะมิยะและแซลลี่ก็เริ่มเคลียพื้นที่บางส่วนก่อนที่จะจัดเรียงโต๊ะเป็นพื้นที่ครึ่งวงกลมรอบพื้นที่ที่พวกเธอจะใช้เต้น
เมื่อดนตรีเริ่มขึ้น พวกเธอก็เข้าประจำที่แล้ว เอมี่ยืนอยู่ตรงกลางในขณะที่แซลลี่กับยาเบะมิยะยืนอยู่ที่ทางซ้ายและขวาของเอมตามลำดับ จากนั้นพวกเธอก็เริ่มการซ้อมเต้นครั้งสุดท้าย
เมื่อแม็กซ์เข้ามาในครัว เขาก็เริ่มคำนวณถึงปริมาณอาหารสำหรับงานปาร์ตี้อาหารกลางวันที่กำลังจะจัดขึ้นมีคนทั้งหมด 17 คนที่ได้รับเชิญซึ่งไม่ถือว่ามากนักเมื่อเทียบกับลูกค้าที่แวะเวียนมาที่ร้านอาหารเป็นประจำ นอกจากนี้คนส่วนใหญ่ก็เป็นเด็กเขาจึงไม่ต้องเตรียมอะไรมากนัก
“เอมี่! เธออยู่บ้านมั้ย? อิคนัตสึกับฉันมาถึงแล้วนะ” เสียงอ่อนโยนดังขึ้นพร้อมกับเสียงเคาะประตู
ที่หน้าร้านอาหาร แดฟเน่ที่สวมชุดเดรสลายดอกไม้สีเขียวอ่อนกำลังเคาะประตูด้วยมือเล็ก ๆ ของเธอข้าง ๆ เธอเป็นปีศาจน้อยตัวอ้วนที่มีเขาเล็ก ๆ เหมือนเม็ดถั่วอยู่บนหัว ตอนนี้เขากำลังอ้าปากค้างและมองเงาสะท้อนของตัวเองในหน้าต่างที่สูงจากพื้นจรดเพดาน
ชายวัยกลางคนร่างสูงยืนอยู่ด้านหลังของพวกเขาทั้งสองด้วยรอยยิ้ม เขาเงยหน้ามองสัญลักษณ์ของร้านอาหารและมีความประหลาดใจปรากฏขึ้นบนใบหน้าของเขา
“แดฟเน่ อิคนัตสึ พวกเธอมาถึงแล้วเหรอ!” หลังจากนั้นไม่นานประตูก็เปิดออก เอมีร้องขึ้นด้วยความดีใจจากนั้นเธอก็มองไปที่ชายวัยกลางคนที่อยู่ด้านหลังแดฟเน่ด้วยดวงตาเป็นประกายและถามขึ้นในทันที “ทำไมคุณถึงมาอยู่ที่นี่ได้ล่ะคะคุณปู่เสือ? คุณมาที่นี่เพื่อเข้าร่วมงานปาร์ตี้ของเราด้วยเหรอคะ?” (TN : เผื่อใครลืมนะครับ เป็นเหตุการณ์ตอนที่แม็กซ์กับเอมออกไปล่าไก่เพลิง ปูคนนี้เป็นคนที่รีบมาช่วยแม็กซ์กับเอมีตอนที่ได้ยินเสียงร้องของหมูป่าสัมฤทธิ์แล้วขอแลกเบี้ยวหมูป่าไปทำไม้เท้าเวทมนตร์ให้หลาน)