บทที่ 40 สี่ตระกูลตัวพ่อ
เนี่ยเฟิงและชิวมู่เฉิงมุ่งสู่เว่ยซือกรุ๊ปด้วยกัน เพราะว่าพวกเขาไม่มีรถ ก็เลยนั่งแท็กซีา
“เสี่ยวเฟิงนายอาจจะยังไม่รู้ เมืองตงไห่เรามีสี่ตระกูลตัวพ่อ”
ตอนนี้กว่าจะถึงเว่ยซือกรุ๊ปยังอีกนาน ชิวมู่เฉิงนึกขึ้นได้ ก็เลยบอกกับเนี่ยเฟิง
“สี่ตระกูลตัวพ่อ? ฟังดูเหมือนจะเก่งมาก!”
“ต่อไปถ้านายทำงานกับฉัน ก็อาจจะมีโอกาสได้รู้จักหนึ่งในสี่ตระกูลตัวพ่อ รวมทั้งตระกูลเว่ย ตระกูลฟาง ตระกูลจู และตระกูลหลัว”
เนี่ยเฟิงกระพริบตา “งั้นฟางซื่อเหาก็เป็นคนในสี่ตระกูลตัวพ่อหรอ?”
ชิวมู่เฉิงพยักหน้า “ใช่ อาคารฟางเจิ้งของตระกูลฟางมีหลายที่ในเมืองอื่น เป็นห้างสรรพสินค้าที่ใหญ่ ทรงพลัง”
ทันใดนั้นเนี่ยเฟิงก็นึกขึ้นได้: “ไม่แปลกที่คุณนายใหญ่ชิวอยากให้พี่แต่งงานกับเขา! ที่แท้แล้วก็ตระกูลที่ยิ่งใหญ่ของเขานี่เอง”
จากนั้นเนี่ยเฟิงก็ทำท่าคิดไปมา เหมือนว่าจะคิดอะไรได้ เขายิ้มแล้วพูด: “งั้นผมไปหาพี่ตอนนั้น ก็กลายเป็นว่าไปสร้างเรื่องสิ?”
ชิวมู่เฉิงยิ้ม “เป็นตระกูลชิวที่อยากให้ฉันแต่งงานไม่ใช่ฉันอยาก ฉันกับตระกูลชิวเซ็นสัญญาไว้ ฉันช่วยพวกเขาเจริญรุ่งโรจน์ พวกเขาช่วยฉันสืบเรื่องบนทะเลเมื่อปีก่อน ฉันเองก็ทำอย่างเต็มที่แล้ว”
“งั้นพี่ใหญ่ไม่รู้สึกเสียดายหรอ? พี่คิดดูสิ ถ้าพี่แต่งงานกับฟางซื่อเหา งั้นพี่ก็กลายเป็นนายหญิงของฟางซื่อกรุ๊ป ถึงตอนนั้นพี่อยากจะทำอะไรก็ได้?”
ชิวมู่เฉิงมองเนี่ยเฟิง “เสี่ยวเฟิง นี่นายตั้งใจเยาะเย้ยพี่ใช่ไหม?”
เนี่ยเฟิงรับสะบัดมือ “ไม่ใช่ๆ! ผมไม่กล้าหรอก!”
“ฉันต้องแต่งงานกับฟางซื่อเหา ก็เป็นเพราะการวางแผนของคุณนายใหญ่ชิว ท่านรู้ ว่าถ้าสามารถรวมกับหนึ่งในสี่ตระกูลตัวพ่อนี้ได้ งั้นตระกูลชิวก็คงไม่เป็นเหมือนเดิมแล้ว
ตอนนั้นฉันหานายไม่เจอ ก็เลยต้องเชื่อฟังท่าน นายรู้ไหมว่าทำไมฟางซื่อเหาจะแต่งงานกับฉัน พ่อของเขาไม่กีดกันหรอ?”
ชิวมู่เฉิงมองเนี่ยเฟิง
“งั้นก็เป็นเพราะว่าพี่สาวสวยตั้งแต่เกิด! หน้าตาดี เพราะฉะนั้นเป็นใครก็ไม่มีทางไม่เห็นด้วย!”
ชิวมู่เฉิงได้ยินเขาพูดเธอแบบนี้ ก็หัวเราะออกมา “นายก็น้อยๆ หน่อย ตระกูลใหญ่ๆ แบบพวกเขา การแต่งงานก็เพื่อผลประโยชน์เท่านั้น ก็เหมือนกับสายเลือด ไม่มีทางหาผู้หญิงสวยๆ คนหนึ่งแต่งงาน คนที่จะแต่งด้วยต้องมีประโยชน์กับตระกูล พอพูดถึงแม้ ตระกูลชิวก็ไม่มีคุณสมบัติพอ” ชิวมู่เฉิงเองก็รู้ดี เพราะเธอเองก็ถูกฝึกซ้อมอย่างเข้มงวด
“พวกเขาเห็นทางด้านความสามารถทางการค้าของฉัน การยกเลิกงานแต่งครั้งนี้ ทางตระกูลของฟางซื่อเหาไม่มีทางปล่อยฉันไว้แน่”
“งั้นก็แสดงว่าผมทำให้พี่ซวยละสิ?”
เนี่ยเฟิงก้มหัวลงอย่างรู้สึกผิด ดูท่าแล้วน่าสงสารมาก
“พี่จะคิดแบบนี้ได้ยังไง? พี่ไม่ชอบเขาอยู่แล้ว อย่าพูดว่าแต่งกับเขาเลย ยังดีที่นายมา”
หลายปีมานี้เธอผ่านมาได้ยังไงเธอก็บอกใครไม่ได้ สิ่งที่เธอเป็นห่วงอย่างเดียวก็คือเนี่ยเฟิง เธอหวังว่าเนี่ยเฟิงจะมีชีวิตต่อ
“วางใจเถอะ! พี่ใหญ่! ผมไม่ปล่อยให้พวกเขาทำร้ายพี่ได้แน่นอน!”
เนี่ยเฟิงพูดแล้วกำหมัดแน่น ในขณะนี้รถก็แล่นเข้ามาถึงเว่ยซือกรุ๊ปแล้ว
อาคารของเว่ยซือกรุ๊ปใหญ่มาก เป็นตึกสีดำ ดูแล้วเคร่งขรึมมาก
“ฉันคิดไม่ถึงจริงๆ ที่ดินผืนนั้นแม้แต่ตระกูลเว่ยก็จัดการไม่ได้”
ชิวมู่เฉิงขมวดคิ้วเล็กน้อย
“พี่ใหญ่พูดแบบนี้แสดงว่าไง?” เนี่ยเฟิงถามอย่างสงสัย
“เมื่อก่อนนายไม่ได้อยู่ในเมืองตงไห่ ก็เลยไม่รู้ เว่ยฉางจ้านของเว่ยซือกรุ๊ปเป็นคนโหด ตอนนั้นเมืองตงไห่วุ่นวาย ถูกแบ่งออกเป็นหลายฝ่าย จากนั้นเว่ยฉางจ้าน ฟางหลงเทียนกับเหลียงปิง3คนเป็นฝ่ายนึง ตอนนี้พวกเขาคนหนึ่งทำอสังหาริมทรัพย์ อีกคนทำห้างสรรพสินค้า และอีกคนทำธุรกิจบันเทิง”
ชิวมู่เฉิงหยุดไปสักพักก็พูดต่อ: “ตอนนี้พวกเขาทั้ง3คนนั้นอยู่ใครอยู่มัน อยู่กับอย่างอำนาจที่มั่นคง แต่ว่าเหลียงปิงนั้นก็ไม่เข้าข่าย ตอนนี้เขาก็เป็นได้แค่คนเก่าแก่แค่นั้นเอง”
“พี่ใหญ่เก่งจังเลย! รู้หมดทุกอย่างเลย!”
เนี่ยเฟิงก็เหมือนกับแฟนคลับ ที่ชมชิวมู่เฉิงจนจะลอยแล้ว
“คนตระกูลเว่ยเองก็ไม่ธรรมดา แต่ฉันก็ไม่เข้าใจอยู่ดีทำไมพวกเขาต้องปล่อยให้คนพวกนั้นหลอก ที่ดินแผ่นนั้นก็มีราคามาก”
“ไม่ต้องไปสนใจขนาดนั้น ยังไง ตอนนี้พื้นที่บุกเบิกสปริงอยู่ในมือเรา พอเราได้แล้ว ค่อยไปจัดการคนพวกนั้น!”
เนี่ยเฟิงยิ้ม จากนั้นก็เดินเข้าไปในตึกเว่ยซือกรุ๊ป ชิวมู่เฉิงมองดูเนี่ยเฟิงที่ใจร้อน ก็ส่ายหัว เธอเองก็เดินเข้าไปอย่างสง่า
“สวัสดีค่ะ พวกเราได้นัดไว้แล้ว”
ชิวมู่เฉิงเดินไปที่เค้าเตอร์ ไปคุยกับผู้ที่รับผิดชอบ ทั้งสองก็เดินขึ้นไปด้วยกัน
“เสี่ยวเฟิง นายรอแปปนึง ….”
“ไม่ได้หรอก! ผมต้องมาฝึกงานกับพี่! พี่ใหญ่อย่าทิ้งผมสิ ให้ผมฝึกงานกับพี่ ผมไม่สร้างปัญหาแน่นอน”
เนี่ยเฟิงรับประกัน
“งั้นไปเถอะ ไป”
หลังจากที่ชิวมู่เฉิงเข้าไป ผู้อำนวยการลิที่นั่งไว้ก็ยิ้มแล้วพูด: “คุณหนูชิวมา ยินดีต้อนรับครับ!”
“ผู้อำนวยการเกรงใจเกินไปแล้ว เราเป็นคนตรงๆ ฉันก็ไม่อ้อมค้อมแล้ว ที่ฉันมาในวันนี้ก็เพื่อนเรื่องพื้นที่บุกเบิกสปริง”
ผู้อำนวยการเป็นคนที่ตัวอ้วน หน้าใหญ่ ลืมตาก็เหมือนหลับตา
“ที่แท้ก็เพื่อที่ผืนนั้นนี่เอง แต่ว่าพื้นที่บุกเบิกสปริงนั้นไม่ได้มีความเกี่ยวข้องอะไรกับพวกเราแล้ว เพราะว่าขายไปแล้ว”
“ใช่ ฉันรู้”
ชิวมู่เฉิงพยักหน้า “แต่ว่าผู้อำนวยการลิเองก็คงจะรู้เรื่องที่ดินปืนนั้นบ้าง…..”
เนี่ยเฟิงดูท่าทางการคุยธุรกิจของพี่ใหญ่ สีผมสีน้ำตาลอ่อนโปรยลงตรงหน้าเธอ ใบหน้าที่สวยงามและชุดที่เป็นทางการ ช่างเป็นสาวงามในเมืองจริงๆ เลย
ความสวยของพี่ใหญ่คือความนิ่งเย็น ห้ามคนเข้าใกล้ แต่ก็เป็นเพราะเป็นแบบนี้ทำให้มีความรู้สึกสง่า ทำให้ผู้คนมีความท้าทาย ที่จะก้าวเข้าไปหา
ฟางซื่อเหาก็เป็นหนึ่งในนั้น เขาทำเพื่อจะเอาคนสวยคนเข้าบ้าน ไม่ว่ายังไงก็ต้องลงสินสอด แต่น่าเสียดายเขาโดนขายหน้า
“อ๋อ ผมรู้ ชาวบ้านพวกนั้นใช่ไหม? แต่นี้ผมก็ไม่มีวิธีแล้ว ตอนนั้นก็เป็นเพราะชาวบ้านพวกนั้น ผมถึงต้องขายที่ผืนนั้น สมัยนี้ทำธุรกิจยาก ทำให้ชาวบ้านไม่พอใจยิ่งแล้วใหญ่!”
คำนี้ก็จริง ชิวมู่เฉิงเองก็รู้
“วันนี้ที่ฉันมาบริษัทของคุณเพื่อเรื่องๆ หนึ่ง ขอให้ผู้อำนวยการลิให้เอกสารการซื้อขายตึกกับพื้นที่บุกเบิกสปริงกับฉัน”
ผู้อำนวยการลิหัวเราะ “ไอ่หยา นี้มันเป็นเรื่องเมื่อ1ปีที่แล้วๆ เอกสารน่าจะมีสำรองไว้ แต่ว่า คุณหนูชิวเองก็รู้ เราเป็นนักธุรกิจ….”
ผู้อำนวยการลิพูดจบ ก็ยื่นมือออกมาทำท่า “คุณเข้าใจดี!”
“คุณลิจะเอาเท่าไหร่?”
“ครั้งเดียว 5ล้าน!”