พี่สาวเจ็ดคนที่สวยสง่าของผม – บทที่ 37 ทำเรื่องเล็กให้เป็นเรื่องใหญ่

บทที่ 37 ทำเรื่องเล็กให้เป็นเรื่องใหญ่

บทที่ 37 ทำเรื่องเล็กให้เป็นเรื่องใหญ่

“ผู้อำนวยการวางใจได้ค่ะ เรื่องนี้พวกเราจะจัดการให้เรียบร้อย จริงสิ ในนี้มีรายชื่อผู้ที่ไปเรียนประเทศญี่ปุ่ณ ท่านดูก่อนค่ะ”

“อื้ม ส่งคนพวกนี้ไปเถอะ”

ตอนที่เนี่ยเฟิงเข้าไปเดินผ่านกับเขาพอดี

เนี่ยเฟิงมีความอยากรู้เกี่ยวกับโรงพยาบาลนี้มาก มองจากข้างนอกไม่เห็นอะไร แต่ว่าพอเดินเข้าไปเขาก็รู้สึกว่าโรงพยาบาลนี้หรูมาก

ตอนที่เนี่ยเฟิงเดินเข้าไปเรื่อยๆผู้หญิงสวมเสื้อคลุมสีขาวที่เดินผ่านเขาไปหยุดเดินกะทันหัน เธอหันหลังไป มองเนี่ยเฟิงด้วยสายตาแหลมคม

“เสี่ยวเฟิง?”

วินาทีที่เสียงคุ้นเคยนี้ดังขึ้น เนี่ยเฟิงอดไม่ได้ที่จะตัวสั่น

ไม่บังเอิญขนาดนั้นหรอกมั้ง?

“ใช่นายสินะ?”

เนี่ยเฟิงหันหลังไปเหมือนเครื่องกล คนที่อยู่ข้างหลังไม่ใช่ใครอื่นจริง ๆ คือพี่สี่ของเขาเอง หมิงอี๋หาน

“พี่สี่ พี่อยู่นี่ได้ไง?”

เนี่ยเฟิงไม่เคยคิดเลยจริง ๆ ตัวเองจะหลงมาโรงพยาบาลของหมิงอี๋หาน

“เป็นนายจริง ๆ ด้วย พี่ก็ว่ากระดูกและแผ่นหลังเหมือนมาก น่าจะเป็นนาย ประโยคนี้ พี่ต้องถามนายต่างหาก ทำไมนายถึงมาโรงพยาบาล?”

หมิงอี๋หานเป็นคนจริงจังเสมอ แต่ที่ต่างกับพี่ใหญ่ก็คือ นิสัยของเธอแปลกเล็กน้อย

ถ้าจะใช้คำอธิบาย น่าจะเป็นหน้าเนื้อใจเสือ

“นายบาดเจ็บเหรอ?”

หมิงอี๋หานสังเกตถึงความผิดปกติ เธอรีบเข้าไปเช็กดู เห็นว่าแขนของเนี่ยเฟิงมีแผลถลอกหลายจุด และมีรูที่ฝ่ามือ หมิงอี๋หานร้อนรนทันที !

“เร็ว ! เตรียมผ่าตัด ! ”

เนี่ยเฟิง : …

“พี่สี่ ผมไม่ได้เป็นหนักขนาดนั้น ก็แค่มีรูที่ฝ่ามือ ไปฆ่าเชื้อ พันด้วยผ้าพันแผลก็ได้แล้ว ไม่เป็นไรหรอก”

หมิงอี๋หานไม่สนใจอะไร ชื่อเสียงอะไรนั้นไม่มีอยู่ในสายตาเธอเลย เธอเป็นคนนิ่งจนน่ากลัวตั้งแต่เด็ก

แต่ว่าความเป็นห่วงเนี่ยเฟิงนี้มีอยู่มาก เธอชอบเนี่ยเฟิงมาก ๆ แล้วเมื่อนานแล้วเขาก็เคยพูดเรื่องที่น่ากลัวกับเนี่ยเฟิงมาก่อน

“พี่จะทำนายเป็นตุ๊กตา แบบนี้นายก็จะรักษาสภาพที่เป็นอยู่ตอนนี้ได้”

ต้องบอกว่า คนปกติได้ยินแบบนี้ก็ต้องขนลุกขนพอง

หลังจากโตขึ้นมาหน่อย ความต้องการที่จะควบคุมของเธอก็แสดงออกมาชัดยิ่งขึ้น แต่ว่าเธอรู้ว่าเนี่ยเฟิงชอบความอิสระ ความดีของเธอที่มีต่อเนี่ยเฟิง ทำให้เธอยอมซ่อนความต้องการที่จะควบคุมของตัวเองไว้

“มือของนายเจ็บขนาดนี้แล้ว ต้องเย็บแผลผ่าตัด ! ”

หมิงอี๋หานใจร้อนมาก ดูเหมือนจะเสียสติไป เนี่ยเฟิงรีบใช้มือข้างที่ไม่ได้บาดเจ็บ จับข้อมือของพี่สี่ไว้

“พี่สี่ ผมไม่ได้เจ็บหนักขนาดนั้น เอางี้พี่พาผมไปที่แผนกผู้ป่วยนอกเพื่อหาคนช่วยผมฆ่าเชื้อก่อน?”

หมิงอี๋หานมองมือของเนี่ยเฟิงด้วยความเป็นห่วง ตอนนี้มือของเขายังมีเลือดไหลอยู่เลย

“นายรีบตามพี่มา นายไปทำอะไรมากันแน่?เมื่อกี้น้อกหกบอกพี่ว่านายกำลังจะกลับไปกินข้าวแล้ว วันนี้พี่ใหญ่ทำแกงไก่ ทำไมนายถึงบาดเจ็บได้ล่ะ? ใครเป็นคนทำ? นายบอกความจริงกับพี่สี่มา พี่สี่ไม่ปล่อยมันไปเด็ดขาด ! ”

เมื่อเห็นหมิงอี๋หานที่ปกติไม่ทำสีหน้าอะไรตอนนี้มีสีหน้าวิตกกังวล เนี่ยเฟิงรู้สึกอบอุ่นหัวใจ

“ไม่มีใครรังแกผม ไม่ระวังโดนเอง”

เนี่ยเฟิงโบกมือปัด

หมิงอี๋หานโล่งทันที เธอแทบจะส่งคนไปที่คลินิกผู้ป่วยนอกด้วยความรีบร้อน

หมิงอี๋หานฆ่าเชื้อให้เนี่ยเฟิงเอง

เนี่ยเฟิงมองหมิงอี๋หานใช้สำลีฆ่าเชื้อให้เขาอย่างระมัดระวัง ดูเหมือนจะกลัวเขาเจ็บ เพราะงั้นเลยฆ่าเชื้อไปเป่าไป

“ช่วงนี้มือของนายห้ามโดนน้ำ และห้ามขยับมั่ว ไม่งั้นแผลจะฉีกออก ถ้าจะเย็บตำแหน่งนี้ยากหน่อย และแผลยังไม่ถือว่าลึกมาก รอมันหายเองก็ได้แล้ว”

หมิงอี๋หานขมวดคิ้ว เหมือนกับว่าคนที่บาดเจ็บไม่ใช่เนี่ยเฟิง แต่เป็นเธอเอง

เธอเหมือนจะสัมผัสถึงความเจ็บปวดนั้นได้

“ไม่เป็นไร ผมไม่รู้สึกเจ็บเลย ฝีมือของตัวเองยอดเยี่ยมจริงๆ ผมว่าอีกสองวันก็จะหายเป็นปลิดทิ้งแล้ว ! ”

ตอนที่เนี่ยเฟิงกำลังจะย่องออกไป หมิงอี๋หานก็เรียกเขาไว้:

“เมื่อกี้ตอนที่พี่ล้างแผลให้นาย เห็นรอยของสนิม ดังนั้นพี่จะฉีดยาบาดทะยักให้ ไม่งั้นพี่ไม่สบายใจ นอกจากนี้ควรตรวจเลือด และช่วงที่นายกลับมาไม่กี่วันนี้ พี่อยากจะพานายมาตรวจร่างกายที่โรงพยาบาลตั้งนานแล้ว”

เนี่ยเฟิงนิ่งอยู่กับที่ แล้วรีบโบกมือปัด”พี่สี่ ผมว่าไม่จำเป็นหรอก ? พี่ดูสิผมแข็งแรงสามารถจัดการวัวสักตัวยังได้เลยผมไม่ต้องการทำการจงตรวจร่างกายอะไรหรอก…”

“ไม่ได้ นายหรือพี่เป็นหมอ? พี่บอกว่าไปทำก็ต้องไปทำ นายอย่ามาเถียงพี่”

เนี่ยเฟิงไม่สามารถตอบโต้ได้จริง ๆ สุดท้ายก็ตรวจเลือด ตรวจร่างกายแบบจำใจ

ตรวจเสร็จ เนี่ยเฟิงรู้สึกหิวมาก ๆ เขาเหมือนกับจะได้กลิ่นแกงไก่ และในตอนที่เขาสงสัยว่าตัวเองเกิดภาพลวงตารึเปล่า ไม่นึกเลยว่าจะเห็นพี่ใหญ่ยืนรออยู่นอกคลินิกผู้ป่วยนอก

“พี่ใหญ่ พี่มาได้ยังไง?”

“น้องสี่บอกพี่ว่าสภาพนายไม่ค่อยจะดี พี่เลยรีบมาดู นายบอกพี่ออกไปเที่ยวเล่นไม่ใช่เหรอ?ทำไมถึงบาดเจ็บได้ล่ะ?”

ชิวมู่เฉิงพูดแล้วรีบเดินเข้าไป จีบมือเนี่ยเฟิงไว้ เห็นมือของเนี่ยเฟิงพันด้วยผ้าพันแผล ชิวมู่เฉิงรู้สึกผิดและโทษตัวเองมาก

“พี่ผิดเอง พี่น่าจะไปกับนาย”

เนี่ยเฟิงยิ้มแห้ง ๆ ถึงจะรู้สึกถึงมือที่อ่อนโยนของพี่ใหญ่ รู้สึกดีเหมือนกัน แต่ทำไมเขารู้สึกว่าพี่ใหญ่คิดจะขังเขาไว้ในบ้านไม่ให้เขาออกไปตลอดชีวิตล่ะ…

ต้องบอกว่าแผลนิดเล็ก ๆ ที่มือนั้น เป็นเพราะว่าพี่สี่ทำเรื่องเล็กให้เป็นเรื่องใหญ่

เขาเคยเผชิญหน้ากับคู่ต่อสู้ที่น่ากลัวและดุร้ายกว่าในต่างประเทศ เขาถึงขั้นถูกผ่าเปิดท้องตั้งหลายครั้ง ก็รอดมาได้อย่างเข้มแข็งนี่?

“เสี่ยวเฟิง ! นายไม่เป็นไรก็ดีแล้ว พี่ได้ยินจากพี่สี่นายบอกว่านายบาดเจ็บหนัก พี่ลาหยุดกับโรงเรียนแล้วรีบมาหานาย !

หลินซูอินขนาดรีบวิ่งมายังดูสง่าสวยงามเป็นพิเศษ เหมือนกับผีเสื้อเต้นรำ

“พี่สามผมไม่เป็นไร ผมโดนของมีคมข่วนเท่านั้นเอง จะเป็นอะไรได้ล่ะ?แผลแค่นี้เอง”

แต่ถึงเขาจะพยายามอธิบายมากแค่ไหนพี่สาวทั้งหลายก็บอกให้เขานอนโรงพยาบาล ยังไงนี่ก็เป็นโรงพยาบาลของหมิงอี๋หาน นอนนี้ยังสามารถดูแลได้หน่อย

เนี่ยเฟิงไม่คิดเลยว่ามือตัวเองเป็นรูเล็กแค่นี้ ต้องถึงขั้นนอนโรงพยาบาลเลย

เขาไม่เพียงถูกบังคับให้เปลี่ยนเป็นผู้ป่วย ยังต้องนั่งรอพี่สาวตัวเองป้อนข้าว

หลินซูอินถือช้อน จีบนิ้วอย่างสวยงาม เธอเป่าแกงไก่ที่ร้อน แล้วนำเข้าปากเนี่ยเฟิง

“เสี่ยวเฟิงเด็กดี กินอิ่มแล้วก็จะหายป่วย”

พี่สาวเจ็ดคนที่สวยสง่าของผม

พี่สาวเจ็ดคนที่สวยสง่าของผม

ผมมีพี่สาวเจ็ดคน ทุกคนสวยเลิศเลอเพอร์เฟ็กต์พี่ใหญ่ชิวมู่เฉิงเป็นประธานหญิงของโรงแรมอินเตอร์เนชั่นแนลพี่สองหยูจิงหงเป็นเทพเจ้าหญิงแห่งสงครามพี่สามหลินซูอินเป็นอาจารย์ของโรงเรียนมัธยมที่สวยที่สุดพี่สี่หมิงอี๋หานเป็นหมอที่สวยที่สุดพี่ห้าโจวลี่ซือเป็นแอร์โฮสเตสที่สวยที่สุดพี่หกเย่หรูเสว่เป็นตำรวจสาวที่สวยที่สุดพี่เจ็ดคังเมิ่งเป็นดาวโรงเรียน ยังเป็นเน็ตไอดอลชื่อดังด้วยผมชื่อเนี่ยเฟิง ตอนนี้เป็นหัวหน้าของสำนักมังกร มีฉายาว่าเทพราชามังกร!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท